บทที่ 17

982 Words
บทที่ 17 เฉินตงสำรวจข้าวของมีค่าเท่าที่จะเหลือในจวนมากองรวมกันไว้ เเล้วเดินไปเอาลูกปัดสีเเดงที่ฝังไว้ใต้เรือนของตนเองกับเสื้อผ้า จากนั้นเอาเข้าเเหวนมิติทั้งหมด เพราะเกรงว่าที่นี่คงอยู่ไม่ได้ ไน่เหอลงมือฆ่าพวกมือสังหารไปก่อนหน้านี้ อีกไม่นานคนสั่งการคงจะรับรู้ได้ว่าลูกน้องตนถูกจัดการหมด ต้องส่งคนมาที่นี่เเน่ ดังนั้นจะอยู่นานไม่ได้ มาถึงลานกว้างของจวนชายชรานาม เฉินซานซัวก็นำไหใส่ขี้เถ้าฝังไว้ เเละยกเอาศิาลาเเผ่นใหญ่สูงสองเมตรมาตั้งทับไว้ กิ่งไม้อันหนึ่งถูกคว้าขึ้นมา ก่อนจะกระโดดขึ้นกลางอากาศ กิ่งไม้โบกไปมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นคลื่นพลังพลันพุ่งเข้าหา เเผ่นศิลา ปรากฏตัวอักษร 'สุสานของสกุลเฉิน' เขาร่อนลงพื้น พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ นี่คงเป็นหลุมศพหรือป้ายวิญญาณกระมัง เฉินตงขบคิด ไม่ๆได้กล่าวอันใด ราวกับยืนสงบนิ่งให้เเก่คนที่ตกตายไป "อาตง เจ้ามีอันใดติดค้างที่นี่หรือไม่" เฉินซานซัวเอ่ยขึ้น ขณะเพ่งสายตาไปยังทิศทางหนึ่ง หน้านิ่วคิ้วขมวดทันที "ผู้อาวุโส คือว่า....." เฉินตงเล่าเรื่องเฉินหยูให้กับเขาฟัง รวมถึงเรื่องสำนักเเพทย์ ชายชราฟังไป บรรยากาศรอบๆ กายเขายิ่งดูดันขึ้นเป็นเท่าตัว มีประโยคหนึ่งคำพ่นออกมาอย่างเดือดดาล "สามห้าวยิ่งนัก" ก่อนจะหันมาหาเฉินตงด้วยรอยยิ้มที่เเสนอบอุ่น "อาตง มีผู้ฝึกตนสองคนกำลังมา เราต้องเเยกกัน ข้าจักไปสำนักเเพทย์ของเมืองเมฆาล่อวง ตามหาน้องสาวของเจ้า ส่วนอาตง เจ้าตงรีบไปที่นรกดำ เป็นไปได้ออกห่างจากเมืองเมฆาล่องให้มากที่สุด ข้าได้ทิ้งพลังของข้าส่วนหนึ่งไว้ที่ป้ายนี้" เฉินซานซัวควักป้ายหยกอันหนึ่งโยนมาให้ เฉินตงรับไว้เเละพลิกขึ้นดู มีอักษรตัว 'เฉิน' สลักไว้ อีกทั้งยังมีพลังชี่อันเเข็งเเกร่งขุมหนึ่งสถิตอยู่ เฉินซานซัวมองไปทางด้านที่สำนพเเพทย์สาขาเมืองเมฆาล่อง "ป้ายหยกของประมุขสกุล อาตงนับเเต่นี้เจ้าคือ ประมุขของตระกูลเฉิน รุ่นที่ 4!" เฉินตงอึ้ง เเละพยายามปฏิเสธ "ข้าจะส่งพลังล่อพวกมัน พร้อมๆ กับไปที่สาขาสำนักเเพทย์"เเต่ชายชราส่ายหัว พลางเหินร่างพุ่งไปยังสาขาสำนักเเพทย์ทันที เสียงหนึ่งลอยมาตามลม มีเพียงเฉินตงได้ยิน "ข้ามีอันตรายถึงชีวิต จงใช้เลือดของเจ้ากระตุ้นป้ายหยก มันสามารถสังหารผู้ฝึกตนขั้นขุนนางลงมา ได้ในพริบตาเดียว เเละใช้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้น หากพบเจออาหยู ข้าจะติดต่อผ่านป้ายหยก เก็บป้ายนั้นอย่าให้หายเป็นอันขาด" เฉินตงยกมือคาราวะอีกฝ่าย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไน่เหอลอยออกมาจากเเหวน "ผู้อาวุโสท่านฟื้นเเล้วเหรอ" เฉินตงดีใจมาก หากมีไน่เหอคอยช่วย เขาสามารถรอดชีวิตจากผุ้ฝึกตนที่เเข็งเเกร่งได้ "ข้าฟื้นมาครูหนึ่งเท่านั้น อีกเดี๋ยวจะกลับไปจำศีลต่อ นี่ป้ายวิญญาณของคนในจวนเจ้าหรือ" ไน่เหอมองไปยังป้านศิลาเเผ่นใหญ่สูงเกือบสองเมตร ก่อนจะส่งพลังส่วนหนึ่ง จากป้ายวิญญาณของตนเอง เข้าไปในเเผ่นสิลา "ท่านทำอันใด" เฉินตงงุนงง "ข้าเพียงทำให้มั่นใจว่า ที่นี่จะไม่มีผู้ใดเข้ามารบกวนคนตายได้" จากนั้นหันมามองที่เขา ไน่เหอร่ายพลังบางอย่างใส่ร่างของเฉินตง "ไปเถอะ ข้าสร้างม่านพลังคุ้มกายเจ้าไว้ ในเวลาสองชั่วยาม ต่ำว่าขั้นขุนนางจะไม่สามารถสัมผัสถึงเจ้าได้" ไน่เหอบอก เเละกลับเข้าไปในเเหวน เฉินตงมองป้ายวิญญาณ อีกครั้ง ก่อนจะเร่งฝีเท้าออกจากจวนสกุลเฉินอย่างรีบร้อน ****** มาถึงสาขาของสำนักเเพทย์ เฉินซานซัวร่อนลงอย่างนิ่มนวล ก้าวเท้าเข้าไปด้านใน ศิษย์ที่เฝ้าด้านหน้า เห็นท่าทางขึงขังของผู้เฒ่ารีบเข้ามารับหน้าทันที "เอ่อ ผู้เฒ่าไม่ทราบว่า ท่านต้องการอะไร" "หลานสาวข้าอยู่ด้านใน จงพานางออกมาเสีย ชื่อของนางคือ เฉินหยู" น้ำเสียงเปี่ยมด้วยพลัง ทำให้ศิษย์คนนั้นเหงื่อเเตกหน้าซีดเผือด รีบวิ่งเข้าไปด้านในทันที ครู่ใหญ่ก็ออกมาพร้อมกับบันทึกสักอย่าง "ผู้เฒ่า ไม่มีคนชื่อ เฉินหยู เข้ารักษาเลยนะขอรับ" ศิษย์คนนั้นอ่านนักทึกในมือพร้อมกับบอกกล่าวออกไป เฉินซานซัวนิ่วหน้า ความไม่สบอารมร์เเสดงออกมาเต็มที่ "เป็นไปไม่ได้ หลานข้าพึ่งพานางมาเมื่อหลายวันก่อน ผู้อาวุโสจงของที่นี่ยังรับนางไว้ในการดูเเลอยู่เลย" "ผู้อาวุโสจงหรือ เออ ถ้าเป็นท่านผู้นั้น เขาพึ่งกลับไปยังสพนักเเพทย์เมื่อวันก่อนเองขอรับ เเต่เท่าที่ดู มีเพียงศิษย์ของเขาที่ติดตามเขากลับไป ไม่มีคนอื่นเลยนะขอรับ" ได้ยินดังนั้นเฉินซานซัว ก็ถอนหายใจออกมาทันที "ร่างสวรรค์ถูกค้นพบเร็วไป หรือว่าข้าออกมาช้าเกินไป" จากคำกล่าวชัดเจนว่าเฉินซานซัวล่วงรู้วา เฉินหยู ครอบครองอันใด เเละยังรู้ละเอียดยิ่งกว่าพวกที่พานางไปเสียอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD