ตอนที่ 7
ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว หยดน้ำตาไหลรินอาบแก้มด้วยความอดสู พ่ายแพ้ให้กับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า สติสัมปชัญญะที่มีตอนนี้ครบถ้วน รับรู้ทุกอารมณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เพียงแต่ร่างกายกลับทำตรงข้ามกับสมองและหัวใจของเธอ เมื่อมันยิ่งตอบรับการสัมผัสของเขา ผลิตหยาดน้ำไหลซึมผ่านกลางกายสาวชโลมปลายนิ้วเรียวของเขา ยิ่งสร้างความพึงพอใจให้กับเขามากขึ้น
“ไม่....อื้อ...คุณ...หยุด!”
“หึ แฉะขนาดนี้ เธอนี่ร่านใช้ได้เลยนะ”
“เอ๊ะ!คุณ!!” เคลย์ตันไม่รอให้เธอได้ผรุสวาท ประกบปากอวบอิ่มปิดแน่นจนเธอได้แต่ร้องครางในลำคอจูบดูดดื่ม ตวัดลิ้นโลมเลียเข้าไปในโพรงปากหวาน มือหนาเคลื่อนเลื่อนเลื้อยลูบแผ่นหลัง สะกิดตะขอบราลูกไม้สีขาวที่ปิดบังก้อนเนื้อนุ่ม อวบอิ่มน่าสัมผัสให้หลุดออกจากตัว เผยเต้ากลมสวยที่มียอดปทุมถันสีชมพู ให้เขาได้โน้มใบหน้าเข้าหา คลอเคลียขบเม้ม ลิ้นร้อนตวัดหยอกเย้า ยอดปทุมสีชมพูระเรื่อดูดดึงกลืนกินมันราวกับหิวโหย ก่อนจะปล่อยมือที่จับกุมมือเธอไว้ก่อนหน้า เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายโอนเอียงตามอารมณ์หมดสิ้นแรงขัดขืน ลงมานวดเฟ้นอีกเต้าสวยที่ว่างเว้นไว้ก่อนหน้า บำเรอปรนเปรอจนเกิดเสียงหวานครวญครางเสนาะหู
มือใหญ่จับมือของเธอ ที่ก่อนหน้าพยายามผลักไสเขา อ่อนแรงจน มือไม้เริ่มวางไม่ถูกที่ ให้คล้องที่ลำคอของเขาแทนการปัดป้ายสะเปะสะปะแบบก่อนหน้า
มือหนาที่หยาบเล็กน้อยลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง กลิ่นกายหอมอ่อนๆของหญิงสาวยิ่งทำให้เขาอยากจะสูดดมมากขึ้นเรื่อยๆ จมูกที่ไล่สูดดม จูบไล้ไปตามลาดไหล่กลมสวยพลอยทำให้ขนอ่อนในกายของหญิงสาวลุกชัน จนครางเรียกเขาเสียงแผ่วเบา
“งื้อ...คุณ...คุณเคลย์ตัน...พะ..พอ ก่อนค่ะ” เธอขอร้องเขาเสียงสั่นเครือ โดยที่เขาไม่คิดที่จะสนใจฟังมันด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ต้องการ ตัวเธอในตอนนี้เท่านั้น
“ไม่ ผมยังไม่พอ” เขาตอบเสียงพร่า ก่อนจะผละออกจากตัวเธอเล็กน้อยเพื่อมองใบหน้าหวานที่กำลังตกอยู่ในห้วงสวาทของเขาจนยากที่จะถอนขึ้นในตอนนี้ นัยน์ตาคู่สวยยามที่ช้อนมองสบตาเขายิ่งหวานหยาดเยิ้มเป็นประกายด้วยหยดน้ำตา จนอดใจที่ประกบปากจูบเธออีกครั้งไม่ได้ และครานี้เธอก็ยินยอมรับจูบกลับเขาอย่างเต็มใจ โอนอ่อนให้กับการชักจูงของเขา
เพราะเธอที่กำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์สวาท ทำให้ไม่ทันสังเกตว่าท่อนขาเรียวของเธอตอนนี้ถูกเขายกขึ้นสูง ตวัดคล้องไว้ด้วยแขนแข็งแรงข้างหนึ่ง แผ่นหลังแนบชิดพิงกับผนังกระจกบานใหญ่ เปิดทางให้ท่อนลำเนื้อหนาจดจ่อแนบเนื้อถูไถกับกลีบดอกไม้ของเธอตั้งแต่ตอนไหน กว่าจะรู้ตัวส่วนนั้นของเธอก็ถูกรุกล้ำเข้าไปภายในครึ่งทางแล้ว
“อื้อ....คุณ”
“แน่นมากพริมต์...พริมต์ริตา อื้มมม ดี” เสียงเข้มกดเสียงต่ำ เอ่ยครางออกมา ก่อนจะดันท่อนเนื้อหนาของเขาเข้าไปจนสุด จนร่างเล็กถึงกับสั่นสะท้านผวากอดเขาแน่น
“อื้อ...เจ็บ”
“แน่นมาก” เขาตอบก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง ในขณะที่สะโพกสอบขยับเขยื้อนเข้าออกอย่างช้าๆแต่หนักแน่น เน้นหนัก จนเธอแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหว เนื้อตัวอ่อนโอนเอนทิ้งตัวแต่ถูกเขาตระกองกอดไว้ ประคองบทรักให้ดำเนินได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน
หญิงสาวเนื้อตัวสั่นคลอนตามแรงสะโพกของเขาที่ตอกอัดรัวเร็วขึ้น ท่ามกลางเสียงหวานร้องครวญครางดังขึ้น แทบไม่เป็นภาษาเพราะความเสียวซ่านที่กำลังจู่โจมเธออย่างหนัก
เสียงเนื้อกระทบเนื้อผสานเสียงหวานที่ร้องครางไม่หยุด ก่อนที่สองร่างจะกอดกันแน่น กระตุกเกร็งพร้อมกับเสียงลมหายใจเหนื่อยหอบของคนทั้งคู่
“อ๊ะคุณ!!...อื้อ” เสียงหวานร้องเสียงหลง เมื่อจู่ๆท่อนลำเนื้อหนาของเขาที่ยังเชื่อมประสานกับกลีบดอกไม้งามของเธอเกิดลำพองอยากจะแผลงฤทธิ์อีกครั้ง
ร่างสูงส่งเสียงคำรามในลำคอ ก่อนจะยกขาข้างที่เขาเกี่ยวไว้ก่อนหน้าขึ้นอีกเล็กน้อย ค่อยๆขยับสะโพกเข้าออกอย่างช้าๆแต่หน่วงหนักทุกครั้งที่ตอกอัดเข้าไปจนร่างบางสั่นคลอนตามแรงอารมณ์ของเขาที่มากขึ้นเรื่อยๆ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังทั่วห้องพร้อมกับสะโพกที่ขยับเข้าออกรัวเร็ว ก่อนจะพลิกตัวเธอหันหลังใบหน้าแนบกระจก มองวิวด้านนอกของกรุงเทพที่พระอาทิตย์กำลังใกล้จะลับฟ้าแสงสีส้มเล่นแสงสลับกับฟ้าสีเหลือง สวยราวกับมีมนต์สะกด แต่เธอไม่มีจังหวะได้เสพความสวยงามเมื่อเขาสอดแก่นกายใหญ่เข้าไปในช่องทางรักที่ฉ่ำเยิ้มด้วยหยาดน้ำของเธอ
“อ๊ะ...คุณ!!!”
“เคลย์ตัน! คุณเคลย์ตัน!” สั่งเสียงเข้ม ดุดัน มือหนาจับมือของเธอยกสูงพาดกับบานกระจก ก่อนจะเลื่อนเลื้อยจับอกสวยของเธอบีบขยำด้วยแรงอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมกับตอกอัดท่อนลำเนื้อใหญ่เข้าไปยังช่องทางรักที่เขาเพิ่งถอดถอนออกมาเพียงครู่
“งื้อ...คุณ...ไม่...ฉันไม่” พร่ำเพ้อด้วยใจอยากปฏิเสธพร้อมกับส่ายหน้าไปจนเรือนผมกระจัดกระจายยุ่งเหยิง
“หึ เก็บเสียงไว้ครางดีกว่านะ!” มือหนากระชากเรือนผมของเธอขยุ้มดึงให้หันหน้ามารับจูบ มืออีกข้างบีบขยำอกสวยอย่างไม่ออมแรงจนเธอถึงกับนิ่วหน้าทั้งเจ็บทั้งเสียวซ่านในคราเดียว
ทั่วทั้งห้องได้ยินเสียงแต่เสียงร้องครวญครางสอดรับกับเสียงคำรามดังกึกก้อง ตามอารมณ์รัก ประสานกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ หญิงสาวหมดเรี่ยวแรงจะต่อต้านไหลเลื้อยตามแรงอารมณ์ของเขา ที่ปรับเปลี่ยนท่วงท่าขยับตัวให้ก้มโค้งรับกับแก่นกายของเขา มือหนาจับกดศีรษะเธอคว่ำลงกับโต๊ะสนุกเกอร์ที่ตั้งอยู่อีกมุมของห้อง หญิงสาวดิ้นไปมาเล็กน้อยก่อนจะตะแคงหน้าแนบกับพื้นโต๊ะสักหลาดเนื้อดี มองท้องฟ้าด้านนอกที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทบอกให้รู้ว่าพระอาทิตย์ก่อนหน้านี้ได้ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว
เสียงสัญญาณประตูห้องเปิดดังขึ้น ทำให้หญิงสาวที่นอนหลับตาอยู่บริเวณโซฟาตัวยาวกลางห้องปรือตาขึ้นมองด้วยสภาพอิดโรยอ่อนล้า ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะขยับตัวลุกได้ เนื้อกายเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าพื้นบางที่เขาหยิบมาโยนทับบนร่างเธอเพื่อกันสายตาของคนที่เข้ามาใหม่เท่านั้น
โฬมคนสนิทของเขาไม่แม้แต่ปรายตามองไปทางด้านที่ใครอีกคนอยู่ในห้อง เขาก้มหน้าเดินมาหาชายร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดคลุมสีเข้ม ยืนถือแก้วไวน์มองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่
“นายครับ ได้เรื่องแล้วครับ”
“กูบอกมึงว่าไง”
“ผมมารอนายอยู่ด้านนอกตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้วครับ”
“อืม งั้นก็ว่ามา” เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะเหลือบสายตามองไปยังหญิงสาวที่นอนปรือตามองมาที่เขาเช่นกัน
“นายครับ ผมเกรงว่า” เขาใช้เพียงสายมองไปยังทิศทางของหญิงสาว เคลย์ตันก็พอรู้ความหมายตอบรับในลำคอ
“อืม เดี๋ยว”
“ครับนาย”
“มึงให้คนไปซื้อคุมมาด้วย กูไม่อยากพลาดท้อง”
“ครับนาย” เขาตอบรับก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดไปสั่งงานกับลูกน้องที่ยืนรออยู่ด้านนอก แล้วค่อยเดินตามร่างสูงของคนเป็นนาย เข้าไปในห้องเพื่อคุยธุระที่ถูกสั่งให้ไปสืบเมื่อเย็นอีกห้องหนึ่ง โดยมีสายตาใคร่รู้ของเธอมองตามไป
พริมต์ริตา รู้สึกสะอึกอยู่ไม่น้อยกับความ ‘พลาดท้อง’ ของเขา นึกสะท้อนใจ ใช่สิครั้งนั้นเพราะเขาพลาด เธอถึงได้ท้องยังไงล่ะ หล่อนพยายามชันตัวลุกขึ้นนั่ง สายตามองไปยังประตูบานนั้นที่ปิดกั้นระหว่างเธอและพวกเขาไว้ด้วยสายตาครุ่นคิดเป็นกังวล
ถ้าหากว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้วเธอจะทำอย่างไรดี เหตุการณ์ในวันนี้ไม่ได้ง่ายอย่างเช่นวันนั้น
เธอกลัวเหลือเกิน ว่าถ้าหากเขารู้ความลับที่เธอปิดซ่อนเอาไว้แล้วนั้น จะเปลี่ยนใจมาพรากไปจากเธอ