ไฟ Say ::
มันไม่ใช่แล้ว มันไม่ใช่แล้ว!!! ทุกครั้งที่ผมจะข่มตาหลับ ผมจะโดนหญิงสาว 3 คน รุมปู้ยี่ปู้ยำผมทุกที จากที่ติดใจรสสวาทของพวกหล่อน แต่ตอนนี้มันเริ่มไม่ใช่แล้ว ผมนั่งถางตาอยู่ที่โต๊ะทำงาน ไม่ยอมนอนนี่วันที่ 3 เข้าไปแล้ว ผมจะไม่ยอมให้พวกเธอรีดน้ำจากผมได้อีก
“เฮีย เฮียนั่งตรงนี้มาหลายวันแล้วนะ เม่นว่าเฮียไปนอนเถอะ” ไอ้เม่นบอกให้ผมไปนอน มึงบ้าเหรอ กูนอน กูก็จะต้องเสียตัวนะ เสียตัวไม่เสียใจ แต่ที่กูเสียคือน้ำ น้ำก็ถูกเคล้นจนปวดลำไปหมดแล้ว
“กูจะไม่ยอมนอน กูนอนพวกนั้นจะมาข่มขืนกูอีก กูจะรักษาพรหมจรรย์” แต่ต่อให้ผมจะพูดแบบนั้น แต่ความอ่อนล้าของร่างกาย ทำให้ผมลืมตายังยากเลย ก็สองคืนที่ผ่านมา ผมดันถูกรีดน้ำทั้งคืนจนเจ็บจู๋ ขยาดไปอีกนาน
“3 วันแล้วนะเฮีย มันก็แค่ฝัน นอนเถอะเฮีย เม่นว่าเฮียอาจจะคิดมากแล้วเก็บเอาไปฝัน แค่งีบก็ได้อะ ถ้าเฮียครางเมื่อไหร่เม่นจะปลุก ดีไหมเฮีย” เม่นเสนอทางรอดให้ชีวิตผม ผมเลยตกลง แล้วฟุบหลับกับโต๊ะทำงาน เพียงแค่ผมหลับตา หญิงสาวทั้ง 3 ก็ขึ้นคร่อมผมอีกแล้ว
“คิดว่าไม่ยอมหลับ แล้วจะหนีเมียไปได้เหรอ เราเป็นผัวเมียกันแล้ว เราก็ต้องไปอยู่ด้วยกันสิ หมวยรักไฟนะ” หญิงสาวสวยขึ้นควบร่างกายกำยำของผม เธอจับแก่นกายที่อ่อนนุ่มเข้าปากแล้วให้ริมฝีปากรูดจนมันแข็งตัว ก่อนจะใช้ถ้ำสวาทกดกับแก่นกายจนมิด
“ผัวเมียอะไร ไม่ พอแล้ว” ผมปวดจู๋ไปหมด ไม่ไหวจะให้น้ำออกแล้ว
“ไม่เอาแล้ว ต่างคนต่างไปได้ไหม”
“ต่างคนต่างไปอะไร พวกเราเป็นผัวเมียกันแล้วไง มึงบอกว่าจะจับทำเมียให้หมด นี่ไง พวกกูมาเป็นเมียมึงแล้วนี่ไง เอาสิ มึงอยากได้พวกกูมาก เอาสิ กูจะเอามึงไปเป็นผัวพวกกูตลอดไป โอ้วววว ซี้ดดด ผัวขา แข็งขนาดนี้ อะ ซี้ด ควบมันจริง ๆ” หญิงสาวเปลี่ยนผีหน้าเละ แล้วพยายามควบแก่นกายของผมอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่ชื่อหมวย แต่รวมถึงหญิงสาวที่ชื่อเปีย ที่หน้าเขียว ขอบตาคล้ำลิ้นจุกปาก
“ไปเป็นผัวพวกเรา เมียเป็นผี ผัวก็ต้องเป็นผี เปียรักไฟนะ”
“ไม่ ไม่!!! กลัวแล้ว กลัว!!! ปล่อยฉันไป!!!” ผมพยายามโวยวาย แต่ก็เหมือนจะไม่มีใครได้ยิน
“อย่าทิ้งเราไปสิ ใครทิ้งกู มันต้องตาย เมียใหม่มึงก็ต้องตาย พวกผู้ชายชาติชั่ว มึงจะทิ้งกูไปหาคนใหม่ใช่ไหม” หญิงสาวที่ชื่อชมพู่พยายามจะบีบคอผม แต่ความงี่เง่าคือทำไมในฝันผมถึงบังคับตัวเองไม่ได้วะ ฝันก็ฝันของผมนะเว้ย
“แคก!! แคก ๆ แคก ๆ” ผมหายใจไม่ออก ผมพยายามจะไขว่คว้าหาคนช่วย แต่…
“เฮีย เฮีย!!! เฮียยย!!!” เสียงเรียกและแรงเขย่าทำให้ผมตื่น ผมรีบหยิบปืนจากลิ้นชักขึ้นมาวางบนโต๊ะ อาการหอบทำให้ไอ้เม่นมีสีหน้าตกใจ ผมหอบจริงกลัวจริง และเมื่อกี้เหมือนตัวเองกำลังจะตายจริง ๆ
“ไอ้เม่น ถ้ากูหลับ มึงยิงกูทิ้งได้เลย เหี้ยกูเอากับผี น่ากลัวเหี้ย ๆ ถ้ากูหลับ มึงเป่ากระบาลกูได้เลย” ผมเอาจริง ผมจะไม่ยอมนอนแน่!!! ผมขึ้นลำกล้องปืนเอาไว้ ถ้าไอ้เม่นไม่ทำ ผมจะยิงกรอกปากด้วยตัวเอง
ความทรมานที่โดนเมียผีข่มขืน แม่งมากมายพอ ๆ กับผมไม่ได้นอน แต่มันแย่กว่าตรงที่ร่างกายผมมันสู้กลับ มันจะหลับให้ได้เลย ผมหันไปมองไอ้เม่น ที่มันยังเดินไปเดินมา จนทำให้ผมเซ็งจนอยากจะหลับ มึงจะขยันอะไรหนักหนาหะ
“เม่น มึงเล่นกับกูหน่อยดิ”
“เฮียยย!!! ผมเป็นผู้ชายเฮียก็รู้ เมียผมก็มี เฮียจะมาผิดเพศแก้เคล็ดไม่ได้” ไอ้เม่นทำท่ารังเกียจผมอย่างชัดเจน
“ไอ้เวร กูหมายถึงเล่นเกม เดี๋ยวกูตบคว่ำไอ้นี่ กวนตีน”
การเล่นเกมกับไอ้เม่น มันช่วยได้แค่เล็กน้อย เพราะพอตกดึงไอ้เวรเม่นมันก็ต้องหลับ แล้วผมก็ต้องอยู่คนเดียว ความง่วงมันก็คืบคลานเข้ามา ถ้าผมหลับครั้งนี้คงจะอวสานจู๋และท่อน้ำเชื้อแน่ ผมตัดสินใจเดินเข้าไปในครัว อัดกาแฟให้เต็มสูบ กูจะแดกให้ตาแข็งกันไปข้าง แล้วมันก็ได้ผล ผมอยู่ได้ยันเช้าของอีกวัน
วันถัดมา
ผมกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานตัวเดิม เพิ่มเติมคือพ่อกับแม่ผมที่เข้ามาบ่น ที่ผมไม่ยอมหลับยอมนอนจนตอนนี้สภาพของผมนั้นไม่ต่างจากซากศพ แม้พ่อจะด่าผมแค่ไหนแต่ตอนนี้ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะฟังใคร ผมไม่ได้นอนมา 4 วันแล้ว ผมกำลังจะไม่ไหว พ่อกำลังบ่นอะไร ผมไม่มีสติที่จะฟังเลย ตาที่กำลังจะปิดทำให้ผมหยิบปืนขึ้นมา จ่อที่ปากของตัวเอง จนพ่อกับแม่ต้องเข้ามาแย่งปืนจากมือของผม
“มึงบ้าไปแล้วเหรอไอ้ไฟ มึงจะตายต้องมีหลานให้กูก่อน มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย ไปนอนไป” พ่อไล่ผมไปนอน พ่อกำลังจะไล่ผมไปตายรึไง หรือผมควรจะตายไปอยู่กับเมียผีดีนะ
“ถ้าฉันหลับ ผี 3 ตัวนั้นจะวนเวียนมาข่มขืนฉัน จนกว่าฉันจะตาย” ผมพูดกับคนเป็นพ่อ ด้วยใจที่หนักแน่น
“งานผีก็มา กูว่าจิตแพทย์ต้องเข้าลูกกูแล้ว พอใจจ๊ะ ไปตามไอ้วินมา ไม่งั้นไอ้ไฟอาจจะแย่แน่” พ่อผมพูดอะไรวะ วิน ๆ วินไหน วินดีเซล วินมอไซค์ หรือวินนี่เดอะพูห์
ผมมองพ่อกับแม่ที่ทำหน้าเป็นกังวล ทำอะไรกันเชื่องช้าไปหมด ขยับปากช้า ๆ ผมมองไปรอบ ๆ ตัวที่ทุกอย่างมันหมุนช้าไปหมด เสียงเบา จนแทบไม่ได้ยิน
‘ผัวจ๋าาาา ใกล้เวลาที่เราจะอยู่ด้วยกันแล้วนะ’ เสียงแวว ๆ ที่ดังมากับลมกระซิบที่หูของผม ทำให้ผมหันมองต้นเสียงที่ไร้ตัวตนมีเพียงแค่เสียงหัวเราะ
“ผัวบ้าอะไร!!! แค่ได้กันไม่เรียกว่าผัวหรอกเว้ย!!!” ผมทุบลงกับโต๊ะ จนพ่อกับแม่ต้องหันมามอง
“ไฟ โอเคไหมลูก” แม่เดินมากอดผม แต่ทันทีที่แม่กอดผม แม่ของผมก็กระเด็นไปกับพื้น มันทำให้ผมตกใจมาก
‘ไอ้อีหน้าไหน ก็เข้าใกล้ผัวกูไม่ได้’ เสียงที่ยังดังแว่วอยู่ในหู ทำให้ผมต้องเอามือปิดหูเอาไว้ ผมคว้าปืนที่พ่อวางไว้บนโต๊ะ จะมากรอกปากอีกครั้ง
“ไอ้เม่น มึงไปเอายานอนหลับมา กูว่าเจ้านายมึงมันกำลังเป็นบ้า!!!” พ่อที่ประคองแม่ขึ้นมาตวาดบอกไอ้เม่น
“ถ้าพ่อจะให้ยานอนหลับ ให้ผีพวกนั้นมาข่มขืนฉัน เอาปืนยิงฉันให้ตายไปเลย” ผมกดเสียงต่ำบอกพ่อ แล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น
‘ฮ่า ๆ ฮิ ๆ มามา มาอยู่กับเรา เมียของไฟไง’ เสียงที่ยังดังอยู่ ทำให้ผมต้องเอามือปิดหู
“ไอ้เม่น มึงไปตามไอ้วินมาเดี๋ยวนี้ กูว่าไอ้ไฟ มันกำลังจะไม่ไหวแล้ว” อัคคีมองลูกชายอย่างหวั่นใจ เพราะตอนนี้ลูกชายของเขา หาเรื่องที่จะตายอย่างเดียว
“ฉันเคยเรียนมานะเฮียคี คนที่อดนอนจะทำให้หูแว่ว ประสาทหลอน เห็นภาพผีอะไรพวกนี้ เฮีย ฉันว่าเอาไฟไปนอนที่ห้องกันเถอะ” พอใจหันไปพูดกับคนเป็นสามี ซึ่งสามีก็เห็นด้วย เลยสั่งให้พวกลูกน้องเอาไฟไปที่ห้องนอน
อีกด้าน
“คุณวินครับ คุณวินนนนนน” เม่นที่มาถึงรีสอร์ตน้ำพุร้อน ก็ร้องเรียกหาคนเป็นเจ้าของที่นี่ทันที อาการโวยวายของเขาทำให้ธาวินไม่พอใจนัก
“มึงมีอะไร ลูกกูนอน เดี๋ยวกูตบหัวทิ่มเลย”
“เฮียครับ เฮียกำลังแย่แล้ว จะฆ่าตัวตายอย่างเดียวเลย เฮียบอกเฮียโดนผีจับทำผัว ไม่ยอมนอนมา 4-5 วันแล้ว ตอนนี้จะเอาปืนกรอกปากตัวเองอย่างเดียว นายใหญ่ให้มาตามคุณวินครับ” เม่นทรุดตัวกอดเข่าธาวินเอาไว้
“มึง กูไม่ใช่หมอ ฮัลโหล ไปหาหมอสิวะ กูจบจิตวิทยาอาชญากรรม กูไม่ได้จบจิตเวช กูช่วยไม่ได้หรอก เฮียมึงอาจจะประชดมายด์ที่กำลังจะแต่งงานหรือเปล่า” ธาวินพูดในมุมมองที่เป็นไปได้
“ไม่ใช่แน่นอนครับ เฮียต่อให้จะบ้าแต่ไหน แต่ก็ไม่เคยคิดจะเอาปืนกรอกปากตัวเองแบบนี้ เฮียเอาแต่พูดว่า ผีจะเอาเฮียไปเป็นผัว คุณวินหายาอะไรไปช่วยเฮียหน่อยเถอะครับ” คำขอร้องของเม่นทำให้ธาวินอ่อนใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วขับรถตามเม่นออกไปดูคนเป็นพี่ชาย
พอมาถึง สภาพของไฟมันแย่กว่าที่เขาคิดเอาไว้มากนัก เพราะตอนนี้เขานั้นเริ่มเอาปากกาที่หาได้มาแทงลงที่ขาของตัวเอง เพื่อไม่ให้ตัวเองหลับ เมื่อเขาเห็นธาวินที่มาหาเขาถึงในห้องนอน ก็ชำเลืองตามามอง
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร มึงไปเลยไป ไปหาหมอ มึงบ้าเหรอ เข้าขั้นทำร้ายตัวเองแบบนี้ไม่ปกติแล้ว” ธาวินพยายามจะลากคนเป็นพี่ชายไปหาหมอ แต่เขากลับไม่ยอมไป แล้วเอาปากกาแทงขาตัวเองซ้ำ ธาวินเห็นท่าไม่ดี จะเอายานอนหลับที่เตรียมมา ฉีดเข้าที่คนเป็นพี่ชาย แต่ไฟกลับจับมือเขาเอาไว้
“ชะ..เชื่อกูสักครั้ง กะ..กูไม่ได้บ้า มีวิญญาณอยู่ในห้องนี้ มันกำลังจะเอากูไปอยู่ด้วย ไอ้วิน…ฟัง ชะ..ช่วยฟัง กูไม่ได้บ้า กูมีสติดีอยู่ กูกำลังจะทนไม่ไหวแล้ว ถ้ากูหลับ กูจะโดนไอ้พวกวิญญาณข่มขืน มันน่ากลัวมาก มะ..มึง ช่วยทำให้กู ไม่หลับที” เสียงที่แหบพร่าของไฟ ทำให้วินเปลี่ยนสลับหยิบเข็มฉีดยาอีกเข็มฉันมา แล้วแทงไปที่แขนของพี่ชาย
“อะดรีนาลีน อยู่ได้ไม่นาน แค่ 4 ชั่วโมงเป็นอย่างมาก ฉันช่วยพี่ไม่ได้ แต่จะไปหาคนที่ช่วยได้ อดทนไว้ อย่าเอามีดปาดคอตัวเองหรือเอาปืนกรอกปากตัวเอง จนกว่าฉันจะกลับมา ฉันจะไปหาคนที่ช่วยพี่ได้มา ทำตัวกับเธอดี ๆ ด้วยล่ะ คนที่ฉันจะพามา น่ากลัวกว่าผีอีก”
ธาวินเดินออกมาจากห้องของไฟ ก็เจอกับลุงและป้าสะใภ้ที่มารอถามอาการ แต่เขากลับทำเพียงแค่ส่ายหน้า เพราะเขาช่วยไม่ได้ และยาที่ให้ลูกชายของลุงกับป้า ไม่ใช่ยานอนหลับ แต่เป็นอะดรีนาลีน ทำให้ลุงกับป้าของเขามีอาการไม่พอใจ แต่ก็รับฟังที่หลานชายพูด
“ฉันจะไปหาคนที่ช่วยได้ ก่อนจะรักษาทางอื่น ฉันก็อยากจะเชื่อที่พี่ชายฉันพูดก่อน ลุงกับป้าช่วยดูอย่าให้มันหลับก่อนฉันจะกลับมา สภาพร่างกายแบบนั้นไม่น่าจะแค่อดนอน 4-5 วัน มันโทรมเร็วเกินไป มันเหมือนคนที่ 4-5 วันไม่ได้นอน แล้ววิ่งขึ้นลงภูเขาอยู่ตลอด มันโทรมเกินกว่าที่จะเป็น”
ถิงถิง Say ::
“ใครสั่งให้แกตามดูฉัน ตอบมาดี ๆ นะ ไม่งั้นแม่จะเอาคีมดึงลิ้นของแกออกมา…..” ฉันหันไปมองต้นเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งเข้ามา
“ตั่วเจ้ มีคนมาหาครับ บอกเรื่องด่วน”
“บอกมันรอไป ด่วนแค่ไหน ฉันก็ไม่สนใจ จะคนเป็นหรือคนตายก็ต้องรอ รอฉันมีอารมณ์จะทำอะไร” ฉันที่กำลังจะใช้คีมดึงลิ้นของคนที่มาตามดูฉันหลายวันแล้ว ต้องสะดุดเพราะมีคนเดินเข้ามาเพิ่ม
“แต่เรื่องนี้สำคัญถิงถิง ไอ้ไฟกำลังจะตาย” เสียงของคนที่ถือวิสาสะเข้ามาในที่หวงห้ามทำให้เจ้าของบ้านอย่างฉัน ไม่พอใจนัก อยากจะเอามีดปักอก แต่ก็รับฟัง เพราะมีชื่อของผู้ชายอีกคนที่ทำให้ฉันหัวใจเต้นอยู่
“ตอแหล ฉันเบื่อเรื่อตอแหลของวินเต็มทน ออกไป ฉันกำลังจะตัดลิ้นคน งานอะไรฉันก็ไม่รับทำทั้งนั้น เงินไม่มางานไม่เดิน บริษัทของฉันมีกฏ จะทำงานก็ต่อเมื่อสัญญาถูกเซ็น เงินมางานไป ไม่มีราคาเพื่อน เพราะมันมีราคาเดียว ไม่ว่าจะให้เก็บศพ หรือจะให้ทำให้เป็นศพ ไปคุยกับคนดูแลคิวให้ฉันได้เลย” ฉันโดนวินหลอกใช้เพราะเรื่องพี่ชายเขามามากพอแล้ว ฉันจะไม่วิ่งตามวินอีกละ
“อะดรีนาลีน น่าจะอยู่ได้แค่ 4 ชั่วโมง ไปดูหน่อยเถอะ ขอร้อง ไม่ใช่ให้ไปทำงาน แต่แค่ไปดูไอ้ไฟมันหน่อย มันบอกว่ามันโดนผีหลอก” ผีหลอกอย่างงั้นเหรอ โกหกอีกแล้วสินะ คนอย่างวินไม่เคยเชื่อเรื่องผี ทั้งที่มันก็วนเวียนอยู่รอบตัวเขาเยอะแยะไปหมด
“หาจิตแพทย์ก่อน แล้วค่อยมาหาฉัน”
“มันไม่ได้นอนมา 5 วันแล้ว ตอนนี้จะเอาปืนกรอกปากตัวเองอยู่ตลอดเวลา ฉันอยากจะมาบอกเธอแค่นี้ ฉันจะไปลงคิวไว้ที่เลขาเธอก็แล้วกัน” วินจนใจ ต้องเดินออกไปทำตามกฏ ลงรายละเอียดงานไว้กับเลขาของฉัน
เรื่องผี งั้นเหรอ เข้าใจสิ่งที่พูดออกมากันหรือเปล่านะ ฉันคือถิงถิง ไม่ใช่สาวสวยรุ่นเด็กเอ๊าะ ๆ เพราะปีนี้ก็อายุ 27 ขวบเข้าไปแล้ว ฉันเป็นผู้สืบทอดบริษัทหวังซิน รุ่นที่ 7 บริษัทของฉันรับจัดงานศพทุกรูปแบบ ทุกบริการไม่เว้นแม่แต่จ้างคนไปร้องไห้หน้าศพ และที่สำคัญคือรับทำให้เป็นศพด้วย เราบริการทุกระดับประทับใจ ถ้าไม่เชื่อก็ลองตายดูสิ การที่บ้านฉันรับทำงานแบบนี้ เพราะสิ่งที่สืบทอด ไม่ใช่แค่บริษัท แต่คือดวงตา ดวงตาที่มองเห็นวิญญาณ กฏข้อห้ามของเรา คือห้ามไปแทรกแซงเรื่องของคนตาย
“เหม่ยลี่ กี่โมงแล้ว” ฉันถามเลขาส่วนตัว ส่วนตัวแบบจริง ๆ แบบที่มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่เห็น
‘จากที่คุณวินมา 2 ชั่วโมงแล้วเจ้าค่ะ ตั่วเจ้’ เหม่ยลี่ที่ลอยไปก็ลอยมาบนอากาศ บอกฉันด้วยใบหน้าที่เป็นห่วง
“ควรไปไหม ฉันคือศีล 4 ถ้าฉันไปแล้วเกิดห้ามใจให้รักเขาไม่ได้ แต่เขามีคนในใจอยู่แล้วมันจะยุ่งนะ” ฉันรู้ ฉันรู้ว่าคุณไฟ มีเพียงแค่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ในใจ ฉันจะไม่แย่ง ไม่แทรก เพราะมันทำให้ฉันผิดศีลที่ปฏิญาณไปแล้ว ตอนรับตำแหน่งประธานบริษัท
‘ถ้าตั่วเจ้ ไม่ไป เขาตายจริง อาจจะไม่มีเขาให้รัก ก็ได้นะเจ้าคะ’ คำตอบของเหม่ยลี่ทำให้ฉันคิดหนัก แต่ฉันจะปล่อยให้เขาตายไม่ได้ ฉันจับเหม่ยลี่ที่ลอยไปมาบนอากาศยัดใส่กระเป๋า แล้วตัดสินใจเดินไปหาวินที่ห้องรับแขก
‘ตั่วเจ้ ไม่ ไม่เอาฉันใส่กระเป๋าสิเจ้าคะ อ๊าาาา แคบ’
ฉันไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก เพราะไม่รู้ว่าที่คุณไฟเจอ จะเป็นผีจริงหรือเปล่าเอาแค่เหม่ยลี่ไปก็พอ ฉันมองที่วินที่ตอนนี้นั่งตบเท้าลงกับพื้น พฤติกรรมแบบนี้แสดงว่ากำลังร้อนใจ ครั้งนี้อาจจะไม่ใช่การหลอกไปทำงานอีกก็ได้
“ตัดสินใจนานเกือบนาทีสุดท้ายเลยนะ ไปเถอะ ป่านนี้ไอ้ไฟมันเอาปืนกรอกปากไปแล้ว” วินเดินนำฉันไปขึ้นรถ แล้วขับออกไปแทบจะทันที รถมุ่งหน้าเข้าย่านสถานบันเทิงแล้วหยุดจอดที่ตึกขนาดใหญ่ ที่มีป้ายไฟว่า The Mute
ฉันลงจากรถ โดนมีวินเป็นคนเดินนำทาง ในร้านมีกลิ่นอายหลาย ๆ อย่าง แต่ก็ไม่เห็นจะมีวิญญาณอะไรสักตัว ฉันเลยปล่อยเหม่ยลี่ออกจากกระเป๋า แต่เธอกลับเข้าผ่านลิฟต์มาไม่ได้ เพราะเจ้าที่ไม่อนุญาต
“วิน บอกเจ้าที่อนุญาตให้หน่วยสอดแนมฉันเข้ามาที เขาไม่ยอมให้เข้ามาเพราะเจ้าของบ้านไม่อนุญาต” ฉันพูดขี้นมา แต่ดูเหมือนวินจะทำหน้าเหว่อนิดๆ
“พูดภาษาอะไรของเธอ อะ ๆ เจ้าที่…บอกให้หน่วยสอดแนมของยัยนี่เข้ามาได้” แค่คำพูดของวิน ก็ทำให้เหม่ยลี่เข้ามาในลิฟต์กับเราได้ ลิฟต์ถูกกดมาชั้นบนสุด แล้วเปิดออก
ตึก ตึก ตึก เสียงของเท้าที่เดิน สัมผัสทุกอย่างก้าวของฉัน ล้วนแล้วแต่ทำให้กลิ่นอายความชั่วร้าย ๆ ค่อย ๆ แหวกออก ไม่ใช่ว่าฉันยิ่งใหญ่ แต่แหวกให้ฉันเดิน เพราะฉันชั่วร้ายกว่า วินเปิดประตูเพ้นท์เฮ้าส์ให้ฉันเข้าไปข้างใน
‘ตั่วเจ้ มีแรงอาฆาตมากอยู่เจ้าค่ะ’ เหม่ยลี่เอามือปิดจมูกของตัวเอง
“วิน!! แกพาหมอผีมาเหรอ ไม่ใช่นี่ คนนี้ใคร หรือเจน ญาณทิพย์” ผู้ชายเกือบจะชรา เดินเข้ามาหาฉัน แล้วมองฉันด้วยสายตาสงสัย ฉันเลยเอียงคอมองเขาคืน
“คุณไฟ อยู่ที่ไหนคะ” คำถามของฉัน ทำให้คุณลุงเดินไปเปิดประตูห้องห้องหนึ่งให้ฉัน ฉันเลยเดินเข้าไปข้างใน ไม่เจอวิญญาณสักตัว เจอแต่คุณไฟที่เอาปากกาแทงขาตัวเองจนเลือดไหลนอง มีหญิงสาวที่รุ่นเดอะนั่งร้องไห้อยู่ข้าง ๆ น่าจะเป็นแม่ แต่ไม่ยอมแตะลูกของตัวเองสักนิดเลย ทำไม??
‘สภาพคุณไฟตอนนี้ดูไม่ได้เลยเจ้าค่ะ เขากำลังจะตาย เขากำลังจะเข้าสู่โลกของคนตาย ถ้าเขาเห็นฉัน แสดงว่า….’ เหม่ยลี่บอกฉัน
“ถิงถิง เป็นยังไง พอช่วยอะไรได้ไหม ต้องพาไปวัดรดน้ำมนต์ไหม”
“ขอวันเดือนปีเกิด ปีนักสัตว์ แล้วขอให้ทุกคนออกไปจากห้องนี้ ผู้ชายรุ่นเดอะคนนี้ ดวงแข็ง วินเองก็แข็ง แข็งมากด้วย พวกนั้นไม่ยอมออกมาหรอก พวกนั้นซ่อนตัวอยู่ในนี้” ฉันไม่เห็นวิญญาณพวกนั้น แต่ที่ฉันรับรู้ได้ คือฉันสงสารคุณไฟจับหัวใจ ดวงตกแบบนี้ อยากทำเสน่ห์ใส่จังเลย แต่จะทำได้ ก็ต้องช่วยให้ไม่ตายก่อนละนะ คนอะไร ยิ่งแก่ยิ่งหล่อ ขนาดซีด ๆ จะตายแบบนี้ ยังหล่อได้ใจ
“ไฟเกิดปีเสือ วันจันทร์ ที่ 21 เดือน 6 ปี 25xx” คนเป็นแม่พูดขึ้นมาด้วยน้ำตา คุณแม่สามีสินะ ฉันเดินเข้าไปแตะขาที่เข่าของท่าน
‘ปีนี้ ปีวอก ชง 100% นะเจ้าคะ’ เหม่ยลี่เข้าไปมองคุณไฟใกล้ ๆ แต่เขากลับชกทะลุตัวเหม่ยลี่เลย มันทำให้ฉันตกใจมาก เพราะอะไรนะเหรอ เพราะเขามองเห็นเหม่ยลี่ยังไงล่ะ
“วิน แย่แล้ว แย่กว่าที่คิด เคยได้ยินคำว่า คนที่เห็นวิญญาณ คือคนที่กำลังจะตายไหม ออกไปให้หมด ฉันจะอยู่ในนี้แค่คนเดียว ไม่เรียก อย่าเข้ามา แม้แต่คนเดียว ออกไป!!! เดี๋ยวนี้!!!” ฉันเสียงดังใส่คนเป็นเจ้าของบ้าน ให้พวกเขาออกไปให้หมด ก่อนจะเดินไปใกล้คนที่นั่งคอพับอยู่ที่พื้น
ฉันจะต้องให้เขามีพลังชีวิตมากกว่านี้ก่อน ฉันเลยตัดสินใจประกบริมฝีปากของคนที่เหมือนซากศพ กลิ่นเน่านี้มาจากผี หรือไม่ได้แปรงฟันเนี่ย อย่างกับจูบกับศพเลย อี๋!!! มันไม่ใช่การดูดปากจ๊วบจ๊าบ แต่มันคือการแค่เอาริมฝีปากแตะเอาไว้แล้วปล่อยลมหายใจเข้าไป ให้เขาได้รับรู้ถึงลมหายใจนั้น เหมือนคนที่ทำ CPR แววตาของเขาที่จ้องมาที่ฉันมัน…ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
‘ตั่วเจ้ ระวัง!!!’ เหม่ยลี่ตะโกนบอก ทำให้ฉันคว้าหมับเข้าที่เงาดำที่จะพุ่งชนใส่ฉัน ฉันบีบคอของไอ้เงาดำตัวที่มุ่งจะทำร้ายฉันเอาไว้
“หล่อนสินะ ที่ทำให้คุณไฟของฉันเป็นแบบนี้ จำใส่หัวของหล่อนเอาไว้ ผู้ชายคนนี้ เป็นของฉัน” ทันทีที่ฉันจะบีบคอวิญญาณหญิงสาวหน้าเละ มันกลับหายไป
“มึงก็คันอยากให้ผัวกูเอาเหมือนกันสินะ อีร่าน” ชายหนุ่มใช้เสียงทุ้มต่ำ ก่อนจะพุ่งเข้ามากดฉันลงกับพื้น โดยการกดแขนฉันสองข้างแนบลงกับพื้น แล้วคร่อมร่างของฉันเอาไว้ ด้วยแรงที่มากมายมหาศาล
“ท่าแบบนี้ ท่าแบบนี้มัน ฮึก ฮึก!!!” ฟินนาเร่….กำเดาจะไหล เหมือนตัวเองกำลังโดนขืนใจ ทำเลยเจ้าค่ะคุณไฟ ซิงซิงยอมคุณแล้ว เชิญคุณลงทัณฑ์บัญชามาเลยเจ้าค่ะ ซิงซิงพร้อมแล้ว
“ผู้ชายคนนี้ มันจะต้องตาย ไปเป็นผัวพวกกู มันเอ่ยพูดเอง!!! ว่าจะจับพวกกูทำเมีย แล้วตอนนี้มันก็เป็นผัวพวกกูแล้ว มันกำลังจะตายแล้ว มึงอย่าเสือกเข้ามาขวาง ไม่งั้น อย่าหาว่าพวกกูไม่เตือน” เสียงที่ตะคอกใส่ฉัน ทำให้ฉันยิ่งตื่นเต้น ใบหน้าหล่อราวเทพบุตร
เรื่องนี้มันจะดีอยู่แล้ว แต่มันดันมาสะดุดตรงคำว่า ต้องตายไปเป็นผัวพวกหล่อนเนี่ยสิ กูยังไม่ได้กิน ไอ้อีผีหน้าไหน ก็ไม่ได้กินทั้งนั้น ฉันใช้เข่าดันร่างหนาออก แล้วตามมาคร่อมร่างของคุณไฟเอาไว้ แล้วใช้มือขวากดลงที่หน้าผากของคุณไฟเอาไว้
“อย่าให้ต้องแช่งให้ไม่ได้เกิดเลย แหกตาดูซะ ว่าหล่อนกำลังเล่นอยู่กับใคร” ฉันถลึงตามองวิญญาณผู้หญิงคนนั้น แล้วกดมือลงที่หน้าผากของคุณไฟ เสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังระงม ทิ้งไวเพียงร่างกายที่หายใจรวยริน
ฉันจึงตัดสินใจนาบริมฝีปากลงบนปากของคุณไฟอีกที พลังชีวิตมันยุติธรรมเสมอเพราะคนเรามีแค่ชีวิตเดียว ความเหนื่อยหอบตกมาอยู่ที่ฉัน ฉันมองตาของชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยความหลงใหล หล่อเนอะ คนอะไร ดูดีแม้ยามใกล้ตาย ถ้าตายจะขอศพมาสต๊าฟเอาไว้ดูเล่นได้ไหม ฉันกะพริบตา คนที่ฉันแนบริมฝีปากอยู่ก็กะพริบด้วย ฉันเลยกะพริบตาอีก เขาก็ยังทำตาม ฉันตกใจจนต้องถอนริมฝีปากออก
“ไม่ได้แปรงฟันเลยตั้งแต่เมื่อคืน กล้าจูบได้ไง” คนที่มองฉันพูดขึ้นมา
“แห่ะ ๆ แห่ะ ๆ” จู่ ๆ หัวฉันก็ร้อนจนเกิด โอเวอร์ฮีต ใกล้จัง เหมือนตัวเอง หัวตู้มมมมระเบิดเป็นโกโก้ครั้น ชาตินี้ตายตาหลับแล้ว
“เอ้า เมาขี้ฟันถึงกับตายเลยเหรอ”
‘ตั่วเจ้ ตั่วเจ้!!! แบ่งลมหายใจไปขนาดนั้น ยังไงก็ต้องพักละนะ คุณไฟเองก็น่าจะดีขึ้นแล้ว ยังไงตั่วเจ้ก็ต้องกลับ ไม่งั้น โดนพวกนั้นรุมจนตายแน่ ตั่วเจ้ กลับเถอะค่ะ แบบนี้ตั่วเจ้จะอยู่ในอันตรายนะ’ เหม่ยลี่เรียกฉัน แต่ฉันไม่เหลือแรงที่จะลุกเลย
ไม่ไหว ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ มันง่วงจังเลย เหมือนอยากจะหลับ หนังตาของฉันมันค่อย ๆ หนัก ค่อย ๆ หนักขึ้น จนฝืนไม่ได้อีกแล้ว
‘ไม่ได้นะ หลับที่นี่ไม่ได้…ตั่ว….’