บทที่ 1.3 - เรื่องวุ่นวายที่อยากลืม (ตราบาปที่อยากลืม) (จบตอน)

1291 Words
“ตกลงคุณหนูจะอยู่ที่นี่จริงๆ หรือคะ?” จิตใจเอ่ยถามร่างบางที่กำลังจัดเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ บ้านหลังนี้ก็ไม่ใช่คับแคบอะไร แต่ถ้าเทียบกับคฤหาสน์หรูที่กรุงเทพฯ ก็ต้องยอมรับว่าห่างชั้นกันหลายขุม ดีที่เพียงฟ้าไม่ใช่คนติดหรู หญิงสาวบุกน้ำลุยไฟได้ทุกที่ “จริงสิคะป้าจิต ฟ้าเซ็นสัญญาเช่าเรียบร้อยแล้วด้วย” เสียงหวานตอบพลางอมยิ้ม “สัญญาเช่านานแค่ไหนคะ?” “หกเดือนค่ะป้าจิต ครบกำหนดเมื่อไหร่เจ้าของบ้านจะเข้ามาทำสัญญาอีกที” หญิงสาวเลือกบ้านที่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร เน้นอยู่กับธรรมชาติและสายลม ชีวิตของเธอเคร่งเครียดแล้วก็วุ่นวายมามากพอแล้ว ตอนนี้อยากได้บรรยกาศร่มรื่นมาทดแทนพลังงานที่สูญเสียตลอดระยะเวลาหลายปี “ป้าเป็นห่วงนะคะ เป็นผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียวแบบนี้” จิตใจกังวล เพียงฟ้าหยุดจัดของแล้วหันมาคุยกับป้านมที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เล็ก “ป้าจิตขา… แถวนี้ก็ไม่ได้มีแค่บ้านฟ้าบ้านเดียวเสียหน่อย หลังอื่นก็อยู่กันเยอะแยะ อีกอย่างฟ้าเช็คมาดีแล้ว แถวนี้ไม่เคยมีประวัติไม่ดีค่ะ ผู้คนที่นี่เป็นมิตรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ป้าจิตหายห่วงได้” เพียงฟ้าร่ายยาวเพราะต้องการให้จิตใจคลายกังวล เธอไม่อยากให้ป้านมตีตนไปก่อนไข้จนเอาข้อมูลผิดเพี้ยนไปบอกอาสาวที่เป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ เดี๋ยวท่านจะพาลห่วงจนไม่เป็นอันทำการงานพอดี “คุณหนูก็พูดแต่เรื่องดีๆ ไปเรื่อย” จิตใจรู้ทัน ร่างบางหัวเราะร่วน “แล้วทำไมจะต้องพูดเรื่องไม่ดีด้วยล่ะคะ ป้าจิตสอนฟ้าเองว่าคนเราต้องพูดต้องทำแต่สิ่งดีๆ ไหงตอนนี้เปลี่ยนไปล่ะคะ” “ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปทั้งนั้นแหละค่ะ จะมีก็แต่คุณหนูนั่นแหละที่เปลี่ยน” ได้ทีจิตใจจึงขอเข้าเรื่องที่ตนค้างคามานาน “ฟ้าเปลี่ยนไปตรงไหนคะ หรือว่าฟ้าอ้วนขึ้นคะ?” เพียงฟ้าแสร้งตกใจ หล่อนรู้ความหมายลึกซึ้งที่จิตใจต้องการจะสื่อ “ป้าถามจริงๆ เถอะค่ะ คุณหนูมีเรื่องอะไรปิดบังอยู่หรือเปล่า?” ความที่เป็นห่วงจิตใจจึงไม่อาจกักเก็บความสงสัยไว้กับตัวได้ หลายเดือนมานี้คุณหนูของเธอทำตัวแปลกไป จากเมื่อก่อนที่ยิ้มแย้มหยอกเย้ากลายเป็นหน้าเครียด บางวันก็เห็นแอบร้องไห้คนเดียวที่สวนหลังบ้านบ่อยๆ ครั้นจะปรี่เข้าไปถามก็กลัวจะเป็นการเสียมารยาท เพราะคิดว่าเพียงฟ้าอาจจะเครียดเรื่องงาน แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วคนอย่างหญิงสาวไม่เคยเอาเรื่องงานมาสุมหัวจนพาลให้ชีวิตไม่เป็นสุข จิตใจเลี้ยงเพียงฟ้ามาตั้งแต่เกิด ย่อมรู้จักนิสัยใจคออีกฝ่ายดี เผลอๆ จะรู้มากกว่าตัวเจ้าของเสียอีก! “ฟ้าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย แค่เบื่อๆ น่ะค่ะ” สาวเจ้าพูดแล้วยิ้มอวดฟันขาว โผเข้ากอดร่างท้วมของจิตใจ “ป้าจิตคงคิดว่าฟ้าบ้าใช่ไหมคะ ครึ่งค่อนปีที่ฟ้าอยู่ที่อังกฤษ แต่จู่ๆ ก็รีบบินกลับไทยแถมยังมาอยู่ที่นี่อีก” เพียงฟ้าพยายามพูดเสียงสดใสเพื่อให้หญิงชราเห็นว่าตนไร้ความทุกข์ “เครียดเรื่องอะไรอยู่ก็บอกป้าได้นะคะ ป้าพร้อมรับฟังคุณหนูทุกเรื่อง” จิตใจไม่เชื่อ ดูยังไงก็รู้ว่าคนตรงหน้าโกหก “ป้าจิตขา… ฟ้าน่ะทั้งสวยทั้งเก่งจะมีเรื่องเครียดไปทำไมคะ จริงไหม?” เพียงฟ้าเงยหน้ามองจิตใจ เห็นแววตาไม่คลายกังวลก็นึกอยากแกล้ง “แต่ถ้าป้าจิตยังระแวงอยู่แบบนี้ฟ้าก็เริ่มจะเครียดจริงๆ แล้วนะคะ” สาวเจ้าแสร้งว่า อยากให้จิตใจปล่อยวางเรื่องของตนมากกว่า “คุณหนูนี่น้า…” จิตใจกอดกระชับร่างบางแล้วหอมศีรษะทุยได้รูป เพียงฟ้ารักจิตใจเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ป้านมคนนี้เปรียบเสมือนแม่คนที่สองก็ว่าได้ ทั้งรักและดูแลเธอราวกับไข่ในหิน จนบางครั้งเจ้าหล่อนยังรู้สึกผูกพันกับจิตใจมากกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ด้วยซ้ำ รายนั้นเอาแต่ทำงานข้ามทวีปไปมา สำหรับท่านทั้งสองเพียงฟ้าคือลูกที่มีไว้เพื่อขับเคลื่อนทางธุรกิจเท่านั้น พอนึกถึงพ่อกับแม่หัวใจของเธอพลันปวดหนึบ วินาทีที่ทราบข่าวว่าพวกท่านประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกค่ำที่เยอรมันระหว่างบินไปคุยงานนั้นฝังลึกอยู่ในความทรงจำ ช่วงเวลานั้นเพียงฟ้าเพิ่งเรียนจบและเริ่มทำงานในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ หล่อนกำลังไปได้สวยกับหน้าที่การงาน หวังแสดงความสามารถให้บิดามารดาเห็นว่าลูกสาวที่พวกเขาหมายมั่นปั้นมือเก่งกาจเพียงใด หากทุกอย่างกลับสายเกินแก้… พวกท่านจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ทิ้งภาระหน้าที่แสนยิ่งใหญ่พร้อมกับความรู้สึกผิดที่เธอยังไม่มีโอกาสได้ดูแลตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ “เย็นแล้วเราออกไปหาอะไรกินกันเถอะ มาภาคเหนือทั้งทีก็ต้องกินอาหารเหนือค่ะ ไปๆ” เพียงฟ้าคว้ากระเป๋าผ้ามาสะพาย จิตใจมองพลางทำหน้างง “ไม่ใช่ของแบรนด์แล้วหรือคะ?” “แหมป้า… มาอยู่บ้านเหนือบ้านดอยจะให้ถือให้ใช้ของแบรนด์ไปทำไมล่ะคะ ฟ้าอยากเปลี่ยนสใตล์กับเขาบ้าง เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็โอเคอยู่นะ” เพียงฟ้ายิ้มขัน ความจริงหล่อนปรารถนาอยากแต่งกายสบายๆ แบบนี้มาตั้งนานแล้ว ทว่าชีวิตที่ดำรงค์ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ส่งออกผลไม้กระป๋องระดับประเทศจึงไม่อาจทำเช่นนั้นได้ สังคมชั้นสูงที่เธออยู่ล้วนแล้วแต่ใส่หน้ากากเข้าหากัน ยิ้มแย้มทักทายแต่ใช่จะจริงใจเสียเมื่อไหร่ บรรดาไฮโซต่างอวดความมั่งคั่งผ่านเสื้อผ้าเครื่องประดับราคาแพง ไม่เห็นจะมีใครสนใจเนื้อแท้ของสันดานจริงๆ เลยสักคน ต่างเข้าตำรา มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่ “คุณหนูของป้าใส่อะไรก็สวยค่ะ” จิตใจชมเปราะ เพียงฟ้าเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยระดับนางเอกแถวหน้าของวงการ ทรวดทรงองค์เอวก็งดงามชวนมอง ย่างกรายไปที่ใดก็ดึงดูดสายตาผู้คนให้จับจ้องได้ไม่ยาก ผิวพรรณเนื้อนวลก็เปล่งประกายดุจไข่มุกแห่งท้องทะเลอันดามัน กลิ่นกายหอมสดชื่นชวนให้หลงใหล จึงไม่แปลกที่หล่อนจะติดท็อปเซเลบสาวที่มีรูปโฉมงดงามเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย “ชมกันแบบนี้อยากกินอะไรสั่งเต็มที่เลยนะคะคุณจิตใจ เดี๋ยวป๋าเลี้ยงเอง!” เพียงฟ้าหยอกเย้า ทั้งสองหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข จิตใจลืมเรื่องที่ถามร่างบางไปก่อนหน้านี้จนหมดสิ้น เชื่อสนิทใจว่าคุณหนูไม่เป็นอะไร เพียงฟ้าทำได้ดีเกินคาด หล่อนเก็บความทุกข์ระทมไว้ข้างใน ขนาดเรื่องผ่านมาจวนจะครบหนึ่งปีแล้วแต่ทำไมหัวใจยังรวดร้าวทุกครั้งยามนึกถึง สัมผัสจากผู้ชายคนนั้นยังคงชัดเจนราวกับทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้น ตราบาปที่เขาทิ้งไว้กัดกินความสุขในชีวิตจนหมดสิ้น ทุกค่ำคืนยังคงฝันร้าย ฝันเห็นความพ่ายแพ้ที่ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจแห่งราคะ ผู้ชายสารเลวคนนั้นกักขังหล่อนด้วยไฟเสน่ห์หา แม้ตัวห่างไกลแต่ทำไมยังรู้สึกเหมือนถูกเขาฉุดกระชากให้อยู่ภายใต้อาณัติตลอดเวลา ‘โทมัส ฉันเกลียดคุณ!’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD