“ลำบากใจมากใช่ไหม?” หรัณย์เอ่ยถามไปอย่างที่ใจคิด เพราะว่านับตั้งแต่วันนั้นถ้าไม่จำเป็นดารินก็จะไม่มองหน้าเขาเลย และตอนนี้ก็เช่นกัน เธอเอาแต่มองออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย “คุณจะให้ฉันรู้สึกแบบไหนล่ะคะ” เธอสวนกลับ สมองไม่ได้เสื่อมที่จะทำเหมือนปกติทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาได้ฝากรอยที่ลบเท่าไหร่ก็ลบไม่ออกเอาไว้ จะให้บอกว่าไม่เป็นไรทั้งๆ ที่เจ็บปวดอย่างนั้นเหรอ ครืดดด โทรศัพท์ของหรัณย์มีสายเข้าทันเวลา ก่อนที่จะเขากับดารินจะวางมวยกันบนรถ “ครับ” เสียงทุ้มตอบรับปลายสายสั้นๆ ถือสายรอไม่นานคิ้วหนาก็เริ่มขมวดเข้ามาหากันด้วยความเครียด ปลายสายคือเพื่อนร่วมงานของเขาที่โทรมาบอกว่างานมีปัญหาและเขาก็ต้องมาที่บริษัทด่วน ทว่าตอนนี้ดันมีคนป่วยที่จำเป็นต้องพาไปส่งโรงพยาบาลรออยู่หนึ่งคน หรัณย์ยัดโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างหัวเสีย ก่อนจะละสายตาจากท้องถนนมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ และเขาต้อ