ร่างเล็กที่อยู่ในอาการสะอึกสะอื้นเสียใจ ร้องไห้ลำพังชะงักไปเล็กน้อยเมื่อมีใครบางคนยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้เธอ เมื่อแหงนหน้าสบตากับร่างสูงที่ยืนมองเธออยู่ ทำให้เธอนิ่งงันไปชั่วขณะ
“เช็ดน้ำตาซะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอตอบปัดก่อนจะหันรี้หันขวางมองหากระดาษทิชชู่ แต่เขากลับทรุดตัวนั่งเก้าอี้ข้างๆเธอ ยื่นมือจับปลายคางให้หันหน้าหาเขาแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าค่อยๆบรรจงเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน
“ร้องไห้แบบนี้เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ลันมาเห็น ท่านจะเสียใจเอานะ แล้วนี่ได้กินข้าวกินปลาบ้างหรือยัง” เธอส่ายหน้า เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากเขาน้ำตาที่แห้งหายไปเมื่อครู่กลับไหลรินอาบแก้มอีกครั้ง
“แล้วกัน ขี้แยจริงๆ งั้นเดี๋ยวพี่ไปหาอะไรให้ทานนะ เดี๋ยวเป็นลมล้มไปจะแย่”
“แต่ลันไม่หิวนี่คะ”
“ไม่หิวก็ต้องกินครับ ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะ รู้ไหม”
“ค่ะพี่นนท์ ขอบคุณนะคะ” มือหนาขยี้ผมเธอเบาๆ ก่อนจะลุกเดินออกไปด้านหลังที่เป็นโซนครัว สำหรับเตรียมอาหารให้แขก
เคลย์ตันยืนล้วงกระเป๋า ขบกรามแน่น ดวงตาแข็งกร้าว หงุดหงิดกับสิ่งที่ได้เห็นเมื่อครู่ ตัดสินใจหมุนตัวเดินกลับไปขึ้นรถคันหรูที่มีคนขับรถจอดรอ
ในขณะเดียวกันที่ดาลันดาหันมามอง เห็นแผ่นหลังของร่างสูงใหญ่ที่เดินห่างออกไปก็นึกรู้ได้ทันทีว่าเป็นเขา ผู้ชายใจร้ายคนนั้น!!
หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย เวลาเกือบเดือนที่เธอหายหน้าไปไม่เห็นแม้กระทั้งในตึกเรียนของคณะ หากเธอเห็นเขาเดินมา สายตาของเขาจะเห็นหลังไวๆของเธอหนีหายไปจากสายตาของเขาเสมอ อาการหลบหน้าหลบตาไม่อยากเจอหน้าเขา มันยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขุ่นเคืองมากขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่เคยตกหัวใจสาวๆได้ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ยิ่งทวีความฮอตมากขึ้นเพราะนอกจากจะไม่ยิ้มแย้มแล้ว ยามเมื่อเขาวางสีหน้าเมินเฉย ไม่ยินดียินร้ายกับอะไรยิ่งเป็นที่ชื่นชอบของสังคมโซเชี่ยลในมหาวิทยาลัยมากขึ้น
“เห้ย เคลย์ตัน มีน้องมาหาน่ะ” แพรวเพื่อนร่วมชั้นเอ่ยเรียกเขาจากหน้าห้อง ทำให้สายตาที่กำลังสนใจบางสิ่งในหน้าจอโทรศัพท์เหลือบขึ้นมอง ก่อนที่คิ้วของเขาจะกระตุกขึ้นเมื่อได้เห็นดวงหน้าหวานที่ทำให้เขานึกถึงอยู่บ่อยครั้ง มายืนเมียงมองอยู่บริเวณหน้าห้องเรียนของเขา
ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นยืนมอง ใช้สายตามองตรงไปยังรุ่นน้องสาวคนดังดีกรีดาวมหาวิทยาลัย ก่อนจะเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆเสมือนประวิงเวลาอะไรบางอย่าง
“มีอะไร” ทั้งแววตาและน้ำเสียงเต็มไปด้วยเย็นชา จนเธอแอบสะอึกในใจเบา เอ่ยเสียงสั่น อย่างกล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าสบตาเขา
“ลันขอคุยกับพี่สักห้านาทีได้ไหมคะ”
“อืม” สายตาคมกริบจ้องมองนิ่งก่อนจะตอบรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ ก้าวเดินนำร่างเล็กเพื่อออกไปหาที่เงียบสงบพูดคุยกัน ซึ่งดูจากท่าทางแล้วเธอคงมีเรื่องที่เป็นกังวลใจอยู่ไม่น้อย มันก็ทำให้เขาอยากรู้เช่นกันว่าอะไรที่ทำให้เธอกล้ามาหาเขา ทั้งๆที่ผ่านมา คนที่เอาแต่หลบหน้าหลบตาไม่ยอมเจอยอมคุยกับเขา เป็นเธอทั้งสิ้น
เคลย์ตันเดินนำหญิงสาวมายังลานจอดรถ เพราะเธอบอกว่าต้องการที่เงียบสงบและค่อนข้างส่วนตัวแววตาที่มอบสบตาเขาสั่นไหวระริกเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา ท่าทางที่คล้ายกับมีเรื่องทุกข์ใจและมันก็คงจะหนักหนาสำหรับเธอพอสมควร
“ว่าไง มีเรื่องจะคุยอะไร”
“ลัน....เอ่อ....คือ...ลัน”
“มีอะไรจะพูดก็รีบพูดเถอะ”
“คือ...ลัน” ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อผุดพรายเต็มดวงหน้า แววตาสั่นไหวทั้งกังวลและไม่มั่นใจ ยิ่งได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชาจากเขา หัวใจของเธอก็แทบหลุดออกจากร่างคล้ายกับมีคนคอยบีบรัดอยู่ตลอดเวลา
เสียงถอดถอนหายใจดังจากชายร่างสูง สายตาขุ่นเคืองตวัดมองเธอคล้ายรำคาญและกดดันให้เธอได้รีบเร่งพูดในสิ่งที่ต้องการเสียที เขาไม่ใช่คนที่จะมาอดทนรออะไรแบบนี้
“ไง อยากจะพูดอะไร”
“พี่เคลย์ตัน....คือ...”ร่างเล็กเม้มปากแน่น สีหน้าลังเล ครุ่นคิดหนัก เธอไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นบอกเขาอย่างไรดี ในเมื่อสองสามครั้งที่เจอกันเรามีอะไรกันแต่เขาก็ป้องกันเกือบทุกครั้งมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่เขาไม่ได้ป้องกัน ในวันนั้น..และมันก็เป็นคืนสุดท้ายที่เราได้เจอกัน
เด็กสาวข่มความกลัว รวบรวมความกล้า สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยในสิ่งที่อัดอั้นอยู่เต็มหัวใจ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและคาดหวัง
“ลัน...ท้องค่ะ!” ดวงตากลมโตกะพริบถี่ เมื่อได้ตัดสินใจพูดคำนั้นออกไปแล้ว จ้องมองคนตรงหน้านิ่ง
ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายเหมือนหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ สายลมที่พัดผ่านแทบจะพัดเอาหัวใจและร่างกายของเธอลอยปลิวไปกับ อากาศ เมื่อสายตาเย็นเฉียบที่มองสบตาเธอมันยิ่งทำให้เธอรู้ว่าเธอตัดสินใจผิดทั้งหมด เธอไม่ควรนำเรื่องนี้มาบอกเขาเลยสักนิด
ร่างสูงยืนมองยืนล้วงกระเป๋า สีหน้าไม่ยินดียินร้าย ภาพวันนั้นที่ศาลาวัดเขายังจำได้ดี ผู้ชายคนนั้นกับเธอ เป็นวันที่เขาไม่คิดจะใยดีเธออีก คนอย่างเคลย์ตันไม่เคยใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร
“อืม... ท้องกับใครล่ะ” น้ำเสียงราบเรียบเย็นชา ราวกับสายฟ้าฟาดเข้าที่กลางหัวใจดวงน้อยๆของหญิงสาว สายตาที่มองมานิ่งเฉยเย็นชาไม่มีวี่แววแปลกใจ หรือความรู้สึกใดๆ สะท้อนกลับมา
เด็กสาวยืนนิ่งอึ้ง อยู่สภาวะช็อก ตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ สมองที่สั่งการเหมือนหยุดทำงาน ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวคล้ายกับหยุดเคลื่อนไหว ไม่คาดคิดว่าคนที่เธอรัก จะถามคำถามนั้นกับเธอ และไม่คาดคิดอีกเช่นกันว่าจะได้ยินคำนี้ออกจากปากของเขา โลกของเธอสวยและบริสุทธิ์เกินไป หยดน้ำตาไหลรินอาบแก้มทั้งสองข้าง หัวใจดวงน้อยๆแทบจะหยุดเต้น ดับสิ้นไปเสียตรงนี้ วันนี้ นาทีนี้
ผู้ชายใจร้ายสารเลว ขอให้ชาตินี้อย่าได้พบเจอกันอีกเลย!!!!