จนเวลาบ่ายสามโมงกว่า พริมต์ริตาที่กำลังช่วยยายจัดขนมใส่กล่องเตรียมส่งให้ลูกค้าเพราะอีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงจะมีคนมารับขนมไปจำนวนกว่าหนึ่งร้อยชุด เธอจึงต้องรีบเร่งมือทำเพื่อให้เสร็จทันลูกค้าและจะได้พายายกับลูกออกไปเที่ยวห้างอย่างที่ตั้งใจไว้ โดยมีลูกมือตัวน้อยคอยเดินป่วนอยู่รอบๆในมือมีตุ๊กตาตัวโปรดถือเดินเล่นไปมา
ในเวลาเดียวกันกับที่เค้กข้าวเดินกลับเข้ามาในบ้าน ด้วยสีหน้าตาผิดแผก ไม่สบตาใคร นอกจากเดินมาใกล้พี่สาว พลางช่วยหยิบจับกล่องทยอยใส่ถุงเตรียมให้ลูกค้า
“มีอะไรหรือเปล่าเค้ก ทำไมทำหน้าแปลกๆ”
“พี่ลัน เค้กมีอะไรจะบอกพี่” หญิงสาวหันกระซิบเสียงเบาให้ได้ยินสองคน พริมต์ริตาจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะวางของในมือเดินเลี่ยงออกไปนอกบ้านโดยมีญาติผู้น้องเดินตามไปติดๆ
“มีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ” หญิงสาวเดินออกมายืนบริเวณชานหน้าบ้าน ที่มีบรรดาไม้ประดับปลูกเรียงรายอยู่รอบ กับชุดโต๊ะหินที่มีที่นั่งสำหรับสี่ที่ไว้สำหรับนั่งเล่น หรือบางวันก็ยกอาหารมานั่งทานกันที่โต๊ะนี้ประจำ
“พี่เห็นคลิปหรือยัง” เค้กข้าวที่เดินตามออกมาสีหน้ากังวลเล็กน้อย
“คลิปอะไร” คิ้วสวยขมวดมุ่น สีหน้าแปลกใจระคนสงสัย ยิ่งเห็นหน้าอีกฝ่ายที่ดูอึดอัดลำบากใจ ชวนให้ฉงน
“คลิปนี้พี่ลัน” เค้กข้าวมองหน้าพี่สาวด้วยอาการลังเลเล็กน้อย ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ของตนเองส่งให้อีกฝ่าย ที่รีบหยิบไปดูความสงสัยปนอยากรู้
ใบหน้าสวยค่อยๆซีดเผือด แววตาคู่สวยสั่นระริก หัวใจเต้นแรง เมื่อได้เห็นภาพของตัวเองในคืนวันเข้าประกวด อยู่ในอาการมึนเมา เพราะฤทธิ์ยาผสมแอลกอฮอล์ ที่ทำให้การทรงตัวไม่ดีมีเพื่อนร่วมเวทีประกวดประคองพาเดิน ก่อนที่เพื่อนคนนั้นจะส่งเธอให้ผู้ชายอีกคนพาเดินเข้าลิฟต์ไป ภาพไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะยังมีคนถ่ายคลิปช่วงเวลาที่เธอออกมาจากโรงแรมในสภาพยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงสวมชุดของผู้ชายคนนั้น หอบชุดราตรีที่สวมใส่ตอนเข้าประกวดเดินออกจากโรงแรมไปขึ้นรถแท็กซี่ ถึงแม้หน้าจะไม่ชัด แต่เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเธอ โดยมีแคปชั่นที่ระบุชี้ให้คนเดาไปต่างๆนานาๆ รวมไปถึงข้อความจำนวนมากที่แสดงความคิดเห็นด่าทอในเชิงเป็นหญิงขายบริการ บ้างก็ว่าเด็กเสี่ย และมีบางคนคาดเดาว่าเป็นเธอ แม้หลายคนจะไม่ปักใจเชื่อก็ตามที
หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งแทบล้มทั้งยืน หน้าซีดขาวไร้สีเลือด หยดน้ำตาไหลรินอาบแก้ม ช็อกกับสิ่งที่เห็น จนเค้กข้าวที่ยืนอยู่ใกล้ๆรีบประคองพี่สาวเอาไว้
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ คลิปนี้ออกมาเมื่อไหร่” คำพูดที่หลุดออกจากปากเสียงเบาหวิวคล้ายกับละเมอ ดวงตาล่องลอย หายหอบใจถี่ด้วยแรงสะอื้น
“ฉันเห็นเมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เองพี่ เห็นก็รีบกลับมาเลย...พี่ลันโอเคไหม” ไม่มีคำตอบ แต่คนเป็นน้องก็พอรู้ โอบกอดพี่สาวแน่น น้ำตาเคลือบคลอด้วยความสงสารจับหัวใจ
“ไม่เป็นไรนะพี่ ไม่เป็นไร หน้ามันไม่ชัดหรอก แต่ที่ฉันจำได้เพราะฉันเป็นน้องพี่เท่านั้นเอง คนอื่นเขาไม่รู้หรอก พี่ไม่ต้องกังวลหรอกนะ” เค้กข้าวพยายามเอ่ยปลอบหวังให้คลายเครียดและความกังวลได้ไม่มากก็น้อย
เป็นเวลาเดียวกับปัณฑารีย์ขับรถมาจอดบริเวณข้างริมรั้ว เปิดประตูรั้วเดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเป็นกังวล เพราะตั้งแต่ได้เห็นคลิปดังกล่าวก็รีบทำธุระให้เสร็จ วางงานที่มีแล้วขับรถมาหาพริมต์ริตาทันที
“ลัน!”
“พี่แป้ง” เธอร้องเรียกเสียงสั่นเครือ ก่อนที่รุ่นพี่สาวจะเดินเข้ามากอดปลอบด้วยความเป็นห่วง
“อาการนี้เห็นคลิปแล้วใช่ไหม เป็นแกใช่หรือเปล่า” หญิงสาวเงยหน้ามองสบตารุ่นพี่ ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
“อือพี่แป้ง”
“ที่แกหายไปวันนั้นทั้งวันจนไม่ได้ไปงานแถลงข่าว ก็เพราะแบบนี้เหรอ”
“ลัน...”
“ช่างเถอะ ไม่ต้องพูดหรอก ตอนนี้แกอยู่เงียบๆไปก่อนเดี๋ยวพี่จัดการเอง เรื่องอื่นๆค่อยว่ากัน”
“แล้วที่กองประกวดล่ะพี่”
“ยังไม่มีใครรู้ แต่พี่ว่าอาจจะมีสงสัย ช่วงนี้ก็ทำตัวนิ่งๆปกติไปก่อนละกัน ยังไม่ต้องทำอะไรมาก...อุ้ย!ตกใจหมดเลย ใครคะเนี่ย” ปัณฑารีย์ที่หันไปเห็นเด็กน้อยกำลังเกาะประตูกระจกจากด้านในมองออกมา พร้อมกับส่งยิ้มน่ารักมาให้ ทำให้เจ้าตัวเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน หันไปหยอกล้อสาวน้อยที่กำลังรอให้คนเป็นป้าไปเปิดประตู ในขณะที่พริมต์ริตาต้องรีบหันหน้าหนีเพื่อเช็ดน้ำตาให้แห้งสนิทก่อนจะหันไปกลับไปหาลูกสาวน้อยตัว ที่กำลังถูกรุ่นพี่เธอเปิดประตูรับขึ้นมาอุ้ม