MY SISTER : 04

1786 Words
“เห้ย! ฉันยังไม่อิ่มนะ” อยู่ดีๆ หมอนั่นก็แย่งจานอาหารไปแล้วเอาวางไว้บนหลังตู้โชว์สูงลิบ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ขนาดมาตรฐานร้อยห้าสิบสามเซนติเมตรอย่างฉันจะหยิบยังไงถึง ฉันหันไปคว้าเก้าอี้มาปีนหยิบด้วยความยากลำบาก แต่ไม่ยอมแพ้หรอกนะ ความหิวชนะสิ่งอื่นใดเสมอ ไม่นานฉันเอื้อมหยิบอาหารจานนั้นลงมาได้และนั่งกินต่ออย่างสบายใจ น่าโมโหชะมัดแต่พอเห็นขนมปังในมือแล้วก็มีความรู้สึกผิดแทรกเข้ามานิดหน่อย กินของที่เขาทำแล้วยังมีนหน้าไปโมโหเขาอีก ถ้าไม่ได้เขาวันนี้ ฉันโดนไฟคลอกตายคาบ้านแหงๆ เฮ้อ...คิดถึงแม่กับพ่อจัง ถ้าอยู่บ้านคงได้กินอะไรอร่อยๆ ข้อเสียของการที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เอาแต่รอพ่อกับแม่ประเคนให้ รู้ซึ้งตอนห่างอกพ่ออกแม่เนี่ยแหละ ทีนี้ก็คงต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่ แกร๊ก….แอ็ด ฉันหันไปตามเสียงเปิดประตูทั้งที่ยังคาบขนมปังชิ้นสุดท้ายคาปาก “นายจะไปไหนเหรอ” ฉันกัดขนมปังคำใหญ่ก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนรวมบ้านที่ก้าวออกมาจากห้องตัวเอง ในปากก็ยังคงเขี้ยวตุ้ยๆ เรื่องกินสำหรับฉันน่ะ เรื่องใหญ่ “ธุระ” เขาตอบห้วนๆ แล้วเดินไปนั่งใส่รองเท้าผ้าใบอยู่หน้าประตูบ้าน “เอ่อ...ฉันอยากไปห้างอะ นายผ่านทางนั้นไหม” ตั้งแต่มายังไม่ได้ซื้อของใช้ส่วนตัวเลยสักอย่าง จะไปเองก็กล้าๆ กลัว ๆ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีรถผ่านไหมหรือต้องขึ้นรถสายไหน อย่างน้อยถ้ามีเขาไปด้วยแล้วบอกว่าฉันต้องลงตรงไหนก็ยังดี การมีเพื่อนสักคนในต่างถิ่นยังไงมันก็อุ่นใจกว่า "…" แต่เขากลับเงียบ “งั้น...ไม่เป็นไรก็ได้” ฉันบอกเสียงอ่อย… และเขายังคงก้มหน้าใส่รองเท้าโดยไม่สนใจกันเลยสักนิด ราวกับฉันเป็นอากาศธาตุ ได้ยินที่ฉันพูดบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ “ไปอาบน้ำดิ...อย่านานด้วย” อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปสักพัก พร้อมกับลุกขึ้นยืน เหลือบมองฉันเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉยต่างกับฉันที่ดีใจจนเนื้อเต้น วางจานเปล่าลงบนโต๊ะรีบดีดตัววิ่งขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีเพราะกลัวเขาจะไม่รอ ฉันใช้เวลาไม่เกินสิบห้านาทีก็พาตัวเองลงมาจากห้อง “ปะ...ไปกัน” ฉันเอ่ยพลางหยิบรองเท้าผ้าใบคู่โปรดมาใส่ วันนี้ฉันแต่งตัวแบบสบายๆ อาจเป็นเพราะรีบด้วยแหละ ณ ห้างสรรพสินค้า LL “โห...คนเยอะจัง” ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ เมื่อเดินลงมาจากรถสองแถวสาธารณะ ก่อนจะหันไปบอกเพื่อนร่วมบ้านใจดีที่อุตส่าห์พามา “นายส่งฉันแค่นี้ก็ได้นะ ขอบใจนะ” หมับ...! “เดี๋ยว...” เขาคว้าข้อมือฉัน “เปลี่ยนใจละ ฉันจะไปกับเธอ” พูดจบเขาก็กึ่งจูงกึ่งลากฉันข้ามถนนเพื่อจะไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “อ้าว...แล้วธุระนายล่ะ?” ฉันถามขึ้นตอนที่เรากำลังผ่านเข้าประตูห้าง “เสร็จแล้วเธอก็ต้องไปทำธุระกับฉันไง” “หื้ม?” ระหว่างที่ยังมึนงงกับประโยคของเขา ฉันก็ถูกลากเขามายังโซนของใช้โซนหนึ่งของห้างพร้อมกับตะกร้าหนึ่งใบที่ถูกยัดใส่มือ เขาออกแรงดุนดันเป็นเชิงให้ฉันเดินนำหน้าไป ฉันยังคงลอบมองผู้ชายที่เดินตามหลังเป็นระยะ สมองก็คิดวนอยู่แต่กับเรื่องของเขา สรุปแล้วเขาเป็นคนยังไงกันแน่นะ...เดายากจัง บทจะใจดีก็ดีซะจนน่ากลัว บางครั้งก็ดูเขาถึงยาก แต่บางทีก็ดูเป็นมิตร ฉันควรทำตัวยังไงเวลาอยู่กับเขา วูบหนึ่งฉันรู้สึกถึงความเป็นผู้ชาย...ผู้ชายที่ไม่ได้ชอบผู้ชายด้วย หรือถ้าเขาเป็นจริงๆ ก็เนียนมากแอบซะมิดชิดเชียว หลังจากที่ซื้อของเสร็จเรียบร้อย ฉันก็หอบถุงข้าวของด้วยมือทั้งสองข้างพลางเอาใบเสร็จขึ้นมาดูรายการที่ซื้อนิดหน่อย จู่ๆ เขาก็แย่งถุงทั้งหมดไปถือไว้เอง ฉันก็ไม่ปฏิเสธนะ ดีซะอีกมีคนช่วยถือ การกระทำของเขาในบางครั้งมันก็ทำให้ฉันยิ้มได้เหมือนกันนะ… ว่าแต่เขายิ้มเป็นรึเปล่า ยังไม่เคยเห็นเลย ตอนนี้กลายเป็นฉันที่เป็นฝ่ายเดินตาม ดูไปดูมาเขามีความเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าผู้ชายแท้บางคนซะอีก ..... “นาย” ฉันดึงชายเสื้อเชิ้ตผู้ชายที่เดินอยู่ข้างหน้าเพื่อให้เขาหยุดตอนที่เราเดินผ่านโซนร้านอาหาร “...?” เขาหันมาย่นคิ้วใส่ฉันด้วยความสงสัย “หิวอ่ะ” ฉันพูดพร้อมกับส่งสายตาวิงวอนไปให้และมันก็ได้ผล “จะกินอะไร” ฉันชี้ไปที่ร้านสุกี้ชื่อดัง “...ฉันเลี้ยงเอง” เขาพยักหน้าแทนการตอบรับ จากนั้นฉันก็พุ่งตัวเข้าไปในอาหารอย่างไวโดยมีหมอนั่นถือของพะรุงพะรังตามมาติดๆ พอได้โต๊ะ ฉันก็จัดแจง สั่ง...สั่ง...สั่งทุกอย่างที่อยากกิน ส่วนเขาก็ยังทำเหมือนอยู่คนเดียวบนโลก ไม่สนใจอะไรสักอย่าง จะกินอะไรหรือไม่กินอะไร ก็ไม่พูดไม่บอก ไม่เป็นไร…ฉันสั่งเผื่อเอง ระหว่างรออาหาร เขาก็หยิบมือถือออกมาจิ้มๆ กดๆ โดยที่ยังมีฉันที่แอบมองอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ตัวรึเปล่า ฉันอยากรู้จักเขามากกว่านี้เพราะเราต้องอยู่บ้านเดียวกันอีกตั้งหลายเดือน เขาไม่อยากรู้จักฉันบ้างรึไงนะ… สุดท้ายฉันก็ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมเป็นเวลานานหลายนาที จนอาหารมาเสิร์ฟ จนเริ่มกิน และในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหว “นาย…ชื่ออะไรอะ” ฉันเริ่มทำลายความเงียบด้วยประโยคเบสิก...รู้สึกแปลกๆ เงียบแบบนี้ฉันกินไม่อร่อย… “...” แต่คำตอบที่ได้กลับมาก็คือ….เงียบ “ฉันชื่อหนูดานะ” “...ดิน” ในที่สุดก็ยอมบอกชื่อ “แล้วนายอายุเท่าไรอะ” ฉันยังคงถามต่อ “...” เงียบอีกแล้ว “ฉัน 26 เป็นพี่นายกี่ปีเหรอ…?” “...4 ปี” งั้นเขาก็ 22 สินะ คนบ้าอะไร เย็นชาชะมัด ฉันต้องตอบคำถามตัวเองก่อนค่อยถามเขาเหรอวะ...นี่เขาก็จะจบมหาลัยแล้วดิ เด็กนักเรียนของป้าพิมเหรอเนี่ย หลังจากนั้นฉันก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเองต่อ คิดคำถามไม่ออกละ แล้วก็ดูเหมือนเขาไม่ค่อยอยากคุยด้วย... กินเสร็จเราก็ออกมาจากห้าง เขาพาฉันขึ้นรถมาลงที่...ที่หนึ่ง น่าจะเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ฉันก็เดินตามเขามาเรื่อยๆ จนเลยมาในโซนของ...เอ่อ หลุมฝังศพของผู้ล่วงลับ มันก็ไม่ได้ดูน่ากลัว แค่ไม่ค่อยชิน ฉันมองสำรวจไปรอบๆ บรรยากาศก็ร่มรื่นดีนะ ต้นไม่ใหญ่เยอะ แต่ก็ไม่เหมาะกับการมาพักผ่อนอยู่ดี ปึก! โอ๊ย... “หยุดทำไมไม่บอกเล่า!” ฉันพ่นคำใส่เขาแล้วเอามือลูบหน้าผากตัวเอง คนบ้าหยุดก็ไม่รู้จักบอก “รออยู่นี่แหละ...เดี๋ยวฉันมา” เขาหันมาบอกและทำท่าจะก้าวเดินไปจากตรงนี้แต่ฉันยื่นมือไปดึงชายเสื้อเขาไว้ก่อน “นายจะไปนานไหม” “ไม่นาน...ทำไม” เขาเลิกคิ้วถาม “ปะ...เปล่า ไปเหอะ” ความจริงฉันก็กลัวเขาจะทิ้งฉันไว้ที่นี่...เพราะฉันจำทางกลับไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ได้แต่นั่งรอเขาอยู่ที่เดิมไม่กล้าเดินไปไหน พลางชะเง้อมองตามแผ่นหลังเด็กนั่นไปจนเกือบสุดทาง ...พักใหญ่เลยกว่าเขาจะเดินกลับออกมา “...” เขาหยุดตรงมองหน้าฉันครู่หนึ่งและเดินต่อ จะเรียกก็ไม่เรียก กลัวดอกพิกุลจะร่วงรึไงนะ “นาย...ถ่ายรูปให้ฉันหน่อยสิ นะๆ” ฉันพูดพร้อมยื่นมือถือให้เขาเมื่อเราเดินออกมาถึงจุดที่วิวมันสวยมาก เขาหันมาถอนหายใจแรงใส่ฉันหนึ่งครั้ง ก่อนจะวางถุงของใช้ลงและรับมือถือของฉันไป “เยสสสส!!!” แช๊ะ...แช๊ะ...แช๊ะ!!!! แล้วเขาก็ยื่นโทรศัพท์คืนฉัน… “ห๊ะ!! เสร็จแล้วเหรอ ฉันยะ...” “จะกลับไม่กลับ” เขาพูดเสียงดุพลางก้มหยิบถุงของใช้ขึ้นมา “เออๆ กลับก็ได้ ดุเป็นหมาเลย” ฉันตอบกลับเขาและทิ้งท้ายด้วยเสียงที่เบาย่ำว่าเบามาก “ว่าไงนะ!” ทีงี้หูดีขึ้นมาซะงั้น “อะ..อ๋อ ฉันบอกว่าอยากกลับพอดีเลย” หน้าแบบนี้โตมาจนป่านนี้ได้ยังไงก่อน อัพรูปดีกว่า… [PIC] 2750 Like, 154 Comment Nee.ra ก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกอย่าง Num : พี่หนูดาน่ารักจัง Pig : แรดดดด Menny69 : ใครถ่ายรูปให้มึงคะ ชะนี Nee.ra : แต๊งค์ ค่ะเพื่อน @ Pig Nee.ra : ใครกะด้าย โตแล้ว @ Menny69 NEW.Sy : สวยเหมือนเดิม “มองทางบ้างก็ได้มั้ง” เสียงนั่นทำให้ฉันรีบเก็บโทรศัพท์แทบไม่ทัน “ผู้หญิงที่นี่สวยจัง...ขาวมากเลย นายว่าไหม…?” ฉันพยายามชวนคุยตลอดการเดินทางแต่สิ่งที่ได้กลับมา...เหมือนคุยอยู่คนเดียว “...” “แต่ก็นะ...นายเป็นเกย์ คงไม่รู้หรอก” ฉันพูดขึ้นลอยๆ ก่อนที่เขาจะหยุดชะงักแล้วมองฉันตาขวาง ซวยแล้วไหมล่ะ... “เธอว่า...อะไรนะ” “ฉันไม่ได้ตั้งใจ...ฉะ...ฉันขอโทษ” เขาโน้มหน้าเข้ามาหาส่งผลให้ฉันต้องยกมือขึ้นดันแผงอกแกร่งเอาไว้ เพื่อไม่ให้มันใกล้ไปกว่านี้ “เหอะ...จะลองปะล่ะ” เขากระซิบข้างหูฉันเบาๆ “ฉันน่ะ ชอบ...ผู้...หญิง” “อะไรนะ!!!” ฉันรีบผลักเขาให้ออกห่างฉันทันที... เขากำลังบอกฉัน ว่าเขาไม่ได้เป็น เกย์ งั้นเหรอ แล้วทำไมเขาไม่บอกฉันตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันควรรู้สึกยังไง ความจริงก็ประมาณ 40% ได้นะที่คิดไว้อยู่แล้วว่าเขาเป็นผู้ชาย แต่ก็ยังเชื่อในสิ่งที่ป้าพิมบอกเพราะเขาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธตั้งแต่แรก สมองมันอื้อไปหมด ตอนแรกฉันคิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ แต่ไม่ใช่เลย.....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD