Ep.7 ทางเลือก

4289 Words
“เอ้ยยยย วันนี้มึงได้เยอะนี่หว่า เอาเงินมาแบ่งกันใช้บ้างดิ๊” กลุ่มจิ๊กโก๋ที่ดักรอไถ่เงินคนที่มากดเงินแถวตู้ ATM ย่านสถานบันเทิง เข้ามาทักผม ที่มากดเงินเพื่อไปใช้จ่ายในร้าน และอยากออกมาดูย่านดูแลของตัวเองด้วย เลยไม่ได้ใช้ไอ้เม่นที่ปกติจะใช้มันประจำ “หาาาา มึงจะเอาเงินกูงั้นเหรอ พวกมึงเป็นใคร” ผมถามพวกมันด้วยความสงสัย ก่อนจะคาบบุหรี่ไว้ในปาก ให้มือของผมมันว่างสักหน่อย “เป็นพ่อมึงไง เอาเงินมาให้พ่อเดี๋ยวนี้เลยมา หรือมึงอยากจะโดนกระทืบ หะ!!!!” แล้วพวกมันที่ซ่อนอยู่ในความมืดก็เดินออกมาอีกหลายคน พร้อมกับมีดในมือ เฮ้ออออ ไอ้สวะเอ้ย มึงรู้ไหม ว่ากูกำลังเปรี้ยวตีนเลย กูหงุดหงิดไอ้เวรคิลอะไรนั่นจะตายห่าอยู่แล้ว พวกมึงยังมาวอนตีนกูอีก “หาาาาาาา เฮ้ออออ พวกมึงรอกูปั๊มมะเร็งก่อน” ผมยกมือเบรคพวกมันพร้อมสูบบุหรี่เข้าจนเต็มปอด พวกมึงเนี่ยน้าาาา เสียดายของชะมึด ผมโยนบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้ จะเอาเงินไว้ไหนดีล่ะทีนี้ ผมเลยจับเงินที่เพิ่งจะกดมาห้าหมื่น ตบไปที่หน้าของคนที่บอกเป็นพ่อผม แล้วตามไปซัดหมัดอีกที จนไอ้เวรนั่นหมอบลงไปกับพื้น แล้วเหยียบมันเอาไว้ ไม่ให้ลุกขึ้นมา “ไหน…ใครยังอยากเป็นพ่อกูอยู่ไหม” ผมเหลียวไปมองพวกที่เหลือ ที่ทำท่าเลิ่กลั่กเพราะลูกพี่หมอบไปแล้ว “อย่ามาปากดีนะ มะ..มึงมีแค่คนเดียว” จะพูด มึงยังไม่มั่นใจเลยไอ้เวรเอ้ย ผมถีบเข้าที่ไอ้คนถือมีด แล้วใช้มือประสานกันทุบเข้ากลางหลังให้มันลงมากระแทกกับเข่า ความจุกจนตาเหลือกผมสงสารเลยหิ้วมันเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว “พวกมึงคุกเข่าลง คุกเข่าลงให้หมดเลย!!!! เร็ว ๆ สิวะ ไอ้สวะ!!!” ผมคำรามเสียงดัง จนพวกมันที่เหลือคุกเข่าลงกันหมด ผมเลยนั่งทับลงกับไอ้คนที่ผมเหยียบอยู่ ไม่ได้ เตี้ยไป ผมวางไอ้คนที่ผมหิ้วอยู่ทับไอ้ตัวที่นอนอยู่แต่แรกอีกที แล้วค่อยนั่งลงไปหน่อย “พวกเรายอมแล้วครับ” “นั่นปัญหาของพวกมึง พวกมึงเนี่ยยังเด็ก ๆ ก็อยู่เลย ทำไมริอาจจะมาเป็นโจร บ้านจนเหรอ หรือติดยา” ผมถามไอ้พวกจิ๊กโก๋พร้อมกับคลำหาบุหรี่ของตัวเอง ที่ตอนนี้หมดซองละ เฮ้อออออ “พวกเราเองก็ต้องเอาตัวรอด พวกเราไม่ได้รวย ที่บ้านก็ต้องกินต้องใช้” “ดราม่าว่ะ ไปไมค์ปลดหนี้ไหม ชีวิตมึงเหี้ย แล้วมึงมีสิทธิ์ทำเหี้ย ๆ กับคนอื่นหรือไง หะ!! ชีวิตมึงมันไม่มีแดกก็ไปทำงานดิวะ จะมารวมกลุ่มขี้แพ้แล้วไล่ตีคนอื่น เพื่อแย่งของคนอื่นมา วู้วววว มักง่ายสัด ๆ มีบุหรี่ไหม เฮ้ออออ กูอุตส่าห์เลิกได้แล้วเชียว กลับมาดูดแบบนี้ น่าหงุดหงิดจริง” ผมขยำซองบุหรี่ปาใส่พวกมัน จนหนึ่งในพวกมันต้องส่งบุหรี่มาป้อนผมถึงปากให้ผมคาบเอาไว้ ป้อนบุหรี่กู แล้วไฟล่ะ เฮ้อออ เอาไฟกูเองก็ได้ “พวกเราไปได้แล้วใช่ไหมครับ” เสียงที่สั่นกลัวของวัยรุ่นจิ๊กโก๋ที่มาป้อนบุหรี่ผม ทำให้ผมเอาเงินตบหน้ามันไปที แค่ตบเบา ๆ มันก็เซลงไปที่พื้นแล้ว แววตาหวาดกลัวมองต่ำลงที่พื้น “มึง มึง มึง และพวกมึง กูไม่ให้ไปไหนทั้งนั้นอ่า นี่มันที่เขตดูแลของกู พวกส้นตีนแบบมึงเห็นอะไรไหม ทุกร้านที่นี่ยังต้องก้มหัวไหว้กู แต่พวกมึง มึง มึง เสือกอยากมาเป็นพ่อกู” “เฮียยยยย!!! ผมตามหาเฮียไปทั่ว!!! แล้วนี่มันอะไรกันครับ ไอ้สวะพวกนี้นี่มึงทำร้ายเฮียไฟเหรอ!!! จัดการพวกมันเลยไหมเฮีย!!!” ไอ้เม่นกับพวกลูกน้องที่แห่กันมา ล้อมไอ้พวกเด็กวัยรุ่นนี่ไว้ พอมันได้ยินว่าผมเป็นใครก็หน้าถอดสีกันหมด “พวกนี้เสียงดังใส่พวกพ่อกูทำไม นับหัวพวกมึงมา มีกี่คน” ผมถามพวกมัน อายุแค่นี้เสือกคิดจะอยากเป็นโจร สันดานเสีย “รวมเก้าอี้ของเฮียด้วย ก็ 8 คนครับ” พวกมันชี้มาที่เก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่ ผมเลยลุกขึ้น แล้วถีบไอ้สองตัวนี้คืนให้พวกมัน “มึงบอกเหตุผลที่กูจะต้องปล่อยมึงไปให้กูที” ผมพูดพร้อมกับบุหรี่ในมือ ก็รู้แหละว่ามันไม่ดี หน้าซองก็มีรูป ยังเสือกสูบอีกนะมึง “พะ…พวกกู ไม่ได้เกิดมารวยเหมือนมึง ที่จะนอนให้เงินมันเข้ามาหา อย่าทำเป็นพูดดีเลย คนที่หาเรื่องมึงคือกู จะฆ่าก็ฆ่าเลย พวกมาเฟีย ไม่มีตัวไหนดีสักคน พวกมึงก็พวกส้นตีนถุ้ย!!! จะฆ่ากู ฆ่าเลย ปล่อยไอ้พวกกระจอกนี้ไป” ไอ้คนที่โดนผมกระทืบจนปางตายยังจะปากดีได้อีก ผมเดินเข้าไปหาไอ้คนที่ปากดี แล้วย่อตัวนั่งยอง ๆ มองคนที่ปากดี จะยืนยังไม่ไหวเลย ไอ้เวร ผมคว้าเข้าที่ท้ายทอยของมัน แล้วยื่นเงินที่เพิ่งจะกดมาให้พวกมัน มันดูเหมือนจะตกใจ “เก็บปากไว้แดกข้าวเถอะมึง อยากแกว่งหาตีน เอาเงินนี้ไป 5 หมื่น จะแบ่งส้นตีนกันยังไงก็เรื่องของพวกมึง ถ้ามึงยังคิดว่าชีวิตมึงมันส้นตีนสุด ๆ แล้ว ยังไงก็ต้องปล้นชาวบ้าน พรุ่งนี้มึงก็รอไอ้เม่นเอาพวกมึงส่งตำรวจได้เลย หน้าพวกมึง มึง มึงทุกตัวกูจำได้หมดอะ แต่ถ้าอยากเลิกขี้แพ้ อยากเลิกมีชีวิตส้นตีนแบบนี้ ก็ไปหาไอ้เม่นที่ The Mute กูจะให้งานทำ แต่ถ้าพวกมึงยังมาล่อพวกกดตังแบบนี้อีก มึงได้กินส้นตีนกูอีกแน่” ผมปล่อยคอของไอ้ตัวที่หน้าบวมอิ่มส้นตีน แล้วตบหัวมันไปหนึ่งที ข้อหาเสือกอยากเป็นพ่อกู “เฮียจะให้งานพวกมันหรือครับ” “เอออ กูจะปฏิวัติเขตการดูแลของกูใหม่ ครั้งนี้กูตั้งใจ ถ้าพวกมึงคิดว่าที่นี่มันส้นตีน พวกมึงก็ต้องช่วยกู เข้าใจไหม ไอ้พวกเด็กเวร กลับไปคิดดี ๆ ทางเลือกของกูไม่ได้มีมาบ่อย ๆ” ผมชำเลืองสายตาไปมองพวกที่พยายามแบกลูกพี่ของตัวเองให้ยังทรงตัวเองได้ ผมเดินนำพวกลูกน้องกลับมาที่ร้าน ที่ตอนนี้มีคนขายน้ำแข็ง ยืนมองผมด้วยตัวแข็งทื่อ เออ กูมากดเงินให้ลุงแกนี่หว่า ผมล้วงกระเป๋าตัวเอง มีแค่ลูกอมเม็ดเดียว น่าสมเพชกว่าไอ้เด็กพวกนั้น ก็กูเนี่ยแหละ “แปะ รับโอนผ่านธนาคารไหม” “เอ่ออ กระผมไม่มีบัญชีเฒ่าแก่ครับ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้กระผมมาใหม่นะครับ” แปะก็ก็แสนจะน่ารัก รีบวิ่งหนีผมไปเลย สงสัย เมียจะคิดถึงอยู่ ในขณะที่ผมจะเดินเข้าไปในร้าน ก็เจอรถที่แหกโค้งคว่ำอยู่ไม่ไกล ผมเลยต้องรีบก้มหน้าทำเป็นไม่เห็น ผมเดินเข้ามาในร้านที่เสียงเพลงดังกระหึม ดีนะที่ร้านผมไม่มีผี ไม่งั้นขนลุกตายห่าเลย การเดินเข้ามาในร้านของผมทำให้สาว ๆ ส่งสายตา หวานหยด ไม่ใช่เพราะผมหล่อเลิศ เพราะปกติผมจะหิ้วสาวไปด้วย แต่ครั้งนี้ผมแค่ยิ้มทักทายพวกเธอกลับไปเท่านั้น เดี๋ยวผิดคำพูดจะหวิดตายอีก ในขณะที่ผมจะเดินไปที่ลิฟต์โดยมีพวกการ์ดคอยเคลียร์ทางให้ แต่ก็ต้องหยุดเพราะรู้สึกถึงมือที่เย็นเฉียบที่คว้ามือของผมเอาไว้ พอผมหันกลับไป ก็เจอมายด์ที่วิ่งตามผมมา หญิงสาวตาโตแต่งตัวเซ็กซี่เตรียมตัวมาเที่ยวเต็มที่ หนีผัวเที่ยวหรือไง ปกติไม่ยอมให้มาเที่ยวไม่ใช่เหรอ “เรียกตั้งนานก็ไม่ได้ยินหูตึง” มายด์เขย่งปลายเท้ากระซิบคุยกับผม เพราะมันเสียงดังมาก พอลิฟต์เปิด เธอก็ดันผมเข้ามาในลิฟต์เลย อะไรอ่า วันนี้อารมณ์ไหน หรือ เราจะอยาก นาน ๆ เจอกันที ฮึ้ยยยย ได้ดิ เอ้ย!!! ไม่ได้ สาบานไปแล้ว หรือผมควรจะยอมตาย “ทะเลาะกับแฟนอีกรึไง ก่อนหน้านี้ก็เห็นรักกันดีนี่” ใช่ดิ โทรมา ผมถือสายฟังตลอด ผมมองหญิงสาวตรงหน้าที่แต่งตัวน่ารักเชียว หน้าแดงขนาดนี้ เมาแล้วด้วยสินะ “แฟนเฮียล่ะ ชื่ออะไรนะ ถิงถิง ใช่ไหม ไม่อยู่เหรอ” มายด์เอามือมานาบแก้มของผมเอาไว้ มือของเธอเย็นเจี๊ยบเลย หนาวอะดิ้ จะถอดเสื้อคลุมให้เท่ ๆ แต่ถ้าถอดเสื้อกล้ามตัวนี้ให้เธอ หัวนมโผล่ อนาจารเลยนะ “ยังไม่ใช่แฟน จีบอยู่ เลยคิดว่าตัวเองควรจะมูฟออนบ้าง ยังไง เราก็จบกันมา 5 ปีแล้วนี่ เฮียควรจะเดินไปข้างหน้า วันนี้ก็ยอมลุกขึ้นมาทำงานแล้วด้วยนะ 5 ปีที่ผ่านมา กินแต่เหล้า ทำตัวโคตรเละเทะเลย ตอนนี้ต้องเปลี่ยนตัวเองซะที” ผมพูดกับมายด์ ที่ควรจะยินดีที่ผมจะเปลี่ยนตัวเองได้ แต่ทำไมเธอถึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เล่า แต่เพราะลิฟต์มันเปิดออกแล้ว ผมเลยต้องพามายด์มาที่ออฟฟิศด้วย “เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ ที่ทำให้เฮียเปลี่ยนได้” “เปล่าหรอก เพราะตัวเองได้เกือบตายไปครั้งหนึ่ง ได้เห็นคนที่ตายไปแล้ว กำลังเสียใจที่ตัวเองต้องตาย เฮียไม่อยากเสียใจ ถ้าจะตายอีกครั้ง ก็จะไปแบบที่ตัวเองทำทุกอย่างพร้อมแล้วละมั้ง” ผมยิ้มให้มายด์ที่ยังมองผมอยู่ มองทำไม มีอะไร หน้าเหมือนผัวเก่าเหรอ อะ งั้นมองไป ขอเช็คค่าใช้จ่ายก่อน ย้อนหลัง 5 ปี นี่แทบอ้วกเหมือนกัน “กลับมาคบกันไหม” คำถามที่ทำให้ผมละสายตา จากสมุดค่าใช้จ่ายขึ้นมามองคนที่พูด พูดจริงปะเนี่ย ถิงถิง Say :: “ไม่ได้เจอ 2 วัน ยังไงมันก็คิดถึง คิลเข้าใจใช่ไหม” ฉันที่นั่งอยู่บนรถ มองตุ๊กตาตัวใหญ่ในมืออย่างพอใจ ฉันตัดเย็บใส่เครื่องดังฟังและกล้องลงไปด้วย ฮิๆ อยากเห็นเขาตอนนอน อยากได้ยินเสียงกรนด้วย คิกคิก “ไม่เข้าใจครับ ถ้าผมจะจีบตั่วเจ้แข่งกับผู้ชายคนนั้น ตั่วเจ้จะว่ายังไง” “หาาาา!!! ที่จริง ฉันก็ชอบคิลนะ แค่ไม่ใช่แบบเฮียไฟ คิลแสนดี น่ารัก ฉันรู้ ฉันเห็นทุกอย่าง แต่หัวใจมันไม่ตึกตักอะ แต่ถ้าโลกใบนี้ใจดี ฉันก็อยากมีผัวสองคนนั่นแหละ ฮ่ะ ๆ แต่โลกใบนี้มันดันใจร้าย ให้ฉันเลือกได้แค่ 1 คน คิลอยากมีเมียไหมล่ะ” ฉันชะเง้อคอไปถามคนที่ขับรถ “ไม่อยากคุยแล้ว ไม่อยากได้ยินคำตอบ” อ่าวววว งอนอีกละ ฉันได้แต่เบะปากมองบน กับคนขี้งอน “คิลอ่า แค่ไม่เคยเจอผู้หญิงคนอื่นนอกจากฉัน ไม่ได้ชอบฉันหรอก แยกให้ออก ระหว่างคำว่ารักกับภักดี ฉันสัมผัสความรักจากคิลไม่ได้นะ ต่อให้เราแต่งงานกันไป มันจะคือสิ่งที่เรียกว่าหน้าที่ ฉันจะไม่หึงหวงคิล ฉันจะไม่รู้สึกหัวใจเต้น เข้าใจตัวเองให้มากกว่าเข้าใจฉัน….เอี๊ยดดดดด!!!!” คนที่ทนฟังไม่ได้ หักรถเลี้ยวเข้าข้างทางทันที ฉันไม่ได้ตกใจอะไร “อย่ามาทำเป็นรู้ทุกเรื่องได้ไหม ยังไม่ลองเลย จะรู้ได้ยังไง!!!!” คิลตะคอกใส่ฉัน ถ้าเป็นคนอื่นทำ ฉันคงเอามีดแทงเข้าหัวใจไปแล้ว แต่เพราะว่าเป็นคิล ‘ อย่าทะเลาะกันนะคะ ทั้งคู่เลย ห้ามทะเลาะกันนะ ‘ เหม่ยลี่พยายามห้ามศึกระหว่างเรา เพราะถ้าสู้กันจริง ๆ ไม่ใครหรือใคร ก็ต้องตายกันไปข้าง คนที่หัวร้อนเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูที่เบาะหลัง ฉันกระชากคอเสื้อของเขาเข้ามาในรถ แล้วมองชายตรงหน้าด้วยสายตาเย็นเฉียบที่ไม่ชอบใจหรอกนะ เพราะลูกน้องไม่อยู่ในโอวาทแบบนี้ แสดงว่าฉันใจดีเกินไป “ลองสิ ได้คำตอบยังไง ไม่ต้องบอกฉัน ฉันบอกให้ลอง!!!!” ฉันตะคอกใส่คิล ที่มีอาการสะดุ้งน้อย ๆ เขายังคงนิ่ง ฉันเลยถอดรองเท้าแล้วยกเท้าพาดบนตักของคิล ให้เขาเริ่มสักที “มันยังไม่ถึงเวลา” “เลียสิ” ฉันถลกกระโปรงที่ตัวเองใส่ แต่เชื่อเถอะ ต่อให้ฉันจะแก้ผ้า คิลก็จะไม่ทำ “ไม่ได้ต้องการแบบนี้จากถิงถิง ถิงถิงนั่นแหละ ที่ไม่เข้าใจ” มือใหญ่รวบต้นคอของฉันเข้าไปประกบริมฝีปาก แล้วบดริมฝีปากไปมา ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ คลายริมฝีปากออกช้า ๆ แล้วมองหน้าฉัน ฉันเลยลูบหัวของคิลเบา ๆ “คิลก็คือคิล ถิงถิง มีคิลเป็นทุกอย่าง แต่ไม่ใช่คนรัก คิลมีถิงถิงเป็นทุกอย่าง แต่ไม่ใช่คนรัก นี่เป็นเหตุผลที่คิลไม่เคยหึงและหวง วันไหนรู้สึกว่าหึงหวงเมื่อไหร่ แล้วค่อยมาคุยเรื่องนี้ ความผิดที่ตะคอกใส่ ฉึบบ!!!!” ฉันแทงมีดปาดคิลถาก ๆ แล้วโยนมีดให้คิล “หึ แผลโคตรทุเรศเลย แบบนี้ลูกน้องที่ไหนจะเชื่อฟัง” “ใครจะไปทำคิลลง อ่อออ…จูบเมื่อกี้อ่า เหมือนจูบหมาเลย ไปขับรถเลยไป พวกเข้าใจยาก ขืนได้กันไปมีหวัง ฉันเองคงไม่ต่างจากนางบำเรอ น่าเบื่อจะตาย เหมือนป๊ากับม้า เอากันตามหน้าที่ สนุกตรงไหน” ฉันเอาหัวพิงกับกระจก มองออกไปนอกหน้าต่าง ชีวิตการแต่งงานของพ่อแม่ฉัน คือสิ่งเดียวในชีวิตที่ฉันไม่อยากเจอ “ถ้าพวกลุง ๆ เขาไม่เห็นด้วยล่ะครับ เรื่องแต่งงานกับคนนอก” คิลถามฉันขึ้นมา “ญาติฉันไหม ถ้าไม่ใช่ฆ่าทิ้งแม่งให้หมดเลยดีมะ สั่งเก่งมากนัก ไปคุยกับผีในดิน” “ตั่วเจ้ มันจะดีนะ พวกนั้นน่ารำคาญจะแย่ มีแต่รายชื่อฆ่าให้ฆ่าทุกวัน รับงานค่าจ้างเข้ากระเป๋าตัวเอง เจียดโยนใส่เราแค่กระจึ๋ง น่าเบื่อ เป็นเอกเทศก็ไม่แย่” “อาจารย์คะ คิล มีความคิดจะล้มอาจารย์” ประโยคของฉันทำให้คนที่ขับรถ หันควับมามองด้วยตาโตเป็นไข่ห่าน ก๊ากกกก ตลกอะ หน้าตาโคตรตลก ฮ่ะ ๆ คิล คิล หน้าตลกมาก “ไหนบอกไม่มุสาไง” “มุสาที่ไหน ก็คิลพูดจริงอะ” หลังจากมาถึงที่ไนต์คลับของเฮียไฟ ที่นี่คนเยอะเหมือนเดิมเลยแฮะ สาว ๆ ก็เยอะ แบบนี้สบายเขาเลยล่ะ มีสาวให้มองทุกวัน ฉันมองตุ๊กตาในมือ ตุ๊กตาที่มีกล้องสอดแนมกับเครื่องดักฟังอย่างดี จับไม่ได้แน่นอน เอาไว้แอบดูในวันที่คิดถึง คิกคิก เขาจะว่าฉันโรคจิตไหมนะ แต่ใครแคร์ ฉันแคร์ไหม หึ ไม่ “อะ อ้าววววว คุณถิงถิง คุณมาก็ดีแล้ว มานี่เลยครับ มานี่เลย” เม่นลากฉันเข้ามาลิฟต์ ฉันเองก็เข้ามาแบบงง ๆ แม้ว่าจะต้องเข้ามาอยู่แล้ว คิลเองก้เดินเข้ามาแบบงง ๆ ไม่ต่างกัน ที่งงเนี่ย เพราะเม่นทำหน้าเหมือนกลัว เหมือนอะไรสักอย่าง ที่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร “มีอะไรอ่าเม่น” ฉันถามเม่น แต่เม่นก็ทำหน้าเครียดไปอีก พูดเพียงแค่ว่าไปถึงแล้วก็รู้เอง ฉันถูกพามาที่ชั้นที่ 9 ไม่ใช่เพ้นท์เฮ้าส์ของเฮียคีแบบทุกครั้ง มีเสียงโครมครามดังมาจากในห้อง เสียงที่เหมือนคนกำลังพังอะไร “ทุกอย่างมันกำลังดีขึ้นมาก ๆ เม่นไม่แน่ใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น วันนี้เฮียทำงาน ทำทุกอย่างอย่างดีเลย ไม่แตะเหล้าสักหยุด แต่ไม่รู้เลยทำไมเป็นแบบนี้ ผมเองก็ทำงานจนลืมมาดูเฮีย พอเอาข้าวมาให้กินก็ปาทุกอย่างพังหมด เม่นคิดว่าเฮียน่าจะฟังคุณถิงถิง ช่วยผมด้วยเถอะนะครับ อย่างเฮียไฟ ไม่มีใครเอาลงหรอก ให้คุณวินมา คุณวินยังไม่เอาเลย บอกให้หายเอง” เม่นทำหน้าเศร้าลง กับคนเป็นเจ้านายที่จู่ ๆ ก็เกิดประสาทแดก “ให้กระผมจัดการเองดีไหมครับตั่วเจ้” คิลอาสาจะเข้าไปจัดการให้ แต่ฉันห้ามไว้ “ไม่ ฉันจะไปเอง” ฉันถอดมีดที่ซ่อนเอาไว้ ให้คิลถือ เพราะกลัวตัวเองจะพลั้งมือฆ่าคนข้างใน ฉันดึงมีดจากที่หนีบผม 1 เข็มขัดรัดเอวอีก 2 ในชุดชั้นในอีก 1 ในรองเท้าอีก 2 ไม่เว้นแม้แต่ในเข็มขัดรัดที่ต้นขา เล่มเล็ก ๆ อีก 3 อัน “ขนาดนี้ เปิดร้านขายมีดได้เลยนะครับ เยอะไปไหน” “พกไว้เผื่อลืมไว้ที่ศพใครหน่ะ” ฉันพูดจบเม่นก็เปิดประตูห้อง ที่น่าจะเคยเป็นอดีตออฟฟิศให้ฉัน ฉันก้าวขาเข้ามาในห้อง ที่เขี่ยบุหรี่แก้วหนา ๆ ก็ปามาใส่ฉันทันที ฉันเอียงตัวหลบเล็กน้อย จนมันเฉี่ยวฉันไป ฉันจะเดินเข้าไปหาเฮียเพื่อเอาตุ๊กตาไปให้ แต่เข้ากลับขว้างเก้าอี้ใส่ฉันกระโดดหลบ แล้วกำลังจะยกโต๊ะไม้ตัวเล็กโยนใส่เม่น แต่ฉันกระโดดขึ้นไปเหยียบโต๊ะนั่นไว้ “เม่นออกไป ทิ้งฉันไว้นี่” ฉันตะโกนบอกเม่น เม่นก็รีบวิ่งออกจากห้องไปทันที “หล่อนก็ต้องออกไป!!!! เพี๊ยะ!!!!” เสียงที่ตะคอกใส่ฉันจนหน้าชา ทำให้ฉันทนไม่ไหว ตบเข้าให้ ไม่ว่ากับใคร ก็อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉัน แต่ดูเหมือนคนที่ตัวใหญ่กว่าจะไม่พอใจ กระชากเสื้อของฉันจนดังแขวก!!!! แรงเยอะมาก เมื่อกี้ที่กระชากเสื้อฉัน เขาแทบจะดึงสบาย ๆ เลยนะ ฉันถีบเขาออก แล้วหยิบตุ๊กตามายื่นให้ แต่เขากลับหยิบมันแล้วปาทิ้งลงพื้น ความโกรธในใจมันเลยเผาหัวของฉันขึ้นมา โยนของที่ฉันพยายามจะวางกล้องที่ลูกตาของมันอย่างยากลำบากอย่างงั้นเหรอ เพี๊ยะ!!!!! ฉันตบเขาเต็มแรง “อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนกับหล่อนนะ ฉันบอกให้ออกไป!!!!!!!” เฮียไฟตวาดใส่ฉันสุดเสียง แต่ฉันก็ยังเดินเข้าไปใกล้เขา “เป็นบ้าอะไร!!!!! ถิงถิงไม่ออก แค่ก ๆ” มือใหญ่บีบเข้าที่คอของฉัน แววตาของเขาปวดร้าว เหมือนคนที่กำลังพังจากข้างใน ฉันจับที่มือใหญ่ที่กำลังบีบคอฉันอยู่ แล้วยิ้มให้เขาบาง ๆ มือที่บีบคอฉันค่อย ๆ คลายออก “ทำแบบนี้ทำไม” น้ำตาลูกผู้ชายกำลังหยดลงมาจากตาที่แดงก่ำ “เพราะเฮียกำลังมูฟออนไง” ฉันยิ้มให้คนตรงหน้า เท่านั้นแหละร่างกำยำก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก แล้วทรุดตัวลงกับพื้น ฉันเลยต้องเข้าไปกอดเขาเอาไว้ กอดคนที่ตอนนี้น่าจะพังไปหมดจากข้างใน กอดเงียบ ๆ ไม่ถามอะไร ให้เขาได้ปลดปล่อยออกมาให้พอ ฉันนั่งลงที่พื้นกระเบื้องเย็น ๆ แล้วให้คนตัวใหญ่หนุนลงที่ตักแล้วลูบหัวปลอบเขาไปเรื่อย ๆ มือก็ยังจับมือของเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ไม่รู้ว่าทำไมถึงมันเป็นแบบนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ๆ ดูจากสภาพห้องแล้วพังทั้งห้องขนาดนี้ เป็นพวกเดียวกับคิล พวกใช้กำลัง คนจำพวกนี้ ไม่มีอะไรแอบซ่อนหรอก ตรงไปตรงมากับความรู้สึก ถ้าพังทุกอย่างขนาดนี้ แสดงว่าข้างในเขาก็คงกำลังพัง เฮ้อออออ ฉันไม่รู้ว่าเราเงียบกันไปนานแค่ไหน แต่ก็น่าจะนานมากพอที่ฉันจะรู้สึกเหมือนฉันตายไปแล้ว “ขอบใจนะ ที่อยู่เงียบ ๆ ขอบใจที่ไม่ถาม” เสียงแรกที่ดังขึ้นหลังจากที่เราตีกันหลายชั่วโมง “คนพูดมากแบบเฮีย อยากเล่า เดี๋ยวก็เล่าเองอะ ลุกก่อนได้ไหม ฉันขาชาไปหมด จนตอนนี้เหมือนไม่มีขาเลย” ฉันบอกคนตัวใหญ่ที่ตัวโคตรจะหนัก แล้วเขาก็ยอมลุกขึ้นมานั่งแต่โดยดี “เธอตบฉัน 2 ที ฝากไว้ก่อนเถอะ มานี่!!!” ขาของฉันที่กำลังชาอยู่ ถูกเขายกขึ้นมา พาดบนตักของเขาเอาไว้ โดยมีมือใหญ่คอย ๆ บีบนวดให้เบา ๆ โหย ใจดีจัง นวดให้ด้วยเหรอ ว่าแต่ทำไมเงียบไปอีกแล้ว ตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่นะ ฉันมองคนที่กำลังเหม่อลอย เหมือนกับตัวเองยังคิดไม่ตก ฉันที่รู้สึกดีขึ้นก็วิ่งไปเอาตุ๊กตาสปายของฉันที่โดนเขาปาทิ้ง แล้วกลับมานั่งที่เดิม แต่ก็โดนเขาจับยกขามาพาดเขาเอาไว้เหมือนเดิม “เฮีย ไม่ต้องหายแล้ว” “ขอจับหน่อย ขาสวยนะ ขอโทษนะเจ็บรึเปล่า” มือใหญ่ช้อนคางของฉันขึ้น เพื่อสำรวจคอที่โดนเขาบีบ หน้าตาของเขารู้สึกผิดสุด ๆ “จำไว้ เฮียเป็นคนแรกที่ถิงถิงยอมให้บีบคอ” “เธอก็เป็นคนแรกที่ได้ตบ ทั้งที่ไม่โดนเอาเหมือนกัน เสื้อเธอขาดอะ” คนที่รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองถอดเสื้อกล้ามของตัวเองมาสวมให้ฉัน แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เห็นนมยังไงก็เห็นอย่างงั้น ก็เสื้อมันดันตัวใหญ่ จนคอตกลงลงมาจนเลยหน้าอกอีก “บ้ากาม” “แล้วนี่ อะไรอ่า โคตรสยองเลย” “หมีไง ไม่รู้จักตุ๊กตาหมีเหรอ หมีที่ฉันตั้งใจจะเอาให้ หมีตาโบ๋ มีไส้ไหลด้วยนะ อะให้ มาเพื่อให้มันเนี่ยแหละ” ฉันยื่นตุ๊กตาสปายให้เฮียไฟ “รสนิยมเธอที่แม่งโคตรหลอน แต่ก็…ขอบใจนะ เดี๋ยวเอาไปไว้ในห้องนอน” คนที่ตอบฉันหันไปทางอื่น เพื่อซ่อนแววตา มือก็เอาตุ๊กตาไปกอด ใช่ แบบนั้นแหละ ใช่ ๆ “เก็บไว้ดี ๆ นะ ฮ่ะ ๆ” มีความสุขแผนสำเร็จ “แค่รับตุ๊กตาเธอ เธอต้องดีใจขนาดนี้เลยเหรอ!!!! โกรธฉันบ้างก็ได้นะ ที่ทำเธอเจ็บอะ” “โกรธทำไม ฉันตีกับชาวบ้านเจ็บกว่านี้อีก แค่นี้….อื้ออ” ริมฝีปากหนานาบลงมาที่ปากของฉัน ในตอนที่ฉันไม่ได้ตั้งตัว จูบ จูบ จะ…จูบบบเหรอออ!!!! หมายถึงอะไร จูบฉันแบบนี้คือตัวเองมั่นใจแล้วเหรอหรือจูบแรด จูบไปเรื่อยเปื่อย โอ้ยยยย ไม่กล้าหายใจ เหมือนหัวใจจะหยุดเต้น ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ มันจะระเบิดตู้มมมม ระเบิดเป็นโกโกครั้นแล้ววววว “ปกติฉันไม่ใช่คนจูบมั่วซั่ว ฉันอาจจะสำส่อน แต่ฉันจะไม่จูบกับใครหากว่าไม่รู้สึก รอฉันหน่อยนะ ฉันคิดว่ามันไม่ยุติธรรมหากฉันยังไม่ลืมรักเก่า แต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าเธอ…ทำให้ฉันอยากจะก้าวผ่าน ผ่านหลุมมืดในใจ” ริมฝีปากหนาก้มลงมาจูบฉันอย่างแผ่วเบาเหมือนขนนกที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ หัวใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ มันตอบรับเจ้าของของมันเสมอ อบอุ่นในใจ ไม่จำเป็นต้องดูดดื่มหรือวูบวาบ แค่นี้ก็พอ “อืม” รอมา 8 ปีแล้ว แค่นี้ทำไมจะรอไม่ได้ ฉันมองตาดุ ๆ ที่ตอนนี้ค่อย ๆ คลายความดุลง มือใหญ่เสยผมของฉันขึ้นมาทัดหูเอาไว้ “มายด์มาหาวันนี้ มาขอให้เรากลับไปคบกัน เขาจะยอมยกเลิกการแต่งงานกับผู้ชายอีกคน เขาจะยอมทิ้งทุกอย่าง มันแย่กว่า ตรงที่เขามาพูดว่าที่ผ่านมา เขาคบผู้ชายอีกคนเพื่อบีบให้ฉันเป็นคนที่ดีขึ้น เธอบอกว่าเธอรอฉันปรับปรุงมา 5 ปีแล้ว แล้ววันนี้ฉันก็ยอมปรับปรุงตัว เธอเลยจะยอมกลับมา แต่ที่แม่งงี่เง่ากว่าคือ ที่ฉันทำตัวดีขึ้น เพราะอยากจะมูฟออนจากเธอแล้วต่างหาก” “นั่นเฮียรอมาตลอดเลยไม่ใช่เหรอ แฟนเก่าหน่ะ” เจ็บจัง พูดขึ้นมาทำไม ไม่อยากรู้สักหน่อย “พอแล้ว โดนตบ ไป 2 ที แค่นี้ก็ควรจะมีสติได้แล้ว ค้างปะ” “ไม่” “งั้นไปค้างด้วยได้ปะ” “ไม่!!!!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD