“จะไปไหน?”
“ไปรอเดย์ข้างนอก” ฉันตอบกลับทันที เขาก็ตอบกลับฉันทันทีเช่นกัน
“ไม่ต้องไป รอมันที่นี่แหละ”
“แต่ฉัน…”
“ถ้าไม่อยากเสียใจ ก็อย่ารั้น”
ฉันเดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวเดิม สายตามองตรงไปทางสิบทิศอย่างไม่ค่อยพอใจหน่อย ๆ ถึงแม้ว่าเขาในชุดกาวน์สีขาวจะดูดีอย่างไม่น่าให้อภัยก็เถอะ
สิบทิศเป็นผู้ชายที่หล่อมาก ใช่ เขาหล่อแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ใบหน้าดูดีราวเทพบุตร คิ้ว ตา ปาก จมูก ทุกอย่างบนหน้าของเขาล้วนดูดีไร้ที่ติ เรียกว่าใบหน้าฟ้าประทานโดยแท้ ยิ่งยามที่เขายิ้มนะ โลกทั้งใบแทบจะหยุดหมุนเลยล่ะ
บ้าจริง… นี่ฉันมานั่งเพ้ออะไรกับความหล่อของสิบทิศล่ะเนี่ย
ฉันสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่าน กดต่อสายหาเดย์ จู่ ๆ เขาหายไปไหนไม่รู้ ไม่บอก ไม่กล่าวอะไรฉันเลย งงนะเนี่ย
ไม่รับแฮะ…
อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ปกติเดย์ไม่เคยไม่รับสายฉันนะ นอกซะจากว่าเขากำลังเรียนหรือกำลังติดธุระสำคัญอยู่ แต่นี่เขาไม่ได้เรียน แถมฉันก็อยู่ในแล็บเขาด้วย แต่ตัวเขากลับหายไปไหนไม่รู้
ฉันลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสะพาย ตั้งใจจะเดินออกจากแล็บเพื่อไปตามหาเดย์ เขาอาจจะอยู่แถวนี้ คงไปใกล้ ๆ นี่แหละ ทว่ายังไม่ทันจะเดินพ้นกลางห้อง น้ำเสียงเย็นชาจากสิบทิศลอยเข้ามาขัดซะก่อน
“รั้นไม่เข้าเรื่อง”
ฉันหันกลับไปมองหน้าเขา สิบทิศขยันขัดฉันจังเลยแฮะ หรือเขารู้ว่าเดย์หายไปไหน
“นายรู้เหรอว่าเดย์ไปไหน?”
เขาละสายตากลับไป ไม่ยอมตอบคำถามฉัน
เขารู้จริง ๆ ด้วย!
ฉันรู้จักนิสัยสิบทิศดี เขาเป็นคนไม่ชอบโกหก เขาจึงมักจะเงียบเพื่อเลี่ยงที่จะตอบคำถามน่ารำคาญใจ เมื่อก่อนเขาชอบทำแบบนี้บ่อย ๆ เวลาที่โดนฉันเซ้าซี้มาก ๆ
Rrr…
ในขณะที่ฉันยืนชั่งใจกับท่าทางของสิบทิศอยู่นั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขัดขึ้นมาพอดี หน้าจอแสดงชื่อของเดย์ ฉันรีบกดรับสายทันที
“อื้อ ว่าไง นายหายไปไหนเนี่ย”
[…ขอโทษนะ พอดีฉันมีเรื่องด่วนก็เลยรีบออกมาโดยไม่ทันได้บอกเธอ] เสียงปลายสายเบามาก ๆ รอบตัวเขาก็เงียบมาก ๆ เลยด้วย
“นายอยู่ไหน แล้วจะกลับมาหรือเปล่า”
[ฉันจะรีบกลับนะ เธอรอฉันหน่อยนะควีน เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่ห้องเอง]
“เอางั้นเหรอ” ฉันลังเล มองนาฬิกาบนผนัง วันนี้ฉันไม่มีงานที่ไหน อยู่รอเขาต่ออีกหน่อยก็ได้ “โอเค เดี๋ยวฉันนั่งรอนะ”
สายตัดไปแล้ว ฉันถอนหายใจ รู้สึกเซ็งหน่อย ๆ ปกติเดย์ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ เขาไม่เคยหายไปไหนโดยทิ้งฉันไว้แบบนี้
ฉันหยิบเค้กนมสดขึ้นมาแกะ ตั้งใจจะกินมันแก้เบื่อสักหน่อย แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นผู้ชายอีกคนในห้องที่ฉันเกือบจะลืมเขาไปแล้ว
“…” สิบทิศกำลังมองมาทางนี้ ไม่สิ เขามองเค้กนมสดของฉันมากกว่า
จริงสินะ สิบทิศชอบเค้กมาก ๆ เลยนี่ เห็นหน้านิ่ง ๆ แบบนั้นแต่กลับชอบเค้กเป็นชีวิตจิตใจ
“นายจะกินไหม?” เพราะโดนเขาจ้องซะขนาดนั้น ฉันก็อดชักชวนเขาไม่ได้ อารมณ์แบบเรากำลังจะกินขนมแล้วมีเด็กมานั่งมองนั่นแหละ
“ไม่” เขาเงียบไปอึดใจก่อนตอบปฏิเสธ แถมยังหันหน้าหนีกลับไปพิมพ์คีย์บอร์ดตรงหน้าตัวเองต่อ ฉันเห็นเขานั่งเขียนโค้ดมาเป็นชั่วโมง ๆ แล้วนะนั่น เขาไม่คิดจะพักสมองบ้างหรือไงกัน
อัจฉริยะสมชื่อจริง ๆ แหละ
ฉันเลิกสนใจเขา หันมาตักเค้กนมสดเข้าปาก รสชาติหวานของเนื้อเค้กผสมกับกลิ่นหอมละมุนของนมสดทำฉันหลับตาฟินขั้นสุด
อร่อยมาก…
“อ๊ะ… ตะ ตกใจหมด!” เพราะมัวแต่หลับตาฟินกับรสชาติหวานละมุนมากไปหน่อย พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เห็นว่าร่างสูงกำลังใช้สองมือเท้าโต๊ะโค้งตัวลงมาใกล้แล้ว ฉันผละหนีจนแทบจะตกเก้าอี้แน่ะ
สิบทิศเป็นผีหรือไง เมื่อกี้ยังนั่งตรงโน้นอยู่เลย จู่ ๆ มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย! ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วนะ” อดไม่ได้ที่จะส่งสายตาแสนขวางใส่ เจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจสายตาฉันสักนิด เขาเอาแต่มองเค้กนมสดตรงหน้าฉันไม่หยุด
คนปากแข็งคนนี้นี่…
“นายเอาชิ้นนั้นไปสิ ชิ้นนี้ฉันตักไปแล้ว” ฉันแบ่งอีกชิ้นที่เป็นส่วนของเดย์ให้สิบทิศ เดย์คงไม่กินแล้วแหละ กว่าเขาจะกลับมาอีกที เค้กคงละลายพอดี
“ไม่”
“เอ๊ะ นายก็อยากกินนี่ จะเล่นตัวทำไมนัก ของโปรดนายไม่ใช่เหรอ เอาไปเถอะ ฉันให้” ฉันดันจานเค้กไปทางเขาแล้วก้มลงตักเค้กจากจานตัวเอง ก่อนจะชะงักมือค้างกับคำพูดประโยคต่อมาของผู้ชายตรงหน้า
“เธอจำได้ด้วยเหรอว่าฉันชอบกินเค้ก”
ตายจริง… เมื่อกี้ฉันหลุดพูดอะไรไปเหรอ ไม่ทันรู้ตัวเลยแฮะ
“เธอไม่ได้ลืมฉัน เธอยังจำเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับฉันได้ใช่ไหมพราว”
ฉันช้อนสายตาขึ้นสบกับดวงตาคมทอประกายวาววับ ฉันอยากจะเบือนสายตาหนีรอยยิ้มอ่อนมุมปากกับสีหน้ารู้ทันของสิบทิศ แต่เหมือนมีบางอย่างตรึงสายตาของฉันเอาไว้
เสียงกู่ร้องดังกึกก้องในใจว่าอย่าได้หลงกลกับใบหน้าหล่อ ๆ ของผู้ชายคนนี้เด็ดขาด เธอจะหวั่นไหวให้กับเขาไม่ได้
ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ!