บทที่ 3.1 - สวรรค์บันดาลหรือนรกกลั่นแกล้ง (เพื่อนใหม่)

1223 Words
“ตกลงงานที่เชียงใหม่แกจะไปดูเองหรือส่งเลขาไป” แอรอนถามหลังจากเสร็จประชุมใหญ่ โทมัสถอนหายใจเล็กน้อยก่อนพยักหน้า แววตาเคร่งเครียดจนเพื่อนอดเป็นห่วงไม่ได้ “ไหวเหรอวะ ส่งเลขาไปแทนก็ได้นะเว้ย มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่โรงแรมที่กำลังจะส่งต่อให้ทางเราดูแล งานง่ายๆ ให้เลขาทำแทนยังได้” “ไม่เป็นไรเว้ย มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว” ทุกวันนี้เขาเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงานมากเกินไป ถึงแม้แอรอนจะเป็นเพื่อนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะละเลยบริษัทฯ ได้ เขาเองก็พนักงานกินเงินเดือนไม่ต่างกัน ดีหน่อยที่มีตำแหน่งใหญ่โตและมีหุ้นถึงยี่สิบเปอร์เซ็น “ไปดูหน่อยก็ดี เผื่อมีอะไรฉุกเฉินฉันจะได้จัดการทันที” โทมัสพูดอย่างมืออาชีพ แอรอนยักคิ้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “เอางั้นก็ได้ งั้นฉันกลับก่อนนะ ต้องรีบพาลูกไปฉีดวัคซีนต่อ” คนเป็นพ่อกล่าว “กี่เดือนแล้ววะ? ฉันมัวแต่ยุ่งเรื่องของตัวเองจนลืมไปเลยว่ามีหลาน” โทมัสถามยิ้มๆ “สามเดือนกว่าละ น่ารักฉิบหาย อ้อนเก่ง” แอรอนอวดลูกสาว “อ้อนเก่งเหมือนแม่ไหมล่ะ” โทมัสแซว “อ้อนน้อยกว่าแม่ว่ะ รายนั้นเวลาอ้อนทีใจละลาย หึๆ” คนหลงเมียยิ้มกว้าง โทมัสเห็นเพื่อนมีความสุขก็ปลื้มปริ่มไปด้วย “น้ำรินโชคดีที่มีแกเป็นคู่ชีวิต” แอรอนขมวดคิ้วพลางคิดตามในสิ่งที่เพื่อนพูด “ไม่นะ ฉันโชคดีมากกว่าที่ได้น้ำรินมาเป็นแม่ของลูก เธอเป็นผู้หญิงจิตใจดี ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข” ความรักที่เขามีต่อน้ำรินเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน ยิ่งมีลูกมาเป็นโซ่ทองคล้องใจก็ยิ่งทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ไม่มีที่ติ น้ำรินทำหน้าที่เป็นทั้งภรรยาและแม่ของลูกได้อย่างดีเยี่ยม สักนิดเจ้าหล่อนก็ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ทุกๆ วันแอรอนมักขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้เขาได้พบเจอกับผู้หญิงที่ดีพร้อมอย่างเธอผู้นี้ “ฉันเองก็อยากมีครอบครัวนะ อยากมีเมีย มีลูก” น้ำเสียงเศร้าหมอง “เอาน่า… เดี๋ยวตามหาคุณฟ้าเจอแกก็สมหวังแล้ว” “แกอย่าพูดเอาใจฉันหน่อยเลยว่ะ ต่อให้ตามหาเจอเขาก็ไม่ยกโทษให้ฉันอยู่ดี” โทมัสส่ายหน้าพลางยิ้มหยันตัวเอง เขารู้ว่าหนทางข้างหน้ามืดมนเพียงใด แต่เขาก็พร้อมที่จะเดินหน้าต่อเพื่อให้ได้เจอกับเธอคนนั้น คนที่เขาคิดถึงและถวึลหาสุดหัวใจ “แกก็อย่าไปคิดเยอะสิวะ ถ้าคุยกันดีๆ แล้วไม่ชอบก็จับปล้ำอีกรอบเลยเป็นไง” แอรอนว่า “หาเรื่องให้ฉันถูกชังน้ำหน้าไปกันใหญ่” คนพูดแยกเขี้ยวใส่เพื่อนรัก ทว่าลึกๆ แล้วกลับคิดเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน ขึ้นอยู่ที่ว่าเพียงฟ้าจะพยศมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มากจนเกินงามเขาก็ไม่ใช้กำลัง แต่ถ้าง้อแล้วยังทำเมินอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ยิ่งผู้ชายอย่างเขาความอดทนมีไม่สูงซะด้วยสิ “ไปแล้วเว้ย ป่านนี้น้ำรินคงรอแย่แล้ว” แอรอนตบบ่าเพื่อนก่อนเดินออกจากห้อง โทมัสถอนหายใจท่ามกลางความเงียบสงัด ชายหนุ่มเอนกายพิงพนักเก้าอี้หลับตาคลายความเมื่อยล้า ใบหน้าสวยลอยเข้ามาในมโนสำนึก ภาพที่เขาและเธอสบตากันตอนที่หลอมกายเป็นหนึ่งเดียวเด่นชัดราวกับเรื่องเพิ่งเกิดเมื่อวาน เขาเป็นผู้ชายยังจดจำทุกรอยสัมผัส แล้วเธอล่ะ? ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวอย่างเธอจะลืมลงอย่างนั้นหรือ… ต่อให้ถูกจำด้วยความเกลียดชังโทมัสก็ยินยอม ร่างบางแต่งตัวเตรียมออกข้างนอก วันนี้เธอตั้งใจจะออกไปเที่ยวชมเมืองหลังจากที่อุดอู้อยู่แต่บ้านทั้งวัน มาเยือนเมืองท่องเที่ยวทั้งทีก็ต้องเปิดหูเปิดตากันหน่อย กินเล่นให้สนุกพักผ่อนคลายความเครียดไปในตัว เพียงฟ้าในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์สีดำดูเซ็กซี่น่าค้นหา แม้หล่อนจะแต่งกายธรรมดาแต่ความสวยของเครื่องหน้าและรูปร่างสูงเพรียวเป็นดั่งอาวุธร้ายที่เสริมให้หญิงสาวงดงามเกินใคร “สวัสดีครับคุณฟ้า” น้ำเสียงเข้มดังขึ้นจากทางด้านหลัง เพียงฟ้าที่กำลังล็อคประตูรั้วหันไปสบตาผู้มาเยือน ใบหน้าหล่อเหลาส่งยิ้มกว้างเป็นการทักทาย “สวัสดีค่ะ” “จะไปไหนหรือครับ?” เขาถามอย่างสุภาพ เพียงฟ้าแอบรู้สึกเซ็งเล็กน้อยเพราะวันนี้เธอตั้งใจจะอยู่กับตัวเอง ไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งนั้น “กำลังจะไปธุระน่ะค่ะ” “อ้อ…” เขาพยักหน้า เจคอบคอยสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาว แม้จะยิ้มพูดคุยด้วยน้ำเสียงปกติ ทว่าเขาดูออกว่าเธอแอบรำคาญเขาอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มยิ่งเพิ่มความสนใจที่มีต่อร่างบางเป็นเท่าตัว หายากนักผู้หญิงที่ไม่ใยดีเขาแบบนี้ “แล้วนี่คุณกำลังจะไปไหนหรือคะ?” เมื่อเห็นเขายังยืนนิ่งเธอก็ต้องถามตามมารยาท เจคอบยิ้มย่องในใจ อย่างน้อยสาวเจ้าก็ไม่ไร้มนุษย์สัมพันธ์จนเกินไป “เดินเล่นน่ะครับ เดินไปเรื่อยๆ ผมตัวคนเดียวไม่มีเพื่อน” หางเสียงเศร้าสร้อย เพียงฟ้าหน้าเจื่อน แอบรู้สึกผิดที่ก่อนหน้านั้นรำคาญเขา “ทำไมล่ะคะ คุณเจคอบเองก็ดูนิสัยดี” “ไม่รู้สิครับ ผมอาจจะเป็นคนที่เข้าถึงยากมั้งเลยไม่มีใครอยากคบ” เห็นแววตากลมโตวูบไหวชายหนุ่มก็เลยเล่นบทน่าสงสารต่อทันที “ปกติผมก็ไม่เหงาขนาดนี้หรอกครับ แต่หลังจากที่คุณแม่ผมเสียผมก็เคว้งคว้าง อยู่ตัวคนเดียวก็มักจะฟุ้งซ่าน ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียท่าน” เรื่องมารดาเขาพูดความจริงทุกประการ เจคอบอยู่กับมารดามาตั้งแต่เล็ก ผูกพันรักใคร่ราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน แต่แล้วโรคร้ายก็พรากแม่ผู้เป็นทุกอย่างในชีวิตไป เขาจึงกลายเป็นเด็กเก็บกดที่อยู่คนเดียวเป็นหลัก เนื่องจากบิดามักจะอาศัยอยู่บ้านใหญ่กับครอบครัวที่เขาเชิดชูออกหน้าออกตา ใช่… เขามันก็แค่ลูกเมียน้อยเท่านั้น “ผมพูดอะไรเรื่อยเปื่อยเลย เชิญคุณเพียงฟ้าเถอะครับ” เจคอบส่งยิ้มบางเบา “ค่ะ” หญิงสาวกำสายสะพายกระเป๋าผ้าแน่นก่อนเดินผ่านหน้าเขาไปตามทาง หัวสมองคิดหนักเกี่ยวกับเรื่องที่ได้ฟัง เธอหันไปมองก็เห็นชายหนุ่มคอตกเดินไปอีกทาง ความสงสารท่วมท้น “คุณเจคอบคะ” เสียงหวานเรียก ชายหนุ่มชะงักฝีเท้าค่อยๆ หันหน้ามาสบตากับเธอ “ครับ” “ถ้าคุณไม่มีเพื่อนเดินเล่น ไปกับฉันก็ได้นะคะ” เพียงฟ้ายิ้มหวานเชิญชวน คนฟังหัวใจเต้นรัว ปากหยักเผยรอยยิ้มยามมองใบหน้าสวย “ขอบคุณมากครับ” เขาไม่รีรอที่จะตกลงรับไมตรีจิตจากเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD