เราสองคนนั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน แพมไม่ค่อยพูดกับผม ส่วนผมก็พูดกับแพม แต่แพมมันก็ไม่สนใจ รู้อยู่แล้วว่ามันโกรธ ถ้ามันรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับผมแล้วก็ไอ้จัสติน แสดงว่าไอ้จัสตินต้องโทรหาแพมอย่างแน่นอน จะตามหาตัวผมตามไม่ยากหรอกครับ ส่วนใหญ่ผมก็มักใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แพมไม่ไปไหน ไม่รู้ทำไมเวลาอยู่ใกล้มันแล้วสบายใจ ยิ่งแกล้งก็ยิ่งมีความสุข จะให้ผมไปหาแฟนเอาไว้แกล้งอย่างที่แกล้งแพม คงไม่มีใครอยู่กับผมได้นานหรอกครับ อาจจะเป็นเพราะผมกับแพมสนิทกันมาก บางเรื่องแพมก็ไม่ค่อยเก็บมาใส่ใจเพราะมันเป็นเรื่องเล็กน้อย บางเรื่องแพมก็ปล่อยไป ผมไม่ง้อแพมก็ไม่แคร์ครับ สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายตามง้อ เพราะอึดอัดที่มันไม่คุยกับผม
"แพม วันนี้กูไปเรียนด้วยดิ "
"กูขับเวสป้าไล่ยุงไป มึงก็ขับรถมึงไปดิ " ประชดประชัน ที่ขอไปด้วยไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ เมื่อคืนผมจอดรถทิ้งเอาไว้ที่ผับเพราะขับกลับมาไม่ไหว ต้องเรียกแท็กซี่ให้มาส่ง ส่วนไอ้จัสตินก็ลากน้องมิ้งไปด้วย สภาพมันก็ไม่ต่างจากผม เฮ้อ.... ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมมันถึงไม่ยอมเข็ดจากผู้หญิงคนนั้นสักที มันก็เห็นนี่ครับว่าน้องมิ้งอ่อยผมแค่ไหน
"เออไปได้ พาแวะคอนโดด้วย จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า รถจอดอยู่ที่ผับไม่ได้ขับมาด้วย ขับไม่ไหว " จากสถิติแล้วผมไม่เคยโดนไล่กลับห้องในขณะที่ตัวเองกำลังเมา เพราะแพมรู้ดีว่าผมขับรถโคตรเหี้ยเลยเวลาเมา มันก็เลยจำใจให้ผมนอนด้วย แล้วตอนนี้ผมก็เดาได้ว่ามันกำลังนับหนึ่งถึงสิบในใจ
"กูคนใช้มึงหรอโซล "
"กูขอโทษ " พูดอะไรไม่ออกจริงๆ นอกจากคำว่าขอโทษ ยิ่งเห็นกุ้งเผาในจานก็ยิ่งรู้สึกผิด ผมผิดนัดบ่อยมาก ครั้งนี้ก็เหมือนกัน แถมยังโกหกอีกด้วย
"เลิกขอโทษได้แล้วเพราะมันไม่มีประโยชน์ คำพูดมึงไม่เคยมีน้ำหนัก กูคิดแล้วว่ามึงต้องไม่มา เอาเงินห้าพันมึงคืนไป เก็บเอาไว้จ่ายค่าล้างแผลที่หน้าตัวเอง ต่อไปนี้ไม่ต้องอยากเลี้ยงอะไรกูอีก เพราะกูมีปัญยาจ่ายเอง " แบงค์พันห้าใบถูกวางลงบนโต๊ะกินข้าว จากนั้นแพมก็ลุกหนีผมไปเลย ทิ้งให้กูนั่งมองเงินอย่างงงวย สงสัยมันจะเอาจริงว่ะครั้งนี้ เอาไงล่ะทีนี้ นั่นเพื่อนมึงนะโซล ขาดมันไปชีวิตมึงอับเฉาแน่นอน
---------------------
"แพม แพม "
"จะอาบน้ำ ถอย "
"มีเรียนบ่ายจะรีบทำไม คุยกันให้รู้เรื่องดิ กูขอโทษ " ฉันเบื่อค่ะ เบื่อกับคำขอโทษซ้ำๆ ซากๆ ของมันจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่มันจะเลิกพูดคำนี้สักที
"เรื่องอะไร มีอะไรต้องคุยอีก ไม่มีอะไรต้องคุยแล้วโซล "
"เฮ้อ ... ไอ้จัสตินบอกอะไรมึง " เหอะ เหลือบตามองบนแล้วเบือนหน้าหนีโดยเร็ว คิดว่าจัสตินขี้ฟ้องขนาดนั้นเลยหรอ ฉันว่าเรื่องนี้จัสตินก็คงมีเหตุผล ส่วนโซลฉันไม่รู้ แล้วตอนนี้ก็ไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้นที่เกี่ยวกับมัน
"รู้อยู่แก่ใจโซล กูไม่เคยเก็บเรื่องเล็กน้อยมาใส่ใจเพราะไม่อยากให้เราทะเลาะกัน แต่มึงก็ทำให้เรื่องเล็กน้อยรวมกันจนเป็นเรื่องใหญ่ ความรู้สึกกูไม่เคยมีค่าสำหรับมึงเลย กูโดนเทโอเคกูไม่โกรธ แต่นี่มึงโกหก บอกเลยว่ากูไม่ชอบ " ฉันพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างโกรธปนโมโห พยายามจะไม่พูดแล้วแต่มันก็อดไม่ได้ ตราบใดที่มันยังไม่เลิกโทษคนอื่นมันก็มองไม่เห็นความผิดตัวเองหรอกค่ะ
"โกหกอะไร " หน้าด้านชิบ ยังมีหน้ามาถามอีกว่าเรื่องอะไร
"แล้วแต่มึงเลยโซล กูไม่คุยอะไรทั้งนั้น " ฉันพยายามดันร่างสูงให้ออกห่าง ไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้วจริงๆ การที่ฉันไม่ใส่ใจเก็บเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาคิด กลายเป็นช่องโหว่ให้มันทำเรื่องแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ยิ่งฉันไม่ใส่ใจมันก็ยิ่งได้ใจ
"แพม จะดันทำไมเนี่ย "
"เกลียดมึงไง โคตรเกลียด " อยู่ๆ น้ำตาของความน้อยใจมันก็ไหลออกมา น้อยใจมากค่ะ น้อยใจที่สุด ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อคืนมันก็ยิ่งไหล มันให้ฉันนั่งรอทั้งๆ ที่มันไปมีความสุขอยู่กับผู้หญิงของมัน แค่บอกว่าจะไม่มาแค่นั้นก็เข้าใจแล้ว แต่นี่ไม่ มันโกหก มันเห็นฉันเป็นอะไร เป็นเพื่อนที่จะทำยังไงกับความรู้สึกฉันก็ได้งั้นหรอ
"เฮ้ย ร้องไห้ทำไม "
"กูไม่ได้อยากร้อง กูไม่อยากเสียน้ำตาให้มึงเลยสักหยด แต่มึงแม่ง ตอแหล ตอแหลฉิบหายเลยไอ้โซล " ฉันรัวหมัดไปที่แผงอกของมัน โมโหที่สุด ทำไมต้องโกหกกันด้วย
ตุบ ตุบ
"แพม เหี้ยเอ้ย กูขอโทษ หยุดร้องก่อน "
"ฮึก ถอยจะเข้าห้องน้ำ " จะให้หยุดตอนนี้มันคงไม่ได้แล้วล่ะ เพราะอารมณ์มันกำลังได้ ยิ่งได้ยินเสียงมันก็ยิ่งน้ำตาแตก มีทางเดียวคือเข้าห้องน้ำไปสงบสติอารมณ์คนเดียว
"ไม่ถอย มึงต้องหยุดร้องก่อน "
"กูอยากอยู่คนเดียว "
"โอเค ได้ แต่มึงต้องหยุดร้องไห้ งั้นกูกลับละ " มันยอมถอย ถอยชนิดที่ว่ารีบออกไปจากห้องโดยเร็ว ฉันใช้มือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแบบลวกๆ จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำ ขอให้ฉันได้อยู่คนเดียวสงบสติอารมณ์สักพัก ยังไงมันก็เพื่อน โกรธมันได้ไม่นานหรอกค่ะ
-------------------------------
13.30 น
"แพม แพม "
"หืม " ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียแอลฟ่าเรียกชื่อซ้ำๆ ตอนนี้ยังไม่มีใครมาเลยสักคน ฉันก็เลยนั่งคิดอะไรอยู่เพลินๆ
"คิดอะไรอยู่ แล้วนี่ยังไม่มีใครมาหรอ"
"อืม ยังอะ "
"ยังไม่ตอบเลยว่าเมื่อกี้เหม่ออะไร " จะตอบยังไงดีล่ะ ความจริงก็คือฉันกำลังนั่งคิดถึงเรื่องเมื่อช่วงสายอยู่ เรื่องที่น้อยอกน้อยใจน้ำตาแตกใส่โซลไปชุดใหญ่ มันคงตกใจล่ะมั้งถึงได้รีบเผ่นออกจากห้องไป ตอนนี้ก็ยังไม่โผล่มาเลย
"เปล่า นึกถึงเรื่องงานอะ ทำถึงไหนแล้วเอามาดูหน่อยสิ"
"ยังไม่ได้เริ่มเลย แล้วของแพมล่ะเป็นไง ต้องออกมาเจ๋งแน่ๆ เพราะวิชานี้โซลมันเก่ง " เอิ่ม ไม่อยากจะคุยว่ายังไม่ได้เริ่มคุยกันเลยค่ะ มัวแต่ยุ่งๆ เรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่จนลืมเรื่องงาน
"ยังเลยอะ ช่วงนี้โซลมันยุ่งๆ " แอลฟ่าควรสนใจฉันพูดบ้างนะ ตามัวแต่จ้องหน้าจอ แต่ละคนก็มีโลกของตัวเองอะเนอะ
"หึ ยุ่งเรื่องอะไร ก็เห็นมันว่างพาน้องมิ้งไปนู่นไปนี่ตลอด " อืม ก็จริงอย่างที่แอลฟ่าพูดนั่นแหละ
"แอลฟ่าเปลี่ยนมาทำกับแพมมั้ยล่ะ ให้จัสตินคู่กับโซล "
"เอาจริงดิ " แอลฟ่าถึงกับวางโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นมาคุยกับฉันแบบจริงจัง ฉันก็จริงจังค่ะ ในเมื่อไม่สนใจ ฉันก็ไม่อยากทำงานด้วย อย่างน้อยๆ แอลฟ่าก็มาเรียนทุกวัน แล้วก็ไม่เอาเวลาว่างไปควงสาวที่ไหนด้วย หรือว่าควง อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของเพื่อน
"เอาจริงดิ เปลี่ยนมั้ยล่ะ วันนี้จะได้เริ่มทำเลย "
"เค ไอ้จัสตินคงไม่มีปัญหา แล้วไอ้โซล แพมบอกมันด้วยก็แล้วกัน "
"ได้สิ หลังเลิกเรียนเริ่มทำเลยดีมะ อาทิตย์หน้าหยุดยาวแพมว่าจะกลับบ้านสักหน่อย " ทำงานคู่กับแอลฟ่าก็ดีเหมือนกันสบายใจดี ที่จริงทำกับใครก็ได้ แต่ถ้าโซลยังเป็นแบบนี้ฉันคงไม่ไหว เป็นครั้งที่สองที่ร้องไห้ต่อหน้ามัน ครั้งแรกคือวันนั้น วันที่ฉันถูกทำร้าย
"ได้สิ ทำที่ไหนดี อืม หอแพมก็ได้นะสะดวกดี "
"ห้องแพมพัดลมนะ ไม่ร้อนหรอ "
"งั้นก็ ร้านกาแฟ มีอยู่ร้านหนึ่งปิดดึกมาก "
"โอเคได้ " สัปดาห์หน้ามีวันหยุดยาว เสาร์อาทิตย์จันทร์ ฉันวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะกลับบ้าน คิดถึงพ่อกับแม่ จะได้กลับอีกทีก็คงจะปิดเทอม กลับบ้านไปสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย สมองน่าจะโปร่งโล่งสบายขึ้นเยอะ ไปช่วยแม่ทำนาดีกว่า ป่านนี้ข้าวคงใกล้ได้เวลาเกี่ยวแล้ว เห็นหน้าสวยๆ แบบนี้ทำนาเป็นนะคะ งานสวนงานไร่น้องแพมผ่านมาหมดแล้วจ้า เหนื่อยมาก แม่บอกว่าถ้าไม่ตั้งใจเรียนก็จะต้องเหนื่อยแบบนี้แหละ
"เดี๋ยวเราไปรับ "
"โอเค ตามนี้ "
แพม : งานคู่ กูขอเปลี่ยนมาคู่กับแอลฟ่านะ ....ข้อความถูกส่ง...
.
.
.
อ่านแล้ว
............ กำลังตอบกลับ
ฉันเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเมื่อจัดการธุระเสร็จ มันจะตอบอะไรกลับมาก็ช่างมัน ฉันถือว่าฉันบอกแล้ว
"แพม ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย"
"จัสติน หน้านาย "
"ขอคุยด้วยหน่อย"
"ได้สิ"
------------------------------------------