กระต่ายน้อยขี้กลัว# 3

1274 Words
เขาเห็นเธอกำลังจะเอ่ยพูดอะไรบางอย่าง เขาจึงต้องตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะบอก “ฉันขอโทษที่ทำให้คุณลำบากใจค่ะ” เธอกล่าวออกมาอย่างจริงใจ ด้วยสีหน้าสำนึกผิด “เธอทำให้ฉันลำบากใจ? ... แบบไหนอธิบายมาสิ” “คุณกลับมาบ้านหลังจากที่คุณไม่ได้กลับมานาน แต่วันนี้ฉันดันรบกวนคุณตอนทานอาหาร ทั้งที่คุณยังทานอาหารกลางวันของคุณไม่เสร็จดีเลย... มันคงจะทำให้คุณโกรธฉันมาก จนคุณต้องรีบออกจากบ้านมา” เธอทำท่าทางราวกับทำอะไรผิดมากมาย ใบหน้าของคริสเตียนอ่อนแสงลง เมื่อรับรู้ถึงสิ่งที่เธอกังวล เขารู้สึกผิดต่อเธอที่ทำให้เธอไม่สบายใจ จนต้องเดินทางมาหาเขาที่นี่ในคืนนี้ ‘ผู้หญิงคนนี้’ เขาส่ายหัวไปมาอย่างจนปัญญา “แล้วเธอจะแก้ไขยังไงดีล่ะ” เขาถามเธอขึ้นมาหลังจากเงียบไปสักพัก ‘เธอคงจะเตรียมอะไรมาด้วยแน่ ๆ’ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอยังอยู่ที่นี่เขาคิดว่าเขาเดาถูก “ฉันทำพาสต้ากุ้งซอสรสจัดจ้าน ( Shrimp Fra Diavolo Pasta) มาให้คุณ หลังจากที่ฉันทำลายมื้อกลางวันของคุณ ฉันเลยคิดว่าคุณอาจจะยังหิว” เธอพูดก่อนจะเปิดกระเป๋าที่เธอถือไว้ตั้งแต่มาที่นี่ หยิบเอากล่องเก็บความร้อนออกมา หยิบจาน ช้อนส้อม และน้ำ ตามด้วยทัพเพอร์แวร์ก่อนเธอจะตักพาสต้ากุ้งซอสรสจัดจ้าน ใส่จานให้เขาแล้ววางช้อนส้อมไว้ข้างหน้าเขา คริสเตียนมองดูอาหารในจานซึ่งดูน่ารับประทาน ไม่เคยมีใครคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ไม่เคยมีใครแสดงอาการห่วงใย หรือแม้แต่จะถามว่าเขาหิวหรือเปล่า ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรกที่ใส่ใจเขาหลังจากมัมของเขาเสียชีวิตไป เขามองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก “แล้วจานของเธออยู่ที่ไหน” เขาถามโดยสังเกตว่าเธอถือมาแค่จานเดียว “ฉันเตรียมมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ เพราะมันรสชาติเผ็ด ฉันไม่สามารถทานได้” เธอกล่าวออกมาอย่างไร้เดียงสา คริสเตียนหลับตาเพื่อตั้งสติ เธอไม่ทานอาหารรสเผ็ด แต่เธอยอมลำบากทำอาหารมาเพื่อเขา เธอเสียสละขนาดไหน? ... คนอย่างเธอและแดนนั้นหายาก ถ้าหาเจอแล้วต้องจับไว้ให้แน่น และปกป้องพวกเขาจนสุดความสามารถที่มี เรื่องของแดน เขาล้มเหลว เพราะเขาไม่สามารถปกป้องแดนได้ แต่เขาจะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับลูกกระต่ายน้อยขนฟูแน่นอน เขาจะปกป้องเธอด้วยชีวิต เขาสาบานกับตัวเองอย่างเงียบๆ ในใจ “แล้วเธอทานอาหารเย็นหรือยัง” เขาถามเธอขึ้นมา หลังจากลองชิมอาหารที่เธอทำมาให้เขา ซึ่งปกติเขาจะไม่แตะอาหารที่คนอื่นทำ ยกเว้นมาร์ค “ยังไม่ได้ทานค่ะ แต่ฉันจะกลับบ้านไปกินทีหลัง... ลุงมาร์คคงเตรียมอาหารไว้ให้ฉันแล้ว” เธอพูดด้วยดวงตาที่สดใสพร้อมรอยยิ้ม และลักยิ้มทั้งสองข้างก็โผล่ออกมาอย่างชัดเจน ยิ่งส่งเสริมให้เธอดูมีเสน่ห์มากกว่าเดิม เธอช่างสวยงามเหลือเกิน เขาไม่อยากให้ใครได้เห็นรอยยิ้มของเธอเลย ‘เธอคิดถึงฉันก่อนตัวเองงั้นเหรอกระต่ายน้อย เธอกำลังล่อลวงฉันอยู่ใช่ไหม ล่อลวงให้ฉันติดกับที่เธอวางไว้ เธอทำให้ฉันยิ่งกว่าดิ่งลงทะเลลึกที่หาทางขึ้นมาไม่เจอ หลังจากได้ยินประโยคที่แสนห่วงใยเหล่านั้น... ช่างน่าสนใจจริง ๆ’ “ลุงมาร์ค!?” เขาถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น ทำให้คาร่าต้องสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อได้ยินเขาเน้นคำว่า ‘ลุง’ เธอจึงมองเขาด้วยความสงสัย “ฉันเรียกเขาแบบนั้นไม่ได้เหรอคะ?” เธอถามเขาด้วยแววตาที่ไร้เดียงสา คริสเตียนจึงแทบจะหยุดริมฝีปากไม่ให้ยกยิ้มไม่ได้ แต่เขาต้องพยายามกลั้นมันเอาไว้ไม่ให้เธอเห็น “เธอรู้สึกผูกพันกับคนรอบตัวที่ทำดีกับเธออย่างนั้นเหรอ? ...กระต่ายน้อย” เขาแสดงความคิดเห็นออกมา และละเลยคำถามของเธอ “ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีใครดูแลฉันเลย มีแต่ป้าแนนซี่ที่เป็นแม่บ้านที่ดูแลและรักฉันอย่างจริงใจ... เธอเป็นคนใจดี ทำอาหารเก่ง เธอยังสอนฉันทำอาหารและขนมหลายอย่างด้วย... แต่เธอต้องแอบแสดงความรักต่อฉัน เพราะแด๊ดของฉันไม่ชอบให้ฉันสนิทกับใคร... แต่ที่บ้านของคุณ ลุงมาร์คและโมนิก้าใจดีและรักฉันมาก รวมถึงดาวิเด้กับกาสปาโรก็ด้วย... ที่สำคัญที่สุด คือคุณทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย และคุณปกป้องฉัน รวมทั้งดูแลให้ฉันได้นอนเตียงนอนดีๆ ได้ทานอาหารที่อร่อย ได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ ... นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่ามันคือบ้านที่อบอุ่น” เธอกล่าวด้วยดวงตาที่เปล่งประกายอย่างจริงใจ “คริสเตียน” เขาพูดชื่อตัวเองขึ้นมา ทำให้คาร่างงงัน เพราะยังไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะสื่ออะไร “อะไรนะคะ?” เธอเอ่ยถามอย่างสับสน ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ แยกออกจากกันเล็กน้อย ทำให้เขาเสียสมาธิ เพราะเขาอยากจะชิมมันเหลือเกิน ว่ามันจะหวานขนาดไหน “เธอเรียกมาร์คว่าลุงมาร์ค แถมเธอยังเรียกบอดี้การ์ดของเธอด้วยชื่อ แล้วทำไมเธอถึงปฏิบัติกับฉันอย่างแตกต่างออกไป? ทั้งๆ ฉันเป็นคนจัดการทุกอย่างให้เธอ... ตอนนี้เธอกำลังเรียกฉัน เหมือนว่าฉันเป็นคนนอก ไม่เหมือนพวกเขา” เขาชี้ให้เห็นและยังอธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็น ซึ่งปกติถ้าเป็นคนอื่น เขาชอบที่จะถูกเรียกด้วยนามสกุลของเขามากกว่า เพราะเขารู้สึกเกลียดเมื่อมีคนเรียกแค่ชื่อเขาอย่างสนิทสนม แต่เขากลับอยากได้ยินชื่อของเขาจากปากเธอ เพราะเขาชอบฟังเสียงของเธอ “อ๋อ” ริมฝีปากสีชมพูของเธอ ขยับเป็นรูปตัวโอได้อย่างน่ารัก ‘เธอกำลังทำให้ฉันติดใจในความน่ารักของเธอนะกระต่ายน้อย’ เขาคิดพลางยกยิ้มมุมปาก “บอกมาสิว่าเธอชอบกินอะไร ฉันจะบอกให้ฟรังโก้ไปบอกเชฟให้ทำมาให้” เขาเอ่ยถาม คาร่าจึงลังเลเล็กน้อย “อะไร?” เขาถามขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันอยากจะลองทานเบอร์เกอร์มาตลอด เพราะฉันเคยเห็นเรเชลและเพื่อนๆ ของเธอทานมันประจำ แต่ฉันไม่เคยมีโอกาสได้ทานมันสักครั้ง” เธอพูดอย่างเขินอาย รอยยิ้มจึงผุดขึ้นบนริมฝีปากของเขา คริสเตียนชอบความไร้เดียงสาของเธอ ‘โธ่!..กระต่ายน้อย ชีวิตเธอช่างน่าสงสาร แม้แต่อาหารเบสิกอย่างเบอร์เกอร์ เธอยังไม่เคยได้กิน’ ‘แต่ต่อไปนี้เธอจะได้กินทุกอย่างที่เธออยาก เธอจะได้ทุกอย่างที่เธอปรารถนา ฉันจะเนรมิตทุกอย่างมากองตรงหน้าเธอเอง’ เขาเอื้อมมือไปลูบผมเธอเบาๆ ก่อนจะส่งข้อความหาฟรังโก้ให้นำเบอร์เกอร์มาให้ ซึ่งพวกเขามีพ่อครัวชื่อดังที่ทำอาหารอร่อยอยู่ในไนต์คลับทุกที่ ฟรังโก้มองดูข้อความที่เจ้านายส่งมา และตาของเขาก็เบิกโพลงด้วยความประหลาดใจ “เจ้านายเริ่มทานเบอร์เกอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฟรังโก้พึมพำคนเดียวกับโทรศัพท์ “หรืออาจจะเป็นของคาร่ากันนะ?” ฟรังโก้สรุปก่อนจะฉีกยิ้มออกมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD