แสงแดดยามสายสาดส่องเข้ามาในห้องนอนของแอนนี่ แต่ดูเหมือนความร้อนแรงของแดดจะเทียบไม่ได้เลยกับความร้อนรุ่มในใจของเด็กสาววัยสิบเก้า
แอนนี่นอนบิดเร่าอยู่บนเตียง ผ้าห่มนวมผืนหนาถูกถีบลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า ร่างกายที่สวมเพียงชุดนอนบางเบาชื้นไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ มือข้างหนึ่งของเธอกำลังสาละวนอยู่ใต้กระโปรงนอน ขยับข้อมือเป็นจังหวะถี่รัว
“อื้อ... ป๋า... อัค...”
เสียงหวานครางกระเส่าชื่อชายหนุ่มรุ่นพ่อที่เพิ่งแยกจากกันเมื่อวานซืน ภาพใบหน้าคมเข้มที่เต็มไปด้วยหนวดเคราจางๆ แววตาดุดันเวลาที่เขามองเธอ และสัมผัสหยาบโลนแต่เร้าใจ ยังคงฉายชัดอยู่ในหัวราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้
นิ้วเรียวสองนิ้วของเธอมุดเข้าไปในร่องกลีบที่เปียกแฉะ บดขยี้เม็ดเสียวและสอดใส่เข้าออกอย่างรวดเร็ว แต่ยิ่งทำ เธอก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด ความว่างเปล่าในช่องท้องมันไม่ได้รับการเติมเต็ม
“อ๊า! ฮึก... ไม่ใช่... มันไม่เหมือน...” แอนนี่สบถออกมาอย่างขัดใจ เธอหยุดมือแล้วดึงนิ้วออกมาอย่างหงุดหงิดน้ำหวานสีใสไหลเยิ้มติดนิ้วออกมาเป็นสาย
มันเทียบไม่ได้เลย... นิ้วเรียวเล็กของเธอ เทียบไม่ได้เลยกับความใหญ่โตและความแข็งแกร่งของอัครา ความรู้สึกที่ถูกเติมเต็มจนจุกแน่น ความเสียวซ่านเวลาที่หัวบานใหญ่ของเขาครูดผ่านผนังเนื้อด้านใน... เธอต้องการสิ่งนั้น
แอนนี่พลิกตัวนอนคว่ำ ซุกหน้าลงกับหมอนแล้วกรีดร้องออกมาเบาๆ “ป๋าบ้า... ทำไมไม่ทักมานะ...”
โทรศัพท์มือถือวางอยู่ข้างเตียง หน้าจอโชว์แอปพลิเคชันไลน์ที่มีรายชื่อ ‘Akara’ อยู่บนสุด เธอจ้องมันเป็นร้อยรอบ พิมพ์ข้อความแล้วลบ พิมพ์แล้วลบ ไม่กล้ากดส่ง เธอไม่อยากดูเหมือนเด็กใจแตกที่วิ่งไล่ตามผู้ชาย ทั้งที่ความจริง... เธอแทบจะคลานกลับไปหาเขาอยู่แล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องทำเอาแอนนี่สะดุ้งโหยง เธอรีบจัดแจงเสื้อผ้าและปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
“แอนนี่ ตื่นรึยังลูก?” เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อดังมาจากหน้าประตู
“ตื่นแล้วค่ะแด๊ดดี้!” เธอตะโกนตอบ พยายามปรับเสียงไม่ให้สั่น
“วันนี้ไปกินข้าวเที่ยงกับพ่อหน่อยนะ” พ่อของเธอพูดต่อผ่านประตู “หุ้นส่วนคนสำคัญของโรงแรมเขานัดพ่อไว้ เขาเป็นเพื่อนพ่อเอง คนนี้แหละที่คอยช่วยพยุงโรงแรมเราช่วงวิกฤตไว้นะ อย่าซนล่ะ แต่งตัวสวยๆ นะลูก”
แอนนี่ถอนหายใจยาวเหยียด “ค่าาา รับทราบค่ะท่านประธาน”
เธอตอบรับไปอย่างนั้นเอง ใจจริงไม่อยากไปเจอพวกตาลุงเพื่อนพ่อที่น่าเบื่อ คุยแต่เรื่องธุรกิจ ตัวเลข แล้วก็ชมว่าเธอ ‘โตเป็นสาวแล้วสวยเหมือนแม่’ ซ้ำๆ ซากๆ
ณ ห้องอาหาร VIP ของโรงแรมหรูริมแม่น้ำ
แอนนี่เดินตามหลังบิดาเข้ามาในห้องอาหารส่วนตัว เธอสวมเดรสสั้นสีครีมเรียบหรูที่ดูสุภาพแต่ก็ยังขับเน้นรูปร่างสมส่วน ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนๆ ให้ดูสดใสสมวัย
“มาแล้วเหรอครับคุณอรรถ” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้น
แอนนี่เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง และวินาทีนั้น โลกทั้งใบของเธอก็เหมือนจะหยุดหมุน
ชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มสั่งตัดพอดีตัว ลุกขึ้นยืนต้อนรับ ใบหน้าคมเข้มที่เธอเพิ่งนอนจินตนาการถึงเมื่อเช้ากำลังส่งยิ้มอบอุ่นให้พ่อของเธอ รอยยิ้มการค้าที่ดูสุภาพนุ่มนวล ผิดกับรอยยิ้มร้ายกาจที่เขามอบให้เธอบนเตียงลิบลับ
อัครา!
แอนนี่อ้าปากค้างเล็กน้อย ก่อนจะรีบหุบลงและปรับสีหน้าให้เรียบเฉยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หัวใจเธอเต้นรัวเหมือนกลองชุด มือไม้เย็นเฉียบและชื้นไปด้วยเหงื่อ
“สวัสดีครับคุณอัครา ขอโทษที่ให้รอนานนะ” พ่อของเธอเดินเข้าไปจับมือทักทายอย่างสนิทสนม “นี่ลูกสาวผมครับ ยัยแอนนี่... แอนนี่ ไหว้คุณลุงสิลุก”
คำว่า ‘คุณลุง’ กระแทกใจแอนนี่อย่างจัง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ยกมือไหว้สวยงามตามมารยาท แต่สายตาที่มองลอดผ่านมือไหว้นั้น จ้องตรงไปที่ดวงตาคมกริบของอัครา
“สวัสดีค่ะ... คุณลุงอัครา” เธอจงใจเน้นเสียงคำว่าคุณลุง และส่งสายตาท้าทายไปให้
อัคราชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที แววตาประหลาดใจฉายวาบขึ้นมาเมื่อเห็นว่า ‘เด็กใจแตก’ ที่เขาหิ้วไปกินเมื่อคืนก่อน คือลูกสาวเพื่อนรักและหุ้นส่วนธุรกิจ แต่เขาก็คือมืออาชีพ อัครายิ้มรับไหว้ สายตาแพรวพราวแฝงความนัยส่งกลับมา
“สวัสดีครับน้องแอนนี่... โตเป็นสาวสวยขนาดนี้เลยเหรอครับเนี่ย คุณอรรถหวงแย่เลย”
“หวงสิครับ หนุ่มๆ มาจีบหัวบันไดไม่แห้งเลย” พ่อเธอหัวเราะร่าอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ “นั่งเถอะครับๆ วันนี้ผมสั่งอาหารที่แอนนี่ชอบไว้ด้วย”
การสนทนาบนโต๊ะอาหารดำเนินไปอย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องธุรกิจระหว่างชายวัยกลางคนสองคน แอนนีนั่งเงียบกริบ ทำหน้าที่ลูกสาวที่ดีคอยตักอาหารให้พ่อบ้าง แต่ภายในใจเธอกำลังกรีดร้อง
เธอเหลือบมองอัคราเป็นระยะ เขาดูสงบนิ่ง ทรงภูมิฐาน ทุกท่วงท่าการจับช้อนส้อมดูดีมีระดับ เขาแทบไม่มองเธอเลย คุยแต่กับพ่อเธออย่างออกรส
‘อะไรกัน... จำกันไม่ได้รึไง? หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก?’ แอนนี่คิดในใจอย่างหงุดหงิด‘ทีคืนนั้นนะ... เรียกหนูว่าเด็กดีคะ เด็กดีขา... เชอะ!’
ความน้อยใจผสมความหมั่นไส้ทำให้แอนนี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นใต้โต๊ะ เธอเปิดไอจีเลื่อนดูรูปไปเรื่อยเปื่อย ทำเป็นไม่สนใจโลก ไม่สนใจ ‘คุณลุง’ ตรงหน้า
“แอนนี่...” พ่อเธอเรียกเบาๆ เชิงดุ “เก็บโทรศัพท์ก่อนลูก คุยกับผู้ใหญ่อย่าเสียมารยาท”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณอรรถ” อัคราพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม “ตามประสาวัยรุ่นแหละครับ ปล่อยน้องตามสบายเถอะ... ว่าแต่ น้องแอนนี่เรียนที่ไหนครับเนี่ย?”
แอนนี่เงยหน้าขึ้นจากจอ สบตาเขาแวบหนึ่ง “ม.กรุงเทพค่ะ” ตอบห้วนๆ แล้วก้มลงเล่นต่อ
อัครายิ้มมุมปาก เขารู้ดีว่าเด็กสาวกำลังเรียกร้องความสนใจ และเขาก็ชอบปฏิกิริยานี้
“อืม... มหาลัยเดียวกับที่ผมเคยไปบรรยายพิเศษเลย” เขาชวนคุยต่อ “น้องแอนนี่เรียนคณะอะไรครับ?”
แอนนี่ถอนหายใจเบาๆ วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะดังปึก “นิเทศฯ ค่ะ... จบแล้วหนูจะไปเป็นนางแบบ ไม่มาบริหารโรงแรมหรอกค่ะ”
“แอนนี่!” พ่อเธอดุเสียงเข้ม
“ฮ่าๆๆ ตรงไปตรงมาดีครับ ผมชอบ” อัคราหัวเราะอย่างอารมณ์ดี สายตาที่มองเธอนั้นเปลี่ยนไป มันไม่ใช่สายตาเอ็นดูแบบผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก แต่มันคือสายตาของเสือที่กำลังมองเหยื่อที่แกล้งทำพยศ
ระหว่างที่พ่อของเธอหันไปสั่งไวน์เพิ่มกับพนักงานเสิร์ฟ อัคราก็ฉวยโอกาสนั้น เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ แต่จังหวะวางแก้ว เขาจงใจวางกระแทกเบาๆ ใกล้ๆ มือของแอนนี่ เพื่อเรียกความสนใจ
เมื่อเธอเงยหน้ามอง เขาขยับปากแบบไม่มีเสียง พอให้อ่านปากได้ว่า...
‘เด็กดื้อ’
แอนนี่หน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก เธอเม้มปากแน่น แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็ว
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นจากโทรศัพท์ของอัคราที่วางอยู่บนโต๊ะ เขายกขึ้นมาดู เห็นชื่อที่เขาเมมไว้ว่า ‘Annie (One Night)’ ส่งข้อความมา
Annie:ทำเป็นไม่รู้จักกันเลยนะคะ... ป๋า
อัคราอ่านข้อความแล้วยิ้มกริ่ม เขาพิมพ์ตอบกลับไปใต้โต๊ะอย่างรวดเร็ว
Akara:ก็หนูทำเมินป๋าก่อนนี่คะ... นึกว่าลืมลีลาป๋าไปแล้ว
แอนนี่อ่านแล้วหน้าแดงแปร๊ด รีบพิมพ์สวนกลับ
Annie:ใครจะไปลืมลง... หลงตัวเอง!
Akara:หึ... แล้วเมื่อเช้าใครกันนะ ที่แอบส่งกระแสจิตมาหาป๋า? หน้าตาหนูดูเหมือนคนนอนไม่อิ่มนะ... หรือว่า... เมื่อคืนคิดถึงป๋าจนนอนไม่หลับ
แอนนี่มือสั่น เธอรู้สึกเหมือนโดนอ่านใจออก นี่เขารู้ได้ยังไง? หรือหน้าตาเธอมันฟ้องขนาดนั้น?
Annie:บ้า! อย่ามามั่วนะคะ!
Akara:ปากแข็ง... เดี๋ยวต้องโดนลงโทษ
แอนนี่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก คำว่า ‘ลงโทษ’ ของเขาทำเอาช่วงล่างของเธอวูบวาบขึ้นมาทันที ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนไหลย้อนกลับมาฉายซ้ำ
“เป็นอะไรไปลูก? หน้าแดงๆ ไม่สบายรึเปล่า?” พ่อของเธอสังเกตเห็นความผิดปกติ
“ป... เปล่าค่ะ แอร์มันเย็นนิดหน่อย” แอนนี่แก้ตัวน้ำขุ่นๆ
“งั้นเดี๋ยวพ่อบอกให้เขาปรับแอร์ให้...”
“ไม่ต้องครับคุณอรรถ” อัคราขัดขึ้น “เดี๋ยวผมดูแลน้องเอง... น้องแอนนี่คงแค่เขินผมน่ะครับ เห็นจ้องผมตาไม่กะพริบเลย”
เขาพูดหน้าตาเฉย แถมยังส่งสายตาล้อเลียนมาให้เธออีก แอนนี่อยากจะกรี๊ดใส่หน้าเขา แต่ทำได้แค่ส่งค้อนวงโตไปให้
“ฮ่าๆๆ สงสัยจะจริงครับ แอนนี่คงไม่คุ้นกับคนหล่อรุ่นใหญ่แบบคุณอัครา” พ่อเธอหัวเราะชอบใจ
จังหวะนั้นเอง โทรศัพท์ของอัคราก็ดังขึ้น เขาดูหน้าจอแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ขอโทษนะครับ ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์สักครู่... เรื่องด่วนจากโรงงาน”
เขาลุกขึ้นยืน จัดสูทให้เข้าที่ แล้วเดินออกจากห้องไป แต่ก่อนจะพ้นประตู เขาหันกลับมามองแอนนี่แวบหนึ่ง แล้วพยักหน้าเล็กน้อยไปทางห้องน้ำ
มันเป็นสัญญาณ...
แอนนี่หัวใจเต้นระรัว เธอรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร และเธอก็รู้ใจตัวเองดีว่าต้องการอะไร
“แด๊ดดี้คะ... หนูขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะคะ”
“รีบไปรีบมานะลูก เดี๋ยวของหวานจะมาเสิร์ฟแล้ว”
“ค่ะ...”
แอนนี่ลุกขึ้นจากโต๊ะ คว้ากระเป๋าถือใบเล็กเดินออกจากห้องอาหารด้วยจังหวะการก้าวที่มั่นคง แต่ภายในใจสั่นไหวรุนแรง
เธอเดินเลี้ยวไปทางห้องน้ำ VIP ที่เงียบสงบ ทางเดินปูพรมแดงดูหรูหราและไร้ผู้คน ทันทีที่เธอเลี้ยวตรงหัวมุม ร่างสูงใหญ่ที่ยืนรออยู่ก็ดึงแขนเธอเข้าไปในซอกหลืบทันที
“อุ๊ย!”
อัครากดร่างเธอแนบกับผนัง กักขังเธอไว้ในอ้อมแขนแกร่ง กลิ่นน้ำหอมผู้ชายผสมกลิ่นบุหรี่จางๆ ที่เธอคุ้นเคยโอบล้อมตัวเธอไว้
“จะหนีไปไหนคะ...เด็กดื้อ” เสียงเขาทุ้มต่ำพร่าด้วยเสน่ห์
“ป... ปล่อยนะ... เดี๋ยวพ่อเห็น...” แอนนี่แกล้งขัดขืนเบาๆ ทั้งที่มือวางทาบอยู่บนอกเสื้อสูทของเขาแล้ว
“พ่อหนูไม่เห็นหรอก...” เขาโน้มหน้าลงมาใกล้ จมูกโด่งเฉียดแก้มเธอไปมา “แกล้งทำเป็นไม่รู้จักผัวตัวเองแบบนี้... น่าตีจริงๆ”
“ผัวเผออะไรคะ... มั่ว...” แอนนี่เชิดหน้าขึ้นสู้ “ใครเขาอยากนับญาติกับคนแก่”
“แก่เหรอ” อัคราหรี่ตาลง “แล้วไอ้คนแก่คนนี้ไม่ใช่เหรอ... ที่ทำให้หนูร้องจนเสียงแหบเมื่อคืนก่อน”
“หยุดพูดนะ!” แอนนี่ยกมือปิดปากเขา หน้าแดงจนลามไปถึงใบหู “คนลามก”
อัคราจูบฝ่ามือเธอเบาๆ ก่อนจะดึงมือเธอออก แล้วกดจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างดูดดื่ม รุนแรง และโหยหา แอนนี่ตัวอ่อนระทวย จูบตอบเขาอย่างเงอะงะแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดอั้น
มือหนาของเขาเริ่มซุกซน เลื่อนลงไปบีบคลึงสะโพกกลมกลึงผ่านชุดเดรส
“อื้อ... ป๋า...”
“คิดถึงป๋าไหม?” เขาถอนจูบ ถามเสียงหอบชิดริมฝีปาก
“ไม่...” แอนนี่ตอบเสียงเบา แต่สายตาเว้าวอน
“ไม่คิดถึง... แต่นิ้วหนูซนจังนะ”
อัครากระซิบ มือของเขาเลื่อนผ่านชายกระโปรงเดรสขึ้นมา สัมผัสกับต้นขาด้านในที่ร้อนผ่าว และ... ความเปียกชื้นที่ซึมผ่านชั้นในตัวจิ๋ว
“แฉะขนาดนี้... บอกว่าไม่คิดถึงได้ยังไง หื้ม?”
แอนนี่สะดุ้งเฮือก ขาอ่อนจนแทบทรุดลงกับพื้นถ้าเขาไม่กอดเอวไว้
“ป๋า... อย่า... ตรงนี้ไม่ได้...”
“ทำไมจะไม่ได้...” เขายิ้มร้าย “ตื่นเต้นดีออก... พ่อหนูนั่งกินข้าวอยู่ข้างนอก... ส่วนลูกสาว... กำลังโดนเพื่อนพ่อยืนล้วงอยู่ในซอกตึก”
คำพูดของเขามันหยาบโลนและกระตุ้นอารมณ์จนแอนนี่ขนลุกซู่ เธอรู้ว่ามันผิด แต่มันช่างเร้าใจเหลือเกิน
“หนู... หนูเกลียดป๋า...” เธอพูดเสียงสั่น ทั้งที่ร่างกายเบียดเข้าหาเขามากขึ้น
“เก็บเสียงให้ดีๆ นะคะเด็กดี...” อัครากระซิบ พร้อมกับสอดนิ้วกลางเข้าไปสะกิดเม็ดเสียวของเธอผ่านเนื้อผ้าบางๆ
“อ๊า!...” แอนนี่รีบตะครุบปากตัวเองไว้ ดวงตาเบิกกว้างมองเขาอย่างคาดโทษ แต่อัครากลับยิ้มอย่างผู้ชนะ และเริ่มขยับนิ้วรัวเร็วขึ้น