ความเศร้าของคาร่า #2

1383 Words
วันนี้คริสเตียนแต่งตัวเสร็จช้ากว่าปกติ เพราะลูกสุนัขที่เห่ารบกวนเขาก่อนหน้านี้ พอแต่งตัวเสร็จแล้ว เขาก็หยิบเอากระเป๋าเงินและเหน็บปืนพกไว้ด้านหลังในซองหนัง รวมถึงมีดสั้นสองเล่มที่ซ่อนไว้ในถุงเท้า อีกด้านโมนิก้าและฟรังโก้ พี่ชายของเธอ ก็กำลังนั่งคุยกันถึงเรื่องที่เพิ่งเกิด “ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องสุนัขซะอีก” ฟรังโก้เอ่ยออกมาอย่างโล่งอก เขายังจำสีหน้าของคริสเตียนได้ มันเหมือนตอนที่เขากำลังจะฆ่าคน ถ้าไม่ใช่คาร่า เขามั่นใจว่าต้องมีคนตายแน่นอน เพราะเขารู้จักคริสเตียนดี “ก็ไม่ใช่น่ะสิ แค่คาร่าเห็นมันดูน่าสงสารก็เท่านั้น” โมนิก้าตอบและให้ความมั่นใจกับพี่ชายของเขา “เพราะเจ้านายเกลียดสัตว์เลี้ยง ไม่น่าแปลกที่เขาจะบอกให้เอามันไปทิ้ง” ฟรังโก้กล่าวออกมาอย่างรู้จักเจ้านายของเขาดี โมนิก้าจึงยิ้มเยาะมุมปากกับการประเมินที่ผิดพลาดของฟรังโก้ “คอยดูเถอะ เจ้าลูกหมาตัวนั้นจะกลับมาในอีกสองสามชั่วโมงนี้แหละ” โมนิก้ากล่าว ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง ฟรังโก้มองน้องสาวของเขาอย่างไม่เข้าใจ เขารู้จักเจ้านายของเขาดีกว่าเธอ เจ้านายของเขาเกลียดสัตว์เลี้ยง และคงไม่มีทางให้ลูกสุนัขตัวนั้นกลับมาแน่ ๆ “มันจะไม่ได้กลับมา ฉันรู้จักเจ้านายของพวกเราดีกว่าเธอ เขาจะไม่อนุญาตให้มันกลับมาเด็ดขาด” ฟรังโก้กล่าวอย่างมั่นใจ ขณะที่โมนิก้าก็หัวเราะเยาะกับความไม่รู้ของพี่ชายเธอ ฟรังโก้จึงมองน้องสาวของเขาด้วยความสับสน “เธอหัวเราะทำไม? เป็นบ้าไปแล้วหรือไง” “เดี๋ยวพี่รอดูก็แล้วกัน” โมนิก้าตบแก้มฟรังโก้แล้วยิ้มให้เขาอย่างเจ้าเล่ห์ ไม่นานนัก คริสเตียนก็เดินลงบันไดมา แล้วมองหาคาร่า หากแต่เธอกลับไม่อยู่แถวนี้ เขาจึงมองไป เห็นฟรังโก้กับโมนิก้าที่กำลังยืนคุยกันอยู่ และเมื่อฟรังโก้สังเกตเห็นเจ้านายของเขาซึ่งกำลังเดินลงมาถึงชั้นล่างในชุดสูทที่แตกต่างออกไป เขาก็รีบเดินไปที่บันไดเพื่อรอรับเจ้านายของเขา “กระต่ายน้อยของฉันอยู่ที่ไหน” คริสเตียนเอ่ยถามฟรังโก้ “เธออยู่ในสวนหลังบ้านครับ” ฟรังโก้ตอบ คริสเตียนจึงมองไปทางซ้ายและพบว่าคาร่ากำลังนั่งคุกเข่าถอนหญ้าให้แปลงดอกไม้อยู่ “ให้ผมไปเรียกเธอให้ไหมครับ” “ไม่ต้อง” คริสเตียนตอบแล้วเดินไปหาคาร่าด้วยตัวเอง และเมื่อฟรังโก้พยายามจะเดินตามคริสเตียนมา เขาก็ยื่นมือสั่งให้ฟรังโก้หยุด “ไปรอฉันที่รถ” คริสเตียนเอ่ยแล้วเดินไปหาคาร่า ฟรังโก้เลยต้องเดินออกไปข้างนอกเพื่อรอเจ้านายที่รถ ส่วนโมนิก้ายังยืนอยู่ที่เดิม เพราะเธอกลัวเกินกว่าจะขยับตัวไปผิดทิศผิดทาง “กระต่ายน้อย” คริสเตียนเอ่ยเรียก แล้วนั่งลงบนส้นรองเท้าต่อหน้าเธอ ขณะที่คาร่ายังนิ่งงัน เพราะเธอเกรงว่าเขาจะเห็นดวงตาสีแดงก่ำ แล้วจะพานโกรธเธอไปอีก ดังนั้นเธอจึงซ่อนใบหน้าของเธอไว้ภายใต้เส้นผม “คะ” เธอตอบรับอย่างแผ่วเบา โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเขา แต่คริสเตียนก็เอ่ยเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “มองมาที่ฉัน กระต่ายน้อย” คาร่าเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เต็มใจ ใบหน้ายังคงถูกเส้นผมปกปิดไว้ ฝ่ามือของเธอยังเปื้อนดินโคลนจึงไม่สามารถเก็บผมได้ คริสเตียนจึงยื่นมือออกไป เกลี่ยผมเธอออกจากใบหน้าเธอ เพราะเขาอยากจะดูว่าเธอยังสบายดีอยู่ไหม หรือว่าเธอยังคงเสียใจเรื่องสุนัขตัวนั้นอยู่ และเมื่อเขาเห็นดวงตาที่แดงก่ำของเธอ เขาก็นึกสาปแช่งตัวเองที่ทำให้เธอเสียใจ ดวงตาของเขามืดลงทำให้คาร่าหวาดกลัว “ฉันขอโทษค่ะ” เธอกระซิบเพราะคิดว่าเขาคงโกรธที่เธอร้องไห้ แต่คริสเตียนกลับดึงข้อศอกของเธอขึ้น เพื่อพาเธอเข้าไปในบ้าน และเดินไปที่อ่างล้างมือ ก่อนจะล้างมือให้เธอจนสะอาด คาร่ารู้สึกแย่ที่เธออาจจะทำให้เขาโกรธ เพียงแต่เธอชอบลูกสุนัขตัวนั้นมาก มันดูเหงาและน่าสงสาร คริสเตียนเช็ดฝ่ามือให้เธอด้วยผ้าเช็ดมือโดยไม่พูดอะไรกับเธอสักคำ ทำให้คาร่าเริ่มประหม่า ‘เขาต้องไม่พอใจเธอมากแน่ ๆ’ เธอคิดไปสารพัด “ก็แค่ลูกสุนัขตัวนั้นมันดูตัวเล็กมาก แถมมันก็ดูน่าสงสาร” เธอเอ่ยพูด เขาจึงกดนิ้วลงบนริมฝีปากของเธอ ทำให้เธอต้องหุบปากที่กำลังจะอธิบายเพิ่ม หลังจากนั้นเขาก็ดึงเธอให้ไปที่รถของเขา ขณะที่ฟรังโก้ก็มองดูเจ้านายที่กำลังพาคาร่าเดินมาอย่างประหลาดใจ ‘หรือว่าคาร่าจะไปงานเลี้ยงกับเจ้านายของเขาด้วย’ ฟรังโก้คิด คริสเตียนให้คาร่าเข้าไปนั่งที่เบาะนั่งข้างคนขับ และรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับทำให้ฟรังโก้สับสน ‘เจ้านายไม่ให้เขาไปด้วยงั้นเหรอ?’ ก่อนคริสเตียนจะขับรถออกไปพร้อมกับคาร่าซึ่งกำลังหวาดกลัวอยู่ในรถ โดยทิ้งฟรังโก้ที่กำลังยืนงงไว้คนเดียว ผ่านไปสักพัก คริสเตียนก็ขับรถพาคาร่ามาถึงร้านขายสัตว์เลี้ยงสุดหรูที่มีลูกสุนัขให้เลือหลากหลายสายพันธุ์และหลากหลายขนาด “กระต่ายน้อยลงมา” เขาพูดหลังจากเปิดประตูรถข้างที่เธอนั่งอยู่ คาร่าจึงลงไปดูและเห็นเป็นร้านขายสัตว์เลี้ยง ‘เขาพาเธอมาที่นี่ทำไม’ เธอคิด ก่อนคริสเตียนจะจูงมือพาเธอเดินเข้าไปในร้าน “เลือกมาสักหนึ่งตัว” เขาพูดพร้อมพยักหน้าให้เธอดูลูกสุนัขที่อยู่ในกรง ซึ่งมีแต่ตัวน่ารักๆ จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆ ร้าน เช่นเดียวกันกับคาร่าเธอเห็นลูกสุนัขน่ารักอยู่ในกรงสวยงาม ดูสะอาดสะอ้าน พวกมันมีบ้านที่เป็นกรงอย่างดี ไม่เหมือนลูกสุนัขไร้บ้านที่น่าสงสารตัวนั้น “ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นค่ะ” คาร่าเอ่ยอย่างแผ่วเบา พลางก้มมองดูเท้าตัวเอง ทำให้คริสเตียนดูสับสน “เธอไม่ชอบลูกหมาพวกนั้นเหรอ?” “ฉันไม่ต้องการพวกมันค่ะ” เธอส่ายหน้าพร้อมสารภาพออกมา เมื่อเขายืนอยู่ต่อหน้าเธอ เขาจึงไม่เข้าใจเธอเลยว่าเธอต้องการอะไรกันแน่ “ฉันไม่เข้าใจกระต่ายน้อย เธอเศร้าเพราะฉันโยนลูกหมาจรจัดตัวนั้นทิ้งไป แต่พอฉันยินดีที่จะซื้อตัวใหม่ให้เธอ เธอกลับไม่ต้องการมัน ทำไมล่ะ” คริสเตียนถามด้วยความสงสัย เขาไม่ได้รู้สึกโกรธเธอ เขาแค่ต้องการฟังคำอธิบายที่มีเหตุผล ซึ่งเธอจะต้องมีคำตอบให้เขาอย่างแน่นอน เขาแน่ใจในสิ่งนี้ “ไม่มีตัวไหนที่อยากได้บ้านแบบลูกหมาตัวนั้นที่ฉันเก็บมา... มันเร่ร่อนเหมือนฉัน และมันก็เหงา มันไม่มีบ้านอยู่ มันเลยน่าสงสาร” คริสเตียนได้ฟังก็ตกใจกับคำอธิบายของเธอ ‘มันเร่ร่อนเหมือนฉัน’ คำพูดของเธอทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แด๊ดของเธอปฏิบัติต่อเธอเหมือนสาวใช้ที่เขาไม่ต้องการ เธอแค่ต้องการที่ซุกหัวนอน และอาหารบางอย่างเพื่อให้มีชีวิตรอด ดังนั้นเธอจึงต้องทนอยู่ที่นั่น เพราะเธอยังเด็กและโดดเดี่ยว ไม่มีที่ไป แถมเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องอยู่กับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะปฏิบัติต่อเธออย่างไม่ไยดี เธอจึงอยู่อย่างไร้ตัวตน เพียงเพราะเธอต้องอดทนเพื่อความอยู่รอด คางของเธอสั่นด้วยความเศร้า คริสเตียนจึงมองใบหน้าของเธอด้วยหัวใจที่ปวดร้าวมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะดึงเธอเข้ามาสวมกอดเพื่อปลอบโยนเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD