ตอนที่2.ลูกชังของแม่

1845 Words
เรื่อง:(ปฐมบท)พี่สาวคนสวยกับแฟนType หมาเด็ก ตอนที่.2 ลูกชังของแม่ โดย.Srikarin2489 “ทำอะไรกัน” นภัสสรเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ เห็นสามีกับลูกชายคนเล็กเล่นกันอยู่บนเตียง กฤษณะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาพร้อมทั้งหัวเราะร่วนถูกพ่อแกล้งจี้ตามตัว กฤษณะหยุดหัวเราะทันทีเข้ากอดแล้วซุกหน้ากับอกพ่อ ดวงตาหลังแว่นเหลือบมองแม่ด้วยท่าทางกริ่งเกรง “ดึกแล้วทำไมไม่กลับไปนอนห้องตัวเองเจ้านะ” กฤษณะหลบตาแม่ กับน้ำเสียงแข็งไม่พอใจที่ขยับมายืนชิดเตียง มองลูกชายคนเล็กด้วยแววตาขุ่นเคืองปนรำคาญ “ดุลูกทำไมภัส พรุ่งนี้วันหยุดไม่ต้องไปโรงเรียน ให้ลูกนอนดึกหน่อยก็ได้” กฤตกอดร่างลูกชายคนเล็กไว้ ทำเสียงติงภรรยา “ก็เป็นซะอย่างนี้ เวลาภัสดุสอนลูกคุณคอยขัดคอยโอ๋ ลูกมันจะรู้สำนึกได้ ยังไงมีพ่อคอยเข้าข้าง อีกหน่อยเจ้านะคงได้เสียคน” “เหลวไหล” กฤตขัดเสียงห้าวไม่ชอบใจ เห็นลูกกลัวแม่จนดูออก ไม่ว่าจะ ทำอะไรไม่เคยถูกใจแม่เลย เอาแต่ดุคอยบ่นว่าจนกฤตสงสารลูกชายคนเล็ก ตัวเองจึง พยายามจะชดเชยให้ลูกคอยดูแลคอยเล่นด้วยเมื่อพอมีเวลา “นะ...กลับห้องนะลูก พ่อจะพาไปนอน” นภัสสรตวัดสายตาหงุดหงิดรำคาญ มองหน้าลูกชายคนเล็กที่ถูกพ่ออุ้มขึ้นจะพากลับห้อง กฤษณะกอดคอพ่อไว้ซุกหน้ากับไหล่ไม่กล้ามองหน้าแม่ รู้ว่าตัวเองไม่เป็นที่ชอบใจของแม่มักถูกบ่นถูกดุเป็นประจำจน ทำตัวไม่ถูก ว่าจะทำยังไงแม่ถึงจะพอใจ กฤตกลับมาที่ห้องนอนอีกครั้ง เห็นภรรยากำลังนั่งทาครีมบำรุงผิวก่อนนอนอยู่ที่เก้าอี้สตูลหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง บนโต๊ะเครื่องแป้งหน้ากระจกเต็มไปด้วยเครื่องสำอางต่าง ๆ จัดวางเต็มไปหมด จนบางครั้งกฤตนึกสงสัยว่าเครื่องสำอางมากมายแบบนี้ภรรยาใช้ยังไงหมด แต่เข้าใจได้ว่าผู้หญิงกับเรื่องความสวยความงามเป็นของคู่กัน “คุณคอยรักคอยโอ๋เจ้านะเกินไป อีกหน่อยคงดื้อด้านเอาไม่อยู่” “ทีคุณรักโอ๋ตามใจเจ้าดลสารพัด ผมยังไม่เคยว่าไม่เคยขัด” “คุณจะเริ่มเรื่องนี้อีกใช่มั้ยกฤต” นภัสสรว่าเสียงแข็ง วางกระปุกเครื่องสำอางแรงแทบเป็นกระแทก แล้วหันมาหาสามีที่นั่งลงบนเตียง “อย่าลืมนะว่า ภัสไม่ได้อยากมีเจ้านะ คุณกดดันภัสให้ยอมมีลูกอีกคน คุณ เคยพูดเองนะว่าคุณจะดูแลเขาเอง ภัสยอมลำบากอุ้มท้องให้คุณแล้วไง” “พอเถ่อะ...ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก” กฤตว่าเสียงห้าว นัยน์ตาเข้มเครียด รู้ว่า นภัสสรไม่รักลูกชายคนเล็กเลย เพราะถูกกดดันให้มีลูกเพิ่มอีกคน ทั้งที่ตั้งใจว่าจะมี ลูกแค่คนเดียว นภัสสรจึงมีความรักทุ่มเทให้แต่กับลูกชายคนโตเท่านั้น โดยที่ไม่สนใจ ลูกชายคนเล็ก เป็นเรื่องที่ทำให้สองสามีภรรยามีปัญหากันบ่อยเรื่องลูก “เดี๋ยวค่ะกฤต” นภัสสรร้องบอกก่อน เมื่อเห็นสามีทำท่าจะล้มตัวลงนอน “ถ้าจะพูดเรื่องลูกพอเลย ผมเหนื่อยอยากพัก” กฤตบอกขัดเสียงแข็งเต็ม ไปด้วยความหงุดหงิด แต่เจ้าตัวพยายามระงับอารมณ์ตัวเองไว้ “ไม่ใช่เรื่องลูกหรอกค่ะ ภัสคิดว่าครอบครัวเราควรจะย้ายไปอยู่บ้านคุณพ่อ ของคุณ” กฤตหันไปทางภรรยา คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันแววตาแปลกใจปนสงสัย เมื่อมองสบตาภรรยา “ย้ายไปอยู่บ้านพ่อผม” กฤตทวนคำเหมือนไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินผิดไปหรือเปล่า “ทำไมอยู่ ๆ อยากย้ายไปอยู่บ้านพ่อผม ทั้งที่ผมชวนคุณหลายครั้งแล้ว คุณไม่ยอมไป” กฤตมองหน้าภรรยา ที่กำลังลุกจากเก้าอี้สตูลโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเดินมา นั่งบนเตียงริมฝีปากแย้มยิ้ม กฤตรับรู้ได้ถึงเหตุไม่ชอบมาพากลถึงทำให้ภรรยาคิดจะย้ายไปอยู่บ้านบิดาของเขา ทั้งที่เขาพยายามชวนมาหลายครั้งแล้ว เป็นห่วงบิดาว่า อยู่บนเดียว กับคนทำงานบ้านอีกไม่กี่คน แต่ที่ผ่านมานภัสสรไม่ยอมไป “คุณพ่อคุณท่านอายุเริ่มมากแล้ว ภัสเป็นห่วงท่าน” “เอาความจริง” กฤตบอกเสียงแข็ง รู้นิสัยภรรยาดีคนอย่างนภัสสรที่รักแต่ตัวเองกับลูกชายคนโต ยิ่งกับบิดาของเขาแล้วนภัสสรไม่เคยห่วงใยหรือสนใจ จะให้เขาเชื่อได้ยังไงว่าอยากไปอยู่เพราะเป็นห่วงบิดาของเขาจริง ๆ “คุณไม่เคยสนใจห่วงใยคุณพ่อของผม ตอนนี้มาบอกว่าห่วงท่านจะให้ผมเชื่องั้นเหรอ” “ก็ได้” นภัสสรกระแทกเสียงยอมรับ เมื่อสบตาคาดคั้นเอาความจริงของสามี “ภัสไม่ไว้ใจเมียใหม่ของพ่อคุณ นังเมียใหม่ของคุณพ่อทั้งสาวและสวย ถ้า มันทำให้ท่านรักหลงจนยอมแต่งงานด้วยได้ เรื่องอื่นก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ทรัพย์สมบัติ ต้องเป็นของคุณกับของลูกเราเท่านั้น เราต้องไปอยู่ด้วยคอยดูแลถ้านังนั่นมันคิดไม่ ซื่อ หว่านเสน่ห์ให้คุณพ่อหลง ต่อจากนั้นจะเอาอะไรย่อมได้ทั้งนั้น” “คิดอยู่แล้วเชียว คนอย่างคุณหรือจะเป็นห่วงคุณพ่อ ที่แท้หวงสมบัติกลัว คุณรินเขาจะกอบโกยเอานี่เอง” นภัสสรเม้มปากเข้าหากัน แววตาขุ่นเคืองไม่พอใจ ที่ถูกสามีว่าเสียงเย้ยเยาะรู้เท่าทัน “หรือคุณไม่ห่วงทรัพย์สมบัติ มันควรจะเป็นของคุณกับลูกเราเท่านั้น” นภัสสรกระแทกเสียงแข็ง แววตาขัดเคืองใจไม่พอใจที่เห็นสามีไม่ใส่ใจเรื่องนี้ “มันมาทีหลัง จะมาหยิบฉวยกอบโกยง่าย ๆ ภัสไม่ยอมหรอก อย่าลืมนะว่าคุณพ่อยังไม่ได้ทำพินัยกรรมอะไรย่อมเกิดขึ้นได้ เราต้องตัดไฟแต้ต้นลม ไปอยู่ที่นั่นเพื่อไม่ให้นังนั่นมันทำอะไรได้สะดวก มันจะพาแม่กับน้องสาวมันเข้าไปอยู่ด้วย หอบกันมาทั้งโครตเหง้าเลย” “ผมขอเตือนคุณเรื่องหนึ่งนะภัส ต่อหน้าคุณพ่อคุณจะเรียกจิกหัวคุณรินแบบนี้ไม่ได้ ตอนนี้เขาเป็นภรรยาของคุณพ่อแล้ว รู้จักให้เกียรติคนอื่นบ้าง” นภัสสรเบะปากเมื่อนึกถึงภรรยาใหม่ของบิดาสามี ที่ยังสาวและสวยมากจนนภัสสรริษยาและไม่ไว้ใจ แม้ตัวเองจัดว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งเช่นกัน แต่ความสาวความสดใสสู้รสรินไม่ได้ จึงไม่เชื่อว่าคนที่ยังสาวแบบนั้น จะรักคนแก่รุ่นพ่ออย่างจริงใจ นอกจากมีเจตนาแอบแฝงคงไม่พ้นเรื่องทรัพย์สมบัติ “คุณเองต้องคอยดูแลคุณพ่อให้ดี คุณเป็นลูกคนเดียวทรัพย์สมบัติทุกอย่าง ต้องเป็นของคุณกับลูกเราเท่านั้น นังนั่นมันมาทีหลังจะปล่อยให้มันมาชุบมือเปิบไม่ ได้ เราถึงต้องกลับไปอยู่บ้านพ่อคุณ กฤต...คุณยังไม่ได้บอกภัสเลยว่าจะเอายังไง” นภัสสรทำเสียงโวยวายว่า เมื่อเห็นสามีล้มตัวลงนอนแล้วหันหลังให้ “ผมเคยขัดคุณได้เหรอ” ว่าเสียงแข็งปนรำคาญโดยไม่หันมาหา ไม่เห็นว่าฝ่ายภรรยายิ้มนิดด้วยแววตาพอใจ “เราจะย้ายไปวันไหนดี ว่าไงคะกฤต” นภัสสรโน้มตัวเอาปลายคางวางเกย ไหล่สามียิ้มแย้มประจบ “ผมต้องคุยกับคุณพ่อก่อน ไม่ใช่อยากย้ายก็ย้าย” “คุณว่างวันไหน เราไปเลือกเฟอร์นิเจอร์กันนะ จะได้สั่งของไปแต่งห้องให้ ลูกดลใหม่ด้วย ภัสจะถามลูกก่อนว่าเขาอยากได้อะไรเพิ่ม” “ช่วงนี้งานผมยุ่งไม่ค่อยมีเวลา คุณอยากได้อะไรไปดูเอา” นภัสสรหน้าตึง ขึ้นมาทันที ขัดใจที่สามีบอกตัดบทแล้วหลับตาลง บ่งบอกให้รู้ว่าจะนอนแล้ว “รินรู้ว่าแม่กับนันไม่อยากเข้าไปอยู่ในตึกใหญ่ คุณกิตติเลยสร้างตึกเล็ก เพื่อให้แม่กับนันได้อยู่เป็นสัดส่วน” รสนันท์มองดูบ้านหลังเล็กทรงโมเดิร์น เพิ่งสร้างเสร็จจึงยังดูใหม่เอี่ยมสวย งาม อยู่ในเฉดสีเทากับน้ำตาล เป็นบ้านยกพื้นสูงประมาณ65 ซม ประตูด้านหน้าเป็นกระจกอะลูมิเนียมแบบเลื่อนเอา สีใสปนเขียวจาง ๆ มองดูทันสมัย “มีสองห้องนอนแม่กับนันอยู่ได้สบายเลย” รสรินอธิบายนำเสนอด้วยใบ หน้ายิ้มแย้ม “มีระเบียงข้างหน้าไว้นั่งเล่น ที่พิเศษกว่านั้นคือห้องครัว รินให้เขาทำเป็น พิเศษเพื่อแม่จะได้ใช้งานเต็มที่ ถึงแม่จะไม่ต้องทำอาหารขายแล้ว แต่รินรู้ว่าแม่คงไม่ ชอบอยู่เฉย ๆ แม่จะได้ทำอาหารทำขนมได้สะดวก มีเตาอบขนมด้วยนะแม่” “มันสิ้นเปลืองไปหรือเปล่าลูก” รจนามองดูตัวบ้านแล้วรู้สึกว่ามันดูหรูหรากินไปสำหรับตัวเอง ที่ผ่านมาเคยอยู่แต่ห้องเช่าไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง ทั้งเช่าเป็นที่อยู่อาศัยและชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายข้าวราดแกง แต่ยอมรับว่าบ้านออกแบบได้สวยทันสมัยน่าอยู่ “เกรงใจคุณกิตติเขา” “คุณกิตติเขาตั้งใจทำให้ แม่กับนันจะได้อยู่สบาย รอบ ๆ มีพื้นที่ให้ปลูก ดอกไม้ต้นไม้ได้ถ้าอยากปลูกอะไรเพิ่มเติม ค่อยไปหาซื้อมาปลูก ต่อไปแม่จะได้ไม่ต้องลำบากตื่นแต่เที่ยงคืนออกไปหาซื้อของมาทำขาย ว่าไงนันชอบมั้ย” รสรินหันไปถามน้องสาวเห็นยืนกอดอกมองบ้านและพื้นที่รอบ ๆ ค่อนข้างร่มรื่นน่าอยู่มีทั้งต้นไม้ใหญ่และไม้ทรงพุ่ม มองดูก็รู้ว่าเป็นการสั่งต้นไม้ต้นใหญ่แล้วมาลงปลูก เป็นวิถีของคนมีเงินไม่ต้องเสียเวลารอให้ต้นไม้โตเอง อยากได้ต้นไม้อะไรโตแค่ไหนสั่งมาลงได้เลย เงินเนรมิตได้ทุกอย่าง “สวยดี” “เข้าไปดูข้างในกัน” รสรินบอกแล้วขยับจะเดินนำแม่กับน้องสาวเข้าไปใน ตัวบ้าน “ตอนเราเข้ามา แม่เห็นรถขนของขนเฟอร์นิเจอร์มาลง คุณกิตติซื้อมาแต่ง บ้านหรือริน” “เปล่าจ้ะแม่ ครอบครัวคุณกฤตจะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ คุณภัสภรรยาของ คุณกฤตเขาสั่งของมาแต่งห้อง คุณกิตติบอกว่าต่อไปบ้านไม่เหงาแล้ว ที่ผ่านมาคุณ กิตติเขาอยู่คนเดียว กับคนทำงานบ้านอีกไม่กี่คน แต่ตอนนี้จะมีมาเพิ่มอีกหลายคน ครอบครัวคุณกฤตก็สี่คนแล้ว แม่กับนันอีกสองคน” รสรินเล่าเสียงเรื่อย ๆ ขณะเดินนำ แม่กับน้องสาวเข้าไปในบ้าน “ลูกชายคุณกิตติมาอยู่ที่นี่ด้วยใช่มั้ยพี่ริน” “ใช่” รสนันท์ยิ้มนิด เมื่อนึกถึงเด็กร่างผอมบางท่าทางขี้โรค สวมแว่นสายตาตั้งแต่เด็ก เจอกันวันแต่งงานของพี่สาวกับคุณกิตติเธอจำได้แม่น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD