หญิงสาวมองนู้นมองนี่ด้วยความตื่นเต้น เพราะหนึ่งในความฝันวัยเด็กของเธอคืออยากเป็นสถาปนิก ในระหว่างที่วรารีกำลังมุ่งความสนใจให้กับการตกแต่งภายในบริษัท กลับมีสายตาของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มากมายแอบจ้องมองเธออย่างไม่วางตา
“ขอโทษนะครับ” เสียงของชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
ร่างบางถึงกับสะดุ้งตกใจ เพราะมัวแต่สนใจอย่างอื่นจนหลงลืมไปว่าเธอเข้ามาในตัวบริษัทแล้ว วรารีหันไปตามเสียงของอีกฝ่าย ก่อนจะพบกับชายหนุ่มร่างสูงสวมชุดสูทผูกไทอย่างเรียบร้อย “เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะคะ?”
“ผมแค่จะเข้ามาถามว่ามาติดต่องานเหรอครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม?” ชายหนุ่มกล่าวพลางยิ้ม ตอนที่เขามองเธอจากไกลๆ ว่าสวยแล้ว พอเข้ามาใกล้ๆ ยิ่งสวยเข้าไปอีก ได้แต่หวังลึกๆ ในใจว่าความหวังดีของตนจะทำให้เธอประทับใจเขาในครั้งแรกที่เจอ
“พอดีว่าฉันมาหาสถาปนิกที่ทำงานที่นี่น่ะค่ะ เขาชื่อคุณเจส คุณรู้จักไหมคะ?” วรารีไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนิศาถึงกลัวว่าเธอจะหลงทาง เท่าที่ดูแล้วเธอคิดว่าถ้าได้ไกด์นำทางให้คงจะดีไม่น้อย
“อ๋อ รู้จักครับ โต๊ะทำงานอยู่ใกล้ๆ กัน นี่ก็กำลังจะไปพอดี ไปพร้อมกันเลยไหมครับ” ชายหนุ่มรู้สึกผิดหวัง เมื่อรู้ว่าคนที่เธออยากเจอคือธาวิน สถาปนิกหนุ่มที่ใครๆ ต่างก็แข่งกับเขาไม่ชนะ ทั้งเรื่องงาน เรื่องผู้หญิง และครั้งนี้เขาก็คงได้กินแห้วอีกตามเคย
เมื่อเดินมาถึงที่หมาย วรารีก็เจอกับโต๊ะทำงานโล่งๆ ที่มีเพียงเอกสารไม่กี่ฉบับวางอยู่ “คุณเจสลาออกไปแล้วเหรอคะ?”
“ฮ่าๆ คุณนี่ตลกดีเหมือนกันนะครับ เจสมันชอบทำโต๊ะให้โล่งๆ แบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ”
“อ้าวเหรอคะ” วรารียิ้มอย่างอายๆ เป็นใครมาเห็นก็คงคิดว่าเขาลาออกเหมือนกับที่เธอคิด เพราะขนาดรูปหรือคอมพิวเตอร์สักเครื่องก็ยังไม่มีเลย “คุณทราบไหมคะว่าเขาจะมาตอนไหน”
“ปกติเวลาประมาณนี้ก็มาแล้วนะครับ คุณไปนั่งรอแถวๆ นี้ก่อนก็ได้” ชยาหนุ่มพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปยังโซนที่มีไว้สำหรับลูกค้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะทำงานของธาวินมากนัก
“ค่ะ” พูดจบหญิงสาวก็เดินไปทันที หลังจากที่เธอนั่งรอบนโซฟาอยู่นานก็ยังไม่วี่แววของธาวินเลยสักนิด ใบหน้าหวานก้มงุดมองแฟ้มเอกสารที่วางไว้บนตัก แล้วก็เปิดมันดูอีกครั้งเพื่อแก้เบื่อ
ไม่นานชายหนุ่มผู้หวังดีก็เดินกลับมาหาเธออีกครั้ง “เมื่อกี้เจสโทรมาบอกว่าจะไม่เข้าออฟฟิศวันนี้ครับ ถ้าคุณมีธุระอะไรฝากไว้ที่ผมก็ได้นะ เดี๋ยวผมบอกมันให้”
“ฉันขอที่อยู่ของคุณเจสได้ไหมคะ” วรารีอยากจะคุยกับธาวินจนไม่อยากรออีกแล้ว เธอรู้สึกแย่ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น “พอดีฉันเอาเช็คค่าแต่งบ้านมาให้เขาน่ะค่ะ” เธออ้างถึงสิ่งที่พี่ชายฝากมา เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือพอที่คนตรงหน้าจะยอมให้ข้อมูลส่วนตัวของเพื่อนร่วมงานได้
ในที่สุดวรารีก็ได้ที่อยู่ของธาวิน และตอนนี้เธอกำลังลังยืนอยู่หน้าคอนโดของเขา มือเล็กเย็นเฉียบขึ้นมาทันที หญิงสาวรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว จะถอยกลับก็คงจะเสียเวลาเปล่าๆ
ติ๊งต่อง...
หลังจากเธอกดกริ่ง รอเพียงไม่นานก็มีคนมาเปิดประตูให้ วรารีถึงกับตกตะลึงเมื่อคนที่เปิดประตูให้เธอเป็นผู้หญิง เธอลืมเช็คไปเลยว่าธาวินมีใครอยู่ด้วยรึเปล่า เพราะถ้าหากเขามีแฟนแล้ว การที่เธอมาหาเขาถึงคอนโดแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
“มาหาใครคะ?” หญิงสาวในชุดนักศึกษาเอ่ยถาม แต่ทว่าวรารีกลับเอาแต่ยืนนิ่งอยู่ท่าเดียว
เมื่อคิดดีแล้วเธอจึงตอบกลับไปเพื่อเลี่ยงปัญหา “ขอโทษค่ะ พอดีมาผิดห้อง” พอพูดจบร่างบางก็รีบหันเดินออกมาในทันที ทว่ายังเดินไม่ถึงสามก้าวเธอก็ได้ยินเสียงของธาวิน
“เดี๋ยวก่อนสิครับ”
วรารีรีบหันกลับไปในทันที เธอมองธาวินอย่างไม่วางตา เขาอยู่ในชุดสบายๆ สวมเสื้อยืดตัวบาง กางเกงขาสั้น และผมดูยุ่งๆ เหมือนเพิ่งจะตื่นนอน ซึ่งแตกต่างกับลุคที่เจอกันครั้งแรกโดยสิ้นเชิง ทว่ามันกลับทำให้เขาดูเป็นผู้ชายที่ดูดีไปอีกแบบ
ในขณะเดียวกันดารินที่ลอบสังเกตการณ์อยู่ก็แอบเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ เธอไม่รู้ว่าแขกคนนี้เป็นใคร แต่น่าจะเป็นคนสำคัญไม่น้อย ดูจากสายตาของพี่ชายเธอมองผู้หญิงคนนี้แล้วมันต้องมีอะไรอยู่แน่ๆ ปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันสองต่อสองคงดีกว่า เผื่อเธอจะได้มีพี่สะใภ้กับเขาบ้าง
“เอ่อ..คือ” จากที่เตรียมคำพูดไว้มากมาย พอมาเจอเข้าจริงๆ วรารีก็ไม่รู้จะเริ่มพูดกับอีกฝ่ายยังไงดี เพราะเหตุการณ์ในวันนั้นก็เพิ่งจะผ่านมาได้ไม่นาน เมื่อมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของธาวิน เธอก็อดที่จะมองไปที่ริมฝีปากหยักสวยคู่นั้นไม่ได้
ธาวินเห็นอย่างนั้นถึงกับใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ วรารีจะรู้ไหมว่าสายตาของเธอทำให้ใครอีกคนคิดไปไกลมากแค่ไหน
“เข้ามาข้างในก่อนไหม” ชายหนุ่มเชื้อเชิญ วรารีมองหน้าอีกฝ่ายแล้วครุ่นคิด “ไม่ต้องกลัวนะ ผมไม่ทำอะไรหรอก เดี๋ยวน้องสาวผมก็กลับมาแล้ว เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคน คุณสบายใจได้” ธาวินรีบอธิบายรวดเดียวจบ ด้วยเพราะรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเขาคิดอะไรอยู่ หากไม่ใช่ว่าเขาเคยทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ มีหรือเธอจะมองเขาอย่างหวาดระแวงแบบนี้
“น้องสาวเหรอคะ ฉันคิดว่าเป็นแฟนของคุณซะอีก” วรารีรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ตอนแรกเธอนึกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเขาเสียอีก
“ครับ ผมโสด” ธาวินอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังหลอกถามสถานะของตนรึเปล่า ในวันนั้นเขายอมรับว่าตนเสียใจที่วรารีไม่ยอมให้อภัยเขา แต่พอวันนี้เมื่อเจอเธออีกครั้ง ความรู้สึกไม่ดีก่อนหน้านั้นพลันอันตรธานหายไป และถูกความหวั่นไหวเข้ามาแทน
วรารีเดินตามชายหนุ่มเข้ามาด้านใน จากนั้นทั้งสองก็นั่งลงบนโซฟานิ่มอย่างเงียบๆ โดยที่มีธาวินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ภายในห้องของเขาดูโล่งแทบไม่ต่างจากโต๊ะทำงานที่บริษัทเลยสักนิด สงสัยรสนิยมของเขาคงจะชอบความเรียบง่ายจริงๆ