Ep.11 : ของขวัญวันเกิด ที่น่าสยอง

3705 Words
สายสนทนา [ ผู้ชายที่ยืนคุยกับเธอเป็นใครอะ เฮียตามหลังไป แต่ไม่ทัน เห็นเธอยืนคุยกัน ] “ก็แค่คนรู้จักน่ะ ทำไมถึงโทรมา” [ ไม่ได้ทำไม แค่อยากรู้ ก็เลยลองถามดู ถ้ามันจีบเธอจะได้ตามไปอัดมันไง ] “ตอนนี้ทำอะไรอยู่” ฉันถามออกไปงั้นแหละ เพราะฉันเห็นอยู่แล้วว่าเขานอนอยู่บนเตียง แถมยังนอนมองตุ๊กตาหมีของฉันอยู่ ใบหน้าของเขาใกล้แค่นี้เอง [ ทำงานดิ ไอ้เม่นโดนต่อยน่วม คงต้องทำงานเอง เชื่อมันเลย ] โกหกชัด ๆ ทำงานบ้าอะไร ก็เห็นอยู่ “อย่าทิ้งตุ๊กตาของฉันนะ” [ ทิ้งไปแล้ว ตุ๊กตาอะไร น่ากลัวชะมัด ใครจะกล้าเอาเข้ามาในห้องเล่า ] นี่ก็โกหกอีก ฉันก็เห็นเฮียเอามันไปด้วยทุกที่อะ ยังจะมาบอกว่าทิ้งไปแล้วอีก ฉันมองคนโกหกที่เอาตุ๊กตาของฉันเข้ามากอดผ่านหน้าจอ Ipad คนอะไรติดตุ๊กตา “ทิ้งทำไม งานเย็บด้วยมือ ทำให้ด้วยใจ ไม่เห็นแก่ความพยายามคนทำเลย จะนอนยัง” [ คิดถึงนะ อยากบอก ไม่รู้หรอกว่าเธอมีปัญหาอะไร ถ้ายังมาเจอกันไม่ได้ หรือ คุยจ๊ะจ๋าไม่ได้ อย่างน้อยก็โทรมาให้ได้ยินเสียงด้วยได้ไหม คือว่าแบบไม่ให้ติดต่อเลย มันจะทำงานกันลำบาก ไหนจะเรื่องพวกแก๊งสาว เดอะโกส นี่อีก ] ฉันก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอก แต่บางครั้งคำสาบานมันค้ำคอ “ยิ่งคำสาบานทำได้ยากมากแค่ไหน จิตวิญญาณของผู้สืบทอดจะสูงขึ้น หากถ้าฉันผิดคำสาบานแม้แต่ข้อเดียว ร่างกายของฉัน มันจะไม่ใช่ของฉัน ฉันต้องคืนร่างแก่บรรพชน จบกับเขา เราค่อยคุยกันนะ ไม่อยากรักกันแล้ว จู่ ๆ ผีปู่ย่ามารักด้วยอะ ฮ่ะ ๆ” [ จบ แต่ยังไม่รู้ทางนั้นจะยอมไหม ปฏิเสธไปแล้ว แต่ก็ยังบอกจะกลับมาใหม่ กลอนประตูบ้านก็ให้คนมาเปลี่ยนใหม่แล้ว เหลือที่ยังไม่ทำ คือ ย้ายบ้านหนีล่ะนะ ไม่รู้ว่าเขาจะอยากให้ตายจากกันไปเลยไหม ถึงจะปล่อยเฮียไปได้ ขอเก็บเสื้อผ้าไปอยู่ด้วยได้มะ ] “เขาไม่ยอมปล่อย ฆ่าทิ้งเลยไหม จ้างฉันแค่ ทอง 1 กิโลพอ” บังอาจจะมาบังคับให้เฮียไฟของฉัน อยู่กับหล่อน หล่อนได้เจอดีแน่ ๆ แล้วที่บอกจะเก็บเสื้อผ้ามาอยู่ด้วย พูดจริงพูดเล่นอ่า ฉันเอาจริงนะ [ เอางั้นเลย?? เราร้ายอะ พรุ่งนี้มาเที่ยวที่ร้านเฮียไหม มาคุยเรื่องเปียกัน คุยเรื่องงาน คงไม่เป็นอะไรใช่เปล่า ] “ฉันไม่กินเหล้าอ่า แต่ถ้าเลี้ยงน้ำชา ก็คงจะไปได้” [ ไม่โกหก ไม่ผิดลูกผัวชาวบ้าน ไม่ดื่มเหล้า มีอะไรอีกมะ ] “ไม่ขโมยของใคร” นี่เป็นเหตุผล ว่าทำไมที่ผ่านมา ไม่เคยจีบเฮียเลย ถ้าเขายังไม่เลิกเป็นเจ้าของ ฉันก็ขโมยเฮียมาไม่ได้ รักไม่ได้ [ แม่ชีศีล 4 สินะ นี่…พรุ่งนี้มานะ เอ่อออ เฮียต้องวางแล้ว งานมันเยอะมาก คุยกันนานแล้วเนอะ ] คนที่ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะวาง แต่เสียงปลายสายดันบอกให้วาง “อืม” จบการสนทนา หลังจากกดวางสายฉันก็เปิดเสียง Ipad เอาไว้เหมือนเดิม ที่ผ่านมาฉันคิดว่าการแอบมอง ติดตามอยู่ห่าง ๆ ก็พอแล้ว แต่วันนี้ฉันดันรู้สึกว่ามันไม่พอ ผู้หญิงคนนั้น คงรู้ว่าเฮียน่ารักขนาดนี้ เลยไม่ยอมปล่อยเฮียสินะ [ ไอ้หมีโง่ ไปบอกแม่แกให้มาหาฉันที ฉันคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว ] [ ไม่อยากวางเลย แต่ถ้าคุยต่อ ถิงถิงจะลำบากใจรึเปล่า น้ำเสียงวันนี้เย็นชาสุด ๆ เผลอทำตัวงี่เง่าบังคับให้แม่แกมาหา ทั้ง ๆ ที่เขาบอกแล้วว่าถึงชีวิตเลยนะ ฉันนี่มันแย่จริง ๆ แต่แม่แกมาทิ้งแกให้ดูต่างหน้าแบบนี้ แสดงว่าก็ไม่ใจร้ายกับฉันนักหรอก ] [ หะ แกว่าอะไรนะ จับทำเมียเลยง่ายดี บ้า!!! ได้เหรอ มันจะดีนะ ] ไปใหญ่แล้ว ท่าทางจะเหงาจริงแหละ คุยกับตุ๊กตาได้เนี่ย เช้าวันต่อมา “ตั่วเจ้ มีการเรียกประชุมวาระสำคัญประจำปี วันนี้เราจะคุยเรื่องอะไรครับ” คิลถามฉันถึงการประชุมที่จะถึงในอีกไม่กี่วัน ‘ เหม่ยลี่ว่า คุยเรื่องตัวแดงในบัญชีดีไหมคะ บริษัทของเราขาดทุนทุกปี ‘ เหม่ยลี่เสนอ “ฉันก็หาเงินนอกเข้ามาแล้วไง ไหนจะงานศพเอย ไหนจะฆ่าคนเอย ทำไมบัญชีถึงแดง” ฉันหันไปถามเหม่ยลี่กับคิล เพื่อทวงถามหาคำตอบ ของตัวแดงจากบัญชี “ไม่มีใครเขาเอางานมารวมกันทุกอย่างหรอกครับ งานส่วนที่รับเป็นทอง มันก็ส่วนหนึ่ง แต่งานที่ต้องรับเป็นเงินมันก็อีกส่วนหนึ่ง ตั่วเจ้ต้องเรียนบริหารเอาไว้บ้างนะครับ เฮ้ออออ คืองี้นะ งานส่วนที่เป็นการจัดการงานศพ อันนี้คืองานที่ได้เป็นเงินสด เงินจะเข้าบัญชีบริษัทเพื่อบริหารเงินในบริษัท ส่วนค่าจ้างที่เราได้เป็นทอง มันจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นเงินในตอนที่เราจ่ายเงินพวกลูกน้อง พวกนักฆ่าของเรา แต่ ทุกรายได้จากหวังซิน เงินจะต้องเจียด 40% ไปให้พวกผู้อาวุโส เป็นเงินบำนาญ ประมาณนั้นแหละครับ” คิลอธิบายเรื่องนี้รอบที่ร้อย แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี “ไม่เห็นจะเข้าใจเลยยย ช่างแม่ง” ฉันเอาหัวทิ่มลงกับโต๊ะ ‘ ช่างไม่ได้นะคะ ไม่ได้นะ ตอนนี้ดูสิคะตั่วเจ้ มันขาดทุนเยอะมาก ๆ ‘ เหม่ยลี่ใช้นิ้วชี้ที่ตัวแดงมากมาย “ให้คนอื่นทำสิ แค่หาเงินฉันก็เหนื่อยแล้วนะ” “เหนื่อยสิครับ หาคนเดียว กินเป็นร้อยคน ตอนนี้ที่บริษัทอยู่ได้ เพราะเงินจากทองของเรา ทองของเราก็แทบจะไม่มีเอามาจุนเจือบริษัทแล้วนะครับ ถ้าเป็นแบบนี้ มันจะต้องเข้าเนื้อเงินส่วนตัวของตั่วเจ้แน่ ๆ คุณธาวินเป็นหุ้นส่วนก็จริง แต่ทุกงานที่เขาเรียกเราไปทำ เขาจะจ้างเราด้วยทองคำ 1 กิโล แต่สิ่งที่เขาได้ไป หลายสิบล้าน” คิลพยายามพูดถึงสิ่งที่ฉันไม่ได้อยากได้ ของชาวบ้านเอามาทำไม เอาแค่ค่าจ้างก็พอแล้ว โอ้ยยยย งานบริษัท งานบริหาร งานนนนบริการ ยากจริง ๆ “ฉันกำลังจะตุยเย่แล้ว อยากตายยยยย” ฉันเอาหัวโขกกับโต๊ะทำงาน ‘ ตั่วเจ้วิญญาณออกจากร่างแล้วค่ะ เก็บวิญญาณกลับมาด่วน ต่อให้ตายก็ต้องทำงานค่ะ ‘ “ต่อให้เป็นวิญญาณ กระผมก็จะจิกกลับมาทำงาน เพราะฉะนั้น เขียนหัวข้อที่จะประชุมมาครับ ผมต้องใช้เวลาเตรียมเอกสาร” ฉันไม่อยากทำงานนนน พวกแกก็ทำไปสิ ฉันอยากไปฆ่าคน ฉันจะหาเงินให้ได้เยอะ ๆ กว่านี้ จะได้ไม่ต้องมาเครียดเรื่องงาน จะได้มีทองมาจ่ายมันทั้งหมด ฉันอยากจะบ้าตายยย ตัวเลขอะไรเยอะแยะไปหมด ฉันเปิดแอพส้มขึ้นมาดู เพื่อบรรเทาสิ่งที่อยู่ในใจ “Ulzzz ออกคอลเลคชั่นลิมิเตด กรี๊ดดดดด พวกแกทำงานกันไปนะ ฉันจะไปช้อปปิ้ง” ฉันตีเนียนลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่ก็โดนเหม่ยลี่เข้ามาขวาง แถมคิลยังจับคอเสื้อของฉันเอาไว้อีก “อะไรกันเล่า ก็บอกว่าไม่อยากทำไง!!!! ใจร้ายยยย” ไฟ Say :: “นี่ไอ้ไฟ ฉันมีเรื่องให้แกช่วยอะ” ไอ้วินมาวอแวผมตั้งแต่เย็น ชวนผมไปทำอะไรก็ไม่รู้ แต่ก็คงไม่พ้นเรื่องปล้นชาวบ้าน ทำไมน้องผมมันถึงเป็นโจรไปได้นะ เป็นนักฆ่าอยู่ดี ๆ ตอนนี้ริอาจจะเป็นโจร “ปล้นฆ่า แบบแกฉันไม่เอาอ่า ปกติแกก็มีทีมไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาชวนฉันอ่า” “ฉันชวนมายังไง ทีมฉันก็ถิงถิง การจะไปครั้งนี้ จะไปหาของขวัญครบ 27 ขวบให้ถิงถิงอะ สนมะ ยัยนั่นอะนะ ไม่ชอบของธรรมดาหรอกจะบอกให้ ที่ฉันกำลังจะไปเอาเนี่ย มันคือตุ๊กตา” ไอ้วินส่งรูปมาให้ผมหนึ่งใบ แก๊งสาว ๆ ก็เลยรีบมามุ่งดูด้วย ่ ตุ๊กตาตัวนี้สยองมากเลยอ่าไฟขา ‘ โมบอกผมถึงสิ่งที่เห็นจากตุ๊กตาเด็กผู้หญิง ที่อยู่ในกล่องสวยงาม ‘ ยัยโหดชอบอะไรแบบนี้เหรอเนี่ย ‘ พลอยใสมองตุ๊กตาด้วยหน้าตาขนลุกแบบสุด ๆ พวกหล่อนเป็นผีกันนะ ลืมไปกันรึเปล่า “หน้าตาสยองสุด ๆ” มันทำให้ผมคิดไปถึงคุณโจเซฟิน ที่อยู่ในห้องนั่งเล่น เธออาจจะชอบแบบนี้จริง ๆ “แบบนี้แหละ สเปคยัยนั่น แต่ตุ๊กตาตัวนี้ มันดันมีคนที่อยากได้เหมือนกัน ไอ้คนที่อยากได้ตุ๊กตาตัวนี้มันเป็นไม้เบื่อไม้เมากับถิงถิง เพราะสองคนนี้แย่งของสยองกันมานาน ส่วนมากไอ้แวนจะชนะ เพราะมันใช้วิธีสกปรก แต่ตุ๊กตาตัวเนี๊ยะ!!! มันดันเป็นของ มารูเอล ไอ้เจ้าของสนามมวยเถื่อนที่เปิดใหม่ จะไปขโมยมาไม่ง่ายแน่ มันจ้างทหารรับจ้างเป็นร้อย ดูแลสนามมวยอยู่ ฉันก็เลยจะชวนแกไปเอาออกมาแบบถูกต้องไง” “คือ” “ต่อยให้ชนะ แล้วขอตุ๊กตาตัวนี้ออกมา จบ” ไอ้เวรนี่หลอกผมไปต่อยมวยสนามคู่แข่ง ทำไมต้องทำตามที่มันบอกด้วย ไอ้นี่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ละ “เดี๋ยวกูหาซื้อเอาจากอีเบย์” “อีเบย์มันจะมาสู้ของที่ต้องพยายามไปเอามาได้ไงวะ มึงจีบถิงถิงอยู่ไม่ใช่เหรอไฟ เนี่ยของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดเลย จะให้กูไปสู้ แล้วสู้แบบไม่ตาย กูทำไม่ได้ กูได้โดนพวกนั้นกระทืบก่อน กูเป็นนักฆ่าไม่ใช่นักสู้” ไอ้วินยังคงชักเอาแม่น้ำร้อยแปดมาพูด แต่ถ้าเธอชอบตุ๊กตาแบบนี้ละก็….ฮึ้ยยย สยอง “เขาเริ่มต่อยกันวันไหน” “วันนี้^^” “หะ!!! มึงแกล้งบ้าเหรอ นัดกูแค่วันเดียวไม่ต้องเตรียมตัวเลยหรือไง ไอ้เวร กูไม่เอากับมึงด้วยหรอก เดี๋ยวกูไปหาซื้อตุ๊กแบบนี้ในอีเบย์เอาเยอะแยะ” และแล้ว คืนนั้นเอง “โหยยยย แม่ง เลียนแบบที่บ้านกูมาเลยนี่หว่า” “เออ แค่เป็นเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า ทันสมัยกว่า สนามมวยมึงมันตั้งแต่รุ่นปู่ รีโนเวทบ้างแต่ก็เก่าอยู่ดีล่ะนะ” แล้วทำไมกูถึงมาอยู่ตรงนี้ได้นะ เพราะไอ้ตุ๊กตาน่ากลัวตัวนั้นแท้ ๆ เลย ‘ โหยยยยย มีที่แบบนี้ในเชียงใหม่ด้วยเหรอ ไม่เคยรู้เลย ‘ พวกแก๊งผีสาว ๆ ที่ตามมาด้วยตื่นตาตื่นใจมาก ๆ เลย ‘ โหย ดูผู้หญิงพวกนั้นดิ ใส่แต่บิกินีไม่อายเลย ‘ เปียที่ดูจะเรียบร้อยสุดในกลุ่ม ชี้ให้ดูหญิงสาวอกสะบึม “เม่นว่าเฮียไม่ได้ซ้อมร่างกายมา 3 ชาติ ต้องโดนเขาอัดจมตีนแน่ ๆ” ไอ้เม่นมึงแม่งปากเสีย มาตัดกำลังใจกูทำไม “เดี๋ยวมึงนั่นแหละ จะจมตีนกู อยากได้อีกแผลใช่มะ บนหน้าอ่า” เออ กูยิ่งไม่มั่นใจอยู่ ช่วงนี้กินแต่เหล้า ดูดแต่บุหรี่ จะไหวไหม “ไม่ ๆ ไม่เอาแล้วจ๊ะเฮีย อิ่มตีนแล้ว” โดนตกเพราะไอ้คำว่า ไอ้คิลอาจจะมาเอาตุ๊กตาตัวนี้ เพื่อไปให้เธอในวันเกิดเหมือนกัน พอขึ้นรถมากับมันแล้ว ถึงได้นึกได้ คนปกติ คงไม่ต่อสู้เอาเป็นเอาตายเพื่อตุ๊กตา ไม่มีเจ้าภาพที่ไหน จัดการแข่งขันเอาตุ๊กตาเป็นรางวัลหรอก เฮ้ออออ ไอ้วินพาผมไปลงทะเบียนลงแข่งขันด้วย แม้สาวสวยจะยิ้มหวานให้เรา แต่…. “น้องจ๋า พี่มีเมียแล้ว แต่พี่ชายพี่โสดนะ เลิกงานว่างไหม” คนที่มีเมียแต่ดันเสือกอยากจะเต๊าะสาว แล้วเอากูไปอ้าง กูไม่ชอบแบบนี้อ่า แต่งหน้าจัดเชียว โบกอีกนิดก็ซีเมนต์แล้วนะหน้าน้องเขาเนี่ย มึงมันชอบคนแต่งตัวจัด ๆ แต่กูชอบแบบใส ๆ ไง “หมายเลข 67 นะคะ แล้วคุณน้องชายลงแข่งด้วยไหมคะ” เจ้าหน้าที่สาวในชุดพริตตี้คนสวย เอ่ยถามไอ้วิน “ไม่เอาอ่าครับ ผมสู้ไม่เก่ง….” “ใช่ แต่มึงหลอกใช้คนอื่นมาทำแทนเก่งไง ไปได้ละ หลีหญิงเก่งกูจะฟ้องเมียมึง มึงได้โดนไม้แขวนเสื้อแน่ ๆ” ผมหันไปบอกน้องชาย ที่เต๊าะแม่สาวพริตตี้หน้าซีเมนต์อยู่ได้ เราถูกนำมาที่ห้องเตรียมตัว ในห้องเตรียมตัวรวมทุกผู้เข้าแข่งขันจนรู้สึกแออัด เพราะมันเนืองแน่นไปด้วยคนที่มารอแข่งและพวกพี่เลี้ยงที่มาดูแล แต่ละคนนี่กล้ามปูมากเลย จะเจาะให้เข้าได้คงจะยาก ผมจะไปชนะคนพวกนี้ได้ยังไงนะ แค่หุ่นก็ห่างกันเยอะละ คงจะใช้กำลังอย่างเดียวไม่ได้สินะ “เฮีย เม่นทาน้ำมันนวดเอาไว้ ต้องยืดเส้นยืดสายก่อนนะ เฮียกินแต่เหล้ามา 5 ปี เส้นยึดหมดแล้วมั้ง” ไอ้เม่นพูดไป มือก็ลงน้ำมันมวยให้ผมไปด้วย “มึงช่วยพูดอะไรที่มันสร้างสรรค์ เช่นแบบ เฮียชนะสบาย อะไรแบบนี้หน่อยได้มะ” ‘ ไฟขา ชนะสบายแน่นอน ‘ เปียส่งเสียงเชียร์ เออ ทำแบบเนี้ยอะทำเป็นมะ แช่งกูอยู่ได้ เพราะไอ้วินคนเดียวเลย มันดันเสือกเคยพูดว่าไอ้คิลมันเป็นมือวางอันดับหนึ่งผัวของถิงถิง ตอนนี้ผมเลยมาอยู่ตรงนี้ เพื่อเอาไอ้ตุ๊กตาสยองนั้น ให้เธอเอาไว้ไปเป็นเพื่อนกับคุณโจเซฟิน คิกคิก ซื้อจากอีเบย์ก็ไม่เจ็บตัวแล้วแท้ ๆ แต่ที่จริงไอ้พวกงี่เง่าที่อยู่ตรงนี้ ก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ ที่น่ากลัวก็น่าจะ ผู้ชายเบอร์ 88 แล้วก็ ไอ้โม่งเบอร์ 14 ที่คลุมหัวคลุมทุกอย่างจนไม่รู้ว่ามันเก่งไหม คนที่มารอสู้ไม่ถึง 20 คน ทำไมมึงทำเบอร์ไปถึง 88 ได้วะ “นี่ เด็กใหม่เหรอ ฉันชื่อริคนะ จับคู่กับฉันมะ จะได้ไม่ต้องสู้กับไอ้เบอร์ 14 นั่นไง” ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักผม ที่กำลังทำสมาธิอยู่ที่จุดของตัวเอง “ทำไมอ่า มันเก่งมากเลยเหรอ” ผมมองไปที่เบอร์ 14 ที่เป็นเป้าการสนทนา ที่ตอนนี้ยังนั่งสมาธิอยู่เลย “นั่นอ่า แชมป์ทุกทีที่ลงนั่นแหละ ถ้าลงคู่ ก็อาจจะหนีไอ้ 14 นั้นได้นะ มันเก่งมาก ไม่มีใครอยากสู้ด้วยทั้งนั้น เพราะใครที่ลงสนามกับมัน ตายแน่นอน 100% ถ้ารักชีวิต ลงแข่งคู่กับฉันดีกว่า” ไอ้ผู้ชายที่ชื่อริคทำท่ากลัวเมื่อพูดถึงผู้แข่งขันเบอร์ 14 “ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าแกพูดจริง” ผมไม่เชื่อที่มันพูด และผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะแพ้ไอ้เบอร์ 14 นั่นด้วย ผมจะต้องชนะทุกคน แล้วเอาเพื่อนคุณโจเซฟินกลับไป “ดูป้ายหมายเลขไง ไม่มีใครต่ำกว่า 60 ใช่ไหมล่ะ เพราะไอ้เบอร์ 14 นั่นเก็บเรียบ ป้ายเลขของผู้แข่งขันมันจะรันไปเรื่อย ๆ 1-60 เหลือ แค่ไอ้ 14 นั่นคนเดียว เก่งขนาดนั้น ควรไปเล่นสนามใหญ่ของพ่อเลี้ยงวายุสิ มาเล่นสนามเล็กรังแกเด็กทำไม แล้วไง จะลงกับฉันไหม” “ไม่อ่า ฉันจะลงเดี่ยว ฉันไม่ได้มีเป้าหมายที่เงิน” “งั้นก็ลูกสาวเสี่ยเจ้าของสนามใช่ไหมล่ะ ผู้ชายทุกคนก็ยอมมาตายเพื่อลูกสาวของเจ้าของที่นี่ทั้งนั้น งั้นก็โชคดีนะ” ไอ้คนที่ชื่อริคเดินจากไป พร้อมกับทิ้งคำถามให้ผมอีก ว่าลูกสาวของเจ้าของที่นี่สวยมากเลยเหรอ หรือไอ้วินมันอยากได้เมียน้อย เลยหลอกเรามาเป็นข้ออ้าง แต่ถ้าสวยจะเก็บไว้ก็ไม่แย่นะ . . เมื่อถึงผมต้องออกไปสู้ ผมก็สวนกับเบอร์ 14 ที่หันมามองผมเล็กน้อย แล้วเดินสวนผมไป ถ้าไอ้นี่เป็นผู้ชาย ก็เป็นผู้ชายร่างเล็ก ๆ ที่ดูท่าแล้วน่าจะว่องไวมาก แต่ไร้กำลัง คงจะมีอาวุธอะไรบางอย่าง ผมละความสนใจจากไอ้โม่ง แต่ไปสนใจกับคู่ต่อสู้ตรงหน้าแทน “กติกา ไม่มี ใครพูดยอมแพ้ก่อนคือแพ้ ใครตายก่อน ก็คือแพ้ ใช้อาวุธอะไรก็ได้รอบสนาม ห้ามนำอาวุธที่เอามาเองลงสนาม เข้ามุม” กรรมการบอกให้เราเข้ามุมของตัวเอง มุมของผมก็เจอไอ้วินยืนรออยู่แล้ว “ไม่มีประกาศชื่ออย่างยิ่งใหญ่เหรอ มันง่าย ๆ แค่นี้ ไม่ได้ประกาศศักดาเลย” “นี่มันรอบเด็ก ๆ บางคนวิ่งหางจุกตูดก็มี พวกสนามมวย เขาก็แทงกันเอาขำ ๆ ของจริงคือมาจากการคัดคนรอบนี้ต่างหาก 88 เก่งมากนะ 14 ฉันมาไม่ทัน มันไวมากศัตรูก็โดนโซ่รัดคอตายไปแล้วน่ากลัวมาก ถอนตัวไหม” ไอ้วินถามผม แต่มือมันดันชี้ไปที่อัฒจันทร์ ที่มีหญิงสาวสวยนั่งอยู่ข้าง ๆ กายเธอมีตุ๊กตาตัวใหญ่เท่ากับเด็ก 4-5 ขวบ นั่งอยู่ข้าง ๆ “เอาหญิง หรือ เอาตุ๊กตาดีวะ” ผมมองหญิงสาวที่อายุน่าจะ 18-19 ปี ตากลมโตหวาน ผมขาวออร่าเด่นออกมาจากผู้คน ณ ตรงนั้น เด็ก ๆ ใส ๆ สเปคผมเลยนะ “เออ กูก็พึ่งรู้ ลูกสาวเจ้าของที่นี่สวยขนาดนี้ แต่ไม่เด็กไปเหรอ เอามาเลี้ยงเป็นลูกหรือไง” ไอ้วินเหล่ตามองผม อะไรเล่า!!! ก็กูชอบเลี้ยงต้อยอ่า “ไม่หรอก พ่อแม่เขาอนุญาต ไม่มีอะไรเด็กเกินไป” “โรคจิตสัด อะฟันยาง เผื่อโดนอัดฟันจะได้ไม่ร่วง ฉันไปคิดชื่อให้แกในรอบหน้าดีกว่า พี่ไฟสายเบิร์นดีไหมนะ” ไอ้วินเดินไปนั่งรอข้างสนาม มีเพียงไอ้เม่นที่นวดไหล่ให้ผมอยู่ แล้วไม่นานกรรมการก็ประกาศเรียกทีมสีดำและขาวขึ้นเวที เพราะคนดูลงพนันกันเสร็จแล้ว เงินเดิมพันที่ขึ้นจอ ผมเป็นรองคู่ต่อสู้ตั้งเยอะ อาจจะเพราะขนาดตัวที่ห่างกันเกินไป ทำให้คนมองว่าผมเสียเปรียบ “ไม่มีหมดยก มีแต่สู้จนกว่าจะมีคนแพ้” แกร้งง ๆ เสียงระฆังดังขึ้น มันบอกถึงการต่อสู้ที่เริ่มขึ้น ไอ้พี่บิ๊กที่วิ่งเข้าใส่ผม เหมือนกับจะเข้ามาจับผมแยกร่าง วิ่งเข้าใส่เหมือนวัวกระทิง ผมมองไปรอบ ๆ เพื่อดูอาวุธที่พอจะใช้ได้ จนไปเจอผ้าพันคอสีแดง เอามาใช้ทำอะไรไม่รู้ แต่ผมชอบสีนี้ ผมวิ่งไปหยิบผ้าพันคอสีแดงพริ้ว ๆ ทั้งสนามต่างเงียบและโห่ ที่ผมไม่หยิบอะไรที่มันจะสะใจมากกว่านี้ เสียงโห่ไม่ชอบใจดังมาเรื่อย ๆ “ไอ้พวกนี้ พวกคุณมึงจะโห่หาพระแสงอะไร” ผมสะบัดผ้าสีแดงล่อวัวกระทิงประหนึ่งว่าตัวเองเป็นมาธาดอร์ ในจุดที่มันกำลังจะเอาแขนสองข้างล็อคตัวผม ผมก็ใช้ผ้าแดงพันเข้าที่คอของมัน แล้วกระชากอย่างแรง ให้ผ้าพันคอที่ผมถืออยู่รัดเข้าที่คอ จนพี่บิ๊กหน้าเขียว ผมกระชากอีกที ไอ้พี่บิ๊กก็ถลาลงไปกับพื้นเวที มันตบเวทีรัว เพื่อขอยอมแพ้ แกร้งงง~’ เสียงระฆังหมดยกดังขึ้น เพราะมีคนยอมแพ้แล้ว เสียงผู้ประกาศประกาศชื่อคุณชายไฟสายเบิร์นเป็นฝ่ายชนะ เสียงเชียร์ดังกระหึ่ม ที่ดังคือเสียงโห่นะ เพราะผมทำคนที่แทงทีมฝั่งนู้นเสียตังค์นิ ผมเดินลงเวที ก็เจอเบอร์ 14 มายืนสังเกตการณ์การต่อสู้ของผมด้วย แล้วไม่นานมันก็หายไปกับฝูงคน คนที่มีความสุขสุด น่าจะเป็นไอ้เม่น ที่ดูเหมือนจะรับทรัพย์เละเลย “ยังดี มึงยังแทงข้างกู” ผมตบไหล่ไอ้เม่นที่มันไว้ใจผมขนาดนี้ “คือนี่ผมขาดทุนนะ ผมแทงฝั่งนั้นเอาไว้เยอะกว่า รู้งี้น่าจะแทงฝั่งเฮีย…โป๊ก!!!! โอ้ยย!!!” “สมน้ำหน้ามึง ไม่ยอมเชียร์กู” อีกด้าน “กรี๊ดดดดด เฮียไฟโคตรเท่เลยเจ้าค่ะ” ถิงถิงยืนเชียร์ผู้ชายที่โคตรเท่ที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา เธอทั้งเชียร์ทั้งกรี๊ดจากภาพที่ฉายอยู่ในจอ Ipad “ช่วยเก็บอาการหน่อยครับ ผมเห็นในสนามมันมองลูกเจ้าของสนามตาเป็นประกายเลย ใครที่มาที่นี่ก็อยากได้ลูกสาวเจ้าของที่นี่เป็นเมียทั้งนั้น” คิลบอกฉันที่กำลังกรี๊ดกร๊าดผู้ชาย “ช่างหัวมัน หล่อจังเลย เฮียไฟ แฟนคลับหมายเลขหนึ่งรายงานตัว เดี๋ยวเป็นแม่ยกคอยอัดฉีดให้เองเจ้าค่า!!!” อาการหนักของคนเป็นเจ้านาย ทำให้คิลได้แต่กุมขมับ เหนื่อยใจกับเจ้านายตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD