หลังจากวันนั้นเราแอบมาพบกันที่นี่แทบทุกวัน สิบทิศเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่แววตาและสีหน้าเขายามมองฉันมันดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก จนฉันเผลอตกหลุมรักเขาโดยไม่รู้ตัว
เราตกลงคบกันหลังจากนั้นไม่นาน ทว่าข่าวของเราถูกแพร่กระจายไปทั่วโรงเรียนได้อย่างไรไม่รู้ และมันสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาแฟนคลับของสิบทิศ
ฉันเริ่มถูกบรรดาแฟนคลับของสิบทิศรุมกลั่นแกล้งสารพัด แต่ฉันไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขา เพราะไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ ฉันอดทนและต่อสู้ ไม่ยอมให้คนพวกนั้นมาทำร้ายง่าย ๆ คิดว่าสักวันพวกเธอคงรามือไปเอง
แต่เปล่าเลย… มันกลับยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
‘เธอก็เป็นได้แค่ของเล่นของสิบเท่านั้นแหละ’
‘อย่าสำคัญตัวผิดนักล่ะ’
วันหนึ่งฉันถูกลากมาที่หลังอาคารเก่า ฉันเกือบจะถูกพวกเธอรุมทำร้าย แต่ได้รับการช่วยเหลือจากรุ่นน้องคนหนึ่ง เธอชื่อ ‘จายา’ เป็นคนรู้จักของสิบทิศ ตั้งแต่นั้นมาฉันเริ่มสนิทกับเธอ และได้รู้เรื่องเกี่ยวกับสิบทิศจากเธอมากขึ้น ทั้งเรื่องครอบครัว และเรื่องนิสัยส่วนตัวของเขา
ระหว่างนั้นความสัมพันธ์ของฉันกับสิบทิศค่อย ๆ ลึกซึ้งมากขึ้น เพราะว่าฉันรักเขามาก ฉันจึงยอมเขาทุกอย่าง ตอนนั้นฉันมีความสุขมากจริง ๆ และคิดเพ้อฝันว่าสิบทิศจะรักฉันเพียงคนเดียวเช่นกัน
แต่มันไม่ใช่เลย…
‘นายไม่ได้คิดจริงจังกับยัยนั่นจริง ๆ ใช่ไหมสิบ’ เสียงพูดคุยดังมาจากห้องเรียนของสิบทิศขณะที่ฉันกำลังจะมาชวนเขากลับบ้านด้วยกัน สองเท้าชะงักนิ่งหน้าประตูห้อง ฉันหลบซ่อนตัวเองเพื่อแอบฟังบทสนทนานั้นอย่างเงียบ ๆ
‘แน่แหละ คนอย่างสิบจะไปจริงจังกับยัยนั่นทำไม ก็คงเหมือนของเล่นชิ้นใหม่ที่เขากำลังลองเล่นอยู่นั่นแหละ จริงไหม?’ เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มสิบทิศเอียงหน้าถาม เพื่อนคนอื่น ๆ ก็พากันมองเขาเป็นตาเดียว
ฉันกัดริมฝีปากแน่นจนห้อเลือด อยากจะเดินเข้าไปในห้องแล้วแสดงตัวแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะในใจลึก ๆ ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าสิบทิศจริงจังกับฉันหรือเปล่า หรือว่าเขาเห็นฉันเป็นแค่ของเล่นของเขา
ฉันรักเขา และเขาก็รักฉัน เรารักกัน ฉันรู้… แต่ฉันก็ยังไม่มั่นใจในความรักของเราอยู่ดี
‘ว่าไงล่ะสิบ นายเห็นยัยนั่นเป็นแค่ของเล่นใช่มะ ก็นายชอบเล่นของเล่นนี่นา’ เพราะสิบทิศไม่ยอมตอบ ผู้หญิงคนนั้นจึงถามซ้ำอีกครั้ง
ฉันมองไม่เห็นสีหน้าของสิบทิศเพราะเขาหันหลังให้ฉันอยู่ ได้ยินเพียงน้ำเสียงหยัน ๆ กับคำพูดประโยคโหดร้ายของเขา
‘ของเล่นก็คือของเล่น ฉันจะเล่นยังไงมันก็เรื่องของฉัน’
ฉันวิ่งหนีออกมาจากจุดนั้น พร้อมกับหัวใจที่เจ็บหน่วงจนแทบจะแหลกสลาย สุดท้ายแล้วสิบทิศก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับฉันเลย เขาก็แค่เห็นฉันเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง เหมือนกับของเล่นที่เขาประดิษฐ์นั่นแหละ
หลังจากวันนั้นฉันเริ่มหลบหน้าสิบทิศ แม้ว่าเขาจะพยายามมาหาฉันที่ห้องเรียน หรือไปรอฉันบนดาดฟ้า แต่ฉันก็คอยหลบหน้าเขาเสมอ
แต่ว่าเรื่องนั้นมันไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดหรอกนะ… มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
“…พราว!”
ฉันสะดุ้งตกใจกับเสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าที่ตัว ภาพในอดีตเลือนหายไปพร้อมกับภาพเหตุการณ์ปัจจุบันเข้ามาแทนที่ ฉันยังคงยืนเผชิญหน้ากับสิบทิศเช่นเดิม
ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งฉันเคยรักหมดหัวใจ
“ปล่อย” ฉันปัดมือทั้งสองข้างของสิบทิศออกจากหัวไหล่ พยายามปรับอารมณ์ความคิดตัวเองให้เป็นปกติ สูดลมหายใจเข้าเรียกความมั่นใจกลับมา
ฉันเปลี่ยนไปแล้ว… ฉันไม่ใช่พราวอีกต่อไปแล้ว
“ฉันจะไม่เลิกกับเดย์”
“เธอว่าไงนะ?”
ฉันเลื่อนสายตามองสบกับสิบทิศอย่างจริงจัง ยืนยันคำตอบเดิมอีกครั้ง
“ถ้านายไม่อยากเห็นหน้าฉัน ฉันก็จะไม่มาให้นายเห็นหน้าอีก แต่ฉันไม่เลิกกับเดย์หรอกนะ ฉันไม่ทำแบบนั้นแน่”
มือหนาคว้าจับต้นแขนฉัน เพิ่มแรงบีบจนรู้สึกเจ็บร้าวไปหมด สิบทิศกำลังโกรธ เขาโกรธมากเลยด้วย
“ทำไม… เธอรักมันมากเลยหรือไง”
“ใช่ ฉันรักเขา ถ้าเข้าใจแล้วก็ปล่อยมือซะ” ฉันพยายามสะบัดแขนออก แต่รอบนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิด สิบทิศใช้อีกมือจับต้นแขนอีกข้างของฉัน แรงบีบจากทั้งสองข้างสร้างความปวดร้าวอย่างที่สุด
“แล้วฉันล่ะวะ? เธอเห็นฉันเป็นอะไร?”
“…”
“คิดว่าฉันจะยอมเป็นแค่ไอ้แฟนเก่าหน้าโง่ที่ถูกเธอทิ้งไปงั้นเหรอ? คิดว่าฉันจะยอมให้เธอรักกับมันเหรอ?!” เขาตวาดเสียงใส่ฉัน สีหน้าเดือดดาลราวกับพร้อมจะฆ่าคนได้
หากมีใครสักคนต้องตายเพราะเขา ก็คงจะเป็นฉันนี่แหละ
ฉันที่เคยถูกเขาฆ่าตายมาแล้วครั้งหนึ่ง
ฉันเหยียดยิ้มหยัน สองตาเลื่อนสบกับดวงตาคมวาววับ
“นายก็เป็นได้แค่ถ่านไฟเก่า ส่วนเขาน่ะเป็นไฟในกองฟืน”
สิบทิศเงียบไปอึดใจ ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งเชยคางฉันขึ้น ไม่สิ เขาบีบปลายคางฉันเลยต่างหาก ทั้งการกระทำ แววตา สีหน้า ไร้ความอ่อนโยน ไร้ความปรานี บ่งบอกให้รู้ว่าเขากำลังเอาจริงแล้วเช่นกัน
“งั้นมาลองดูไหม ระหว่างฉันกับมันใครจะแผดเผาเธอได้มากกว่ากัน!”