หลังจากคุยกับคิรินเรียบร้อยแล้วลูกโซ่ก็เดินออกจากร้านเพื่อจะกลับห้องพักที่อยู่ไม่ไกลจากร้านมากนักใช้เวลาในการเดินประมาณสิบห้านาทีก็ถึง ลูกโซ่เดินด้วยเรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบเพราะเธอว่างแผนไว้ว่าจะแวะซื้อของกินก่อนขึ้นห้อง แต่ในระหว่างที่กำลังเดินอยู่ก็มีเสียงบีบแตรดังมาจากด้านหลังทำให้เธอหยุดแล้วหันกลับไปมองเพียงแค่นั้นไปก็ต้องร้องเสียงหลงด้วยความตกใจที่อยู่ ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์วิ่งมาจากทางด้านหลังด้วยความเร็วจนเฉี่ยวเธอล้มลงไปกองอยู่บนพื้นทางเดิน
“ปี๊บบบ....../ว้าย!!!”
“ทำไมเดินไม่ทางดูว่ะ แม่ง!!!!” คนขับรถหยุดรถแล้วหันมามองเธอที่นั่งอยู่กับพื้นพร้อมกับต่อว่าเธอเสียงดังทั้งที่เธอไม่ใช่ฝ่ายผิดสักหน่อยแต่เขาต่างหาที่ผิดมาขับรถบนทางเท้าได้ยังไง
“แต่นี่มันทางสำหรับคนเดินนะ คุณนั้นแหละผิดที่มาขับรถบนทางเท้า” ลูกโซ่เองก็ไม่ยอมเหมือนกันเธอต่อว่าคนขับรถกลับไปเสียงดังแต่ดูเหมือนคนขับรถจะไม่สนใจพอเขาต่อว่าเธอเสร็จก็ขับรถออกไปทันทีโดยไม่คิดจะจอดรถแล้วลงมาช่วยเหลือเธอเลยสักนิด แล้งน้ำใจจริง ๆ
“คนสมัยนี้ทำไมนิสัยแย่แบบนี้นะ โอ๊ยยย......” ลูกโซ่บ่นอุบพร้อมกับลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บแปลบที่ข้อเท้า ทำให้เธอเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้นถ้าไม่มีแขนแกร่งของใครอีกคนช่วยประคองเธอไว้
“คุณ!!! เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” น้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยทำให้ลูกโซ่เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่มาช่วยตัวเองไว้ เพียงแค่เห็นหน้าเขาเธอต้องตกใจเพราะเขาคือลูกค้าที่พัชราเพิ่งบอกว่าเขาสนใจเธอ
“เอ่อ...... ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่ช่วยนะคะ”
“ครับ คุณยืนไหวไหม” เพียงแค่เขาคลายอ้อมแขนออกลูกโซ่ที่ฝืนยืนไม่ไหวเพราะความเจ็บที่ข้อเท้าทำให้เกือบล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นอีกรอบแต่ยังดีที่เขาไม่ปล่อยให้เธอล้มลงไป
“คุณ!!!/โอ๊ยยย”
“ขออนุญาตนะครับ” พูดจบเขาก็อุ้มตัวลูกโซ่ขึ้นทำให้เธอต้องรีบยกมือขึ้นเกาะบ่าเขาไว้เพราะกลัวตัวเองจะตกลงไปมันทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเธออยู่ใกล้เขามากจนได้กลิ่นหอมราคาแพงจากตัวเขาโชยมาให้ได้กลิ่นกับหัวใจของเธอที่เต้นระรัวขึ้นอย่างห้ามไม่ได้เกิดมาพึ่งเคยได้ใกล้ชิดกับผู้ชายครั้งแรก
“คุณจะพาฉันไปไหน”
“ไม่ต้องกลัวผมแค่จะพาคุณไปนั่งเพื่อดูเท้าคุณแค่นั้นเอง” เขาก้มมองเธอด้วยรอยยิ้มแล้วพาเธอเดินตรงไปยังรถหรูที่จอดอยู่ริมถนนก่อนจะวางเธอลงที่เบาะข้างคนนั่งพร้อมกับนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ การกระทำของเขาทำให้ลูกโซ่รีบร้องห้ามเขาด้วยความตกใจ
“คุณ!!!! อย่าค่ะ” แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเสียงร้องห้ามของเธอเลยสักนิดเขาจับข้อเท้าเธอขึ้นมาพิจารณาดูก็พบว่ามันบวมจนน่ากลัว ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าข้อเท้าเธอพลิกหรือหักกันแน่แต่ที่แน่ ๆ ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอตรวจ
“ข้อเท้าคุณบวมมากเลย ผมว่าไปโรงพยาบาลดีกว่าครับ”
“แต่......” แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ฟังคำค้านของเธอเลยเขาจับตัวเธอให้ขึ้นไปนั่งบนรถก่อนจะปิดประตูแล้วตัวเขาก็เดินอ้อมไปขึ้นรถอีกด้านแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว
“ผมเคครับ คุณ??”
“ลูกโซ่ค่ะ ขอบคุณคุณมากเลยนะคะที่ช่วยฉันไว้”
“ยินดีครับ แต่ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณหรอกอีกอย่างผมอายุเยอะกว่าคุณเรียกพี่ดีกว่า”
“เอ่อ...... ค่ะ งั้นพี่เคเรียกโซ่ว่าโซ่ก็ได้ค่ะ” ลูกโซ่ถึงกับอึ้งให้กับการรวบรัดตัดความของอีกฝ่ายทำให้เธอต้องจำใจยอมรับตามเขาไปด้วยอีกคน
“แล้วโซ่เดินกลับที่พักมืด ๆ แบบนี้ทุกวันเลยเหรอ”
“ค่ะ ที่พักโซ่อยู่ถัดไปไม่ไกลเดินไม่นานก็ถึงแล้ว แต่วันนี้โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุขึ้นก่อน”
“โซ่กลับห้องผิดเวลาแบบนี้คนที่ห้องไม่ห่วงเอาเหรอ”
“โซ่พักอยู่คนเดียวค่ะ”
“แล้วแฟน???”
“ไม่มีค่ะ”
“ครับ” พอได้ฟังคำตอบเคก็เพียงแค่หันหน้ามายิ้มจาง ๆ ให้ลูกโซ่แต่ในใจเขาตอนนี้กลับตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจที่ได้รู้ว่าเธอโสดนั่นหมายถึงโอกาสที่จะทำให้เขาได้ครอบครองเธอ
เคขับรถเข้าโรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุดพอจอดรถลูกโซ่ถูกเจ้าหน้าที่พาเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันทีส่วนเคมานั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน จนกระทั่งประตูห้องฉุนเฉินถูกเปิดออกโดยมีเจ้าหน้าที่เข็นรถที่มีลูกโซ่นั่งอยู่เดินออกมาพร้อมกับคุณหมอ เคเห็นแบบนั้นก็รีบเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง
“โซ่เป็นยังไงบ้าง”
“คนเจ็บไม่ได้เป็นอะไรมากครับ แค่เท้าแพลงไม่ได้หักแต่หมอขอให้ช่วงนี้งดลงน้ำหนักเท้าข้างที่เจ็บไปก่อนนะครับ แล้วก็อย่าลืมทานยาตามที่หมอสั่ง หมอขอตัวก่อนนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ/ขอบคุณครับ”
พอคุณหมอเดินแยกตัวออกไปเคก็ก้มลงมองลูกโซ่ที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยความโล่งใจที่เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก ลูกโซ่ก็เงยหน้ามองเขาใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับและมันเป็นรอยยิ้มจริงใจไม่ได้เสแสร้งเล่นทำเอาใจเขาสั่นไหวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“กลับกันเถอะเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ขอบคุณค่ะ”
ระหว่างทางลูกโซ่นั่งคิดทบทวนซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้กล้าให้คนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันอย่างเขาคนนี้ขับรถมาส่งถึงห้องพักได้ แถมยังปล่อยให้เขาอุ้มทั้งที่เธอไม่เคยให้ผู้ชายเข้าใกล้หรือแตะเนื้อต้องตัวเธอมาก่อนเลยในชีวิต อาจจะเป็นเพราะความจำเป็นบวกกับความมีน้ำใจของเขาก็เป็นได้
“โซ่พักอยู่ชั้นห้องไหนชั้นไหนครับ”
“ชั้นสี่ ห้อง 410 ค่ะ” เคถามขึ้นหลังจากที่เขาจอดรถอยู่หน้าคอนโดของลูกโซ่ ก่อนเขาจะอุ้มเธอขึ้นแล้วพาเดินเข้าไปในตึกตรงไปยังห้องตามที่เธอบอก พอมาถึงหน้าห้องเขาก็ปล่อยให้เธอลงยืนโดยยังมีเขาประคองไว้อยู่
“พี่คงไม่เข้าไป โซ่เดินไหวใช่ไหม”
“ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยโซ่แถมพาไปหาหมอและยังมาส่งอีก ถ้ามีโอกาสโซ่ขอเลี้ยงข้าวหรือตอบแทนพี่บ้างนะคะ”
“ครับ งั้นพี่ขอเบอร์โทรโซ่หน่อยเอาไว้เราโทรนัดกันวันหลังที่โซ่อยากเลี้ยงตอบแทนพี่” เคยิ้มพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของตัวเองไปตรงหน้าลูกโซ่แต่ดูเหมือนเธอกำลังลังเล
“ถ้าโซ่ไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นไร” เมื่อเห็นสายตาและน้ำเสียงที่แสดงถึงผิดหวังของอีกฝ่ายลูกโซ่เลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ของเขามากดเบอร์โทรและช่องทางติดต่อก่อนจะส่งคืนให้เขากลับไป
“ขอบคุณครับ”