“ขอบคุณมากนะจาที่มาส่งยัยมี่ นายด้วยไวน์ ไว้ฉันทำเสร็จแล้วจะส่งไฟล์ไปให้นะ” พี่เนเน่เดินออกมาส่งฉันกับพี่ไวน์หน้าประตูหอพัก หลังจากส่งมีมี่เข้าห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเมาหลับไม่ได้สติมาตลอดทางเลย ปล่อยให้ฉันนั่งนิ่งทำตัวไม่ถูกอยู่คนเดียว
“งั้นฉันกลับก่อนนะ ไปกันครับน้องจา ลิฟต์มาพอดี” พี่ไวน์เดินไปทางลิฟต์ ฉันลาพี่เนเน่แล้วเดินตามหลังเขามา
ความรู้สึกอึดอัดกลับมาอีกแล้ว ฉันไม่ชินกับการอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าสองต่อสองเลยแฮะ มันทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำสีหน้าแบบไหน
“น้องจาอยู่แถวไหนครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“เอ่อ… ไม่เป็นไรค่ะ จานั่งแท็กซี่กลับได้ค่ะ คอนโดอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่”
“ถ้าอยู่ไม่ไกล งั้นให้พี่ไปส่งดีกว่านะครับ นี่ดึกแล้วนั่งแท็กซี่คนเดียวมันอันตราย” เขาพลิกหลังมือดูนาฬิกาขณะประตูลิฟต์เปิดออก ฉันกำลังจะอ้าปากปฏิเสธแต่ถูกรอยยิ้มของเขาชะงักเอาไว้ “นะครับ ให้พี่ไปส่งเถอะครับ”
อ่า… ฉันแพ้รอยยิ้มผู้ชายคนนี้ รอยยิ้มใจดีไร้พิษภัยของเขาทำฉันปฏิเสธไม่ออก
สุดท้ายฉันก็ยอมให้พี่ไวน์มาส่ง รู้สึกเกรงใจเขามาก นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันนั่งรถคนแปลกหน้านอกจากคนขับแท็กซี่ ภาพลักษณ์พี่ไวน์แม้จะเป็นนักร้องนำวงดนตรีใต้ดิน แต่ลักษณะนิสัยของเขากลับดูใจดี อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แววตาที่เขาใช้มองมีมี่ก็มีแต่ความเอ็นดู หรือแม้แต่ยามมองฉันที่เพิ่งรู้จักกัน เขาก็ยังมองด้วยแววตาใจดี ฉันเพิ่งเคยเจอผู้ชายแบบนี้เป็นครั้งแรก ปกติเจอแต่ผู้ชายร้ายกาจน่ะนะ…
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” ฉันเอ่ยขอบคุณขณะปลดเข็มขัดเตรียมจะลงรถ พี่ไวน์ปลดเข็มขัดตาม ฉันรีบหันมอง “มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่จะเดินไปส่งครับ” พูดจบเขาก็ลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ฉัน ฉันก้าวลงรถ มองเขาอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ ทางเข้าคอนโดอยู่แค่นั้นเอง จาเดินไปได้ค่ะ ขอบคุณพี่ไวน์มากนะคะ” ฉันยิ้มขอบคุณเขาจากใจจริง เขาดูเป็นคนดีจริง ๆ นะ
“ถ้างั้นน้องจาเดินไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ยืนรอตรงนี้จนกว่าน้องจะเข้าไปด้านในแล้วพี่จะไป”
“เอ๊ะ แต่ว่า…”
“ไปสิครับ ไม่งั้นพี่กลับบ้านช้านะ” พี่ไวน์ยิ้มละมุน ดวงตาโค้งลงเป็นพระจันทร์เสี้ยว นอกจากจะใจดีแล้ว เขายังหน้าตาดีมาก ๆ เลยด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมีมี่ถึงได้ตามกรี๊ดเขาขนาดนั้น
“งั้นจาไปก่อนนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ” ฉันยิ้มส่งท้าย หมุนตัวเดินกลับเข้ามาในคอนโด พอพ้นจากประตูกระจกจึงหันกลับไปมอง พี่ไวน์ยืนพิงรถโบกมือส่งยิ้มให้ฉัน ท่าทางแบบนั้นของเขาทำฉันอดยิ้มกลับไม่ได้
ผู้ชายไม่ได้เลวร้ายไปหมดทุกคนสินะ
.
.
.
เช้าวันถัดมา มีมี่มาเรียนด้วยสภาพแฮงค์สนิท วายุอาสาไปซื้อเครื่องดื่มแก้แฮงค์ให้ ที่ตรงนี้จึงเหลือแค่ฉันกับมีมี่
“นี่จา เมื่อคืนพี่ไวน์ไปส่งจาใช่ป่ะ” มีมี่ฟุบหน้าลงบนแขนแล้วหันมามองหน้าฉัน
“อื้อ”
“ว้าว… พี่เขาจีบจาป่ะเนี่ย” เธอเปลี่ยนเป็นใช้สองมือเท้าคางพลางยิ้มแป้นแล้น
“พูดอะไรน่ะมี่ พี่เขาจะจีบจาทำไม เขาก็แค่ขับรถมาส่งเฉย ๆ”
“หื้ม ไม่นะ ถึงเมื่อคืนมี่จะเมา แต่ก็ยังพอมีสตินะจา มี่จำแววตาที่พี่ไวน์มองจาได้ แววตาอบอุ๊นอบอุ่น”
“พูดไปเรื่อย!” ฉันตีแขนเธอไปที คิดจะชงฉันให้พี่ไวน์หรือไงเนี่ย
“มี่พูดจริงนะ ไม่เชื่อดูแชทนี่สิ” เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแชทส่งให้ฉัน ฉันรับมาอ่านตอนที่วายุเดินกลับมาพอดี เขาส่งเครื่องดื่มให้มีมี่ก่อนนั่งลงข้างฉัน
.
.
MiMi : ขอบคุณนะคะพี่ไวน์ที่มาส่งมี่เมื่อคืน น่าอายจริง ๆ เลย อ่า!
Wine : ไม่เป็นไร ฮ่า ๆ พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณมี่
MiMi : เอ๊… ขอบคุณมี่เรื่องอะไรกันคะ??
Wine : ไม่มีอะไร เอาเป็นว่าพี่ขอบคุณมี่แล้วกัน เมื่อคืนเป็นคืนที่ดีของพี่มาก เอาไว้พี่เลี้ยงหนมนะ
MiMi : ง๊า! หมายความว่าไงคะเนี่ยยย??
Wine : [สติ้กเกอร์แมวจุ๊ ๆ]
.
.
“เห็นไหมล่ะ! พี่เขาต้องหมายถึงจาแน่ ๆ เลยอ่ะ” มีมี่โผล่หน้าเข้ามากระซิบทำฉันสะดุ้งตกใจจนโทรศัพท์เกือบหลุดมือ รีบส่งคืนเจ้าของ
“ไม่ใช่หรอก มี่คิดมากไปแล้ว ไม่เห็นเกี่ยวกับจาตรงไหนเลย”
“โหยจา มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าพี่ไวน์เขาหมายถึงจาอ่ะ เมื่อคืนเขาเจอจาไงเขาถึงมีความสุข มี่ว่าเขาชอบจาแน่ ๆ”
“จะบ้าเหรอมี่ เขาเพิ่งเจอจาครั้งแรกนะ จะชอบอะไรเร็วปานนั้น พอเลย ๆ เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วน่า” ฉันโบกมือปฏิเสธ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มีมี่ชอบคิดไปเองอยู่เรื่อย
“คุยอะไรกัน พี่ไวน์คือใคร? แล้วใครชอบจา?” วายุมองฉันสลับกับมีมี่ สองคิ้วขมวดแน่น มีมี่ยิ้มเลศนัยก่อนเล่าเรื่องเมื่อคืนให้วายุฟัง มีแอบเติมเสริมแต่งไปเกินจริงด้วย ฉันต้องรีบแก้ไขเรื่องเล่าใหม่ ไม่งั้นวายุได้เข้าใจผิดแน่ ทำไมถึงชอบทำแบบนี้นักนะมีมี่เนี่ย
“สรุปก็คือ… มี่ฟันธงว่าพี่ไวน์ชอบจาแน่นอน”
“เฮ้อ…” ฉันกลอกตาถอนหายใจ ไม่อยากจะเถียงแล้ว
“ไม่เชื่อคอยดูได้เลย”