บทที่ 4 - โซ่ขังใจ (ฉุดเมีย)

1870 Words
“ขอบคุณสำหรับวันดีๆ ที่มอบให้กันนะครับ ผมมีความสุขมาก” เจคอบส่งเพียงฟ้าถึงหน้าบ้านกล่าวขอบคุณเธอด้วยรอยยิ้ม การได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทำให้เขาเห็นความน่ารักสดใสของเธอมากขึ้น ผู้หญิงคนนี้มองเผินๆ จะดูเข้าถึงยาก มีบุคลิกที่เยือกเย็นและน่าค้นหา หากพอได้พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติซึ่งกันและกันทำให้มุมมองที่มีต่อร่างบางเปลี่ยนไป หล่อนก็เหมือนหญิงสาวทั่วๆ ไป ยิ้มเก่งหัวเราะง่าย และที่สำคัญรู้จักการวางตัวที่ดี ไม่ประดิษฐ์กิริยาวาจายามอยู่ต่อหน้าผู้ชาย สตรีส่วนมากที่เขาเคยเจอมักแสแสร้งปั้นคำพูดสวยหรู เขาดูออกแต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษก็ต้องทำปล่อยผ่านเลยตามเลย “ฉันก็มีความสุขค่ะ สารภาพตรงๆ เลยนะคะ ตอนแรกแอบกลัวคุณด้วยซ้ำ” เสียงหวานพูดแล้วยิ้มแหย “ทำไมล่ะครับ?” “ก็คุณชอบมองฉันแปลกๆ ฉันเลยคิดว่าคุณจะเป็นพวกโรคจิต!” เพียงฟ้าว่า คนฟังหัวเราะร่วนไม่ได้โกรธเคืองอะไร “ผมทำแบบนั้นหรือครับ” “ต้องขอโทษด้วยนะคะที่มองคุณในแง่ร้ายขนาดนั้น ทั้งๆ ที่คุณก็มาช่วยฉันแท้ๆ” เพียงฟ้าบอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิด หล่อนต้องเปลี่ยนนิสัยเสียใหม่ รู้จักระแวดระวังผู้คนก็เป็นสิ่งดีแต่ต้องไม่ใช่หวาดกลัวไปหมด ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะอยู่กับจิตใจมาตั้งแต่เล็ก รายนั้นชอบพูดกรอกหูอยู่ทุกวันว่าสังคมเรามันโหดร้ายนั่นนี่ ซึ่งมันก็จริงส่วนหนึ่ง แต่ทว่าก็ไม่ใช่ทั้งหมดอยู่ดี… “ขอโทษทำไมครับ ดีเสียอีกที่คุณรู้จักระวังตัว ยิ่งเป็นสาวสวยแบบนี้ด้วยแล้ว” ไม่วายหยอดคำหวานอีกเช่นเคย เพียงฟ้ายิ้มตามประสาเพื่อนไม่ได้เขินอายอะไร “อย่าถือสาผมเลยครับ ผมก็พูดไปเรื่อย” เจคอบหัวเราะแก้เก้อ หล่อนทำให้เขาไม่เป็นตัวเองเพียงแค่สบตา “ดูท่าคุณจะเจ้าชู้ไม่หยอกเลยนะคะ คำพูดหวานๆ ที่หยอดใส่ฉันใช้บอกสาวๆ ไปกี่คนแล้วล่ะ?” เพียงฟ้าแกล้งถาม “ผมพูดเฉพาะกับคนที่พิเศษเท่านั้นครับ” แววตาของเขาจริงจังไร้ท่าทีกรุ้มกริ่มเหมือนเช่นเคย ทำเอาคนถามถึงกับหน้าเหวอเล็กน้อย แก้มนวลแดงระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่ ปฏิกิริยาธรรมชาติชวนมองเหลือเกิน เจคอบหลงใหลสตรีเบื้องหน้าเข้าเต็มเปา “เอ่อ… ขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวพูดจบก็รีบเดินเข้าบ้านทันที เพียงฟ้าชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจหันมาโบกมือลาชายหนุ่ม เจคอบยิ้มกว้างยกมือโบกกลับ รู้สึกเหมือนกำลังมีความรักครั้งแรกทั้งๆ ที่เขานั้นผ่านผู้หญิงมาไม่น้อย เจคอบเดินเข้าบ้านแต่สายตาไม่ละห่างจากบ้านข้างๆ เขายิ้มไม่หุบยามนึกถึงแววตากลมโตที่มองมายังตน เรียวปากอิ่มช่างเจรจาน่าสัมผัส เสน่ห์ที่เพียงฟ้ามีร่ายมนต์ใส่เขาเข้าอย่างจัง จากคราแรกที่คิดว่าคงแค่สนุกๆ พอให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ทำไปทำมากลับอยากรู้จัก อยากพัฒนาความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้ง บรรยกาศเงียบสงัดแม้ไม่ดึกมากแต่ด้วยความที่บ้านเรือนอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองพอสมควร ยามตะวันโพล้เพล้หน่อยผู้คนก็พากันเข้าบ้านใครบ้านมัน บ้างก็เข้าสู่ห้วงนิทราหลับใหลเนื่องจากเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน เพียงฟ้าฮัมเพลงขณะชำระล้างร่างกาย มือเรียวบรรจงถูครีบอาบน้ำลูบไล้ไปทั่วเรือนกาย กลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์ทำให้จิตใจสดชื่นขึ้น หล่อนใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงก็เสร็จสิ้น หญิงสาวใส่เสื้อนอนตัวบางพลิ้วไสว อากาศยามค่ำคืนในเชียงใหม่เย็นสบายไม่ต้องเปิดแอร์ก็อยู่ได้ แค่เปิดหน้าต่างให้ลมโชยผ่านมุ้งลวดก็ช่วยให้เธอเข้าสู่ห้วงนิทราได้ไม่ยาก ร่างบางทิ้งตัวนอนลงบนเตียงกว้าง เรียบเรียงเหตุการณ์ที่เธออยู่กับเจคอบตลอดทั้งวันพลันยิ้มกว้าง แม้เขาจะอายุน้อยกว่าเธอหลายปีแต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงความต่างของวัยเลยสักนิด ผู้ชายคนนั้นดูมีวุฒิภาวะเกินอายุด้วยซ้ำ การพูดจารวมถึงสถานภาพครอบครัวที่เขาเล่านั้นทำให้เธอรู้สึกเห็นใจและสงสาร เพียงฟ้าไม่รู้หรอกว่าเขาจะพูดความจริงหรือไม่ แต่ความรู้สึกลึกๆ ของเธอบอกว่าเขาไม่ได้โกหก ซึ่งเธอก็จะขอเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองสักครั้ง แสงแดดยามเช้าสาดกระทบเปลือกตาคู่สวยให้ตื่นรับอรุณวันใหม่ ร่างบางที่หลับใหลตลอดทั้งคืนบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยล้า สาวเจ้าลุกขึ้นนั่งพิงร่างกับหัวเตียงพลางกวาดมองไปรอบๆ บริเวณ ภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างเปลี่ยนไป เพียงฟ้าเบิกตากว้างตกใจลนลาน “อะไร ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย?” ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ สายตาเบนหันไปมองกระจกบานใส ทิวทัศน์ภายนอกยิ่งตอกย้ำว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ๆ ที่เธอเคยอยู่ หัวใจดวงน้อยบีบรัดแน่น ความกลัวตีตื้นจนน้ำตาพาลจะไหล “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ใครก็ได้พาฉันออกไปที ช่วยด้วยค่ะ!” เพียงฟ้าทุบประตูไม้จนเจ็บมือไปหมด น้ำตาไหลรินอาบแก้มนวล นึกกลัวไปต่างๆ นานา เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนอนหลับอยู่ที่ห้องแล้วทำไมตอนเช้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้ “อะไรกัน” เสียงหวานสั่นเครือ ใครพาเธอมาที่นี่ ข้างนอกมีแต่ทะเลกว้างใหญ่ “ช่วยด้วยค่ะ ฮือๆ เปิดประตูนะ ปล่อยฉันออกไป ช่วยดะ…” ประตูถูกกระชากเปิดจากด้านนอก ใบหน้าคมคร้ามที่หล่อนพยายามหลีกหนีมาตลอดระยะเวลาเกือบปีปรากฏตรงเบื้องหน้า ลมหายใจเพียงฟ้าแทบขาดห้วง ดวงตากลมโตเบิกกว้างยามจดจ้องผู้ชายร่างสูง เนื้อตัวเย็นเฉียบไร้สีเลือด รู้สึกราวกับถูกมัจจุราชตัวร้ายวิ่งไล่ล่ายังไงยังงั้น “คุณ!” หญิงสาวปากคอสั่น โทมัสสาวเท้าเข้าใกล้เธอด้วยจังหวะหนักแน่น แววตาของเขาดุดัน ทอดมองดวงหน้าหวานไม่ละวาง กรามแกร่งบดเบียดจนเกิดเสียงไรฟันขบเม้ม “ในที่สุดผมก็เจอคุณสักที” เสียงเข้มกล่าว “ปล่อยฉันออกไปนะ คุณกล้าดียังไงมาจับตัวฉัน ปล่อยเดี๋ยวนี้!” เพียงฟ้าน้ำหูน้ำตาทะลัก ไม่คิดว่าเขาจะบ้าดีเดือดถึงขั้นลักพาตัวเธอ “ผมตามหาคุณแทบพลิกแผ่นดิน มาตอนนี้ผมเจอคุณแล้วคิดเหรอว่าจะได้ไปจากผมอีก ไม่มีวัน!” การปล่อยเพียงฟ้าไปจากอ้อมอกเป็นสิ่งเดียวที่เขาจะไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น “คนเลว ปล่อยฉันนะ!” เพียงฟ้าตรงเข้าไประดมทุบอก ยิ่งเห็นหน้าเขาภาพความเลวร้ายในวันนั้นก็ยิ่งชัดเจน น้ำเสียงและแววตาของเขาเผาผลาญความบริสุทธิ์ของเธออย่างเลือดเย็น “หมดเวลาวิ่งหนีแล้วเพียงฟ้า ต่อไปนี้ผมจะไม่ให้คุณไปจากผมได้อีก!” ชายหนุ่มตวาดกร้าว ความจริงถ้าหล่อนไม่พยศเขาอยากรั้งร่างเล็กมาสวมกอดให้หายคิดถึง แต่สำหรับเพียงฟ้าแค่เห็นหน้าเขาความเกลียดชังก็ปรากฏผ่านนัยน์ตาหวานเยิ้ม นึกว่าเขาไม่เจ็บหรือไงยามต้องมองคนที่รักหวาดกลัวและขยะแขยงสัมผัสของตัวเอง เธอคงคิดว่าเขามันพวกไร้ความรู้สึกสินะ ถึงได้พยายามหลีกหนีเขาทุกทาง “ฉันเกลียดคุณที่สุด!” คำว่า เกลียด กรีดหัวใจแกร่งจนย่อยยับ โทมัสฝืนยิ้มโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้จมูกโด่งรั้น “คุณจะเกลียดผัวตัวเองได้ลงคอเชียวหรือที่รัก ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือไง หืม?” น้ำเสียงยียวนกระซิบแหบพร่า มือหนากอดกระชับร่างแน่งน้อย “คุณไม่ใช่สามีฉัน อย่ามาพูดจาพล่อยๆ นะ ปล่อยเดี๋ยวนี้” เพียงฟ้าดิ้นเร่า “จะไม่ใช่ได้ยังไงในเมื่อเราเป็นคนๆ เดียวกันแล้ว” “ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงที่คุณหิ้วขึ้นเตียงก็คงต้องกลายเป็นเมียคุณทุกคน ฉันไม่มีวันยอมรับผู้ชายส่ำส่อนใจบาปอย่างคุณเป็นสามีเด็ดขาด ปล่อยนะ!” แม้สถานภาพจะเป็นรองทว่าความรั้นของแม่เสือสาวกลับไม่ยอมอ่อนข้อให้ง่ายๆ โทมัสยิ้มกว้าง นี่แหละ… เพียงฟ้าผู้หญิงที่เขาหลงใหล “ผมไม่นับใครเป็นเมียทั้งนั้นนอกจากคุณคนเดียวเพียงฟ้า คุณคือเมียของผม” ไม่พูดเปล่า มือหนายังกอบกุมเต้างามอย่างถือสิทธิ์ เพียงฟ้าสะดุ้งสุดตัว “ไอ้สารเลว! อย่ามาแตะตัวฉัน!” เสียงหวานกรีดร้องพยายามดิ้นจนหลุดจากพันธนาการในที่สุด ร่างบางรีบวิ่งไปอีกมุมหนึ่งของห้อง เนื้อตัวสั่นเทิ้มน่าสงสาร โทมัสใจอ่อนยามเห็นดวงตากลมโตมีน้ำใสๆ เอ่อคลอ เขาสาวเท้าเข้าไปใกล้พลางยื่นมือออกไปตรงหน้า หมายจะกอดปลอบประโลมร่างบาง “คุณฟ้าอย่ากลัวผมเลย” น้ำเสียงของเขาอ่อนลง หญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ผมไม่ทำร้ายคุณ ผมสัญญา” เขาแค่ต้องการพูดคุยกับเธอดีๆ อยากปรับความเข้าใจกับเธอเท่านั้น แต่ทว่า… “ไม่! คนอย่างแกน่ะหรือจะไม่ทำร้าย ฉันเกลียดแก! ไสหัวไปให้พ้น!!!” แววตาเสื้อหนุ่มวาวโรจน์อีกครั้ง สรรพนามที่หล่อนใช้เรียกตัวนั้นหยาบคายเกินรับได้ โทมัสตรงเข้าไปกระชากเอวเล็กคอดจนลอยเหนือพื้น จับคนจอมพยศทุ่มลงบนเตียงกว้างแล้วตามทาบทับทันที “ปล่อยนะ! ปล่อย!” มือเล็กระดมทุบตีอกแกร่งไม่ยั้ง โทมัสรวบความน่ารำคานไปไว้เหนือศีรษะ “หยุดบ้าสักที!!!” เสียงเข้มตะคอกใส่ “ผมไม่ได้ตามหาคุณเพื่อให้คุณมาทุบตีผมแบบนี้นะเพียงฟ้า” “ปล่อยนะไอ้ฝรั่งบ้า ไม่รู้จะตามมาทำไม ปล่อย!” เสียงหวานตะโกนก้อง มือเรียวจิกข่วนใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย “ก็มาตามเมียที่ริอาจหนีไปคบผู้ชายคนอื่นไง” ชายหนุ่มไม่ยอมแพ้ แม้ต้องเจ็บตัวจากเล็บอันแหลมคมของแม่เสือสาวก็ตาม “ใครเป็นเมียคุณ อย่ามาพูดพล่อยๆ นะ ฉันไม่ใช่…” คนตัวเล็กปฏิเสธ เกลียดนักผู้ชายหน้าด้านไร้ยางอาย ผู้หญิงเขาไล่แล้วยังไม่ไปอีก “คุณเป็นเมียผมเพียงฟ้า หรือต้องให้ผมล่ามโซ่คุณไว้แล้วกระทำย้ำๆ เพื่อเตือนสติว่าคุณเป็นเมียผม!!!” ไม่พูดเปล่าแต่เขาทำจริงดั่งปากว่า มือหนากระชากข้อเท้าเล็กแล้วพันธนาการเจ้าหล่อนด้วยโซ่ตรวนขนาดใหญ่ ดวงตาวงรีเบิกกว้าง “ไอ้บ้าโทมัส ไอ้คนบ้า โอ๊ย! ทำบ้าอะไรเนี่ย ฉันเจ็บนะ” “ก็ต้องการให้เจ็บไง!” เสียงเข้มตะคอก แววตาวาวโรจน์ “คนอย่างไอ้โทมัสเสียทองท่วมหัวแต่ไม่ยอมเสียเมียให้ใครเด็ดขาด แล้วถ้าไอ้เวรหน้าไหนกล้าแย่ง พ่อจะยิงให้ไส้แตกเลยคอยดู!!!” วาจาประกาศิตที่คนฟังสะท้านไปทั้งทรวง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD