ฉันกลับมารอข่าวคราวของเดย์จากสิบทิศที่คอนโด ก่อนเขาจะออกจากแล็บไป ฉันกำชับเขาแล้วว่าให้โทรบอกด้วยถ้าช่วยเดย์เรียบร้อยแล้ว แต่นี่มันผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วนะ มันจะสามทุ่มแล้วทำไมสิบทิศยังไม่โทรมาอีกล่ะ
ออด…
ฉันสะดุ้งเบา ๆ ตอนได้ยินเสียงออดหน้าประตูห้อง ปกติเวลานี้ไม่ค่อยมีใครมาหาฉัน หรือว่าจะเป็นเดย์…
เพราะมัวแต่ดีใจฉันเลยเดินมาเปิดประตูโดยไม่ทันส่องตาแมว และก็ต้องชะงักเมื่อคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องไม่ใช่เดย์แต่เป็น… สิบทิศ
“นายมาได้ยังไง…” ฉันเบิกตากว้างเอ่ยถามก่อนชะงักไปเมื่อเห็นรอยเลือดเลอะเนื้อตัวสิบทิศไปหมด “นายบาดเจ็บเหรอ?”
ฉันพุ่งเข้าไปจับเนื้อจับตัวสิบทิศเพื่อสำรวจหาบาดแผลด้วยความลืมตัว ก่อนจะชะงักนิ่งเมื่อนึกขึ้นได้
“ไม่ใช่เลือดฉัน” สิบทิศหลุบตามองหน้าฉัน ขณะที่ฉันไม่กล้าสู้สายตาเขาเลย “ขอเข้าไปล้างตัวหน่อย”
“อ๊ะ ได้สิ”
เดี๋ยวนะ… นี่ฉันตอบตกลงทันทีได้ยังไงกัน?
พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองทำพลาดก็สายเกินไปแล้ว เพราะร่างสูงเดินเข้ามาในห้องฉันหน้าตาเฉย แถมยังมองสำรวจไปรอบห้องอีกด้วย
ว่าแต่… สิบทิศรู้ได้ยังไงว่าฉันพักอยู่ชั้นไหน ห้องไหน?
ฉันอยากจะถามเขา แต่พอเห็นแววตาเย็นชาคู่นั้นกำลังจ้องมา คำถามมากมายมันเลือนหายไปหมด
“จะไม่เช็ดเลือดให้ฉันหน่อยหรือไง”
“เอ๊ะ… เช็ดเลือดอะไร” ฉันกะพริบตามองสิบทิศไม่เข้าใจ ก่อนหลุบตามองคราบเลือดบนเนื้อตัวเขา “ฉันว่านายไปอาบน้ำเลยจะดีกว่านะ เดี๋ยวฉันไปเตรียมผ้าขนหนูให้”
ฉันดันหลังสิบทิศเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูเสร็จสรรพ บอกตามตรงว่ายังงุนงงอยู่ ไม่คิดว่าสิบทิศจะโผล่มาหากันที่ห้องแบบนี้ ฉันบอกให้เขาโทรมาหา ไม่ใช่ให้มาหาสักหน่อย
นี่เขาเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?
หลังจากสิบทิศอาบน้ำเสร็จ เขาพันผ้าเช็ดตัวรอบเอว เดินเปลือยท่อนบนออกมาจากห้องน้ำ ฉันแทบจะกรี๊ดออกมา เจ้าสกายที่นอนเกยคางบนตักฉันหันไปแยกเขี้ยวขู่ใส่สิบทิศเบา ๆ ทั้งที่กับเดย์มันไม่เคยขู่เลยสักแอะ สงสัยสัญชาตญาณมันคงจะรู้ว่าใครมาดี ใครมาร้ายแน่ ๆ
“นาย… ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าล่ะ” ฉันเบือนหน้าหนีไปอีกทาง พยายามอย่างมากที่จะไม่มองแผงอกขาว ๆ ซิกแพคล่ำ ๆ ของสิบทิศ
ให้ตายเหอะ… เมื่อก่อนก็เคยคิดว่าสิบทิศหุ่นดีเกินเด็กมอปลายแล้วนะ แต่ตอนนี้เขาไปไกลเกินกว่าคำว่าหุ่นดีแล้ว เรียกว่าหุ่นแซ่บสุด ๆ ไปเลยดีกว่าแม่!
“แง่ง…” สกายส่งเสียงขู่สิบทิศไม่หยุดจนเขาส่งสายตาดุดันใส่มัน ฉันรีบอุ้มสกายหนีจากสายตาพิฆาตของสิบทิศแล้วพามันไปปล่อยไว้ในห้องนอนตัวเอง โดยไม่ลืมหยิบเสื้อผ้าสำรองของเดย์ติดมือมาด้วย
“ใส่นี่ซะสิ” สิบทิศปรายตามองเสื้อผ้าในมือฉันด้วยแววตาแสนขวาง นอกจากเขาจะไม่รับมันแล้ว เขายังปัดมือฉันทิ้งด้วย
“ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร” เขาหมายถึงเดย์สินะ
“แต่นี่เป็นชุดใหม่นะ ฉันซื้อมาสำรองไว้ให้เดย์ แต่เขาไม่เคยได้ใส่สักที ไม่เอาก็แล้วแต่” ฉันทำท่าจะเก็บเสื้อผ้าคืนแต่ถูกเขาแย่งไปจากมือ
“ถ้ามันไม่เคยใส่ งั้นฉันใส่ก็ได้” เขาคว้าเสื้อไปสวมตรงนั้นเลย ฉันต้องหันหลังหนีเพื่อหลบภาพน่าอายนั่น
“ทำไมนายไม่ไปเปลี่ยนในห้องน้ำล่ะ”
“จะเปลี่ยนตรงไหนก็เหมือนกัน” เขายังเถียงฉันข้าง ๆ คู ๆ
ผู้ชายหน้ามึนคนนี้นี่!
ฉันตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องนอน ปิดประตูและขึ้นมานั่งกอดเจ้าสกายบนเตียง ไม่นานนักเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น สิบทิศถือวิสาสะเปิดประตูโดยไม่รอฟังคำอนุญาตจากฉัน
“แง่ง…” สกายส่งเสียงขู่อีกครั้ง มันวิ่งมาหลบด้านหลังฉัน ท่าทางไม่ชอบขี้หน้าสิบทิศมาก ๆ
“ฮึ นิสัยเหมือนเจ้าของเหลือเกินนะ”
ฉันขมวดคิ้วไม่ชอบใจที่สิบทิศเอาฉันไปเปรียบกับเจ้าสกาย ถึงมันจะเป็นน้องหมาสุดที่รักของฉัน แต่หมาก็คือหมาไหมอ่ะ เอามาเปรียบกับคนได้เหรอ?
“นายมาที่นี่ทำไม คงไม่ได้จะมาอาบน้ำเฉย ๆ หรอกนะ” ฉันรู้จักนิสัยสิบทิศดี เขาไม่ใช่คนทำอะไรไร้สาระ ทุกสิ่งที่เขาทำล้วนผ่านการคิดจากสมองอันอัจฉริยะของเขามาหมดแล้วทั้งนั้น
“ฉันออกแรงช่วยไอ้เวรนั่นไปตั้งเยอะ ก็ต้องมาผ่อนคลายสักหน่อยสิ” ขณะที่เขากำลังพูดประโยคเหล่านั้น ร่างสูงก้าวเท้าเดินเข้ามาหาฉันที่นั่งอยู่บนเตียง เจ้าสกายขู่เสียงดังกว่าเดิมจนสิบทิศเงื้อมือทำท่าจะตี มันถึงรีบกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งหนีออกจากห้องไป
เดี๋ยวสิเจ้าหมาบ้า! แกจะทิ้งฉันไว้แบบนี้ไม่ได้นะ!
“นายจะตีมันเหรอ?” ฉันจ้องไปที่มือของสิบทิศซึ่งยังคงเงื้อค้างกลางอากาศ เขาโค้งตัวลงมาใกล้ฉัน กลิ่นครีมอาบน้ำประจำตัวของฉันลอยแตะปลายจมูก
ความรู้สึกนี้มันคืออะไร… ทำไมจู่ ๆ หัวใจเต้นแรงขึ้นอีกแล้วล่ะ
“ฉันจะตีเธอ”
“เอ๊ะ…” ฉันยังไม่ทันจะได้ถามอะไร มือข้างที่ค้างกลางอากาศเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นคว้าท้ายทอยฉันแล้วดึงรั้งใบหน้าเข้าใกล้เขา ริมฝีปากหนาทาบทับจูบหนัก ๆ ลงมาโดยไม่ทันตั้งตัว
นี่มันอะไรกันเนี่ย… สิบทิศคงไม่ได้มาหาเพียงเพื่อจะจูบฉันหรอกใช่ไหม?