บทที่ 2 สนองความต้องการ

2434 Words
เอรีน่ากลับไปถึงบ้านด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ใจหนึ่งก็พร่ำบอกตัวเองว่า เธอทำแบบนี้ไม่ได้มันไม่ดี มันไม่ถูกต้อง แต่อีกใจกลับบอกให้เธอทำ ๆ ไปเถอะได้ทั้งปลดหนี้และอยู่ใกล้ชิดกับคนที่ตัวเองแอบชอบ โอกาสใกล้ชิดเขาไม่ได้มีบ่อย ๆ ไม่แน่เธออาจจะทำให้เขาหลงรักก็เป็นได้ “เฮ้อ คิดถูกแล้วใช่ไหมเรา เอาว่ะไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว สู้โว้ย” หญิงสาวหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่พักใหญ่ก็ตัดสินใจได้ในที่สุด รอยยิ้มที่ชอบปรากฏเวลาแสดงละครค่อย ๆ เผยตรงมุมปาก งานนี้เธอยอมทุ่มสุดตัว เท้าทั้งสองข้างจึงเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดที่จะใส่ไปหาแสนปิติในวันพรุ่งนี้ เธอต้องเลิศที่สุดเท่าที่จะทำได้ ชุดแสนสวยราคาหลายหลักจึงวางอยู่บนเตียงเต็มไปหมด “ไม่มีชุดจะใส่ไปเลย อืม เอาชุดนี้ก็ได้” เลือกอย่างไรเธอก็เลือกไม่ได้อยู่ดี สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจใส่เพียงเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น เพราะอย่างไรก็ต้องถอดอยู่แล้วจะใส่ทำไมให้เยอะแยะเปลืองเวลาถอด คิดได้อย่างนั้นแววตาซุกซนจึงเริ่มปรากฏ ฉากสิบแปดบวกระหว่างตนเองกับเจ้าหนี้หนุ่มที่จินตนาการเอาเองค่อย ๆ เข้ามาในสมองราวกับเคยเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น “บ้า คิดอะไรของเธอเนี่ยรีน่า” หญิงสาวบิดตัวเล็กน้อยขณะมองความสวยของร่างกายผ่านกระจกบานใหญ่ เธอหวังว่าเขาจะประทับใจในรูปร่างและหน้าตาที่พ่อแม่ให้มา เอรีน่าเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสมส่วน ไม่บางจนเกินไป ไม่อ้วนจนเกินงาม อกเป็นอก เอวเป็นเอว จับตรงไหนเต็มไม้เต็มมือ “สู้โว้ย สู้เพื่อความรัก สู้เพื่อหนี้สิน” เธอให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะจัดเก็บทุกอย่างเข้าตู้เสื้อผ้า แล้วรีบเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเข้านอน พรุ่งนี้ตื่นมาหน้าตาจะได้สดใสพร้อมไปมัดใจ แสนปิติ มหาโชคดำรงวรกุล ว่าที่พ่อของลูก บ้านของท่านประธานหนุ่มสุดหล่อตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านของเอรีน่า หญิงสาวใช้เวลาในการเดินทางไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านหลังใหญ่ที่ตกแต่งได้อย่างลงตัว และอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตระกูลมหาโชคดำรงวรกุล เอรีน่าจอดรถเสร็จก็มีผู้ชายหน้านิ่งรายหนึ่งเดินเข้ามาหาและเชื้อเชิญให้เธอเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ที่ดูแล้วน่าจะมีคนอยู่เพียงไม่กี่คนเพราะบรรยากาศเงียบมาก หญิงสาวมองซ้ายมองขวาขณะเดินตามหลังเลขาอีกคนของแสนปิติที่มีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ราวกับพระเอกละคร “คุณแสนรอคุณอยู่ในห้องทำงาน เชิญทางนี้ครับ” “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร คือฉันจะได้เรียกถูก” “ผมชื่ออิน หรือ อินทิวา เป็นเลขาของคุณแสน” “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณอินทิวา” “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณเอรีน่า” ทั้งสองคนแนะนำตัวกันเสร็จเรียบร้อย เลขาของแสนปิติก็ได้เดินนำหญิงสาวที่เจ้านายถูกตาแต่ไม่รู้ต้องใจไหมไปยังห้องทำงาน เอรีน่าแม้จะเกิดมามีฐานะดี บ้านรวย แต่ยังไม่เท่าเจ้าหนี้หนุ่มจึงตื่นเต้นไม่น้อยกับของตกแต่งในบ้านหลังนี้ เพราะของบางชิ้นมีมูลค่าหลายหลัก อย่างเช่นพวกภาพวาดของศิลปินระดับโลกที่ต้องประมูลมาเท่านั้นถึงจะได้ครอบครอง “คุณเอรีน่ามาถึงแล้วครับคุณแสน” “อืม นายออกไปได้แล้ว” “ครับคุณแสน” อินทิวาโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของเจ้านายหลังจากหมดหน้าที่ ทำให้ภายในห้องทำงานของแสนปิติไม่มีใครอื่นอยู่เลยนอกจากเจ้าของห้องกับแขกสาว ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลงลุกจากเก้าอี้แล้วก้าวเท้าฉับ ๆ ตรงไปยังประตูห้องทำงาน จากนั้นก็ทำการกดล็อกทันทีก่อนจะเดินกลับไปนั่งบนโซฟา ในขณะที่เอรีน่าไม่พูดอะไรสักคำนอกจากยืนมองการกระทำของเขาอย่างเงียบ ๆ แต่ในใจเต็มไปด้วยคำถาม “เชิญนั่งครับคุณเอรีน่า ผมมีเอกสารให้คุณเซ็น” “เอกสารว่าจ้างเหรอคะ” “พูดแบบนั้นก็ได้” “ก็ดีค่ะ มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรแบบนี้ ฉันจะได้สบายใจหน่อย” “คุณอ่านได้ตามสบายเลย วันนี้เรามีเวลาทั้งวัน” หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็เดินไปนั่งบนโซฟาข้าง ๆ เขาแล้วค่อย ๆ ดึงเอกสารที่อยู่ในซองออกมา เธออ่านมันทุกบรรทัดทุกตัวอักษรเพื่อไม่ให้เสียเปรียบ แม้เรื่องนี้เธอจะยินยอมทำตามข้อเสนอของเขาด้วยความยินดี แต่อย่างไรเสียก็ต้องคิดเรื่องกำไรเอาไว้บ้างเพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์จนเกินไป หลังจากอ่านทุกข้อทุกบรรทัดที่ระบุในเอกสารเธอก็รีบลงชื่อทันที โดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ทำให้แสนปิติพึงพอใจไม่น้อยที่ลูกหนี้สาวไม่เรื่องมาก “คุณโอเคกับข้อเสนอของผมไหม” ตั้งคำถามเพราะต้องการหยั่งเชิง “ค่ะ ไม่เห็นต้องไม่โอเคตรงไหน ออกจะได้เปรียบด้วยซ้ำ” เธอไหวไหล่เล็กน้อยในขณะตอบ “ถ้าคุณคิดแบบนั้นก็ดี ระหว่างเราเป็นแค่เจ้าหนี้กับลูกหนี้เท่านั้น ห้ามมีอย่างอื่นมาเกี่ยวข้อง” ไม่รู้เขาบอกเธอหรือบอกตัวเองกันแน่ ถึงได้ย้ำนักย้ำหนา แสนปิติไม่รู้หรอกว่าตอนนี้สายตาที่เขามองเธอไม่เหมือนกับสายตาที่เขามองผู้หญิงอื่น “ฉันจะจำให้ขึ้นใจ คุณแสนไม่ต้องห่วง อ้อ เรื่องท้องก็เหมือนกัน ไม่ใช่แค่คุณที่ไม่ต้องการ ฉันก็ไม่ต้องการค่ะ” เธอเชิดหน้าเล็กน้อยอดหมั่นไส้ไม่ได้จริง ๆ คิดว่าเธออยากมีลูกกับเขามากนักหรือไงถึงได้ตั้งข้อตกลงแบบนั้น ถึงเธอแอบชอบเขา อยากได้เขาเป็นคู่ชีวิต เป็นพ่อของลูก แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ “ดี ในเมื่อเราเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ผมก็ไม่มีปัญหา” เขายิ้มเย็นราวกับผู้ชายไร้หัวใจ ก่อนจะลงชื่อบนเอกสารทำให้เอรีน่าใจหวิว แต่เก็บทุกอย่างเอาไว้ภายใต้สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หากเธอพลาดแล้วท้องขึ้นมาจริง ๆ ค่อยคิดแก้ปัญหา สัญญาของแสนปิติบอกชัดเจน นอกจากห้ามมีความรู้สึกใด ๆ ต่อเขาแล้ว ห้ามเธอตั้งครรภ์ด้วย แต่ถ้ามีเด็กเขาจะรับแค่ลูก ส่วนแม่ทางใครทางมันซึ่งเธอไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นเพราะรู้ดีว่าการไม่มีแม่มันเป็นเช่นไร “คุณเองก็อย่าลืม ห้ามหึง ห้ามหวง เด็ดขาด” “หึ ผมไม่มีทางหึงหรือหวงคุณหรอกสบายใจได้ ก็แค่ผู้หญิงขัดดอก” “คุณจะเรียกฉันแบบนั้นก็ได้ฉันไม่ถือ แล้วคุณจะให้ฉันทำงานตอนไหน” “ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย ตามผมมา” หลังจากเดินตามหลังแสนปิติเข้ามาในห้องนอนที่อยู่บนชั้นสองของบ้านหลังใหญ่ เอรีน่าก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงคนที่เท่าไรของเขา มีผู้หญิงเข้าออกห้องนี้มาแล้วกี่คน ใบหน้าระคนสงสัยของคนตัวเล็กกว่าทำให้เจ้าของห้องที่กำลังถอดเสื้อต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย แต่หญิงสาวกลับไม่ได้ยินคำถามเพราะมัวแต่ตกใจกับภาพตรงหน้า กล้ามเป็นมัด ๆ มันทำให้เธอหูดับ ตาพร่ามัวไปหมด อยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสให้รู้แล้วรู้รอด “นี่คุณผมถามไม่ได้ยินเหรอ” เขาเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะโน้มตัวให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันแล้วตั้งคำถาม “ว่า ถามอะไรคะ คุณถามอะไร” เธอตกใจกับความใกล้ชิดนี้จึงถอยหลังเล็กน้อย แต่แสนปิติกลับคว้าเอวของเธอเอาไว้ “ทำเหมือนไม่เคยเห็นไปได้” วาจาร้าย ๆ ถูกพ่นออกมาจากปากหลังจากเห็นความตื่นตระหนกในสายตาของเอรีน่า แสนปิติไม่เชื่อว่า เอรีน่าจะไม่เคยทำเรื่องพวกนี้มาก่อน เพราะถ้าเธอไม่เคยคงไม่รับข้อเสนอของเขาอย่างง่ายดาย “ก็ไม่เคยเห็นน่ะสิ” หญิงสาวสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของเขาด้วยความไม่พอใจ “พูดเป็นเล่น ผู้หญิงอย่างคุณเนี่ยน่ะจะไม่เคยเห็น” คนตัวโตเอามือขึ้นมากอดอกแล้วใช้สายตาอันทรงเสน่ห์มองหญิงสาวตั้งแต่หัวจดเท้าอย่างดูถูกดูแคลน สายตาของเขาอดทำให้เธอเกิดความรู้สึกโมโหไม่ได้จริง ๆ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจึงเย็นยะเยือก “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง” เธอถามอย่างไม่เกรงกลัวสายตาเขา ในขณะที่มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น พลางบอกตัวเองให้ใจเย็น ๆ ยุบหนอพองหนอ แสนปิติคือเจ้าหนี้อย่าทำให้เขาโกรธเด็ดขาด “ผมคงไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของคุณใช่ไหม” แสนปิติเห็นความไม่พอใจผ่านสีหน้าของเอรีน่าก็เริ่มไขว้เขวจึงตั้งคำถามอีกครั้งพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยในขณะรอคอยคำตอบ และแอบหวังลึก ๆ ให้ตัวเองเป็นคนแรกของเธอเหมือนไม่ใช่แสนปิติคนเดิม ปกติเขาไม่สนใจเรื่องพรรค์นี้หรอกแต่พอเป็นเธอ เขาก็เกิดอยากรู้ขึ้นมา “ค่ะ ถ้าหมายถึงเห็นอกเปลือยแบบนี้ไม่ใช่แน่ เพราะฉันเห็นบ่อยตอนถ่ายแบบ” เธอตอบซื่อ ๆ เกือบทำให้เขาหลุดขำ คนอะไรบทจะซื่อขึ้นมาก็ซื่อได้อย่างน่ารัก แสนปิติจึงเดินไปนั่งบนเตียงก่อนตั้งคำถามใหม่ “ไม่ใช่แบบนั้น ผมหมายถึงเรื่องอย่างว่า” “อ้อ พูดตรง ๆ นะคะ ไม่เคย ฉันไม่เคยมีแฟน ไม่เคยนอนกับผู้ชายคนไหนมาก่อนคุณคือคนแรก” คำตอบของเธอคือเรื่องจริงแต่เขาก็ยังสงสัยอยู่ดี คิ้วทั้งสองข้างจึงย่นเข้าหากัน คำถามข้อใหม่จึงหลุดออกมาจากปากพลางจับโกหกหญิงสาวไปด้วย คนสมัยนี้ยังมีอีกเหรอที่ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยนอนกับแฟน เป็นไปได้อย่างไรเขาควรเชื่อเธอไหม “แล้วทำไมคุณถึงยอมรับข้อเสนอของผมง่าย ๆ ผมคิดว่าคุณเคยทำแบบนี้มาก่อน” “ก็เพราะฉันไม่มีทางเลือกไง คุณเสนอ ฉันสนอง วินวินทั้งสองฝ่าย” บอกตามตรงราวกับไม่แคร์ในสิ่งที่ตนเองเลือก แม้จะรู้สึกเจ็บกับสายตาของแสนปิติที่กำลังจ้องมองมาแต่เธอไม่อยากให้เขาเห็นถึงความอ่อนแอ และไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอแอบชอบเขาจึงตอบกลับไปแบบนั้น “ผมให้โอกาสคุณอีกครั้ง เดินออกไปจากห้องนี้” ชายหนุ่มถอนหายใจเล็กน้อยแล้วชี้ไปทางประตูห้องนอน “ไม่ค่ะ ฉันเลือกแล้ว ฉันต้องการให้คุณเป็นผู้ชายคนแรก” นี่คือสิ่งที่เอรีน่าคิดมาตลอดคืน แสนปิตินิ่งไปชั่วครู่กับความใจกล้าบ้าบิ่นของคนตัวเล็ก แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับสายตาดูถูกดูแคลน หลังจากคิดว่าเธอโกหกเพื่อทำให้ตัวเองดูดี ผู้หญิงที่ดูร้าย ๆ กร้านโลกอย่างเอรีน่าน่ะเหรอจะไม่เคยทำเรื่องอย่างว่า ไหนจะข่าวฉาวพวกนั้นอีกเห็นทีเขาต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดเสียแล้ว “เอาเถอะผมจะเป็นคนแรกของคุณหรือไม่เดี๋ยวก็รู้ ถอดเสื้อผ้าแล้วไปนอนบนเตียง” เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปหยุดตรงหน้าเธอก่อนจะออกคำสั่ง “เดี๋ยวค่ะ ฉันขอถามอะไรหน่อย ห้องนี้มีผู้หญิงเข้ามาสนองคุณแสนมาแล้วกี่คน” เอรีน่าข้องใจเรื่องนี้เหลือเกิน ถึงเธอจะบอกว่ามันคือเรื่องของเขา แต่เธอก็อยากรู้อยู่ดีจึงตัดสินใจถามออกไป ใจดวงน้อยถึงกับหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มหลังจากเห็นความไม่พอใจในดวงตาของแสนปิติ “คุณอยากรู้ไปทำไม” “ขอโทษค่ะ ฉันคิดมากไปหน่อย” “ช่างเถอะ ผมไม่เคยให้ใครมาที่นี่ คุณคือคนแรก” “ไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันนี่น่ะคนแรก” “อืม คุณจะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของคุณผมไม่สนใจ หน้าที่ของคุณตอนนี้คือถอดเสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนอนอ้าขาบนเตียง” คนเอาแต่ใจสั่งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ไม่รู้ทำไมอยู่ ๆ บรรยากาศในห้องนอนถึงได้รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา เอรีน่ามีผลต่อร่างกายของเขาจริง ๆ ยิ่งมองยิ่งอยากได้ ยิ่งมองยิ่งโหยหาอยากให้เธอถอดเสื้อผ้าเร็ว ๆ แล้วลงไปนอนอยู่บนเตียงจากนั้นก็... “ขอทำใจหน่อยได้ไหม” หญิงสาวเห็นความกระหายในดวงตาของชายหนุ่มก็อดหวั่นใจไม่ได้ รู้สึกปอดแหกขึ้นมาจึงขอเวลาทำใจก่อนสักสิบนาทีหรือสิบห้านาที ขนาดเล่นละครยังมีเวลาซ้อมบทเลย แต่แสนปิติคิดว่าเอรีน่าเล่นตัวจึงตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ คล้ายไม่พอใจ “เล่นตัว?” “ก็คนมันไม่เคยนี่ ฉันไม่ได้เล่นตัว” “ถอดตอนนี้มีทิปพิเศษ” “คุณแสน” “...” “โอเค ถอดก็ถอด แล้วอย่าลืมให้ทิปฉันด้วยนะคะ” “ทิปมีแน่ ถ้าของมันสด” “สดกว่านี้ก็ปลาในทะเลแล้วค่ะ” น้ำเสียงกระแทกแดกดันมาพร้อมกับเสื้อยืดที่ถูกถอดออกมาจากร่างกายขาวผ่องอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเธอไม่อายอย่างไรอย่างนั้นแต่จริง ๆ แล้วเธอโคตรอาย ครู่ต่อมาตามด้วยกางเกงขาสั้นตัวโปรดทำให้ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาวเหลือเพียงชุดชั้นในชิ้นบนและล่างเท่านั้น และก่อนที่เธอจะดึงพวกมันทิ้งไปก็ได้ยินเสียงห้ามของเขาแทรกเข้ามา “สองชิ้นนี้ ผมถอดเอง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD