หลังจากที่ซันพาขนมกลับไปในห้องครัวก็มีมิลิน ทับทิม น้ำฝนและมะนาวนั่งกันอยู่
“พี่มิลินเหนื่อยเหรอคะ” น้ำฝนถามหลังจากเห็นสีหน้าของมิลิน มิลินหน้าซี๊ดราวกับจะเป็นลมและดูเหนื่อยๆจนเธออดเป็นห่วงไม่ได้
“อืม พี่รู้สึกเหมือนจะไม่สบายเลย” มิลินฟุบหน้าลงบนโต๊ะอาหารเพราะรู้สึกหนักหัวและปวดเนื้อ ปวดตัวไปหมด อยากนอนมากกว่าจะมานั่งอยู่แบบนี้
“กลับไหมคะน้ำฝนไปตามพี่สกายให้” น้ำฝนตั้งท่าจะลุกออกจากเก้าอี้เพื่อไปตามสกายให้พามิลินกลับไปพักผ่อนที่บ้านแต่ทว่า…
“น้ำฝนไม่ต้อง พี่ไม่อยากเห็นหน้าสกาย” มิลินเอ่ยห้ามทันที เธอไม่อยากเห็นหน้าสกาย ไม่อยากได้ยินเสียงและไม่อยากอยู่ด้วยเอาซะเลย น้ำฝนเอาแต่มองมิลินอย่างไม่เข้าใจก่อนที่ธอจะเอ่ยถามขึ้นในประโยคต่อมา
“พี่มิลินไม่รักพี่สกายเหรอคะ“
”…..“ มิลินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
”ไม่รู้สิ พี่ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย“ มิลินตอบน้องก่อนที่จะหันไปมองยังทับทิม ๆ รู้ทุกอย่างเพราะทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตลอด
“แต่สกายชอบมิลินนะ” ทับทิมเอ่ยบอกเพื่อน ทุกคนรู้ดีว่าสกายชอบมิลินมากและชอบมานานแล้วด้วย
“ไม่หรอก สกายเอาแต่ใจทับทิมก็รู้” หลายปีที่รู้จักกันมาสกายมักจะเอาแต่ใจกับเธอเสมอ เขาอยากได้อะไร อยากทำอะไรก็ต้องเอาให้ได้ ไปไหนมาไหนมักจะบังคับลากเธอไปโดยที่ไม่ถามเธอสักคำว่าเธออยากไปไหม เหนื่อยหรือเปล่าที่ต้องค่อยไปตามแรงลากของเขา
”หลังจากนี้สกายไม่ปล่อยเธอไปแน่“ ทับทิมคิดว่าทั้งสองมีอะไรกันแล้วยากแล้วที่มิลินจะได้เป็นอิสระ สกายคงไม่ยอมปล่อยเพื่อนเธอไปง่ายๆ
“มิลินอยากกลับไปอยู่กับแม่กับยายที่บ้าน รอเสร็จงานแต่งทับทิมก่อนนะ“ ทับทิมที่นั่งอยู่ข้างๆหน้าเสียไปทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของเพื่อน ได้ยินแบบนี้ก็ใจหายเหมือนกันนะอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี
”จะกลับจริงเหรอ“ ทับทิมถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
”อืม จริงมิลินตัดสินใจแล้ว”
“เพราะสกายหรือเปล่าที่ทำให้มิลินตัดสินใจแบบนี้”
“อืม มิลินเหนื่อยกับความเอาแต่ใจของสกาย ถ้าสกายเว้นระยะห่างจากเราบ้างให้เราได้ไปทำงาน ไปใช้ชีวิตที่ไม่มีเขาบ้างมันคงจะดีกว่านี้”
“คุยกับพี่สกายสิค่ะ” น้ำฝนเองก็ไม่อยากให้มิลินกลับไปอยู่ที่บ้าน การเปิดใจคุยกันมันคงเป็นทางออกที่ดีกว่านี้
“คนอย่างไอ้สกายมีเหรอจะยอม เมื่อก่อนที่มิลินรอดมาได้เพราะมีทับทิมกับพราวอยู่ด้วยหรอก ตอนนี้อยู่คนเดียวแล้วมีหวังคงไปสิงสถิตย์อยู่ที่คอนโดกับมิลินทุกวัน แล้วมันก็จะลากมิลินไปทำงานด้วยทุกวัน” ทับทิมหันไปบอกน้ำฝน
“มิลินอุสาห์ตั้งใจเรียนจนจบ ก็อยากจะทำงานหาประสบการณ์ชีวิตบ้าง ดูน้องฝนสิกลับมายังจะเปิดร้านสร้างแบรนด์ของตัวเองเลย” เธอมีความฝันที่จะทำงานหาประสบการณ์ชีวิตไปตามวัย
“อืม ทับทิมเข้าใจมิลินนะ”
“ฝนก็เข้าใจค่ะ เอาแบบนี้ไหมพี่มิลินมาทำแบรนด์กับฝนเดี๋ยวฝนย้ายไปอยู่ด้วยไปดักพี่สกายมัน”
“เออ ใช่ มิลินทำแบรนด์เสื้อผ้ากับน้องฝนสิแล้วไปอยู่ด้วยกัน“ ทับทิมหันซ้ายหันขวาเพราะกลัวว่าเพลิงกับสายฟ้าจะมาได้ยิน ก่อนจะบอกเพื่อนออกไปที่น้องพูดมันก็ดีทุกอย่างเลย
”มิลินจะทำได้เหรอ แล้วน้ำฝนจะได้ออกไปอยู่ข้างนอกเหรอเพลิงกับสายฟ้าจะอาละวาดไหม”
”ลืมไปแล้วเหรอว่าเราจบนิเทศศาสตร์มา“
”ใช่ค่ะ พี่มิลินมาเป็นนางแบบก็ได้นะคะ ฝนจะไปใครก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้นค่ะ“ น้ำฝนไปใช้ชีวิตอิสระที่ต่างประเทศมานานเธอคิดเองตัดสินใจเองและค่อนข้างที่จะมั่นใจในตัวสูงต่อให้พี่ๆจะดุแค่ไหนเธอก็ไม่กลัว ภายใต้ความสวยใสมีความดื้อรั้นซุกซ่อนอยู่
”น๊า มิลินอย่าเพิ่งกลับบ้านเลยพวกเราคงคิดถึงเธอแย่“ ทับทิมจับไปที่แขนของมิลินแล้วเขย่าเบาๆเสียงอ้อนวอนขอร้องของเพื่อนทำให้มิลินนิ่งคิดไปสักพัก
”ลองดูก็ได้ น้องฝนไปนอนกับพี่คืนนี้เลยได้ไหม“
”ได้ค่ะ แต่เราจะบอกไอ้พี่สกายมันยังไงดีคะ“
“เอางี้ไหม น้องฝนพามิลินออกไปบอกว่าไปซื้อของแล้วก็เลยกลับคอนโดไปเลย” ทับทิมกระซิบกระซาบบอก
“ส่วนสกายก็งอนมันหนักๆไปเลย นานๆได้ยิ่งดีนิสัยไม่ดีเอาแต่ใจเก่งนักดัดสันดานซะบ้าง“ ทับทิมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ทุกคนเห็นมาตลอดว่าสกายค่อนข้างเอาแต่ใจกับมิลินจริง ๆ พอมิลินดื้อเขาก็มักจะขู่จูบบ้าง ขู่ทำเรื่องอย่างว่าบ้าง
”งั้นเราไปกันเลยค่ะ“ น้ำฝนลุกออกจากเก้าอี้ มิลินพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนแต่มันเจ็บมากจนน้ำตาเล็ดออกมา
“เจ็บมาเหรอ เพราะไอ้สกายหมาบ้านั่นตัวเดี๋ยวเลย” ทับทิมถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง
มะนาวที่นั่งฟังทุกอย่างเงียบ ๆ มานานได้แต่คิดในใจคนเดียวว่าสายฟ้าก็มีนิสัยเอาแต่ใจเหมือนสกายไม่มีผิดแต่สายฟ้าดูเงียบขรึมกว่าสกายมากและค่อนข้างเดาใจยาก
“มะนาวขอไปอยู่ด้วยนะคะ”
ขวับ!
“จริงเหรอมะนาว พูดจริงใช่ไหม” น้ำฝนหันขวับไปมองยังเพื่อนและถามขึ้นด้วยความดีใจ
“อืม จริงสิ งั้นเราไปกันเลย“
”นี่พากันต่อต้านพวกมันเหรอ อิอิ แต่ดีเหมือนกันสะใจดี“ ทับทิมเอ่ยพลางหัวเราะคิกคักชอบใจ
ทั้งสี่พากันเดินออกมาจากห้องครัว
”จะไปไหนกัน“ สกายที่เห็นก็รีบตะโกนถามขึ้นทันที ร่างหนานั่งอยู่ที่โซฟาลุกเดินไปหามิลิน เขาจ้องมองมิลินด้วยสายตาตั้งคำถามอย่างเห็นได้ชัด
“พวกเรากำลังจะไปซื้ออะไรมากินค่ะ” น้ำฝนตอบสกายออกไป
“เดี๋ยวพี่พาไป”
“ไม่ต้องหรอกสกายให้น้ำฝนพาไปดีแล้วให้มิลินไปไหนมาไหนโดยไม่มีสกายตามเป็นเงาบ้างได้ไหม” ทับทิมเอ่ยขัดขึ้น
“อือ ใช่ไปเถอะน้องฝน”
“อย่ามาทำเป็นเก่งมิลิน ไปเดินสภาพนี้ไม่อายคนอื่นเขาหรือไง” สกายพูดเสียงเรียบแต่ในน้ำเสียงของเขามันมีความขำขันจนมิลินที่โกรธเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วโกรธหนักขึ้นไปอีก
“สนใจทำไมสายตาคนอื่น ไปกันเถอะ” มิลินตอบคำถามคนตัวโตหน้าเขาเธอก็ไม่อยากจะมอง มิลินแสดงออกมาชัดว่าโกรธสกายจริง ๆ ก่อนจะหันไปชวนน้องทั้งสองเดินออกจากบ้านไป
“งอนกันเหรอสกาย” ทับทิมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เอ่ยถามสกาย
“อืม ผู้หญิงอะไรขี้งอนทำตัวไม่รู้จักโต” สกายต่อว่ามิลินตาคมจ้องมองร่างบางเดินไปที่รถด้วยสภาพที่ใครเห็นก็ต้องรู้ว่าเธอไปโดนอะไรมา
“ว่าแต่เขาตัวเองก็ชอบเอาแต่ใจเถอะ สักวันมิลินจะหนีไปคอยดู” ทับทิมอดหมั่นไส้ไม่ได้
“”หึ ฝันไปเถอะ“
”เออ จะคอยดูถึงวันนั้นขึ้นมาเมื่อไหร่จะหัวเราะให้ดังๆเลย“ ทับทิมตะโกนเสียงดังตามหลังสกายที่เดินกลับไปนั่งที่โซฟาต่อโดยที่สกายไม่รู้เลยว่าสาวๆวางแผ่นกีดกันเขาให้ออกจากมิลิน
^^