ตอนที่ 3

1075 Words
เถอะ เพราะว่าไอ้สองคนนี้ตัวใหญ่มาก รูปร่างมันบึกบึนเหมือนนักกล้าม และยังมีตั้งสองคน สถานการณ์ที่ดูเหมือนว่ากำลังจะวุ่นวายบานปลายขึ้นทุกที ทำให้ผู้ชายที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ภายในรถอย่างใจเย็น ต้องก้าวลงมาจากรถเบนส์สีเงินคันหรูพร้อมกับชายสูงวัยอีกคน ผมตกใจ… จ้องมองชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำ ใบหน้าคมคร้ามหล่อเหลาสะดุดตาเหมือนลูกครึ่งฝรั่ง     “พ่อมึงเป็นหนี้พ่อกูโว้ย… พ่อมึงเอาบ้านมาจำนองไว้กับกูหลายปีแล้ว ทั้งต้นทั้งดอกไม่ยอมจ่ายมาเกือบปี นี่กูไม่ยึดบ้านก็นับว่าบุญนักหนา ตามกฎหมายกูมีสิทธิ์ยึดบ้านและที่ดินได้เลย… เอาเอกสารให้พวกมันดู… ” ชายหนุ่มหน้าฝรั่งร้องสั่งผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลัง ท่าทางของชายสูงวัยคนนี้ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นทนาย “ครับคุณเจมส์… ”         จริงอย่างที่ผมคิด… ทนายรีบเปิดแฟ้มโชว์เอกสารสัญญาการกู้ยืมมาตรงหน้าของผม เพื่อให้เห็นว่าได้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย         “จริงหรือครับแม่… ”         ผมมองเอกสารตรงหน้า แม้รู้ว่าเป็นของจริง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลียวกลับมาถามย้ำกับแม่ที่ยังไม่หายจากอาการตกใจ         “จริงจ้ะลูก… ”         แม่มะลิพยักหน้า ตอบเสียงเครือ สีหน้าขมขื่น “ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะครับ… ” ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย “หลายเดือนมาแล้วที่พ่อไม่ได้ใช้หนี้ทั้งต้นทั้งดอก ก็ตั้งแต่พ่อตกงาน ครอบครัวของเราก็ขาดรายได้มาตลอด… ” แม่อธิบาย ผมได้ฟังแล้วมองหน้าเจ้าหนี้ “ผม… ผมขอผัดไปอีกเดือนได้ไหมครับ ผมเพิ่งเรียนจบมอหก… ผมกำลังจะหางานทำครับ… ”         ผมยกมือไหว้ น้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง อันที่จริงผมวางแผนไว้ว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยเปิด เพื่อที่จะได้มีเวลาทำงานและเรียนไปด้วย         “โถ… เพิ่งเรียนจบแค่มอหก งานก็ยังไม่มีทำแต่ยังกล้ามาต่อรอง… ”         เจ้าหนี้หน้าหล่อเบะปากใส่ หรี่ตามองผมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างดูแคลน แล้วกล่าวออกมาว่า         “กูจะยอมให้ก็ได้… แต่ในระหว่างนี้กูจะเอามึงไปขัดดอก… วันนี้มึงต้องไปอยู่รับใช้ที่บ้านกู… ”         เจ้าหนี้ยื่นข้อเสนอ         “ ……. ”         ผมตกใจจนพูดอะไรไม่ออก… ได้แต่สูดหายใจแรงลึก รวบรวมความกล้าเพื่อจะผลักคำพูดให้หลุดออกมาจากลำคอที่จุกแน่นไปด้วยความเศร้า         “ได้ครับ… ”         ถึงขั้นนี้แล้ว ผมจำต้องยอมรับข้อเสนอ ในวันที่ทางเลือกเหลืออยู่น้อยเต็มที ตอนนี้ขอเพียงแค่บ้านไม่โดนยึด ไม่งั้นพ่อกับแม่ของผมจะไม่มีที่ซุกหัวนอน         “ชลล์… เอ็งคิดดีแล้วหรือลูก… ”         แม่เรียกชื่อผม… รีบท้วงด้วยความตกใจ เสียงของแม่สั่นเครือคล้ายจะร้องไห้… ผมเข้าใจว่าแม่ห่วงที่ผมจะต้องไปอยู่บ้านเจ้าหนี้         “ผมเป็นผู้ชายครับแม่… งานรับใช้คงไม่มีอะไรหนักหนาเกินกว่าที่ผมจะทำได้ แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ”         แม้จะกลัว… แต่ผมจำต้องซ่อนความอ่อนแอไว้อย่างมิดชิด เอื้อมมือมากุมมือของแม่มะลิ กล่าวให้แม่สบายใจ         “มึงต้องไปวันนี้เลย… ”         เจ้าหนี้กล่าวเสียงดัง แม่มะลิจ้องมองหน้าผมด้วยความตกใจ         “เอ่อ… คุณคะ… มันไม่เร่งรัดไปหน่อยหรือคะ”         แม่ตวัดสายตามองร่างสูง รู้สึกว่าเงื่อนไขนี้มันฟังดูแปลกๆ พิกล         “ใช่… ต้องไปเดี๋ยวนี้… ”         ทนายความร่างท้วมตอบ         “แล้วลูกฉันจะต้องไปอยู่นานแค่ไหน… ”         เสียงของแม่เริ่มอ่อนลง         “อย่างน้อยก็หนึ่งเดือน… หรือจนกว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ที่ค้าง… ”         เจ้าหนี้หน้าหล่อที่ลูกน้องเรียกว่า ‘เจมส์’ ตอบข้อสงสัยของแม่ด้วยสีหน้าและแววตาเยือกเย็นปานน้ำแข็ง         “ไม่เป็นไรครับ… ผมไปนะครับพ่อแม่… ”         ผมมองหน้าล่ำลาครอบครัว… ยอมไปกับเจ้าหนี้แต่โดยดี เพื่อแลกกับการที่บ้านจะไม่ต้องโดนยึด ผมตัดสินใจไปโดยที่ก็ไม่รู้เลยว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า “อย่าชักช้า… ไปได้แล้วโว้ย… ” สมุนหน้าเหี้ยมสองคนที่มากับเจ้าหนี้รูปหล่อแต่ใจร้าย เดินนำหน้าผมมาที่รถเบนซ์สีเงินคันหรู “มึงมาขึ้นคันนี้โว้ย… ” ลูกสุมนของเจ้าหนี้ ตะโกนเรียกให้ผมเดินมาที่รถกระบะ ซึ่งผมมารู้ในภายหลังว่ามันชื่อไอ้เชิด อีกคนชื่อไอ้สันต์ “เข้าไป… ” สันต์เปิดประตูรถแล้วผลักหลังผมให้เข้ามานั่งในเบาะหลังของรถกระบะแบบสองตอน ขับตามรถเบนส์สีเงินคันหรู วิ่งนำหน้าออกไปท่ามกลางสายตาของแม่มะลิที่จ้องมองผ่านม่านน้ำตาจนรถแล่นลับไปจากสายตา ในเวลาต่อมา เกือบชั่วโมงที่ผมนั่งรถมาด้วยอาการใจหวิวๆ แปลกๆ มาตลอดทาง… จนกระทั่งถึงบ้านของเจ้าหนี้ ผมตะลึงมองบ้านหลังใหญ่… ช่างดูกว้างขวางและใหญ่โตมาก ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว้างหลายไร่ รอบๆ โอบล้อมไว้ด้วยป่าเขาเขียวขจี นี่ควรจะเรียกว่า ‘คฤหาสน์’ น่าจะเหมาะสมกว่า ผมอดคิดไม่ได้ว่าเจ้าของบ้านหลังนี้จะต้องมีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหน จึงสามารถสร้างบ้านได้ใหญ่โตอลังการปานนี้ บ้านหลังนี้สวยงามมาก… ไม่สิ… ผมควรเรียกมันว่าคฤหาสน์ ผมกวาดสายตาแลไปรอบๆ อาณาบริเวณของคฤหาสน์ และสิ่งที่สะดุดตาอย่างจัง ก็คือประติมากรรมทองเหลืองตั้งอยู่บนฐานซีเมนต์ท่ามกลางสระน้ำ โอบล้อมไว้ด้วยดอกบัวหลากสีสัน เป็นรูปผู้ชายร่างกำยำ เนื้อตัวบึกบึนล่ำสันไปด้วยมัดกล้ามสง่างาม ยืนอวดเรือนร่างเปลือยเปล่าท้าฟ้าท้าลม เห็นลำอวัยวะเพศดุ้นใหญ่สะดุดตา ตั้งลำขนานขึ้นมากับท้องแน่นไปด้วยลอนกล้าม         “คนใช้คนใหม่… ลุงแสงช่วยดูแลให้ที”         ผู้ชายที่ชื่อเจมส์สั่งไว้เพียงสั้นๆ เมื่อลงจากรถ         “ครับนาย… ”         ผู้ชายวัยกลางคนที่ชื่อลุงแสงก้มศีรษะรับคำด้วยท่าทางสุภาพนอบน้อมต่อนาย แล้วพาผมมาที่เรือนนอนของคนรับใช้ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD