ตอนที่ 2 ไปซะได้ก็ดี

1367 Words
พริกแกงกลับเข้ามาที่บ้านของเขาอีกครั้งหลังจากเหตุการณ์นั้น เธอเก็บของเตรียมออกไปอยู่ที่อื่น คงถึงเวลาที่เธอจะต้องเผชิญโลกกว้างด้วยตัวเองแล้วจริง ๆ หลังจากนี้เธอคงต้องทำงานให้หนักขึ้นจึงจะมีเงินเพียงพอให้ผู้เป็นแม่ได้ใช้สอย เธอยืนด้วยขาของตัวเองมาโดยตลอด และจะเป็นเช่นนั้นต่อไป เมื่อคืนที่ผ่านมาพริกแกงได้ให้คำตอบแก่เจ้าสัวบุรินทร์ถึงเรื่องที่คุยกันค้างไว้ เธอเอ่ยปฏิเสธออกไปเพราะไม่อยากให้ท่านหรือราเชนทร์ต้องมาหนักใจกับปัญหาของตน “หนูพริก...จะไปไหนเหรอ” เจ้าสัวบุรินทร์สังเกตเห็นพริกแกงที่แบกสัมภาระออกมาจึงเอ่ยถาม “เอ่อ...คือพริกจะย้ายไปอยู่ที่อื่นน่ะค่ะ” พริกแกงนั่งลงด้านข้างชายสูงวัย ก่อนจะเอ่ยขึ้นบอกเขา “พริกขอบคุณคุณลุงมาก ๆ เลยนะคะที่เมตตาให้ที่อยู่กับพริก” หญิงสาวกล่าวขอบคุณประนมมือลงกราบด้วยความซาบซึ้งใจ “แล้วหนูจะไปอยู่ที่ไหน เรเชลรู้เรื่องหรือเปล่า” ท่านเอ่ยถึงลูกสาวของตน แต่รายนั้นหากรู้เรื่องคงจะไม่ยอมง่าย ๆ “พริกยังไม่ได้บอกค่ะ ว่าจะย้ายออกก่อนค่อยบอกทีหลัง” หากบอกตอนนี้มีหวังเรเชลไม่ยอมเป็นแน่ “แล้วหนูจะไปอยู่ที่ไหน?” ท่านยังอดห่วงไม่ได้ตามประสาคนที่มีลูกสาว ยิ่งเห็นพริกแกงเป็นเด็กน่ารักมีสัมมาคาระวะก็เอ็นดูไม่ต่างจากลูกสาวแท้ ๆ คนนึง “พริกมองหาที่ไว้อยู่สองสามที่ค่ะ” อันที่จริงเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน คงต้องไปอยู่กับผู้เป็นแม่ก่อนค่อยคิดหาทีหลัง จำต้องโป้ปดคำโตเพราะไม่อยากให้เจ้าสัวบุรินทร์เป็นห่วง “หนูอยู่ที่นี่ได้นะ ลุงไม่บังคับหนูเรื่องแต่งงานถ้าหนูไม่เต็มใจ” ท่านคงไม่บังคับใครหากไม่เต็มใจ ผู้หญิงตัวคนเดียวหากออกไปโดยไม่มีใครช่วยเหลือก็ลำบากเปล่า ท่านยังนึกสงสารที่แม้แต่แม่แท้ๆ ยังไม่เหลียวแลพริกแกง พริกแกงพาลจะร้องไห้ ขอบคุณท่านที่เอ็นดูแม้เธอไม่ใช่ลูกหลานแท้หรือแม้แต่จะมีสายเลือดเดียวกัน “พริกขอบคุณคุณลุงอีกครั้งนะคะ แต่พริกเกรงใจจริง ๆ ค่ะ” เธอยกมือไหว้ผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม “ไว้พริกจะกลับมาเยี่ยมบ่อย ๆ นะคะ” พริกแกงเอ่ยลา หอบของใช้ส่วนตัวเท่าที่มีออกมา ครืด~~ ครืด~~ ออกมายังไม่ถึงครึ่งทาง เรเชลก็ต่อสายหาเธอทันที เรเชลคงรู้เรื่องแล้วสินะ เธอนึกคิดในใจ พริกแกงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพร้อมผ่อนปรนลมหายใจช้า ๆ ก่อนจะกดรับสายเพื่อน “ว่าไงเรเชล?” พริกแกงถามปลายสาย (พริก...ตอนนี้พริกอยู่ไหน ทำไมถึงย้ายออก แล้วนี่จะไปอยู่ที่ไหน มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?) เรเชลรัวคำถาม “พริกอยู่บนรถแท็กซี่ เรเชลไม่ต้องห่วงนะ ตอนนี้พริกมีที่อยู่ใหม่แล้ว” เธอโกหก (บอกแท็กซี่ให้มาส่งที่บ้านพี่เพลิงเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง!) เรเชลวางสายไป พริกแกงจำต้องทำตามคำสั่งของเรเชลผู้เป็นเพื่อนรัก เรเชลเป็นคนดื้อ หากไม่คุยให้รู้เรื่องมีหวังเธอไม่ยอมแน่ สายตาของพริกแกงไร้โฟกัส เลื่อนลอยไปเรื่อย ชีวิตเธอนั้นมีอุปสรรคมากมายเหลือเกิน “เรเชล...คุยกันหน่อยสิ” ตั้งแต่เธอมาถึงบ้านของเพลิงอัคคี เรเชลกลับทำเงียบใส่ และไม่ยอมคุยกับเธอคงโกรธที่มีอะไรไม่ปรึกษาและย้ายออกจากบ้านโดยที่ไม่บอกเธอก่อน “ถ้าเรเชลไม่คุย พริกกลับแล้วนะ” พริกแกงหยั่งเชิง เรเชลรีบหันหน้ามาหาทันที และยอมคุยกับเธอในที่สุด “ทำไมพริกถึงต้องย้ายออก เพราะเรื่องที่คุณพ่อจะให้พริกแต่งงานกับพี่เชนทร์ใช่ไหม?”เรเชลซักไซ้ทันที “หรือพริกมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ พริกบอกเรเชลมาสิ มีใครทำอะไรพริกหรือเปล่า?” พริกแกงส่ายหน้ายิ้มให้เพื่อน “พริกแค่ไม่อยากรบกวนคุณลุงน่ะ ไหนจะเรื่องที่เรเชลฝากงานให้อีก พริกรู้สึกว่าแค่นี้พริกก็เป็นหนี้ครอบครัวเรเชลไม่รู้เท่าไหร่แล้ว” พริกแกงพูดความในใจ “อีกอย่างถ้าคุณเชนทร์ทราบเรื่องที่แม่ของพริกพูด เขาต้องไม่พอใจมากแน่ ๆ” เธอกังวลว่าหากราเชนทร์ทราบ เขาอาจจะไล่เธอออกจากงานเป็นแน่ เดี๋ยวนี้งานยิ่งหายาก เธอไม่อยากต้องไปหางานใหม่ สู้เธอออกมาแล้วตัดปัญหาดีกว่า “แล้วพริกจะไปอยู่ที่ไหน?” เรเชลยังอดห่วงเพื่อนสาวไม่ได้อยู่ดี “ตอนนี้พริกมีที่อยู่แล้ว เรเชลไม่ต้องห่วงนะ” พริกแกงไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นห่วง “ที่ไหน แล้วมันจะปลอดภัยจริง ๆ ใช่ไหมพริก” เรเชลยังคงเป็นห่วงซักไซ้ไม่เลิกพริกแกงก็เข้าใจไม่ได้รำคาญแต่อย่างใด “พริกจะไปอยู่กับแม่น่ะ” แม้ผู้เป็นแม่ยังไม่รับปากแต่เมื่อเธอหอบข้าวของไปขนาดนี้ยังไงซะแม่เธอคงไม่ปฏิเสธ “คุณน้าให้พริกอยู่ด้วยเหรอ แล้วไหนตอนนั้นบอกอึดอัด” เรเชลยังคงสงสัยไม่เลิก “ให้สิ ต้องให้อยู่แล้วไม่ต้องห่วงนะ ยังไงถ้าเรามีเรื่องเดือดร้อนเราจะโทรหาเรเชลคนแรกเลยดีไหม” พริกแกงเอ่ยให้เพื่อนสบายใจเรเชลโผกอดเพื่อนรัก แม้เธอนั้นอยากจะช่วยพริกแกงมากแค่ไหน แต่หากเจ้าตัวไม่ยอมรับการช่วยเหลือ เธอคงทำได้เพียงให้กำลังใจ เรเชลยินดีหากจะได้พริกแกงมาเป็นพี่สะใภ้ เพราะผู้หญิงที่ดีและเพรียบพร้อมอย่างพริกแกงคงหาได้ไม่ง่ายแถมยังเป็นเพื่อนรักที่คบมาตั้งนานรู้ไส้รู้พุงกันจนหมด คฤหาสน์อภิวัฒนากูล “ไปซะได้ก็ดี” ราเชนทร์เอ่ยเมื่อทราบว่าพริกแกงนั้นได้ย้ายออกไป หากเรเชลไม่ขอไว้เขาคงไล่เด็กนั่นออกไปตั้งนานแล้ว “ไอ้เชนทร์....แกจะอะไรกับน้องนักหนา ก็รู้ว่าน้องไม่มีที่พึ่ง” เจ้าสัวบุรินทร์เอ็ดลูกชายคนโต ที่เอาแต่พูดจาขวานผ่าซากโตซะเปล่าไอ้นี่ทำตัวเป็นเด็กไปได้ “นั่นสิพี่เชนทร์ น้องพริกก็ดูเป็นคนดี” รัชชายิ้มเมื่อนึกถึงพริกแกง น้องน่ารักหน้าตาจิ้มลิ้มนิสัยก็ดีไม่รู้ไอ้พี่บ้าทำไมถึงไม่ชอบกัน “แล้วยังไง? บ้านเราไม่ใช่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าสักหน่อย” หากจะเอาเรื่องนั้นมาอ้าง แล้วเหตุใดครอบครัวเขาต้องมารับผิดชอบพริกแกง ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเรื่องของเธอ แค่น้องสาวเขาฝากงานให้ก็บุญโขแค่ไหนแล้ว “หรือพี่เชนทร์จะไม่พอใจเรื่องที่คุณน้ารวงข้าวขอให้แต่งงาน อันที่จริงให้ผมแต่งก็ได้นะพ่อ ผมเต็มใจ” รัชชาเสนอตัวกระตือรือร้นขึ้นมาทันที “หยุดเลยไอ้ชา อย่าแม้แต่จะคิด” ราเชนทร์ขัดน้องชายด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่เห็นด้วยอย่างแรง ผู้หญิงที่เอาตัวเองมาเร่ขายแบบนี้คงไม่ใช่คนดีอย่างที่สร้างภาพให้ใครเห็น หน้าซื่อตาใสร้อยทั้งร้อยเสแสร้งแกล้งมารยาทั้งนั้น “ทำไม หวงไว้เองอ่ะดิ!” ราชันพูดแหย่พี่ชายด้วยใบหน้ายิ้มระรื่นพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทางกวนๆ “พูดอะไรของแก ไร้สาระ!” เท้าของราเชนทร์ทำท่าจะพุ่งไปหาน้องชาย แต่ราชันไหวตัวทันเอี้ยวตัวหลบซะก่อน “เอาเถอะ ๆ จะมาตีกันทำไมตอนนี้น้องก็ไปแล้ว คงจะสมใจแกแล้วสินะ” เจ้าสัวบุรินทร์หนักใจกับลูกชายทั้งสองคน จึงเอ่ยปากห้ามก่อนที่มันเกิดศึกขนาดย่อมในบ้าน ต่อยตีกันมาตั้งแต่เด็กโตแล้วยังจะมาตีกันอีกเจ้าสัวบุรินทร์ส่ายหัวอย่างระอา ***
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD