เรื่อง:(ปฐมบท)พี่สาวคนสวยกับแฟน Typeหมาเด็ก
ตอนที่.6 เด็กแว่นที่แม่ไม่รัก
โดย:Srikarin2489
เสียงเหมือนมีเด็กทะเลาะกันดังลั่น มาจากทางด้านข้างของตึกหลังใหญ่ทำให้รสนันท์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ระเบียงหน้าบ้านหลังเล็ก วางหนังสือลงแล้วหันไปชะเง้อคอดู คิ้วเรียวเข้มขมวดนิดแปลกใจที่มีเสียงเด็กทะเลาะกัน
“เด็กที่ไหนมาทะเลาะกัน”
รสนันท์พึมพำ รีบลงจากระเบียงแล้วเดินเร็วไปทางที่มาของเสียง พอไปถึงระเบียงนั่งเล่นของตึกหลังใหญ่ เห็นภาพเด็กสองคนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงชกต่อยกันอยู่ โดยมีคนทำงานบ้านสองคน ยืนดูทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะเข้าไปห้ามยังไง
“หยุดนะ...หยุด”
รสนันท์ร้องห้ามเสียงดัง รีบพุ่งร่างเข้าไปจะแยกทั้งสองออกจากกัน เมื่อเห็นกฤษณะตัวเล็กกว่าเพลี่ยงพล้ำ ถูกพี่ชายทั้งทุบทั้งต่อยแต่ใจสู้ตอบโต้ไม่ยอมถอยถูกต่อยจนแว่นหลุดกระเด็นออกจากหน้า
“บอกให้หยุด”
รสนันท์เข้าไปดึงนภดลออกจากร่างน้องชาย แต่นภดลกำลังโมโหเดือดถูกน้องชายสู้กลับเป็นครั้งแรก จึงพุ่งกลับมาจะทำร้ายน้องชายอีก รสนันท์คว้าเอวร่างผอมบางของกฤษณะแล้วยกขึ้น เบี่ยงตัวหลบพ้นจากหมัดของนภดลหวุดหวิด ท่าม
กลางเสียงร้องใจหายใจคว่ำของคนทำงานบ้าน เกิดเหตุชุลมุนชุลเกจนไม่รู้จะทำยังไง
“หยุดนะคุณดล...ถ้าไม่หยุดได้เจอดีแน่”
นภดลทำท่าจะเข้ามาทำร้ายน้องชายที่ถูกรสนันท์อุ้มไว้ ถึงกับชะงักเบรกร่างตัวเองเมื่อถูกรสนันท์ร้องสั่งเสียงกร้าวตาวาววับดุเอาจริง รสนันท์เป็นคนถ้านิ่งแล้วจะดูดุ พอดุเอาจริงทำให้นภดลไม่กล้า
“แกมายุ่งอะไรด้วย ฉันจะสั่งสอนมันที่มันมาทำร้ายฉันก่อน” นภดลกำหมัดแน่นดวงตาวาววับจ้องน้องชายเขม็ง ทั้งที่มีอาการหายใจหอบเล็กน้อยร้องว่าเสียงเข้มดัง หน้าตาบูดบึ้งถึงจะไม่ถูกหมัดของน้องชายนัก แต่โมโหที่น้องสู้ไม่ยอมเหมือนที่ผ่านมา
“คุณเป็นพี่นะ มาทำร้ายน้องได้ยังไง น้องตัวเล็กกว่าคุณตั้งเยอะ”
“ใครบอกให้มันมาทำฉันก่อน” นภดลร้องตอบโต้หน้าบึ้งตึง
“ไอ้ดล...แกเหยียบรถฉันทำไม”
กฤษณะถูกรสนันท์อุ้มไว้ร้องว่าปนสะอื้น น้ำตาไหลพรากด้วยความแค้นใจ รู้ดีว่าถูกพี่ชายตั้งใจแกล้ง
“ฉันจะฟ้องคุณพ่อ”
“เชิญไปฟ้องเลย ไอ้ลูกแหง่ติดพ่อ” นภดลลอยหน้าลอยตายิ้มยั่วบอกเสียงเย้ยเยาะ แล้วเดินออกไปจากระเบียงนั่งเล่น
“ไอ้ดล...ไอ้เลว”
กฤษณะร้องเสียงดังราวจะคลุ้มคลั่งแค้นใจ ทั้งที่น้ำตายังไหลอาบแก้ม พอถูกรสนันท์วางร่างลงพื้น รีบเข้าไปดูรถแข่งที่อยู่ในสภาพแตกหักไม่เหลือสภาพดี หยิบชิ้น ส่วนรถขึ้นมาดูด้วยความเสียใจเสียดาย ภาพนั้นทำให้รสนันท์มองดูอย่างเวทนา
“คุณพ่อคุณแม่พวกเขาไปไหน ถึงปล่อยให้ลูกชกต่อยกัน” รสนันท์หันไปถาม
คนทำงานบ้านวัยสาวสองคน ที่ยังยืนอยู่เหมือนไม่รู้จะทำยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ไม่มีใครอยู่เลยค่ะ”
“ไปทำงานเถ่อะ เดี๋ยวฉันดูแลคุณนะเอง” คนทำงานบ้านพยักหน้ารับแล้วถอย
ออกไป
“คุณนะ...” น้ำเสียงของรสนันท์เต็มไปด้วยอ่อนโยนเข้าไปนั่งลงใกล้ ร่างผอมบางที่ยังสะอื้นไห้ดูซากรถของตัวเองด้วยความเสียใจ
“พังหมดเลย ไอ้ดลมันแกล้งผม” บอกปนสะอื้น
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันพังแล้วซื้อคันใหม่มาต่ออีกก็ได้”
“ไม่เอาแล้ว ไม่ต่ออีกแล้ว” กฤษณะเหวี่ยงซากรถทิ้งแล้วสะอื้นไห้ น้ำตา
ไหลพรากเปียกชุ่มสองแก้ม
“ไม่ต่อก็ไม่ต่อ” รสนันท์ดึงร่างผอมบางเข้ามากอดไว้ปลอบโยน กฤษณะยังคงสะอื้นไห้อยู่กับอกของพี่สาวคนสวย รสนันท์ก้มมองร่างผอมบางในอ้อมแขนแววตาเวทนาสงสาร ได้แต่กอดปลอบประโลม
“ยกแขนขึ้นกอดอก...แกต้องได้รับการลงโทษ ที่แกล้งน้องแล้วยังต่อยน้อง” กฤตถือไม้เรียวอยู่ในมือหน้าเครียดเข้ม ร้องสั่งลูกชายคนโตเสียงดัง กลับ มาจากทำงานได้รู้เรื่องว่าลูกทั้งสองคนมีเรื่องกันถึงขั้นชกต่อย เป็นเรื่องที่กฤตรับไม่ได้ที่ผ่านมา แม้ทั้งสองจะไม่ค่อยสุงสิงกัน แต่ไม่เคยมีเรื่องถึงขั้นลงไม้ลงมือ
“ผมไม่ผิด”
นภดลร้องโต้เสียงดัง จ้องหน้าพ่อด้วยสีหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ ตาแข็งกร้าวไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด มือสองข้างกำแน่นไม่ยอมยกขึ้นกอดอกตามพ่อสั่ง
“ไอ้นะมันทำผมก่อน”
ชี้มือไปทางน้องชายที่นั่งซุกตัวอยู่ตรงกลางระหว่างคุณปู่กับรสริน ทั้งสองนั่งดูเหตุการณ์เงียบ ๆ ไม่เข้ามาแทรกเมื่อกฤตจะลงโทษลูก
“แกโตกว่าน้องตั้งเยอะ น้องตัวแค่นี้เองลงไม้ลงมือกับน้องได้ยังไง แกต้อง
ได้รับการลงโทษ พ่อบอกให้ยกมือกอดอก”
“ไม่” นภดลถอยหนีไม่ยอมทำตาม
“แกจะลองดีกับพ่อใช่มั้ย” กฤตเข้าไปจับแขนลูกชายคนโตแล้วกระชากดึงเข้ามาหา มือถือไม้เรียวเงื้อขึ้นสูงเตรียมจะฟาด
“หยุดนะคุณกฤต...”
ยังไม่ทันที่กฤตจะฟาดไม้เรียวลงบนร่างลูกชาย มีเสียงตะโกนร้องห้ามเสียงดังมาขัดจังหวะเสียก่อน นภัสสรกลับมาจากข้างนอกพอดีมาทันช่วยลูกชาย ตรงรี่เข้ามาขวางหน้าสามีไว้
“คุณแม่...”
นภดลอาศัยจังหวะที่พ่อหยุดชะงัก สะบัดแขนจนหลุดจากการจับของพ่อแล้วรีบวิ่งไปหลบหลังแม่
“คุณแม่ช่วยผมด้วย คุณพ่อจะตีผม”
“คุณเป็นบ้าอะไร ถึงจะตีลูก” นภัสสรเดินเข้ามาหาสามี น้ำเสียงเกรี้ยวกราด
เดือดดาลที่เห็นลูกรักจะถูกลงโทษ ใบหน้าสะสวยบูดบึ้งจนไม่น่ามอง นภดลเกาะแขน
แม่แจ แววตายิ้มเจ้าเล่ห์แม่มาทันรู้ว่ายังไงก็รอดไม่ถูกลงโทษแน่
“มันทำร้ายน้อง ต่อยน้องจนแก้มช้ำ ทำของเล่นน้องจนพัง มันเป็นพี่แทนที่จะดูแลปกป้องน้อง กลับทำร้ายน้องเสียเอง แกออกมาให้พ่อลงโทษซะดี ๆ ดล” กฤตเข้าไปจะดึงร่างลูกชายคนโตออกมา แต่ถูกนภัสสรผลักร่างออกขวางหน้าไว้
“ถ้าคุณตีลูกดลเราได้เห็นดีกันแน่”
“มันทำผิดต้องสั่งสอนลงโทษ คุณคอยให้ท้ายลูกแบบนี้ อีกหน่อยมันคงไม่เห็นหัวพ่อแม่”
“แค่สอนก็พอทำไมต้องลงไม้ลงมือ คุณถามลูกรักคุณหรือยัง ว่ามันทำอะไร
พี่ถึงได้ทำร้าย” นภัสสรชี้มือไปทางลูกชายคนเล็ก ทำให้กฤษณะหลบตาวูบซุกหน้ากับ
ร่างคุณปู่ คุณกิตติวางมือโอบร่างหลานชายไว้ รู้ว่าหลานกลัวแม่กลัวมากจนลนลาน
“มันเป็นพี่ตัวโตกว่าน้องตั้งเยอะ มันไม่สมควรลงไม้ลงมือกับน้อง”
“ถ้าเจ้านะมันทำตัวดีจริง พี่คงไม่ทำอะไรหรอก คุณมันลำเอียง ในเมื่อคุณรัก
แต่เจ้านะลูกดลทำอะไรผิดไปหมด ภัสจะดูแลปกป้องลูกดลเอง ไปลูกดล...พ่อเขาไม่
รักก็ช่างเขาแม่จะดูแลลูกดลเอง”
กฤตได้แต่ฮึดฮัดแล้วขว้างไม้เรียวในมือทิ้งด้วยความโมโห เมื่อถูกนภัสสรว่าใส่หน้าแล้วจูงแขนลูกชายคนโตออกจากห้องนั่งเล่น ไม่ยอมให้ลงโทษลูก
คุณกิตติถอนใจเบาหันไปสบตากับรสริน ด้วยแววตาเคร่งขรึมเห็นใจลูกชาย เห็นลูกชายเดินมากระแทกตัวลงนั่งบนโซฟาพร้อมเสียงถอนใจแรง คุณกิตติ
ก้มลงกระซิบอะไรเบาข้างหูหลานชาย กฤษณะพยักหน้าเข้าใจแล้วลุกเดินเข้าไปหาพ่อ มือขาวผอมบางเอื้อมไปจับแขนพ่อ แล้วส่งยิ้มให้เหมือนจะปลอบใจ รอยยิ้มใสซื่อ
ของลูกทำให้ความเครียดหงุดหงิดในใจของกฤตคลายตัวลง
“เจ็บมั้ยลูก” วางมือแตะแก้มลูกชายเบา เห็นมีรอยช้ำจาง ๆ
“ไม่เจ็บแล้วครับ” กฤษณะฉีกยิ้มให้พ่ออีก
“ผมรักคุณพ่อ”
“พ่อก็รักนะ รักที่สุดในโลกเลย” กฤษณะยิ้มกว้างแจ่มใสกอดตอบเมื่อ
พ่อก้มมาหอมแก้มแล้วดึงเข้าไปกอด ภาพความรักของพ่อลูกทำให้คุณกิตติกับรสรินพลอยยิ้มไปด้วย
“แล้วพ่อจะซื้อตัวต่อเลโก้ ชุดรถแข่งให้ใหม่นะลูก” กฤตก้มบอกลูกชายที่
ซุกหน้าอยู่กับอก แต่ศีรษะเล็กกลับขยับส่ายไปมา
“ทำไมล่ะ อันเก่ามันพังแล้วพ่อจะซื้อให้ใหม่”
“ผมไม่อยากเล่นแล้วครับ” น้ำเสียงเคร่งขรึมของลูกชายทำให้กฤตนิ่งอึ้ง
“ผมไม่ต่อเลโก้อีกแล้ว” ภาพของรถแข่งถูกพี่ชายเหยียบทำลายจนพังทำให้กฤษณะไม่อยากเล่นอีก
“อยู่ที่นี่ไม่มีเพื่อนเล่น วันหยุดไม่ได้ไปโรงเรียน นะจะเล่นอะไรล่ะ”
“ผมไปเล่นกับพี่นันก็ได้”
“หือ...” คนเป็นพ่ออุทานด้วยสีหน้าแปลกใจ เมื่อเห็นกฤษณะบอกด้วยใบ
หน้ายิ้มสดใสตาเป็นประกาย เอ่ยซื่อพี่สาวคนสวยด้วยความคุ้นเคย
“ไปรู้จักคุ้นเคยกับพี่นันเขาตั้งแต่เมื่อไหร่” ลูกชายยิ้มกริ่มไม่ยอมตอบ
“เขาเจอรู้จักกันตั้งแต่วันงานของฉันกับคุณกิตติ” เมื่อกฤษณะเอาแต่ยิ้มไม่ ยอมบอกพ่อ รสริสจึงบอกแทน
“พี่นันกับคุณยายใจดี มีขนมอร่อยเยอะแยะ”
“อ้อ...มีขนมด้วยนี่เอง” กฤตยิ้มออกมาได้ด้วยความเอ็นดูลูกชาย
“คุณน้อยนี่เขาขยันนะ ทำอะไรก็อร่อยสมกับเคยเป็นแม่ค้า” คุณกิตติเอ่ย
ถึงแม่ยายที่อายุน้อยกว่าด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“ตั้งแต่คุณน้อยกับนันมาอยู่ที่นี่ ทำให้พ่อเจริญอาหารขึ้นเยอะเลย กลับมา
กินขนมเป็นเด็กอีกครั้ง” กฤตยกข้อมือซ้ายมาดูนาฬิกา
“นะพาพ่อไปบ้านพี่นันหน่อย พ่อจะไปขอบคุณเขาที่ช่วยนะ”
“ครับ”
กฤษณะยิ้มกว้างพยักหน้ารับคำทันที ภาพสองพ่อลูกเดินจูงมือกันออกไปพร้อมเสียงคุยของคนเป็นลูกเจื้อยแจ้วสดใส ทำให้คุณกิตติกับรสรินมองตามด้วยรอยยิ้มบาง ๆ