EP01 จะอยู่กับแฟน!
Caramel’ s Part
Knock knock!
ตอนนี้ฉันกำลังยืนกดออดเคาะประตูอยู่หน้าห้องของเซโร่ หลังจากเรื่องเมื่อวานฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เซโร่ยอมกลับมาคบกับฉันให้ได้ แม้ว่าวิธีนี้มันจะดูเสี่ยงเกินไปก็เถอะ
“มาทำไม?”
ร่างสูงที่อยู่ในชุดบ็อกเซอร์ตัวเดียวถามเมื่อเปิดประตูออกมาเจอฉัน เซโร่ยังมีท่าทางงัวเงียอยู่เลยสงสัยคงเพิ่งตื่นนอนล่ะมั้งคนตัวสูงขมวดคิ้วมองฉันอย่างไม่ชอบใจที่ฉันมาหาเขาถึงคอนโด
“มาหาแฟน หลบๆ”
ฉันตอบพร้อมกับยิ้มให้เขาอย่างสดใสก่อนจะรีบแทรกตัวเข้ามาในห้องโดยที่ไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต
“แล้วนั่นกระเป๋าอะไรของเธอวะ”
“กระเป๋าเสื้อผ้าไง”
“แล้วเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาทำไม?”
“ก็จะมาอยู่กับแฟนไง ^^”
ใช่แล้วล่ะ ฉันเก็บเสื้อผ้ามาอยู่กับเซโร่เพื่อที่จะได้ใช้เวลาง้อตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงยังไงล่ะ เอาสิอยู่ใกล้ขนาดนี้ไม่ใจอ่อนไม่หวั่นไหวให้มันรู้ไป
“ใครอนุญาต ออกไป!”
“ไม่! ทีแต่ก่อนเซยังอยากให้เมลมาอยู่ด้วยอยู่เลย นี่ไงเมลมาอยู่ด้วยแล้ว”
ตอนที่เราคบกันแรกๆ เซโร่พยายามคะยั้นคะยอให้ฉันมาอยู่กับเขาแต่ฉันไม่ยอมแต่ตอนนี้ฉันยอมแล้วไง ไล่ยังไงก็ไม่ไปหรอกนะ
“s**t! วุ่นวายชิบหายเลย เลิกกันแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ดิวะ” เซโร่ขยี้หัวด้วยความหงุดหงิด
“ก็เมลกำลังง้อเซอยู่ไง ให้เมลอยู่ด้วยนะๆ” ฉันเอาหน้าไปถูแขนเขาอย่างอ้อนๆ แต่คนตัวสูงกลับไม่ตอบรับอะไรเลยเอาแต่เงียบจนฉันใจเสีย
“...”
“งั้นเอางี้ เมลขอหนึ่งเดือนถ้าเซยังไม่ยอมคืนดีด้วยเมลจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับเซอีกเลย” คิดสดไปอีกฉัน ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลยนะว่าต้องยื่นข้อเสนออะไรแบบนี้ให้เขา แต่หนึ่งเดือนก็น่าจะพอแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันเชื่อว่าเซโร่ยังรักฉันอยู่เหมือนที่ฉันรักเขาแต่ถ้าสุดท้ายแล้วเขาจะไม่กลับมาจริงๆ ฉันจะยอมถอยเอง
“เฮ้อ เออ อยากทำอะไรก็ทำเลยแต่ถ้าครบหนึ่งเดือนแล้วเธอต้องย้ายออกไปนะ”
“เย้! เซน่ารักที่สุดเลย ไปอาบน้ำไปเดี๋ยวเมลทำอาหารเช้าไว้ให้”
ฉันเขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มเซโร่ฟอดใหญ่แล้วรีบผละออก แอบเห็นเขายิ้มมุมปากด้วยแหละ
หึ หวั่นไหวล่ะสิ
หลังจากเซโร่เข้าไปอาบน้ำฉันก็จัดการเก็บเสื้อผ้าตัวเองไปไว้ในตู้เดียวกับของเซโร่ให้เรียบร้อยแล้วจึงออกมาทำอาหารเช้าไว้ให้เขา
ก่อนมาถึงคอนโดเซโร่ฉันแวะซื้อของสดมาด้วยน่ะ รู้หรอกว่าห้องคุณชายเขานอกจากเหล้ากับเบียร์ก็ไม่มีอะไรที่สามารถทำอาหารได้เลยนอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตอนที่เรายังคบกันฉันมาคอนโดเขาบ่อยน่ะก็เลยรู้
Zero’ s Part
“มองอะไร?”
“มองแฟน”
“แฟนเก่า พูดให้มันถูกด้วย”
ผมกำลังนั่งทานอาหารเช้าที่คาราเมลเป็นคนทำให้เธอรู้ดีว่าผมชอบทานอะไร ส่วนยัยตัวดีก็เอาแต่นั่งจ้องหน้าผมจนผมทำตัวไม่ถูกแถมยังมาขี้ตู่ว่าผมเป็นแฟนอีกต่างหาก
เรา-เลิก-กัน-แล้ว!
ต้องให้ผมย้ำอีกกี่ครั้งเธอถึงจะยอมรับ ถึงผมจะยอมให้มาอยู่ด้วยใช่ว่าผมจะใจอ่อนนะความรู้สึกเจ็บปวดที่โดนเธอบอกเลิกในวันนั้นผมยังไม่ลืมหรอกนะ คนอย่างเซโร่ไม่เคยง้อใครไม่เคยโดนใครบอกเลิกด้วย ยัยนี่เป็นใครกล้าดียังไงมาบอกเลิกผม
ผมยอมรับนะว่าผมเองก็ยังรักเธออยู่แม้มันจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็เถอะ ไม่นึกเหมือนกันว่าคาราเมลจะกล้าหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่กับผม
หึ เหยื่อเข้าถ้ำเสือแล้วคิดว่าจะรอดออกไปหรือไงเธอพลาดแล้วล่ะคาราเมล
“รู้แล้วน่าย้ำอยู่ได้แต่เดี๋ยวก็ได้เป็นแฟนเหมือนเดิมแล้ว”
“ฝันอยู่เหรอ อิ่มแล้วเอาไปเก็บให้ด้วย” กินเสร็จผมก็ลุกเดินออกจากห้องครัวไปนั่งดูทีวีต่อปล่อยให้คาราเมลเก็บจานไปล้างให้ซึ่งเธอก็ไม่ได้อิดออดอะไร กะจะแกล้งให้หัวร้อนสักหน่อยแต่เธอยอมเฉยเลย
ผมรู้จักคาราเมลมาเป็นปีแล้ว อันที่จริงผมตามจีบเธออยู่ครึ่งปีได้กว่าเธอจะยอมคบกับผม ผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นความสดใสน่ารักคุยเก่งและความขี้อ้อนของเธอทำให้ผมตัดสินใจจะหยุดอยู่ที่เธอ ผมทะนุถนอมเธออย่างดีไม่เคยร่วงเกินมากเกินกว่าจูบแต่คบกันมาได้สามเดือนเราก็ต้องเลิกกัน เหตุผลก็เพราะเธอไม่ยอมหยุด
คาราเมลยังคุยกับผู้ชายคนอื่นทั้งที่มีผมเป็นแฟนอยู่แล้วพอผมจับได้ ก็โวยวายบอกเลิกผมทั้งที่ผมไม่ใช่คนผิด
ผมทั้งโกรธทั้งเสียใจแต่ไม่กี่วันต่อมาเธอก็ตามมาง้อและยังคงง้อมาจนถึงทุกวันนี้นี่แหละ แต่คนอย่างผมไม่มีทางกลับไปอย่างแน่นอน รอครบหนึ่งเดือนตามที่ตกลงกันไว้ก่อนเถอะผมจะไม่ให้เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตผมอีกเลยคอยดู
“เซ...อยากดูหนังอ่ะ”
ยัยตัวดีเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับขนมในมือแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาข้างผม
“นี่ห้องใคร?”
“ห้องเซ”
“ก็รู้นี่ แค่มาอาศัยอยู่ก็อย่าเรื่องมาก” ผมกำลังนั่งดูการแข่งบาสอยู่แต่ยัยตัวแสบที่เอาแต่ใจขอมาอยู่กับผมกลับมางอแงจะดูหนัง ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงยอมนะแต่ตอนนี้ไม่
“ใจร้าย...” ตัดพ้อผมเสร็จคาราเมลก็ทิ้งศีรษะนอนลงบนตักผมหน้าตาเฉย เธอจะรู้ตัวบ้างมั้ยว่ากำลังนอนทับอะไรอยู่ถ้ามันตื่นขึ้นมาจะทำไง...
อ้อ วันนี้วันเสาร์น่ะไม่มีเรียนผมก็เลยอยู่ห้องเฉยๆ แต่มันจะไม่เฉยเพราะยัยนี่นี่แหละ
“อ่ะ อ้าม~” พอผมไม่สนใจคนที่นอนอยู่บนตักก็คว้าขนมที่ถือมาด้วยเมื่อกี้ป้อนให้ผม ขี้เกียจพูดมากผมก็เลยยอมๆ กินไป
เพราะนิสัยแบบนี้ไงไอ้พวกผู้ชายทั้งหลายถึงได้ตามจีบเธอเยอะแยะน่ะ ชอบอ่อยแบบไม่รู้ตัวยัยคนนี้
งับ!
“อ๊ะ! งับมาได้เจ็บนะ” คาราเมลสะบัดมือพร้อมกับเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อโดนผมใช้ฟันงับมือเข้าให้ในขณะที่เธอป้อนขนมให้ผม
สมน้ำหน้าทำตัวน่ามันเขี้ยวเองทำไม
.
.
ผ่านไปสักพัก...
คาราเมลหลับไปแล้ว หลับบนตักผมพร้อมกับซุกหน้าเข้าหาหน้าท้องผมอีกด้วย ถ้ายังคบกันอยู่บอกเลยว่าเธอไม่รอดตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาที่คอนโดผมแล้วล่ะ
ผมลุกขึ้นอุ้มร่างบางเข้าไปนอนในห้องดีๆ ใบหน้าหวานใสนอนหลับตาพริ้มไม่มีพิษมีภัยน่ามองจนผมอดที่จะจ้องหน้าเธออยู่แบบนั้นไม่ได้
“เซ...ดีกันๆ” ผมสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อคนที่หลับอยู่ละเมอออกมา หึ ขนาดละเมอก็ยังง้อผมสินะ
แล้วทำไมผมต้องยิ้มด้วยเนี่ย
“ถ้ายังอยากคบกันขนาดนี้แล้วบอกเลิกทำไมวะ”
ผมบ่นออกมาแม้ว่าคนที่หลับอยู่จะไม่รับรู้ก็ตาม
Caramel’ s Part
“อื้อ”
ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นเพราะรู้สึกว่าร่างกายโดยอะไรบางอย่างกอดรัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
“อ๊ะ เซ...ปล่อยนะเมลอึดอัด”
“อืม...”
เซโร่นั่นเองที่นอนกอดฉันอยู่แต่กอดแน่นไปมั้ยหายใจไม่ออกแล้วนะคนบ้า แต่เดี๋ยวนะฉันจำได้ว่าตัวเองดูทีวีอยู่กับเซโร่นี่นาแล้วมาโผล่ในห้องนอนได้ยังไงกันเนี่ย
“เซ...เซโร่ๆ ตื่นๆ”
หมับ
“อื้อ ปล่อยๆ ตื่นนะตื่น” นอกจากจะไม่ยอมปล่อยแล้วเขายังกดหัวฉันลงให้ซุกอกเขาแล้วกอดฉันแน่นขึ้นไปอีก เอ๊ะ คนบ้านี่
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย เจ็บนะตีทำไมวะ”
“ก็ไม่ยอมตื่นเองทำไมล่ะ ปล่อยเลย!”
“จิ๊ ก็ไม่ได้อยากกอดหรอกนะ” พอรู้ตัวว่านอนกอดฉันอยู่คนใจร้ายก็รีบผละออกทันที
“แน่ะ ทำมาเป็น อยากกอดเมลก็บอกดีๆ ก็ได้นะที่รัก” ได้ทีก็เลยล้อสักหน่อย เห็นคนเย็นชาเขินแล้วมันสนุกดีน่ะ
“ไม่อยากอยู่ที่นี่ให้ครบหนึ่งเดือนใช่มั้ย?” คนโดนล้อมองฉันอย่างเอาเรื่อง พอโดนแซวนิดแซวหน่อยไม่ได้เลยนะ เอะอะก็จะไล่กันตลอด
เดี๋ยวฉันจะทำให้เขาติดฉันจนไล่ไม่ลงเลยคอยดู!