ตอนที่.8 พี่ ๆ คนสวย

1770 Words
เรื่อง:(ปฐมบท)พี่สาวคนสวยกับแฟนTypeหมาเด็ก ตอนที่.8 พี่ ๆ คนสวย โดย:Srikarin2489 ระเบียงหน้าตึกหลังเล็กดูสดใสคึกคัก เสียงดังด้วยกลุ่มเพื่อนสนิทของรสนันท์จำนวนสี่คนมาหาตามนัดหมาย บนโต๊ะเต็มไปด้วยถาดใส่ขนมและแก้วน้ำ หวาน รจนารู้ตัวล่วงหน้าว่าเพื่อนของลูกจะมา จึงเตรียมขนมนมเนยต่างๆไว้ต้อนรับ เป็นที่ถูกใจเพื่อนของลูกมาก ช่วยกันยกถาดขนมมาจัดวาง เสียงพูดคุยหยอกล้อแซวกันเล่นตามประสาเด็กสาว “บ้านน่าอยู่มากเลยนะนัน หลังไม่ใหญ่มาก ฉันว่าขนาดนี้กำลังพอดีอยู่กันสองสามคน หลังใหญ่ไปเหนื่อยดูแลทำความสะอาด” วิสาข์มองดูตัวบ้านหลังเล็ก ของเพื่อนด้วยแววตาสนใจ “คนรวยเขาไม่ทำความสะอาดเองให้เหนื่อยหรอกวิ จ้างคนมาทำให้ไม่ต้องมาอยู่ประจำก็ได้ ใช้เซอร์วิสบริษัทที่เขามีบริการทำความสะอาดบ้าน ทุกอย่างสบายง่ายไปหมดขอแค่มีเงิน” สุจิราหรือสุคุยไปทานขนมไป “ใช่ เงินตอบโจทย์ได้เสมอ” เพื่อนทั้งสี่คือวิหรือวิสาข์ สุ สุจิรา จี จีริกา และอร อรพิมล เพื่อนพยักหน้าเห็นด้วยในเรื่องนี้ “มหาเศรษฐีเขาสร้างบ้านหลังใหญ่ ตัวเองไม่ค่อยได้อยู่ทำแต่งาน สรุปคนอยู่คือคนทำงานบ้าน ดูบ้านพี่เขยของนันสิ หลังใหญ่มากเจ้าของได้อยู่กี่คน” สุจิราชี้มือไปทางตึกหลังใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า ตอนกลางวันของวันธรรมดามีแต่คนทำงานบ้านอยู่ สรุปแล้วเหมือนสร้างบ้านให้คนทำงานบ้านเฝ้าให้ ตัวเองแค่ได้กลับมานอน “แต่เขาก็รวยล่ะนะ” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับอรพิมล “พี่เขยของนัน เป็นเจ้าของบริษัทFMCG (บริษัทผลิตและจำหน่ายสินค้า อุปโภคบริโภคที่ขายได้อย่างรวดเร็วและมีราคาถูก เป็นสินค้าบริโภคในชีวิตประจำวัน มีอายุไม่นานเท่าสินค้าประเภทอื่น) ในบ้านพวกเราแต่ละคน มั่นใจได้เลยว่าต้องมีสินค้าจากบริษัทของพี่เขยนัน อย่างสบู่เหลว น้ำยาซักผ้า โลชั่นอีกหลายอย่าง” “แสดงว่าหาข้อมูลมาจริงใช่ปะ” จีริกาแซวเพื่อน วิสาข์ยิ้มพยักหน้าภูมิใจ ว่าตัวเองหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณกิตติจนรู้ว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไร “อีกปีเดียวพวกเราจะเรียนจบแล้ว นันเขาคงไม่ต้องเหนื่อยหาสมัครงาน บริษัทพี่เขยใหญ่โตคงมีงานให้ทำ ตอนนี้พี่รินเข้าไปทำงานในตำแหน่งผู้บริหารแล้ว ว่าไงนัน จะทำงานบริษัทของพี่เขยมั้ย” วิสาห์หันไปถามเพื่อน “ไว้ถึงตอนนั้นก่อนค่อยคิดอีกที พี่รินยังเหนื่อยเลย ยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับสักเท่าไหร่ พวกเขามองว่าเป็นเด็ก แถมมาด้วยทางลัดกับการเป็นเมียประธานบริษัท ต้องพิสูจน์ตัวอีกเยอะ” “พี่รินเขาเก่งอยู่แล้ว มั่นใจได้ว่าพี่รินจะพิสูจน์ตัวเองได้” รสนันท์กับเพื่อนๆกำลังเพลิดเพลินกับการพูดคุย ทานขนมไปด้วยไม่เห็นร่างเด็กแว่นผอมบาง กำลังเดินเข้ามาใกล้มองดูรสนันท์กับเพื่อน ๆ อย่างสนใจ “เด็ก...เด็กมาจากไหน ที่นี่มีเด็กด้วยหรือนัน” อรพิมลพึ่งส่งขนมคำใหม่เข้าปากหันไปเห็นเด็กแว่นผอมบาง ยืนอยู่ตรงบันไดทางขึ้นบ้าน เป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงมีบันไดทั้งหมดสามขั้น “คุณนะ...” รสนันท์หันไปดูตามสายตาเพื่อนเห็นกฤษณะยืนมองตาใสแป๋วด้วยความสนใจ “มาหาพี่นันมา มารู้จักกับเพื่อนพี่นันก่อน” เพื่อนทั้งสี่มองดูกฤษณะอย่างสนใจยิ่งได้ยินรสนันท์แทนตัวเองว่าพี่นัน ด้วยน้ำเสียงสนิทสนมเจือด้วยความนุ่มนวล คิดว่าเด็กคนนี้น่าจะพิเศษ ปกติเพื่อนเป็นคนไม่ค่อยสนใจเด็กสักเท่าไหร่ “ลูกใครหรือนัน หน้าตาดีแต่ผอมไปหน่อย” วิสาห์มองดูร่างผอมบางของ เด็กแว่นที่เดินเข้ามาหารสนันท์ ที่เอื้อมมือไปวางโอบไหล่ผอมบางดึงเข้ามาหา “คุณนะซื่อจริงว่ากฤษณะ เป็นลูกคนเล็กของคุณกฤต หลานของคุณกิตติ คุณนะรู้จักกับเพื่อนพี่นันนะ พี่นันจะแนะนำทีละคน นี่พี่วิ พี่สุ พี่อรแล้วก็พี่จี” กฤษณะยกมือไหว้ มองดูสี่สาวที่มองตอบด้วยแววตาเอ็นดู “พวกเราเป็นแก๊งสาวสวยนะคุณนะ” จีริกาบอกแล้วส่งยิ้มให้เด็กน้อยทำ ให้กฤษณะยิ้มตอบ เพื่อนของรสนันท์หน้าตาดีทุกคนรูปร่างผอมบางใกล้เคียงกันแต่ เรื่องความสูง รสนันท์สูงกว่าเพื่อน เพื่อนมีความสูงพอ ๆ กับรสริน “พี่ ๆ ใจดีเหมือนพี่นันมั้ยครับ” “ใจดีซี่ อาจจะใจดีกว่าพี่นันของคุณนะด้วยซ้ำ เขาสวยเป็นนางฟ้าแต่มี วิญญาณนางมารร้ายแฝงอยู่ด้วย” รสนันท์ยิ้มขำ เห็นอรพิมลบอกกฤษณะซึ่งฝ่ายเด็ก น้อย ได้แต่มองตาแป๋วใสไม่สู้จะเข้าใจคำพูดของผู้ใหญ่นัก “คุณนะมีอะไรหรือเปล่า ถึงมาตึกเล็ก” “ผมจะมาเล่นกับพี่นันครับ” “เดี๋ยวนี้ลดอายุไปเล่นกับเด็กแล้วหรือนัน” สุจิราทำเสียงแซวเพื่อน “แปลกเนอะ ปกตินันไม่ค่อยชอบเด็กเท่าไหร่ แต่กลับเป็นเพื่อนเล่นคุณนะได้ เดี๋ยวนี้ชอบเล่นกับเด็กหรือนัน” อรพิมลพลอยแซวเพื่อนอีกคน “ไม่มีที่ให้คุณนะนั่ง มานั่งตักพี่นันก็แล้วกัน” รสนันท์ยกร่างผอมบางขึ้น อย่างง่ายดาย ให้มานั่งบนตักของตัวเอง “เป็นอะไรคุณนะ นั่งตัวเกร็งเชียว” รสนันท์ก้มถาม เมื่อรับรู้ว่าร่างผอมบางนั่นอยู่บนตักตัวเกร็งแข็งจนรู้สึกได้ “เขาเขินพี่สาวคนสวยอะ” วิสาข์ทำเสียงแซว เพื่อน ๆ ของรสนันท์ยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นเด็กน้อยแก้มแดง “เป็นหนุ่มเมื่อไหร่ค่อยมาเขินพี่ แต่กว่าคุณนะจะโตเป็นหนุ่ม พี่นันแก่ กันพอดี ถึงตอนนั้นคงไม่สนใจพี่นันคนนี้แล้ว” “คุณนะอายุเท่าไหร่ ตัวผอมเล็กจัง” จีริกามองดูร่างผอมแบบอย่างสนใจ “สี่ขวบจะห้าขวบแล้ว” รสนันท์เป็นคนตอบแทน “โครงหน้าดีมากเลย หน้าคมจมูกโด่งโตขึ้นน่าจะหล่อ แต่คุณนะต้องดูแลตัวเองพยายามทานเยอะ ๆ จะได้ตัวโต” วิสาข์พูดพลางเอื้อมมือมาแตะแก้มกฤษณะ ทำให้เด็กน้อย ได้แต่นั่งมองหน้าพี่สาวคนสวยเพื่อนของรสนันท์ พูดคุยกันไม่ขาดปากบางครั้งแทบจะแย่งกันพูด แม้แต่รสนันท์ก็พูดเก่งแข่งกับเพื่อน และไม่ลืมที่จะหยิบขนมจากถาดใส่มือให้กฤษณะ ทานขนมไปฟังพี่สาวทั้งห้าแข่งกันคุย ได้แต่มองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที เสียงกรีดร้องของนภัสสรดังมาจากทางหน้าตึกหลังใหญ่ ทำให้กฤตนั่งเล่นพักผ่อนอยู่กับบิดาและรสรินในห้องรับแขก รีบวิ่งออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นโดยมีคุณกิตติกับรสรินตามหลังมาด้วย ภาพที่เห็นนภัสสรกระโดดเต้นอยู่ไปมาถอยหนี ลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้นรี ทรีฟเวอร์ ขนปุยสีทองอ่อนเดินต้วมเตี้ยมตามเพราะคิดว่า นภัสสรเล่นด้วยโดยมี นภดลวิ่งตามหลังด้วยความกลัวเช่นกัน ลูกสุนัขอยู่ในวัยกำลังซน วิ่งตามหางกระดิก อยู่ไปมา “คุณแม่ผมกลัวหมา” นภดลร้องบอกสีหน้าตื่นกลัวเกาะแม่แจ แม้จะเป็นแค่ลูกสุนัขตัวเล็กแต่คนกลัวใหญ่หรือเล็กกลัวหมด “ลูกหมามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ใครเอามันเข้ามา” นภัสสรกรีดร้องทั้งกลัวและโกรธ เป็นคนไม่ชอบสัตว์เลี้ยงทุกชนิดอยู่แล้ว “เอามันออกไป ฉันเกลียดหมา” เสียงกรีดร้องของนภัสสร ทำให้กฤษณะ ไปทำธุระส่วนตัวปล่อยให้ลูกสุนัขวิ่งเล่นอยู่หน้าตึก วิ่งออกมาดูหน้าตาตื่น “ปังปังมานี่” กฤษณะรีบเข้าไปอุ้มลูกสุนัข “ไอ้นะ...หมาแกเหรอ” นภัสสรแผดเสียงดังร้องถามหน้าบึ้งตึง “ใครอนุญาตให้แกเอาหมาเลี้ยง” นภัสสรกระชากเสียงเข้มถามลูกชาย ความโกรธเพิ่มขึ้นทวีคูณเมื่อรู้ว่าเป็นสุนัขของกฤษณะ “ผมซื้อให้ลูกเอง เป็นของขวัญวันเกิด” “คุณทำแบบนี้ได้ยังไงกฤต คุณก็รู้ว่าภัสกลับลูกดลไม่ชอบหมา แต่คุณกลับ ซื้อหมามาให้ไอ้นะเลี้ยง” ใบหน้าของนภัสสรเครียดบึ้งตึง ร้องว่าสามีเสียงดัง “มันแค่ลูกหมาตัวนิดเดียว พันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ เขาบอกว่ามันไม่ดุแถม ยังฉลาด อารมณ์ดีขี้เล่นเป็นมิตรกับมนุษย์” “แต่ภัสเกลียดหมา” นภัสสรแผดเสียงร้องว่า กฤษณะกอดลูกสุนัขไว้กับอก หลบตาวูบเมื่อแม่หันขวับมาหา แววตาวาววับไปด้วยโทสะ “แกเอามันไปทิ้งเลยนะไอ้นะ ฉันไม่อนุญาตให้แกเลี้ยง” “นี่บ้านฉันนะนภัสสร ฉันอนุญาตให้หลานฉันเลี้ยง” น้ำเสียงห้าวแข็งของ คุณกิตติดังแทรกขึ้น ทำให้นภัสสรที่กำลังเตรียมจะเล่นงานลูกชายคนเล็กชะงัก บิดา สามีเรียกซื่อจริงแบบนี้ บ่งบอกให้รู้ว่าไม่พอใจมาก “นะพาเจ้าปังปัง ไปเล่นบ้านคุณยายก่อนลูก” กฤตหันไปบอกลูกชายเสียงอ่อนโยน เห็นลูกกอดเจ้าปังปังแน่นท่าทางเกรงกลัวแม่มาก กฤษณะรีบพาเจ้าปังปังออกไปทันที มีสายตาแม่มองตามด้วยความโกรธชิงชังอยากอาละวาดแต่ทำไม่ได้ “คุณจะซื้อหมาให้ลูกเลี้ยง ทำไมไม่ปรึกษาภัสซักคำ” ระหว่างที่นภัสสรหันไปถามเสียงแข็งกับสามี คุณกิตติหันกลับเข้าบ้านและพยักหน้าบอกให้รสรินไปด้วยกัน ปล่อยให้เป็นเรื่องของผัวเมียคุยกัน “เรื่องแค่นี้เอง จะอะไรนักหนาภัส” น้ำเสียงของกฤตเจือด้วยความหงุดหงิดเบื่อหน่าย ชีวิตคู่ที่ผ่านมาใช่ว่าจะราบรื่น แต่พอย้ายมาอยู่ที่นี่ยิ่งมีปากมีเสียงกันบ่อยทำให้กฤตเหนื่อยและเบื่อ “ทีคุณทำอะไรผมยังไม่ยุ่ง” “ตอนนี้ฉันพูดอะไรทำอะไรน่ารำคาญใช่มั้ย” “อย่าหาเรื่องชวนทะเลาะนะภัส ความอดทนของผมมีขีดจำกัด” กฤต บอกเสียงห้าวก่อนเดินกลับเข้าบ้าน ทำให้นภัสสรโกรธแทบอยากกรี๊ด แต่พอเห็นลูก ชายสุดรักแหงนหน้ามองอยู่ จึงเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มพูดจานุ่มนวลด้วย “เราเข้าไปข้างในกันเถ่อะลูก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD