EP1.1 ll ตัวร้าย

1076 Words
เบาะข้างซ้ายฉันว่างเปล่าตลอดแนว พอๆ กับเบาะข้างขวาของไอ้นุ่นที่ไร้เงาสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ฉันกับไอ้นุ่นทิ้งตัวลงบนเบาะนุ่มๆ กลางโรงหนังก่อนจะพ่นลมหายใจเซ็งเมื่อไอ้เด็กเบาะด้านหน้าฉันมันกำลังร้องโหวกเหวกโวยวายเหมือนมีโทรโข่งติดปาก ฉันหงุดหงิดเลยแกล้งใช้ส้นเท้ากระทุ้งเบาะหน้าเบาๆ หนึ่งทีเป็นการเตือนให้เด็กเงียบ ไอ้เด็กโทรโข่งนั่นหันกลับมาและสบตากับฉันเพียงเสี้ยววินาที... “แง แม่จ๋า” ก็ร้องไห้ซะเฉยๆ “ไอ้นัทไปแกล้งเด็กทำไม” ไอ้คนร่างสูงหันมาปราม หารู้ไม่ว่าเมื่อไอ้เด็กคนที่มันพาดพิง พอเลื่อนสายตาไปมองหน้ามันดันร้องไห้หนักกว่าเก่า “ยังไม่ทำอะไรเลย มันร้องเองของมัน” ฉันจิ๊จ๊ะแล้วเบ้หน้า เป็นสาเหตุให้จากเดิมที่หน้าดุอยู่แล้ว ดุเข้าไปอีก ฉันผิดอะไร ฉันก็ไม่เข้าใจ เลยพยายามฉีกยิ้มให้ไอ้เด็กเวรนั่นอย่างจริงใจแต่ไม่ได้ผล... “แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” แถมร้องหนักกว่าเดิมอีก โอ๊ย เด็กอะไรวะ เอาใจยากฉิบหาย เห็นคนสวยแล้วร้องไห้ใส่ได้ไง เสียมารยาทที่สุด ฉันบ่นในใจพลางย่นคิ้วเซ็งแล้วสะบัดหน้าหันไปทางอื่น ไอ้เด็กนั่นงอแงพร้อมสูดน้ำมูกฟืดใหญ่หันไปกอดผู้หญิงวัยกลางคนข้างๆ ด้วยท่าทีกลัวๆ “ยังอีกๆ” ไอ้นุ่นตีมือฉันเพื่อปราม ด้วยความที่คิดว่าฉันจงใจแกล้งไอ้เด็กคนนั้น ทั้งที่ฉันเปล่า ฉันแค่ยิ้มให้ ไม่รู้ทำไมมันร้องไห้ แต่ฉันก็ชินแล้วกับอะไรแบบนี้ เพราะฉันเจอมาตั้งแต่เล็กยันใหญ่ ฉันหันไปเบ้หน้าใส่มันไม่นาน เสียงภาพยนตร์ก็เริ่มดังกระหึ่ม มีการฉายโฆษณาและเทรลเลอร์ของภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ฉันกับไอ้นุ่นเลือกดูหนังผีตลกอารมณ์ดีแต่มีความหลอนนิดหน่อย สำหรับฉันมันกะโหลกกะลาและไร้สาระมากๆ ฉันไม่เคยเชื่อเรื่องผีหรือเรื่องลี้ลับใดๆ ในโลก และฉันไม่ใช่คนที่จะตลกกับมุขตุ้งแช่ เพราะฉันเป็นคนเส้นลึกมาก แต่ไอ้นุ่นมันเป็นคนที่ชอบเรื่องผี ลี้ลับ ทำนายทายทักสุดๆ แถมยังชอบดูอะไรที่ไม่ถูกโฉลกกับเบ้าหน้ามันแม้แต่เสี้ยว ยกตัวอย่างเช่น การที่มันอ่านนิยายรักหวานแหววแบบมุ้งมิ้งขั้นสุด หรือแม้แต่การ์ตูนตาหวานพระนางงอนง้อกันไปครึ่งเรื่อง มันยิ่งชอบ ฉันว่ามันไม่ถูกต้อง “หนังมาแล้ว” ไอ้นุ่นเบิกนัยน์ตาอย่างตื่นเต้นก่อนจะหยิบเอาป็อปคอร์นเข้าปาก ฉันนั่งดูด้วยท่าทีนิ่งเงียบ เสียงหัวเราะบ้าง กรี๊ดบ้างดังปะปนเป็นระยะ เมื่อหนังเข้าสู่กลางเรื่อง เนื้อหาเริ่มเข้มข้นขึ้น ปมต่างๆ ในภาพยนตร์เริ่มหักมุม ความน่ากลัวจากน้อยเริ่มทะยานไปมาก มือของฉันเย็นเยียบ ขณะที่บรรยากาศในโรงเงียบกริบ ทุกอย่างมืดลงมีเพียงเสียงดนตรีที่กระตุ้นให้คนดูหลอนและจินตนาการไปต่างๆ นานาว่าจะมีอะไรมาให้ลุ้นอีก ฉันถดตัวพิงหลังเข้ากับเบาะแน่น ใบหน้าเริ่มแนบไปกับเบาะที่ไอ้นุ่นนั่งอยู่ เสียงลมหายใจเริ่มระส่ำระส่ายจนคนข้างๆ สังเกตได้ชัด มันย่นคิ้วก่อนจะมองหน้าฉันด้วยรอยยิ้มขำ “กลัวเป็นด้วยเหรอ?” มันหัวเราะ ในขณะที่ฉันหน้าหงิกงอ “มือสั่นเลยดูดิ” มันชี้มาทางมือฉันอย่างนึกตลกก่อนจะเอนตัวหลบฝ่ามือพิฆาตที่ฉันเต็มใจประเคนให้มัน ฉันทำท่าจะตีมันอีก มันเลยใช้มือหนานั่นรับไว้และจับไว้แน่น หึ... ฉันลอบยิ้มในใจก่อนจะทำเสียงจิ๊จ๊ะ มือของไอ้นุ่นมันอุ่นมากจนฉันรู้สึกได้ ไอ้คนร่างสูงยิ้มร่าก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ ไอ้ผีนรกนั่นก็โผล่แฮ่เข้าที่หน้าจอ “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงกรี๊ดดังลั่นโรงจนทำเอาฉันหูแทบแตก ฉันหวีดร้องตามไปด้วยก่อนจะเด้งตัวแล้วเอาหัวมุดเข้ากับแผ่นอกของคนใกล้ตัว “แม่ง” ฉันสบถหงุดหงิดจนไอ้นุ่นหัวเราะชอบใจ ใช่สิ มันชอบแกล้งฉัน และมีความสุขทุกครั้งที่เห็นฉันเป็นทุกข์ “ตัวเองน่ากลัวกว่าผีอีก ทำเป็นกรี๊ด ขวัญอ่อนนะเราอ่ะ” ฉันไม่ตอบ แต่แอบเบะปากให้กับคำกล่าวของมันอย่างหมั่นไส้ ฉันบีบมือมันแน่นแล้วซบเข้ากับแผ่นอกนั่นอย่างเงียบๆ ไอ้นุ่นไม่หือไม่อือไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังนั่งไขว่ห้างดูหนังต่อ ซึ่งมันก็ดี... ฉันเหล่สายตาไปยังหน้าจอแล้วบังเกิดความคิดที่ว่าไร้สาระขึ้นมาไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ ไอ้นุ่นคงเข้าใจว่าฉันกลัวผีมากแต่แกล้งทำเป็นไม่กลัว ฉันรู้ว่าการแสดงอาการสั่นเล็กน้อยและวี๊ดว้ายบ้างมันทำให้ฉันดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น แถมยังเป็นผู้หญิงที่ได้ถึงเนื้อถึงตัวมันเป็นพิเศษซะด้วย... ฉันได้กลิ่นโคโลญจ์อ่อนๆ มันเบาบางและหอมละมุนเหมือนกลิ่นสบู่ เสียงกรีดร้องโหยหวนจากทั่วทุกสารทิศยังคงดังลั่นโรง ในขณะที่ฉันสั่นเล็กๆ พอเป็นกระสัยให้ไอ้นุ่นหัวเราะเล่นๆ แล้วหันมาเอ็นดูฉันตามวิสัยคนใจดีอย่างมันด้วยการลูบหัวปลอบ หารู้ไม่ว่าภายใต้ใบหน้าที่ซบเข้ากับแผ่นอกกำลังยกยิ้มอย่างมีชัยชนะ ผู้หญิงบนโลกนี้มีอยู่หลายประเภท แต่ที่แน่ๆ ผู้หญิงทุกคนล้วนเจ้าเล่ห์เจ้ากลมาแต่กำเนิดไม่มากก็น้อย แต่บังเอิญฉันดันมีไอ้สิ่งที่เรียกว่ามารยามากไปหน่อย ฉันสามารถตีเนียนหน้านิ่งและใช้ความเป็นเพื่อนเข้าใกล้มันได้ไม่ยาก แค่นี้ก็เห็นแววชนะใสๆ มาแต่ไกลแล้ว หินโดนน้ำเซาะมันยังกร่อน มีเหรอที่ผู้ชายอย่างไอ้นุ่นโดนฉันอ่อยวันละเล็กวันละน้อยจะไม่เถลไถลเผลอใจมาบ้าง ทว่าด้วยความที่พวกเราเป็นเพื่อนกันฉันจึงต้องแสดงท่าทีสงบไว้ก่อน ไม่ชิงแหวกหญ้าให้งูตื่น ไม่งั้นแทนที่จะได้แฟนแทนเพื่อน อาจจะต้องเสียทั้งเพื่อนแถมยังไม่ได้แฟนอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD