บทที่ 9 ดาวบริวาร

2546 Words
ร่างบางของอัจฉราโผล่พรวดเข้ามาในสตูดิโอ จนคนทั้งห้องต้องหันมามองเป็นตาเดียวกัน ลมหายใจของเธอหอบหนักราวกับคนกระหายอากาศ เหงื่อผุดพรายตามกรอบหน้าแสดงให้เห็นว่าหล่อนรีบแค่ไหน ระหว่างที่ต้องเดินทางมาที่นี่ แม้จะโดยสารด้วยรถไฟฟ้าแต่เพราะเป็นวันธรรมดาในเมืองใหญ่ จึงติดขัดไม่ค่อยเป็นดั่งใจนัก ถึงออกจากบ้านตั้งแต่เช้าแต่ก็เกือบข้ามเส้นยาแดงผ่าแปด หลังจากยืนพักหายใจจนเริ่มจะหายเหนื่อยดีแล้ว ดวงตาคู่สวยก็กวาดมองไปรอบ ๆ สตูดิโอถ่ายงานที่ตอนนี้ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยเกือบทุกอย่างแล้ว และนั่นทำให้อัจฉราเพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกมองอยู่ หล่อนชะงักไปเล็กน้อย กะพริบตาพลางส่งยิ้มแก้เก้อ ตระหนักว่าที่นี่ไม่มีใครรู้จักเธอเลยสักคน อัจฉรามาแทนนางแบบตัวจริงที่บังเอิญเกิดอุบัติเหตุ... ไม่แปลกที่พวกเขาจะมองกัน ยิ่งเธอแต่งตัวธรรมดา แม้จะมีใบหน้าสวยจัดและผมแดงเด่นมาแต่ไกล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใครจะไม่งง แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปมากกว่านี้ ร่างที่คุ้นตา เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นคลายความสับสนและตึงเครียดออกไปเสียก่อน ขณะที่เขาปรี่เข้ามาหาหล่อนพร้อมรอยยิ้มอย่างคนรู้จักกันดี แววตาดีใจเปิดเผย คำพูดเป็นกันเอง แต่ก็เป็นมืออาชีพ “คุณพระคุ้มครอง... มาถึงแล้ว... พี่ใจหายหมดนึกว่าเราจะเทกันอีกคน... ไป ๆ รีบไปแต่งตัว ขึ้นผมก่อน พี่ค่อยหาน้ำให้กิน... ดูหน้าซีดไปหมดแล้ว” อัจฉรายิ้มแก้เก้อ พร้อมกันนั้นก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นพี่ผู้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่คนหนึ่งทีเดียว ก่อนที่เขาจะเข้ามาจูงแขนและพาเดินนำไปยังห้องที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อ แต่งหน้า ทำผม แต่งตัวโดยเฉพาะ “หนูไม่สายใช่ไหมคะ พี่เฟียส?” อัจฉราถาม สายตามองไปรอบ ๆ อีกครั้งด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่แทบจะเก็บเอาไว้ไม่มิด สตูดิโอแอร์เย็นฉ่ำ ทีมงาน ไฟ ฉาก กล้อง อุปกรณ์ถ่ายงานและทุกอย่างดูเป็นสถานที่ของมืออาชีพไปหมด จนทำให้หัวใจเต้นระรัวไม่ยากสำหรับเธอ “ไม่สาย... แต่ก็เกือบอยู่นะ...” เฟียสพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก เขานำพาอัจฉราเข้ามาในห้องแต่งตัวที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าคอลเลคชั่นสวยแขวนราวผ้า และเครื่องสำอาง อุปกรณ์ระดับโปรที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง กระจกเงาบานใหญ่สะท้อนแสงไฟขาวผ่อง ภาพนั้นปรากฏในดวงตาสียางไม้ที่แวววาวด้วยความสนใจ “อ๊ะ... นั่งค่ะ...” เฟียสหันมาหาอัจฉรา พร้อมกันนั้นก็ดันให้เธอไปนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจก ไม่รอช้าที่จะสั่งงานช่างแต่งหน้าและทำผม ซึ่งสแตนด์บายรออยู่แล้วด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง แต่แฝงไปด้วยความเด็ดขาด “น้อง ๆ มาคลีนหน้าออกแต่งใหม่ แล้วขึ้นผมพร้อมกันไปเลยนะ” อัจฉราคลี่ยิ้มให้ผู้มีพระคุณและช่างทั้งสองคนที่เข้ามาประชิดตัวทันทีหลังจากสิ้นคำสั่ง เฟียสไม่ลืมที่จะเก็บกระเป๋าใบเก่งของอีกฝ่ายไปวางบนเก้าอี้ให้พ้นตัวนางแบบของเขา ก่อนที่จะกลับมายืนคุมงานด้วยสายตาที่เฉียบคม แต่แฝงไปด้วยความเอ็นดูในตัวสาวรุ่นน้องอย่างปิดไม่มิด ยิ่งได้ยินคำพูดจากปากหล่อนก็ยิ่งชื่นใจ “ขอบคุณพี่เฟียสนะคะ ที่คิดถึงเนย... เนยไม่คิดว่าจะได้โอกาสแบบนี้เลยด้วยซ้ำ” “โอ๊ย ขอบคุณอะไรกัน... ขอบคุณตัวเองเถอะ... นี่ถ้าไม่บังเอิญโผล่หน้ามาให้พี่เห็นก่อนนะ พี่คงไม่ทันคิดถึงเราด้วยซ้ำ... โชคดีที่สวยไม่เปลี่ยนเลยจำได้” เฟียสตอบกลับเสียงดัง น้ำเสียงแฝงแววขี้เล่นตามปกติ และเปิดเผย สายตาของเขาสำรวจดวงหน้าสวยจัดที่ตอนนี้หลับตาพริ้มอยู่ ขณะที่ช่างแต่งตาให้ ก็รู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย เพราะอัจฉราดูล้ายิ่งกว่าครั้งล่าสุดที่ได้เจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อนเสียอีก เขาไม่รู้ว่าระหว่างนั้นอัจฉรามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร ภาพสุดท้ายที่จำได้คือดาวคณะที่ใคร ๆ ก็ยอมสยบให้ง่าย ๆ แถมยังเรียนเก่งด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้เหมือนจะ... ลำบากน่าดูเชียว “เป็นไงกันบ้างคะ ทุกคน? นางแบบพร้อมถ่ายหรือยังเอ่ย?” เสียงหวานดังขึ้นทะลุโสตประสาท หลังจากไม่กี่นาทีผ่านไป อัจฉราขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้ลืมขึ้นแล้วหลังจากถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี เน้นให้ยิ่งมีเสน่ห์น่ามองยิ่งขึ้น นัยน์ตาสียางไม้สะท้อนแสงวูบไหว เสียงนั้น... หญิงสาวจำได้ทันทีว่ามันเป็นเสียงของใคร ‘ณดาว’ ไม่ผิดแน่ อัจฉรากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แววตาฉายความตกใจและหวาดหวั่น “อ้าว คุณณดาวสวัสดีครับ... มาได้จังหวะพอดี นางแบบสำหรับเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของคุณณดาว แต่งหน้า ทำผมเสร็จพอดีเลยครับ” แถมหล่อนไม่รู้มาก่อนด้วยว่าแบรนด์เสื้อผ้าที่ต้องมาเป็นนางแบบให้วันนี้คือของเธอ... อัจฉราเม้มปากเล็กน้อยด้วยความประหม่า หัวใจเต้นแรงขึ้นทุกทีเมื่อเสียงส้นสูงขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ช่างทำผมและช่างแต่งหน้าหลีกทางให้อย่างรู้งาน จนกระทั่งดวงตาของหญิงสาวทั้งสองประสานกันตรง ๆ ผ่านเงาสะท้อนในกระจก เผยให้เห็นใบหน้าคุ้นเคยของณดาวอย่างที่คาดไว้ คิ้วโก่งรับกับใบหน้าของอีกฝ่ายพลันขมวดเข้าหากันทันที แววตาฉายความประหลาดใจอย่างเปิดเผย แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นคล้ายกับความดูแคลนระคนเจ้าเล่ห์ คิ้วที่ขมวดค่อย ๆ คลายออกอย่างเป็นธรรมชาติ ตามมาด้วยริมฝีปากที่แย้มยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย แต่ก็แฝงความเย้ยหยันเล็กน้อย สะท้อนผ่านประโยคแรงของเธออย่างไม่ไว้หน้า “อ๋อ ก็นึกว่าใคร... ไม่คิดเลยนะว่าคนในครัวบ้านฉันจะกลายมาเป็นนางแบบได้… เอาเถอะ ถือว่าดวงเธอดีละกัน” อัจฉราเหมือนถูกตบหน้าด้วยคำพูดนั้น ดวงตาไหววูบ บรรยากาศภายในห้องที่เคยผ่อนคลาย ค่อย ๆ สัมผัสได้ถึงความตึงเครียด มือที่วางอยู่บนหน้าตักพลันบีบเข้าหากันแน่นอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่ยังคงประสานสายตากับเจ้าของดวงตากลมโตคู่นั้น รู้สึกได้ถึงความขมเฝื่อนในปากจนต้องกลืนน้ำลาย... อัจฉราพยายามข่มอารมณ์อยู่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ไว้หน้ากันเลยก็ตาม “เอ่อ... ยังไงคะคุณดาว? รู้จักกันเหรอคะ?” เฟียสที่เห็นท่าไม่ดี และสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เริ่มคุกรุ่น หัวเราะออกมาพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้าง มองสองสาวสลับกันไปมา พยายามที่จะคลายความอึดอัดลง อัจฉรารับรู้ได้และหล่อนไม่ต้องการที่จะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เลยยอมเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน “ค่ะ รู้จักดีเลยค่ะ...” ณดาวหัวเราะร่วมไปด้วย หล่อนยอมละสายตาจาก ‘นางแบบจำเป็น’ ที่เพิ่งจะรู้เมื่อครู่นี้ไปก่อน พลางหันไปมองเฟียส บรรยากาศจึงเริ่มผ่อนคลายลงจริง ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยแรงกดดันบางอย่างที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อเธอหันไปมองอัจฉราอีกครั้ง “ไม่ทักทายกันหน่อยหรือเนย... ถึงว่าวันนี้ข้าวเช้าไม่อร่อยเลย หนีมาอยู่นี่นี่เอง” มุมปากอิ่มกระตุกเล็กน้อย มือที่บีบเข้าหากันอยู่แล้วยิ่งบีบแน่นขึ้นไปอีกจนข้อนิ้วพากันขาวซีดไปหมด อัจฉราหายใจเข้าเบา ๆ แต่ลึกพอที่จะข่มความรู้สึกขุ่นมัวในใจเอาไว้ได้ ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง พร้อมด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ ประดับดวงหน้า แต่แสดงให้เห็นถึงการรักษาความสุภาพและความสงบได้เป็นอย่างดี “ขอโทษนะคะ... พอดีกะทันหันค่ะ... แล้วไม่คิดเลยว่าวันจะได้มาร่วมงานกับคุณณดาว ดีใจนะคะ” ณดาวยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ เห็นว่าอีกคนดูจะควบคุมตัวเองได้ดีก็ยิ่งนึกสนุก แต่คราวนี้เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่พยักหน้าให้สั้น ๆ อย่างรับรู้ หลังจากนั้นก็หันไปพูดสั่งอะไรบางอย่างกับเฟียสด้วยน้ำเสียงที่อัจฉราได้ยินไม่ถนัด เจ้านายสาวและลูกน้องหนุ่มพยักหน้า ยิ้มให้กันอย่างรู้ใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ณดาวจะเป็นฝ่ายเดินออกไปจากห้องแต่งตัวในที่สุด พ้นสายตาแล้วเฟียสก็หันกลับมาสนใจอัจฉราต่อ แววตาเปล่งประกายด้วยความพึงพอใจในหน้าและผมของเธอดีแล้ว ก็ไม่รอช้าเดินไปฉวยมือหล่อน ดึงให้ลุกขึ้นตามไปเบา ๆ ทางราวแขวนชุดที่ใกล้กันนั้นมีฉากกั้นอยู่สำหรับเป็นพื้นที่เปลี่ยนชุด “ไป เดี๋ยวพี่พาไปเปลี่ยนชุด จะได้เริ่มถ่ายกันเลย” อัจฉราส่งยิ้มให้เล็กน้อย พร้อมกันนั้นก็ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย สายตากวาดมองชุดสวยหลากหลายรูปแบบ ความรู้สึกตื่นเต้นก็เริ่มกลับเข้ามาแทนที่ความขุ่นมัวในใจอีกครั้ง เมื่อพูดถึงเรื่องถ่ายแบบ... มันเป็นหนึ่งอย่างที่อัจฉราเคยฝันถึง แต่ไม่ได้มีโอกาสมาถึงจุดนี้เลย คราวนี้เลยถือโอกาสคว้าเอาไว้ และจะตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดด้วยซ้ำ ถึงต่อให้เป็นแบรนด์เสื้อผ้าจะเป็นของณดาว แต่เธอก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ ‘คนธรรมดา’ คนหนึ่งจะทำได้ แชะ แชะ “ดีครับ... หันข้างหน่อยนะ โชว์ดีเทลหลังนิด ๆ... นั่นแหละดีเลย” ช่างกล้องเอ่ยคำแนะนำ ผสมกับคำชมไม่หยุดปาก ด้วยความเป็นมืออาชีพ เสียงชัตเตอร์ผสานกับแสงแฟลชรัวเก็บภาพนางแบบสาวคนสวยเอาไว้ทุกช็อต เบื้องหลังตากล้องคนเดียวกันนั้นณดาวยืนคุมอยู่ไม่ห่างในฐานะเจ้าของเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ และเจ้าของสตูดิโอ รอยยิ้มพึงพอใจที่ประดับดวงหน้าหวานไม่จืดจางลงเลย ทุกภาพถ่ายของอัจฉราต้องยอมรับเลยว่าเหมือนมืออาชีพ เธออาจจะเงอะงะบ้างเล็กน้อยในตอนแรกเพราะความใหม่ แต่พอจับทางได้ก็งานเร็ว แถมยังออกมาดีด้วยซ้ำ... แบบที่แทบจำไม่ได้ว่านี่คือ ‘คนใช้’ ในบ้านตัวเอง “อยากรู้จัง... ว่าจะทำหน้ายังไง” เธอพึมพำกับตัวเองพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างชอบใจ แววตาเป็นประกายวาววับแฝงไปด้วยความซุกซนและคาดหวังอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม ไม่ทันขาดคำ ประตูสตูดิโอก็เปิดเข้ามาพอดีราวกับรู้ใจ ‘นที เลิศธารินทร์’ ซีเนียร์พาร์ทเนอร์ของ L&T Law ทนายหนุ่มมาดเนี้ยบ และพี่ชายเพียงคนเดียวของณดาว ในวินาทีที่เขาก้าวเข้ามาในสตูดิโอเย็นฉ่ำ ทุกอย่างรอบตัวราวกับหยุดเคลื่อนไหวไปทันที การมาปรากฏตัวของเขาพร้อมกับภาพลักษณ์สมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้หัวใจของใครหลายคนเต้นแรงไม่เป็นส่ำง่าย ๆ ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มส่งผิวขาวและรูปร่างกำยำได้อย่างลงตัว ผมสีเข้มจัดทรงเรียบ มีสไตล์รับกับใบหน้าคมคาย ทุกอย่างที่เป็นเขาดูสะอาดตา สดชื่น แต่ในก็แฝงไปด้วยไอเย็นบางอย่าง ที่ทำให้ทั้งน่าเข้าหาและยากที่จะหยั่งถึงในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มเดินเข้าไปหยุดอยู่เคียงข้างน้องสาว สีหน้าของเขาไม่ได้เรียบเฉยซะทีเดียว มีรอยยิ้มให้เห็น แต่สายตาคาดเดาไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่ เสียงชัตเตอร์ถี่รัวเป็นจังหวะ พร้อมกันเสียงช่างกล้องทำให้ความสนใจของเขาถูกดึงดูดไปยังภาพตรงหน้าได้เช่นกัน ทว่า... สิ่งที่เห็นนั้นกลับสะกิดใจเขาไปได้วูบหนึ่ง “ดีมากครับ! ถ่ายทอดดีมากเลย!” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สายตาคมเฉียบจ้องมองไปยังภาพตรงหน้าไม่วางตา เสี้ยววินาทีหนึ่งเท่านั้นที่เขาเห็นสายตาของอัจฉรามองมาที่เขา ก่อนที่เธอจะหันไปมองกล้อง แต่แววตาที่ฉายแววประหลาดใจปนตื่นตระหนกนั่นไม่อาจรอดพ้นไปจากเขาได้เลย นทีกระตุกยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ได้... ลางานแต่เช้าเพื่อมาทำอะไรแบบนี้นี่เองสินะ “เป็นไงคะ พี่ทีมาถึงก็เจอเซอร์ไพรส์เลยปะ… นางแบบฉุกเฉินของณะเอง” เสียงของณดาวดังขึ้นข้างหู เจือเสียงหัวเราะขำเบา ๆ เธอมองใบหน้าด้านข้างของพี่ชายด้วยสายตาที่เจือความพอใจและขี้เล่น แต่พอเห็นรอยยิ้มมุมปากของพี่ชายกลับกลายเป็นว่าเธอที่ตั้งใจจะแซวหาทางไปไม่ถูกเสียอีก... หล่อนไม่คิดว่าพี่ชายจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ด้วยซ้ำ “ที่แท้ก็มาอยู่ที่นี่...” นทีพูดพึมพำกับตัวเอง สายตากวาดมองหญิงสาวที่อยู่ภายใต้แสงไฟตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นครั้งสุดท้ายอย่างอ่านไม่ออก ก่อนที่เขาจะหันไปเผชิญหน้ากับน้องสาวที่ทำหน้าอึ้งอยู่ พร้อมกับยิ้มให้เธอ รอยยิ้มที่อบอุ่นจนแทบจะละลายหัวใจใครก็ได้... ยกเว้นอีกคนที่ได้แต่มองอยู่ห่าง ๆ หัวใจของอัจฉราเต้นระรัวทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้น แต่เธอยังต้องรักษาความเป็นมืออาชีพเอาไว้ กลับมาโฟกัสกับสิ่งที่ทำตรงหน้าแทน ไม่อยากทำตัวน่าอายให้มีตำหนิในสถานการณ์แบบนี้ ทั้งที่หัวใจปรารถนาอยากจะได้รอยยิ้มแบบนั้นเหมือนกับที่เขาให้ณดาวมาที่เธอบ้าง แต่มันคงเป็นได้แค่ฝันไป “โอเคครับ! เซทนี้ดีมาก เตรียมตัวถ่ายชุดต่อได้เลยครับ” อัจฉราสะดุ้งเบา ๆ เมื่อของช่างถ่ายภาพดังขึ้น เสียงชัตเตอร์เงียบลง พาให้กลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง อัจฉราคลี่ยิ้มส่งให้ทุกคนก่อนที่ทีมงานจะช่วยมาพาเธอออกจากฉาก ระหว่างที่เดินกลับไปยังห้องแต่งตัว สายตาเจ้ากรรมมันก็ยังมิวายแอบหันไปมองชายหนุ่มที่ตอนนี้นั่งอยู่กับน้องสาวของเขาบนโซฟาที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของสตูดิโอ พร้อมกับเอกสารมากมายที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ยตรงหน้าเขา ก่อนที่อัจฉราจะละสายตาไปในที่สุด โดยที่ไม่ลืมภาพลักษณ์ของเขาในตอนนั้นเลย ภาพที่ยิ่งย้ำเตือนให้เห็นชัด ว่าโลกของทั้งคู่มันแตกต่างกันมากเพียงใด เขาคือพระอาทิตย์ทั้งดวง ขณะที่เธอดาวบริวารที่หมุนรอบตัวเขาอยู่ฝ่ายเดียว.... ที่ในความเป็นจริง ดาวบริวารไม่เคยถูกดวงอาทิตย์เหลียวมองด้วยซ้ำ… มีแต่แรงดึงดูดจากอีกฝ่ายเท่านั้นที่บังคับให้โคจรรอบไปเรื่อย ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD