Ep.3 หมอนข้าง

4563 Words
ไฟ Say :: ไม่ได้นอน ไม่ได้นอนเลย ผมหลับตาไม่ได้เลย หลับตาแต่ละทีเหมือนโดนข่มขืนตลอดเวลา เรียกให้ออกมาก็ไม่มา เมื่อวานผมที่กำลังอาบน้ำ ก็มีผมของใครก็ไม่รู้เต็มที่พื้นเลย จากคนที่ไม่เคยกลัวผี ก็มีอาการหลอนจนอยู่คนเดียวไม่ได้ แม่งเอ้ย ปากหมาเป็นเหตุสังเกตได้ “ร้านปิดแล้ว ทำไมเฮียไม่ไปนอนอีกอ่า มานั่งทำตาดำเป็นหมีแพนด้าอยู่ทำไม เฮียอย่าบอกนะ ว่าเฮียโดนข่มขืนอีกแล้วอ่า” “เออ ช่วงนี้เจออะไรแปลก ๆ ด้วยนะ กูไม่อยากอยู่คนเดียวเลย” “แผลที่ขาก็ไม่ยอมไปทำแผล กินมันแต่เหล้า เลือดมันไม่หยุดไหลสักที นอนก็ไม่นอน แบบนี้เฮียจะได้ตายเพราะทำตัวเองไม่ใช่เพราะผีหรอก” ไอ้เม่นมึงนี่เริ่มบ่นเก่งขึ้นทุกวัน จากที่พ่อผมฝากฝัง มันก็ทำตัวเหมือนพ่อผมเข้าไปทุกวัน “มึงไปส่งกูบ้านถิงถิงหน่อยดิ กูอยากหาวิธีกำจัดผี กูจะไปเอาพวกนี้ลงหม้อ แล้วจับถ่วงน้ำ” “โห ดูแม่นาคพระโขนงมากไปไหมเนี่ย ไหนบอกไม่กลัวผีไง ว่าแต่บ้านคุณถิงถิงเธออยู่ที่ไหนอ่า” คำถามของให้เม่น ทำให้ผมนั้นไปไม่เป็นทีเดียว เออ บ้านเธออยู่ไหนวะ จะไปหาเธอยังไง ถ้าไม่รู้ว่าบ้านอยู่ไหน หรือจะไปหาที่วัด เธอบอกว่าคนที่รู้จักเธอมีแต่คนที่ตาย อะ!!!! ฟวับ!!!!! เพล๊งงงง!!! ผมต้องตกใจ เอี้ยวคอหลบ แบบเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะอะไร!! เพราะแก้วเหล้าจากไหนก็ไม่รู้ลอยเข้ามาใส่หน้าผมเลย ไอ้เม่นเองยังตกใจเลย ไม่มีทางที่ใครจะขว้างแก้วใส่ผมได้แน่ เพราะตอนนี้ผับปิดแล้ว “นี่ไง!!! กูเจอแบบนี้ไง มึงโทรไปหาไอ้วินเลย ไปถามมัน ว่าบ้านคุณถิงถิงอยู่ไหน” โคตรหวิดตายเลย เมื่อตะกี้หลบไม่ทัน แก้วเหล้าอย่างหนาเลยนะนั่น ยังไงไม่แตกก็ตายอะ ผมมองไปรอบ ๆ ตัว ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีผีอยู่ไหนบ้าง ไม่เอาแล้ว ไม่อยู่แล้วเว้ย ผมวิ่งออกมาที่นอกร้าน ผมออกมาจากไนต์คลับแล้วเดินไปรอที่ลานจอดรถเพื่อรอไอ้เม่น อยู่ไม่ได้แล้ว ต่อไปผมคงต้องไปนอนในที่กว้าง ๆ เช่นนน วัด ผมหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบหลังจากที่เลิกไปนาน เพราะความเครียดจากการไม่ได้นอนและผีที่ตามหลอกหลอนหมายเอาชีวิต “ผมได้เรื่องแล้วเฮีย คุณวินบอกว่าเธออยู่กินที่บริษัทเลย ไปเลยไหมเฮีย” เม่นมองผมที่คาบบุหรี่อยู่ในปาก ไอ้นี่ยังช้าอีก “ไปดิ รอให้ผีมันมาฆ่ากูก่อนรึไง” ทุกวันนี้โดนข่มขืนก็อัปยศแล้ว ไม่ยอมหลับ ก็โดนไล่ฆ่าอีก เฮ้ออออ เมื่อมาถึงพิกัดที่ไอ้วินให้มา ก็เจอตึกสูงตระหง่านที่ทาทึบด้วยตึกสีดำ มีภาษาจีนเขียนเอาไว้ที่หน้าตึกแล้วมีภาษาอังกฤษเขียนด้านใต้ว่า หวังซิน พอจะเดินเข้าไปในตึก ก็เจอป้ายที่มีหน้าของถิงถิงที่ยืนหน้านิ่ง ๆ แล้วมีแคปชั่น เขียนเอาไว้ว่า ‘ดูแลทุกระดับประทับใจ ไม่เชื่อก็ลองตายดูสิคะ’ ผมมองดูตึกสูงที่ไม่ต่ำกว่า 15 ชั้นแน่ ๆ แถมหน้าตึกมีทั้งยัก มีทั้งสิงโต มีทั้งนักรบเต็มไปหมด ขายหุ่นเหรอ??? “เหอะ ๆ น่ากลัวกว่าบ้านกูอี๊ก” “เอาไงครับเฮีย จะเข้าไปไหม ว่าแต่นี่มัน ตี 3 แล้ว คุณถิงถิงจะไม่หลับไปแล้วเหรอครับ” ไอ้เม่นมองไปที่ตึกที่ตอนนี้ปิดไฟทั้งหมด มีเพียงแสงสว่างดวงน้อยที่โต๊ะด้านหน้าที่น่าจะเป็นประชาสัมพันธ์เท่านั้น ไม่นานก็มียามคนหนึ่งวิ่งมาหาผมกับไอ้เม่น ไล่ให้ผมไป จะไปอะไรเล่า เพิ่งจะมา “รีบไป ที่นี่ไม่ปกติ พวกมันจะมาแล้ว” ยามพูดออกมาด้วยท่าทีตื่นตะหนก ว่าแต่ใครจะมาอ่า “ฉันมาหาถิงถิง” ผมตอบยามคนนั้น แต่ไอ้เม่นมันกลับทำหน้าตกใจ ผมเดินเข้าไปจุดที่เป็นประตูอัตโนมัติ ตั้งใจจะส่องดูว่ามีคนอยู่ข้างในไหม แต่ประตูมันกลับเปิดออก เหมือนกับว่าที่นี่มันยังไม่ปิด ผมเลยเรียกให้ไอ้เม่นเข้ามาข้างใน มันกลับทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นผี อะไรของมันวะ “เฮียยยย มะ…เมื่อกี้เฮียคุยกับใคร” ไอ้เม่นถามอะไรผมที่มันแปลก ๆ “ยามไง ยามแม่งมาไล่เราไป” “เฮียยยย แต่เมื่อกี้ไม่มีใคร มีแค่เฮียกับผมเนี่ย” คำตอบของไอ้เม่นทำให้ผมมองมันตาโต มีผมเห็นยามคนนั้นคนเดียวอย่างงั้นเหรอ!!!! ในความเงียบสงัดที่มันกลืนเราลงไปทั้งตัว ความมืดสลัวของตึกรับจัดงานศพ มีเพียงแค่ดวงไฟเล็ก ๆ ที่กำลังส่องสว่าง ในความมืดมิด เงียบ และวังเวง “ต้องการจะมาทำอะไรคะ อยากจัดงานศพแบบไหนดีคะ ไทย จีน ฝรั่ง พุทธ คริสต์ อิสลาม” เสียงเย็นยะเยือกพูดขึ้นมา ด้านหลังของผมและไอ้เม่น ทำให้เราตกใจหันไปมองพร้อม ๆ กันอย่างไม่ได้นัดหมาย หญิงสาวผมยาว หน้าตาหมวย ๆ โผล่อยู่ข้างหลังเรา ด้วยรอยยิ้ม “พี่มาหาถิงถิง น้องมีเบอร์ไหม น่ารักจังเลย แล้วนี่งานยังไม่เลิกเหรอ ไปกินข้าวต้มกับพี่ไหม” น่ารักฉิบหายเลย ผมมองหญิงสาวตรงหน้า “ฮ่ะ ๆ ที่นี่ไม่มีเลิกงานค่ะ ตั่วเจ้ อยู่ด้านบนค่ะ ให้บอกว่าใครมาพบดีคะ” “พี่ไฟ สุดหล่อค่ะ” ผมมองหญิงสาวที่โทรขึ้นไปหาใครสักคน “เมียผีที่บ้าน 3 คน ยังไม่พออีกเหรอเฮียเลิกแรดบ้าง ที่อยู่ไม่ได้ต้องมาที่นี่ก็เพราะว่าเมียเยอะนะ” ไอ้เม่นหรี่ตามองผม ก่อนจะเดินไปขอโทษหญิงสาวที่ผมไปทำตัวเจ้าชู้ใส่ด้วยเสียงหล่อ หนอยยยย มึงก็ใช่ย่อยนะ “โชคดีนะคะ ที่ตั่วเจ้ เพิ่งกลับมาจากทำงาน ไม่งั้นพวกคุณคงจะมาเสียเที่ยว ตามฉันมาเลยค่ะ ฉันจะพาพวกคุณไปด้านบน กฏของที่นี่ นอกจากฉันแล้วห้ามทักใครทั้งนั้นนะคะ อย่าให้เขารู้ว่าเราเห็น ไม่งั้นเขาจะตามคุณไปทุกที่” หญิงสาวพาเราเข้ามาในลิฟต์ ผมกับไอ้เม่นได้แต่มองหน้ากันไปมา ผมไม่เข้าใจ ทำไมดึกขนาดนี้ยังมีคนขึ้นลงลิฟต์อยู่นะ ลิฟต์ถูกกดมาที่ชั้น 15 ซึ่งตึกนี้มีทั้งหมด 15 ชั้น ด้วยความสงสัยผมเลยถามไปว่า แล้วแต่ละชั้นเอาไว้ทำอะไร หญิงสาวประชาสัมพันธ์ก็ตอบผมอย่างอารมณ์ดี ว่า 1-10 เป็นห้องรับรองสำหรับจัดงานศพและเก็บของ 11-15 เป็นที่พักของคนในองค์กร ซึ่งเธอก็ไม่รู้อะไรมาก ทำงานแค่ประชาสัมพันธ์เท่านั้น เมื่อถึงที่หมายประตูลิฟต์เปิดออก ก็เจอเหล่าชายฉกรรจ์เข้ามาขวางเราเอาไว้ “ขอโทษค่ะ แขกของตั่วเจ้” “คนไหนแขก” “คุณไฟท่านนี้ค่ะ” สาวประชาสัมพันธ์หดคอกับเสียงคำรามดัง “ไอ้หน้าหล่อนี่เข้าไปได้ ผู้ติดตามห้ามเข้า” “เฮ้ยยย ให้มันน้อย ๆ หน่อยมึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร แบบนี้มันไม่ให้เกียรติกันเกินไปเปล่าวะ” ผมเองก็ไม่ใช่เล่น ๆ หรือมึงจะงัดกับกู “คุณไฟ ลูกชายราชาสถานบันเทิง The Mute ผู้ไม่เอาไหน มีเรื่องตีรันฟันแทงไปทั่ว มั่วหญิงไม่เลือก คนแบบนี้มีเกียรติอะไรให้อวย คุณเป็นแขกของตั่วเจ้ ก็เชิญ ในที่นี่ ไม่ว่าจะใคร ก็เข้าไปถึงห้องนอนของตั่วเจ้ไม่ได้ รับไม่ได้ก็ไสหัวไป ผมไม่ใช่ลูกน้องคุณ….” ผู้ชายใส่ชุดจีนเงาวับเดินมาแตะที่ไหล่ของไอ้บึกที่พ่นน้ำลายใส่ผมมากมาย “พอแล้ว พอแล้ว ฉันจัดการเอง ตั่วเจ้รอคุณอยู่ เชิญครับ ต้องขอโทษด้วย การที่จะมีคนนอกเข้ามาถึงห้องนอนมันแทบจะไม่มีเลยครับ พวกนั้นคือนักฆ่าฝีมือดี ที่มีหน้าที่ปกป้องหญิงสาวที่อยู่ด้านใน แม้กระทั่งคุณธาวินเอง ก็ไม่เคยได้สิทธิ์ที่จะขึ้นมาจนถึงที่นี่ คุณเป็นคนแรกในรอบ 27 ปี ก็คือคนเดียวนั่นเอง ผมชื่อคิล เป็นพ่อบ้านของที่นี่” ผู้ชายที่แนะนำตัวเองเป็นพ่อบ้าน ขยับกรอบแว่น แล้วยิ้มให้ผมจนตาปิด ผมที่เป็นนักเลง ผมดูออก ว่าที่เฝ้าอยู่ด้านหน้า ไม่น่ากลัวเท่าคนที่ยืนอยู่ข้างผมคนนี้แน่ ๆ “เก่งระดับถิงถิง ไม่ต้องมีคนดูแลหรอกมั้ง” ก็ตัวเธอเองก็เป็นนักฆ่านิ แต่นี่ต้องใช้คนเฝ้า หลายสิบขนาดนี้เลยเหรอ “เข้าไปข้างใน ก็จะรู้เองแหละครับ” ผู้ชายที่ชื่อคิล เปิดประตูให้ผมเข้าไปในห้อง ที่พอเข้ามา ผมก็ต้องตกใจเลย!!! ในห้องของนักฆ่า ที่มีตุ๊กตาเต็มไปหมด ทั้งห้องถูกตกแต่งไปด้วยสีชมพู มีกลิ่นหอมจาง ๆ ของคาโมมายด์ด้วย “คิลลลลล เขามาแล้วเหรอ ไหนบอกจะเลือกชุดให้ไง แบบนี้จะออกไปเจอเขายังไง งั้นฉันใส่ชุดนอนปกตินะ ไม่น่าเกลียดเกินไปใช่ไหม” เสียงของถิงถิงตะโกนออกมาจากด้านในของห้อง ที่ประตูปิดสนิท “เธอค่อนข้างมีปัญหาเกี่ยวกับความมั่นใจหน่ะ” ผู้ชายคนนั้นกระซิบบอกผม ก่อนจะพาผมมานั่งที่โซฟา ที่มีตุ๊กตาหลอน ๆ เหมือนในเรื่องอันนาเบลล์เลย น่ากลัว เอามันลงไปได้ไหมเนี่ย ผมพยายามจะยกตุ๊กตาออกไปที่อื่น แต่พ่อบ้านกลับมาห้ามเอาไว้ “นั่นคือคุณโจเซฟิน ตัวโปรดเลย อย่าขยับดีกว่านะครับ ตัวนี้ประมูลจากคุณวินมาในราคาที่แพงอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะมันมีผีสิง” พอพ่อบ้านบอกว่ามันมีผีสิง ผมก็วางมันลงทันที ผมไม่เอาอีกแล้วเรื่องผี ๆ เข็ด และ ขยาดมากไม่แตะ ไม่ต้องดีกว่า แล้วไม่นานหญิงสาวในชุดนอนระบายยาวสีชมพูแถมถักเปียสองข้างก็เดินออกมาจากห้อง หญิงสาวที่ไม่แต่งหน้าเข้มจัด ๆ ไม่โบ๊ะแป้งหนา ๆ เธอมาพร้อมกับตุ๊กตาลูกเทพในมือ เอ่อ ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่น่าสยองอะ “เดี๋ยวนะ กูเข้าผิดบ้านเปล่าวะ” ผมเผลอสบถออกมา กับคนที่ผมเจอ หรือนี่คือถิงถิงในอีกมัลติเวิร์ส ถ้าหน้าสดจะใสขนาดนี้ โบกปูนใส่หน้าตัวเองทำไมอะ??? โห โคตรน่ารักเลยแฮะ อู้ววว ถักเปียกระชากวัยด้วยแฮะ “ไม่ผิดหรอก คิล ไปนอนเถอะ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ” “ถิงถิงยังไม่ใส่ถุงเท้า มันจะแสบจมูกนะ แอร์มันเย็น” ผมมองดูชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในห้อง แล้วออกมาพร้อมกับถุงเท้าระบายมุ้งมิ้ง แล้วบรรจงสวมถุงเท้าให้ถิงถิงด้วยรอยยิ้ม เงินเดือนเท่าไหร่วะ ทำให้ขนาดนี้ “ฉันโตเป็นควายแล้ว เลิกทำเหมือนฉันเป็นเด็กได้แล้วหน่ะ เห็นไหมว่าฉันมีแขก อายเขาจะตาย” ถิงถิงตีไหล่คนที่ก้มลงไปใส่ถุงเท้าให้เธอ “เสร็จแล้ว แค่แป๊บเดียวเองเห็นไหม” ผู้ชายคนนั้นเหลือบตามามองผมหรือเปล่า มองผมทำไม ก่อนหน้านี้ยังคุยกับผมดี ๆ อยู่เลย “ขอบคุณค่ะ” ถิงถิงเดินมาหาผมอีกครั้ง คราวนี้ถึงตาผมละ ผมสาบานว่าคิดไม่ถึงว่าจะเจอเธอในลุคแบบนี้ ลุคหญิงสาวในชุดนอนแต่งระบาย ถักเปียสองข้าง และใส่ถุงเท้ามีระบายลูกไม้ ติดกิ๊ปลายหมีด้วย “ถ้าเรื่องที่นี่แพร่งพรายออกไป คุณได้ไปเข้าเฝ้ายมบาลแน่ ๆ ไปห้องฉันเถอะ ฉันต้องรักษาลุคตั่วเจ้อ่านะ ในห้องนี้เลยให้ใครเข้ามาไม่ได้ นอกจากคุณ คิล และตัวฉัน” ‘มีฉันด้วยเจ้าค่ะ สวัสดีค่ะคุณไฟ โดนเมียที่บ้านไล่ออกมาจากบ้านเหรอคะ ฮ่ะ ๆ ’ เหม่ยลี่จู่ ๆ ก็โผล่ขึ้นมา ทำเอาผมตกใจจนต้องสะดุ้ง ช่วงนี้ขวัญอ่อน “เมียที่ไหนกัน นี่ถิงถิง ฉันไม่ได้นอนมาสองวันแล้ว มีวิธีทำให้พวกนั้นหายไปไหม แบบจับถ่วงน้ำไรเงี้ย” ผมถามคนที่เดินไปที่เตียงฟูฟ่องแบบเจ้าหญิง แล้วนั่งลงอย่างอารมณ์ดี “ดูหนังมากไปมั้งคุณเนี่ย ฉันทำไม่ได้หรอก เขาทรมานมากนะคุณ เขาไปไหนไม่ได้ คุณไปเชิญเขามาเอง อยากให้เขาหายไป ก็แค่ทำให้เขาไปเกิด ทุกคนที่ยังอยู่ เพราะมีเรื่องค้างคากันทั้งนั้น เหมือนยามหน้าตึก เขาตายเพราะถูกลูกหลงของพวกมาเฟียที่ไล่ยิงกัน เขาจะยอมไปเกิด ถ้าพวกมาเฟียหายไปหมด ซึ่ง คงจะยาก ฉันก็เลยให้เขาคอยกันพวกวิญญาณไม่ให้เข้ามาที่นี่แทน คุณมาเพราะเรื่องแค่นี้เหรอ” “ก็ฉันทนไม่ไหวแล้วนี่ ยังไม่ได้นอนเลย หลับตายัยพวกนั้นจะข่มขืนฉันท่าเดียว” ผมพยายามเล่าความเดือดร้อน เพราะตอนนี้มีเพียงเธอคนเดียวที่รู้ว่าผมกำลังเจอกับอะไร “เรียกแฟนคุณมาสิ พวกพี่ๆ คงอยากจะเล่นกับแฟนคุณมากกว่า ไม่สิต้องเรียกว่าแฟนเก่า” ถิงถิงหมายถึงใคร มายด์อะนะ “เอามาให้เป็นอันตรายเปล่า ๆ ครั้งที่แล้วโดนกระชากหัวจนถลาไปกับพื้น จนฉันต้องขอให้กลับไปก่อน” ระรานไปทั่ว หาเรื่องได้แม้กระทั่งคนไม่เกี่ยว ไร้เหตุผล ที่สำคัญทำร้ายคนที่ผมรัก ยังไงก็ต้องเอาถ่วงน้ำ!!!! “แล้วฉันเป็นอันตรายได้หรือไง ลำเอียงจังนะ นอนพักเถอะ จะนอนตรงไหนก็นอน ใครนอนพื้นก็นอน หรือจะออกไปนอนโซฟาก็ตามใจ ชาร์จแบตให้เต็ม พรุ่งนี้ค่อยกลับไปสู้ใหม่ ฉันจะไม่ยุ่งกับคุณอีกแล้ว” แล้วจู่ ๆ ถิงถิงก็ไล่ผมเลย ทั้งที่เมื่อกี้ยังพูดกันดี ๆ อยู่แท้ ๆ “โคตรใจดำเลย ฉันเป็นคนเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือนะ” “แล้วยังไง ต่อให้เป็นเทวดามาขอให้ช่วย ฉันก็จะไม่ช่วย จะเช้าแล้ว ฉันจะไม่รอแล้ว ฉันจะนอน” เพียงแค่สิ้นเสียง ถิงถิงก็ห่มผ้านอนบนเตียงแสนหวานทันที อะไรของยัยนี่!!! ผมเนี่ย เฮียไฟ!!! มาอ้อนวอนขอร้องเธอเลยนะ!!! ผมพยายามจะเรียกเธอมาคุยอยู่นาน แต่เธอดันไม่สนใจผมแล้ว หลับใส่ผมเฉยเลย ‘ใจดำจังเลย ไอ้หื่นเอ้ย ออกไปนอนข้างนอกเลยไป ตั่วเจ้โกรธแล้วเห็นไหม เป็นคนอื่นตายไปแล้ว การช่วยคุณ มันก็เหมือนก็ทำให้ตั่วเจ้เข้าไปสู่โลกวิญญาณมากขึ้น ออกไป!!!’ เหม่ยลี่เท้าสะเอวด่าผมไม่หยุด อะไร??? “เธอบอกจะนอนไหนก็นอน ฉันจะนอนมันที่นี่” ผมหันไปคุยกับเหม่ยลี่ แล้วเนียนนอนลงบนเตียงข้างเจ้านายของเธอ ก่อนจะแลบลิ้นให้วิญญาณเด็ก ผมจะนอนตรงนี้ใครจะทำไม ผมค่อย ๆ หลับตาลง กลิ่นของหมอนมันผ่อนคลายจัง การอดนอนยาวนาน มันทำให้ผมอ่อนล้า เพียงแค่หลับตา ผมหลับไปแบบไม่รู้ตัวเหมือนโดนคนเตะปลั๊ก ขอให้คืนนี้ฝันดีสักทีนะ ถิงถิง Say :: แล้วมานอนใกล้ ๆ แบบนี้ฉันจะไปนอนหลับได้ยังไง เหม็นเหล้าจัง จะนอนกับคนอื่นทำไมไม่รู้จักอาบน้ำ ช่างเป็นผู้ชายที่โคตรผู้ชายเลย ซกมก แต่ก็น่ารักจัง เฮียรู้ไหมว่าตั้งแต่วันนั้นที่เฮียช่วยถิงถิง ถิงถิงก็ไม่เคยลืมเฮียเลย คงมีแต่เฮียนั่นแหละ ที่จำถิงถิงไม่ได้ ฉันเอื้อมมือไปสัมผัสที่หน้าของคนที่หลับสนิท เหมือนไม่ได้นอนมานานแสนนาน ตายไปแล้วมั้ง ฮิ ๆ แต่…อีกนิด เฮียก็ศพแล้วนะ เน่าเชียว “เหม็นเหล้าชะมัด เอาไปทำไม้ถูพื้นก็ไม่ได้นะเนี่ย” ฉันใช้เท้าดันคนที่ตัวเหม็นออก แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำให้เขาตื่นคนที่ตัวใหญ่กว่าจับหมับที่ข้อเท้าของฉัน แล้วกระชากทีเดียวขาของฉันเข้าไปเกี่ยวเอวเขาเอาไว้เลย “ทนหน่อย พรุ่งนี้อาบให้ วันนี้ไม่ไหวแล้ว นอนเถอะหน่าเธอจะฆ่าฉันอีกคนหรือไง คร่อกกกกก~*” คนที่จับขาของฉันเกี่ยวเอาไว้กับเอวของเขา ทำให้ฉันกำลังคิดว่า แล้วแบบนี้ ฉันจะนอนท่าไหน แล้วจะนอนยังไง ไกลยังเหม็น แล้วใกล้จะไม่เหม็นเหรอ!!!! เฮ้อออ เอาวะ นอนมันทั้งท่าแบบนี้หล่ะ โอ้ยยย เหม็นเหล้า นอนไม่หลับ ฉันมองคนที่อยู่ตรงหน้าของฉัน เฮีย อย่างงั้นเหรอ คนจีนก็ไม่ใช่ แต่อั๊วะก็ชอบเฮียน้าาาาา คิกคิก แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเฮียลืมรักเก่าได้ ต่อคำสัตย์สาบานแล้ว ฉันไม่สามารถทำผิดกฏได้ ไม่งั้นฉันเองก็จะตายเหมือนกัน พอจมูกมันเริ่มชินกลิ่นเหม็นของเหล้าได้ หนังตาก็ค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ อะไรหลังจากนี้ ก็ให้มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน เช้าวันต่อมา “นี่…นี่!!!! คุณไฟ!!!! จะเลิกกอดแล้วเอากระบองมาถูได้รึยังอ่า” ฉันถามออกไป เพราะตื่นมาก็เจอตัวเองนอนหันหลังให้เขาแล้วก็โดนเขากอดจากทางด้านหลังอย่างแนบแน่น แถมไอ้กระบองแข็ง ๆ ยังดันอยู่ที่ก้นอีก “อื้ออออ นอนต่ออีกหน่อยได้ไหม ขอกอดอีกหน่อย ช่วยเป็นหมอนข้างให้ที” คนอดนอนไม่ยอมตื่นแถมยังเอาขามาก่ายฉันอีกแหนะ แล้วแบบนี้จะให้ถิงถิงลุกได้เมื่อไหร่ ถิงถิงต้องไปทำงานนะ “อื้อ” เสียงกรนเบา ๆ ที่ที่ข้างหู มันไม่ใช่อะไรที่ฉันชอบหรอก แต่ฉันชอบคนที่ใช้ฉันเป็นหมอนข้างอยู่ เขาจะรู้ไหมว่ากำลังทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ แต่ไอ้กระบองที่มันดันก้นฉันอยู่เนี่ย แข็งแรงจังเลยนะ แม้จะรู้ว่าว่ามันตั้งตรงโดยธรรมชาติก็เถอะนะ แต่…มันก็รู้สึก อื้ออออ เอามันออกไปได้ไหม แล้วแบบนี้จะให้ฉันคิดดีได้ยังไง ฉันดันสะโพกใส่ไอ้กระบองนั่น เพื่อให้ถอยออกไปหน่อย แต่คนที่หลับกลับดันสู้แล้วเอามันกลับมาไว้ที่เดิม “อื้อออออ” จะเอามาแตะถิงถิงไว้ทำไมเล่า ฉันเลยดันมันออกอีก แต่เขาก็ยังดันสู้ แล้วก็ดันต่ออีกหลายที จนตอนนี้มันคือการถูระบองยักษ์กับสะโพกของฉันไปมาแล้ว “ตัวเธอหอมจัง มีอารมณ์แล้วเนี่ย ดันทำไมนักหนา” คนที่พูดใช้มือกดหลังของฉันเล็กน้อย ให้สะโพกมันกลมเด่นยกขึ้นมา แล้วเอากระบองยักษ์ถูต่ออย่างหนักหน่วง พอสะโพกมันแอ่นขึ้นมา มันดันถูกับลูกท้อของฉันพอดี โอ้ยยยย เสียวจังรู้สึกดีมากเลย “อ่าาาาา พอแล้ว หยุดได้แล้ว” ถิงถิงกำลังจนทนไม่ไหว ฉันเองจะหยุดความรู้สึกดีนี้ยังไง “ซี้ดดดดด ให้หยุดแล้วเด้งสะโพกใส่ทำไมเล่า ถิงถิง ถ้าไม่หยุดตัวเองไฟก็หยุดไม่ได้นะ” เสียงอ้อนแบบนี้ แล้วถิงถิงจะทนไหวได้ยังไง “อ๊าาา เฮียยย แย่แล้ว ถิงถิงไม่รู้จะหยุดยังไง ซี้ดดด อื้อออ” แล้วมือใหญ่ก็กดสะโพกของฉันอย่างแรงให้มันหยุดนิ่ง ให้ที่สั่นระรัวคือลมหายใจของฉันเท่านั้น หัวใจของฉันเต้นตึกตักไม่ยอมหยุด ฉันพยายามที่จะหายใจเข้าลึก ๆ ดีใจที่เขายอมหยุดฉัน “ถ้าสะกิดติดง่ายแบบเนี้ย อย่าไปอยู่ใกล้ใครนะรู้ปะ อย่าให้ใครรู้มันอันตราย แล้วเรื่องของถิงถิงที่นี่ เฮียจะเก็บให้เป็นความลับ ชอบนะที่เธอแทนตัวเองด้วยชื่อ ถึงแม้เธอจะแค่หลุดออกมา แต่เฮียก็พอจะรู้แล้ว ว่าทำไมไอ้หน้าเพ้นท์เฮ้าส์ของเธอ ถึงต้องโหด เพราะเจ้านายตัวเองดันซ่อนความน่ารักเอาไว้นี่เอง รู้สึกผิดจังที่ไม่ได้อาบน้ำเมื่อคืน ไม่งั้นวันนี้คงอยากจะเล่นอะไรที่มากกว่านี้ ไว้ครั้งหน้าเนอะ” เขาชมเรา เขาชมเรา!!!!! เขาชมเราน่ารัก!!!! ประโยคเมื่อกี้พูดอะไรไม่รู้หูมันอื้ออยู่ แต่…ได้ยินคำว่ารักชัดเลยยยยย โอ้ยยยย อยากจะกรี๊ดดดดดดัง ๆ ออกมา ความรู้สึกที่ตัวเองโดนหอมที่แผ่นหลัง มัน…มัน…ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก “ฉันจะช่วย เรื่องเมียผีของคุณ สิ่งที่คุณจะต้องรู้เอาไว้ ในความสามารถของฉันที่ฉันมี ไม่ใช่หมอผี ไม่สามารถจับวิญญาณพวกนั้นใส่หม้อได้ สิ่งที่ฉันทำได้ คือการส่งวิญญาณ ร่างกาย วิญญาณของฉันเหมือนรถ ที่นำพาวิญญาณพวกนั้นไปสู่ภพใหม่ มันเลยเป็นเหตุผลที่ทำไมฉันต้องเปิดบริษัทรับจัดงานศพ ฉันจะไม่แทรกแซงเรื่องคนตาย แต่ถ้างานนั้นถูกขอด้วยคนเป็น ฉันจะทำได้ ไปทำเรื่องจ้างงานฉันที่เจ ประชาสัมพันธ์คนเมื่อคืน” ใช่พวกวิญญาณที่ไม่อยากไปเกิดจะกลัวฉัน แต่ถ้าฉันทำผิดคำสาบานแม้แต่ข้อเดียว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองฉันอยู่จะหายไปทันที รถที่เคยมีฉันเป็นคนขับ จะกลายเป็นรถที่เสียบกุญแจเอาไว้ ใครจะขับก็ได้ โดยมีฉันเป็นทางผ่าน “จริงเหรอ พูดจริงนะ” ‘อรุณสวัสดิ์ค่ะ อุ้ยยย ท่าแบบนี้ งื้อออออ เขินแทน อุ้ยทำงานก่อน อรุณสวัสดิ์ค่ะตั่วเจ้ ตารางงานวันนี้ จะมีงานศพของปู่ที ธีรยุทธ คำคง วัย 72 ปี ป่วยตายด้วยมะเร็งปอด เนื่องจากสูบบุหรี่จัด ทางญาติได้ขอให้จัดงานที่วัดดงมณี…” “ปู่ทีเหรอ!!! เขายังไม่ตายซะหน่อย” เฮียไฟ รู้จักคนคนนี้เหรอ ‘หากถ้าเป็นญาติของตั่วเฮีย ก็หักห้ามใจเถอะนะคะ เขาไปสบายแล้ว ญาติเป็นคนขอให้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ การจากไปเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ’ เหม่ยลี่ตอบในสิ่งที่มันเป็นสัจธรรม เพราะมีการตาย การเกิดก็จึงสมดุล “นั่นสินะ ว่าแต่…ทำไมต้องเป็นตั่วเฮียด้วยอะ” ‘ก็ทั้งคู่ มีอะไรกันแล้วไม่ใช่เหรอคะ ก็ต้องเรียกตั่วเฮียสิ แบบนี้ตั่วเจ้ก็ไม่ต้องแต่งงานกับคิลแล้วสิเจ้าคะ’ เหม่ยลี่ตอบอย่างอารมณ์ดี แต่มันใช่ที่ไหนเล่า !!!! “เลิกพูดจากเลอะเทอะ ไม่ได้มีอะไรกันทั้งนั้น เตรียมตัวไปทำงาน ออกไปรอข้างนอกก่อน ฉันจะให้คุณไฟอาบน้ำ” ฉันดันตัวคนที่พาให้ฉันโดนเขาใจผิดออก ก่อนจะสวมบทตั่วเจ้แห่งหวังซิน “ทำไมต้องแต่งงานกับพ่อบ้านด้วยอะ” เฮียไฟถามขึ้นมา แต่ฉันเหล่สายตาไปมองเหม่ยลี่ ถ้าหล่อนบอก หล่อนได้ถูกส่งไปชดใช้กรรมก่อนเวลาแน่ ๆ เฮียจะต้องรักถิงถิงด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะถิงถิงหมดเวลา หมดแล้วเวลาการเป็นตัวฉัน ต้องเข้าสู่โหมดทำงานแล้วสิ หลังจากที่จัดการให้คนตัวเหม็นได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันก็เดินมาส่งเขาที่รถ เม่นคนของเขามารออยู่แล้ว น่าจะอยู่ที่นี่ทั้งคืนนั่นแหละ คงจะนอนในรถ เพื่อรอส่งเจ้านายกลับ ช่างเป็นลูกน้องที่ทุ่มเทจริงนะ “กลับแล้วนะ ไว้จะมารบกวนใหม่” เฮียหันมาคุยกับฉันด้วยรอยยิ้ม “อื้อ” “ไม่แต่งหน้าแบบเมื่อคืนน่ารักกว่ามากเลย แบบนี้เหมือนโบกปูน” เขากระซิบที่ข้างหูของฉันจนรู้สึกประหม่า น่ารักอย่างงั้นเหรอ บ้า…เขินจัง “อื้อ” แบบใส ๆ ใครจะมากลัวฉัน ก็ต้องโบกแบบนี้ คนจะได้รู้ว่าฉันดุ คนแก่เล่นตุ๊กตา ใครเขาจะกลัว “ขอเบอร์ได้ไหม เผื่อติดต่อกันได้ ติดต่อผ่านทางไอ้วินมันบ่นเก่งมากเลย ไฟขอเบอร์ถิงถิงเอาไว้หน่อยนะ ไลน์ก็ได้” คนที่แทนตัวเองด้วยชื่อ ส่งโทรศัพท์ของตัวเองมาให้ฉันกดเบอร์โทรศัพท์ ฉันก็เลยกดเบอร์ของตัวเองไปให้ ‘ตั่วเจ้คะ คิลสตาร์ทรถรอเราแล้วค่ะ’ เหม่ยลี่บอกเราที่กำลังยืนคุยกันอยู่ ฉันเลยต้องแยกจากเฮียไฟเพื่อไปทำงาน ไม่เคยไปทำงานแล้วมีความสุขแบบนี้เลย เม่นที่อยู่ในรถ เปิดกระจงลงมาคุยกับคนเป็นเจ้านาย “เฮียครับ ไอ้เม่นมีข่าวดีมาบอก คนของเราที่เฮียให้ตามดูคุณมายด์ รายงานมาว่า วันนี้เธอกับว่าที่สามีทะเลาะกันรุนแรง เฮีย ถ้าเฮียจะเข้าไปดามใจ ต้องตอนนี้แล้ว” เสียงของเม่นทำให้รอยยิ้มบนหน้าของฉัน แทบจะไม่เหลือ หยุดเดินเพื่อจะรอฟังคำตอบ จากผู้ชายอีกคน ‘ตั่วเจ้คะ’ เหม่ยลี่เรียกให้ฉันเดินต่อ “ไปดิ รออะไรอ่า” คำตอบที่โคตรจะชัดเจน ว่ามันไม่มีทางจะเป็นฉัน ทำให้ฉันเดินสับขาลิ่ว ๆ ไปขึ้นรถตู้ ที่คิลเปิดประตูรอรับฉันอยู่แล้ว พอขึ้นรถมาได้ ฉันก็ทิ้งตัวใส่คิลทันที เจ็บจังเลย เจ็บจังเลยนะ ความรักเนี่ย อยากจะร้องไห้ แต่ลูกน้องเต็มรถก็ทำไม่ได้ ได้แต่ทิ้งตัวใส่คนที่ฉันไว้ใจที่สุด “จบงานจ้างครั้งนี้เมื่อไหร่ เราไปเที่ยวกันไหมตั่วเจ้ ไปพักกันหน่อย” “อื้อ” “ผู้ชายคนนั้น รู้ไหม ถ้าตั่วเจ้เข้า 28 ปี จะไม่สามารถเลือกคู่เองได้แล้ว จะต้องแต่งงานกับกระผม เพื่อมีทายาทที่รับหวังซินต่อ” คิลถามขึ้นมา ในขณะที่นั่งเฉย ๆ ให้ฉันพิงอยู่ “ไม่” ตอนนี้ฉันกำลังคิด ว่าแต่งกับคิลก็อาจจะไม่แย่นักหรอก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD