ร่างสูงสง่าตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาสตรีน้อยใหญ่ เหล่าพนักงานสาวๆ ดูกระชุ่มกระชวยเป็นพิเศษยามเห็นหน้าตาของคนที่จะเข้ามาบริหารโรงแรมต่อจากเจ้าของรายเก่า โทมัสในชุดสูทสีเข้มเดินล้วงกระเป๋าด้วยท่าทีสุขุม เขากวาดตามองไปรอบๆ แล้วพึงพอใจไม่น้อย บรรยกาศโรงแรมสวยหรูมีระดับเป็นเดิมทุน ปรับนิดแต่งหน่อยก็สามารถปั้นให้เป็นโรงแรมระดับต้นๆ ของจังหวัดได้ไม่ยาก อีกทั้งแขกเหรื่อชาวต่างชาติก็มีเยอะพอสมควร รายได้ต่อเดือนก็ถือว่ามีกำไรมหาศาลหลังจากหักค่าใช้จ่ายทุกอย่าง น่าเสียดายที่เจ้าของคนเก่าคิดอยากขายเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้พนัน
แต่ก็ช่างเถอะ คิดเสียว่าบริษัทฯ ของเขาโชคดีที่ได้ของพรีเมี่ยมในราคาย่อมเยาว์ก็แล้วกัน
“ท่านมีอะไรสงสัยอยากถามดิฉันเพิ่มเติมหรือเปล่าคะ?”
พนักงานสาวหน้าสวยยิ้มหวาน หัวใจหล่อนเต้นไม่เป็นจังหวะในระหว่างทำหน้าที่พาหนุ่มหล่อมาดเข้มเดินชมโรงแรม
“ไม่มีครับ ผมโอเคทุกอย่าง”
โทมัสส่งยิ้มเล็กน้อยตามมารยาท ผู้หญิงคนนี้ทำงานดีเกินคาด อธิบายความเป็นมาของโรงแรมให้เขาเข้าใจได้ทุกกระเบียดนิ้ว
“ทางเราได้จัดเตรียมห้องรับรองไว้ให้ท่านเรียบร้อยแล้ว เชิญทางนี้ค่ะท่าน”
โทมัสเดินตามหญิงสาวด้วยท่าทีเรียบเฉย ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร ห้องพักที่ทางโรงแรมจัดเตรียมให้กับเขาสวยงามให้กลิ่นไอของภาคเหนือ ชายหนุ่มสำรวจรอบๆ ห้องแล้วยิ่งชอบ รู้สึกคิดไม่ผิดที่เลือกเทคโอเวอร์ต่อจากเจ้าของเดิม ถ้าแอรอนได้เห็นสภาพของโรงแรมก็คงชื่นชอบไม่ต่างจากเขา
“ถ้าท่านต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกดิฉันได้ทุกเวลานะคะ” พูดแล้วก็ส่งตาหวานตาเยิ้มให้กับเขา
โทมัสยิ้มกรุ้มกริ่ม สัญชาตญาณนักล่าถูกปลุกขึ้นมายามเห็นแววตาสื่อความหมายของสตรีเบื้องหน้า
“แล้วถ้าผมต้องการรู้จักคุณให้มากกว่านี้ จะต้องทำยังไงครับ” ไม่พูดเปล่า… คนตัวโตสาวเท้าเข้าไปใกล้ร่างอ้อนแอ้น หญิงสาวดีใจแทบเต้นเร่าหากต้องเก็บอาการไม่ให้ตื่นตูม หล่อนเดินไปปิดประตูห้องแล้วหันกลับมามองบุรุษรูปงามอีกครั้ง มือเรียวลูบไล้แผงอกกว้างผ่านเนื้อผ้าแบรนด์ดัง โทมัสมองไล่ตามฝ่ามือเจ้าหล่อนแล้วยิ้มระรื่น
อย่างน้อยๆ ก็มีเนื้อหวานให้ขบเคี้ยวระหว่างมาดูงาน
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านจะมีเวลาให้ดิฉันมากน้อยแค่ไหน”
น้ำเสียงเซ็กซี่ขยี้ใจชายเอ่ยราวกระซิบ หล่อนช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา โทมัสหัวเราะในลำคอก่อนเชยปลางคางแหลมที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าได้มาเพราะศัลยกรรม ชายหนุ่มบดขยี้เรียวปากบางอย่างหื่นกระหาย ส่งต่อความร้อนแรงจนสาวเจ้าหัวเราะชอบใจ สองร่างกอดรัดกันราวกับโหยหาสัมผัสกายแนบกาย โทมัสที่ช่วงนี้กำลังเครียดเรื่องหญิงอันเป็นที่รักปลดปล่อยอารมณ์ดิบเถื่อนใส่หญิงสาวปริศนาเต็มที่ ทั้งสองร่วมสร้างบทเพลงรักอันเร่าร้อนโดยไม่สนว่าเพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง
จะต้องแคร์ทำไม ในเมื่อต่างพึงพอใจที่จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวแบบไม่ผูกมัด!
เพียงฟ้าและเจคอบเดินเล่นที่ถนนคนเดินอันเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งสองเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น ชายหนุ่มหาเรื่องชวนคุยเพื่อละลายพฤติกรรม ซึ่งเขาทำได้ดีเกินคาด ร่างบางรู้สึกสนุกกับเรื่องราวชีวิตของเขา
“แล้วตอนนั้นคุณทำยังไงคะ บอกคุณพ่อหรือเปล่า?”
ขณะนี้ทั้งสองกำลังนั่งทานขนมจีนน้ำยาอยู่ในร้านแห่งหนึ่ง ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ เจคอบก็อาสาเล่าวีรกรรมสมัยเรียนให้เธอฟัง
“คุณแม่บอกครับ ผมไม่อยากยุ่งกับท่านเท่าไหร่”
“แล้วคุณพ่อว่ายังไงบ้างคะ ถ้าให้เดานะต้องดุคุณแน่ๆ เลย” เพียงฟ้าพูดไปตามนึก ปกติพ่อแม่มักจะดุลูกหลานยามทำผิดเสมอ
“ไม่ครับ ท่านแค่เซ็นเช็คจ่ายค่าเสียหายให้กับบ้านหลังนั้น ส่วนผมท่านก็ไม่ถามสักคำว่าโดดเรียนทำไม พูดแต่ว่าดีไม่ร่วงมาถูกเหล็กเสียบคอตาย แค่กระเบื้องแตกเท่านั้น” แม้น้ำเสียงจะฟังรื่นเริง ทว่าแววตาผู้พูดกลับเศร้าหมองแปลกๆ
“คุณมีความหลังไม่ค่อยดีกับคุณพ่อหรือคะ?”
เพียงฟ้าเสี่ยงถาม คนตัวโตเงียบไป เขาหลบตาหญิงสาวคล้ายกำลังทบทวนอะไรบางอย่าง
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่น่าถามเลย” เป็นครั้งแรกที่เจ้าหล่อนรู้สึกเสียมารยาท
“ไม่หรอกครับ ความจริงระหว่างผมกับท่านก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่” เจคอบพูดยิ้มๆ
สำหรับบิดาลูกนอกสมรสอย่างเขาไม่มีค่าเทียบกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างพี่ชายได้หรอก รายนั้นเขามีแม่เป็นคุณหญิงชาติตระกูลดีพร้อม ส่วนเขามันก็แค่ลูกแม่ค้าขายข้าวแกงในตลาด
“ท่านไม่รักผมหรอก” วาจาตัดพ้อเอ่ย เพียงฟ้ารู้สึกสงสารชายหนุ่มตรงหน้า
“คิดมากค่ะ ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกหรอกนะคะ ดูอย่างฉันสิ ตอนเด็กๆ ก็คิดว่าพ่อแม่ไม่รัก น้อยอกน้อยใจสารพัด พอโตมาถึงรู้ว่าเขารัก เพียงแต่ต้องทำงานเยอะเลยไม่มีเวลามาเล่นด้วย”
เพียงฟ้าพยายามพูดปลอบคนตรงหน้า ความจริงแล้วทุกวันนี้เธอก็ยังไม่มั่นใจว่าท่านทั้งสองรักเธอเหมือนที่เธอรักหรือเปล่า
“คุณฟ้านี่น่าจะอายุมากกว่าผมนะครับ” เจคอบว่าพลางพิจารณาใบหน้าสวย
“ทำไมคะ จะจับผิดหารอยตีนกาบนหน้าฉันเหรอ?” สาวเจ้าติดตลก คนฟังยิ้มขัน
“ถ้าอย่างคุณมีรอยตีนกาผู้หญิงในโลกคงไม่มีใครสวย” ชายหนุ่มหยอดคำหวานหวังให้สาวเจ้าหน้าแดง
แต่ผิดคาด… เพียงฟ้าผ่านการถูกจีบมาทุกรูปแบบ คำพูดแค่นี้ไม่อาจทำอะไรหัวใจอันแข็งแกร่งของเธอได้
“ฉันอายุยี่สิบเจ็ดค่ะ แล้วคุณล่ะคะ?”
“ผม…”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ ขอฉันเป็นฝ่ายเดาดีกว่า”
เธอแทรกขึ้นก่อนที่เขาจะเอ่ยจบ ดวงตากลมโตสำรวจใบหน้าขาวใส
“คุณน่าจะยี่สิบสาม ถูกไหมคะ?” ว่าแล้วลุ้นกับคำตอบ
“ใช่ครับ ผมอายุยี่สิบสาม” เขาพูดแล้วยิ้ม ก่อนจะเอ่ยต่อ “คุณฟ้าเก่งนะครับที่เดาถูก บางคนบอกว่าผมเพิ่งจะสิบแปดด้วยซ้ำ”
“โห… แสดงว่าฟ้าเพิ่มอายุให้คุณไปเยอะเหมือนกันนะคะเนี่ย” หญิงสาวหัวเราะร่วน ทั้งสองพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตกันอย่างสนุกสนาน ไม่นานขนมจีนที่สั่งไว้ก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ กลิ่นหอมของน้ำยากะทิช่างยั่วยวนน้ำย่อยในกะเพาะ เพียงฟ้ากลืนน้ำลายลงคอด้วยว่าอยากทานมานาน
“อร่อยมากเลยค่ะ” สาวเจ้าตาโตหลังจากตักขนมจีนเข้าปากคำแรก “เป็นไงคะ อร่อยไหม?” เอ่ยถามชายหนุ่ม
“อร่อยดีครับแต่เผ็ดไปหน่อย” ว่าแล้วก็ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“คุณไม่ทานเผ็ดหรือคะ”
“ทานได้ครับแต่ไม่มาก”
“เปลี่ยนร้านไหมคะ” เพียงฟ้าแสดงความมีน้ำใจ หล่อนทานอะไรก็ได้ไม่อยากให้เขาต้องมานั่งฝืนทานในสิ่งที่ไม่ชอบ
“ผมทานได้ครับคุณฟ้า ขนมจีนร้านนี้อร่อยดี คุณฟ้าทานเถอะครับ” ยิ่งหญิงสาวแสดงท่าทีห่วงใยเขาก็ยิ่งปลาบปลื้ม ลอบมองร่างบางอยู่เป็นระยะๆ เพียงฟ้าก้มหน้าก้มตาทานอย่างเอร็ดอร่อยจนไม่ทันระวัง เรียวปากอิ่มเลอะคราบน้ำยากะทิ พาลให้คนมองอดเอ็นดูไม่ได้
“คุณฟ้าครับ เอ่อ… ตรงนี้ครับ” เจคอบชี้ตรงมุมปากล่างด้านซ้ายของตนพยักเพยิดหน้าไปทางเธอ
“มีอะไรหรือคะ?” คนถูกขัดเวลากินถามตาแป๋ว
“ขอนุญาตนะครับ”
ได้โอกาสชายหนุ่มก็หยิบกระดาษทิชชู่เช็ดรอยเปื้อนบนปากอิ่ม ร่างบางแข็งทื่อไปชั่วขณะ มองเขาแล้วพลันหน้าแดง
“เรียบร้อยแล้วครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มหวาน เพียงฟ้าพยักหน้าเชิงขอบคุณ
“ทานต่อเถอะครับ” เจคอบเอ่ยเมื่อเห็นเธอนิ่งไป เพียงฟ้าตักขนมจีนเข้าปากอีกครั้ง หญิงสาวยังคงเขินอายต่อการกระทำเมื่อครู่ สัมผัสแผ่วเบาทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวอยู่ลึกๆ
อีกมุมหนึ่งไม่ไกลนักปรากฏร่างผู้ชายกำยำกำลังมองตรงเข้าไปยังร้านอาหารเล็กๆ แววตาของเขาดุดันคล้ายกับถูกทรยศหักหลัง ปากหยักกดเม้มสนิทเป็นเส้นตรง สองมือกำหมัดแน่นยามทอดมองชายหญิงที่นั่งหัวร่อต่อกระซิกหยอกเย้าราวกับคู่รัก
ในที่สุดเขาก็เจอเธอจนได้… หล่อนไม่ได้บินไปอังกฤษอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ
แต่หล่อนอยู่ที่นี่ อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้
“เพียงฟ้า”
โทมัสแสยะยิ้มร้ายกาจยามจดจ้องร่างอรชรที่เขาโหยหามาตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีเต็ม!