Talk น้ำหนาว
ฉันที่ลืมตาตื่นขึ้นในห้องพักที่ไม่คุ้นตา แต่คาดว่าน่าจะเป็นโรงแรม ก่อนจะมีอาการปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเลย เมื่อคืนฉันจำอะไรไม่ได้สักอย่าง แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง จำได้แค่ว่าเมื่อคืนฉันมาวันเกิดของยัยแป้งพร้อมกับยัยทราย ซึ่งมันสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง แล้วเมื่อคืนฉันก็ดื่มกับเพื่อนๆหนักมากๆด้วย หนักมากชนิดที่ว่าจำเรื่องราวอะไรไม่ได้เลย ว่าแต่ยัยแป้งกับยัยทรายอยู่ที่ไหนอ่ะ ทำไมฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว
"ยัยแป้ง ยัยทราย พวกแกอยู่ที่ไหนอ่ะ ออกมาหาฉันหน่อยสิ" ฉันที่มองหาเพื่อนๆไม่เจอ จึงตะโกนหาพวกมันสองคนจนเสียงดังไปทั่วห้อง ก่อนที่จะลุกออกจากเตียงมาดูรอบๆบริเวณ ซึ่งมองยังไงก็ไม่มีใครอยู่เลย
"แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงอ่ะ หรือว่าพวกมันสองคนพาฉันมาส่งอย่างงั้นหรอ แล้วพวกมันปล่อยฉันทิ้งไว้คนเดียวอย่างงี้ได้ยังไงอ่ะ ไม่ได้ๆฉันต้องโทรถามพวกมันสองคนสักหน่อยแล้ว กล้าดียังไงมาปล่อยฉันทิ้งไว้คนเดียวแบบนี้อ่ะ" ฉันจึงมองหากระเป๋าของตัวเองแล้วควานหาโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนที่ฉันจะต้องตกใจกับสายเรียกเข้านับร้อยสายที่เพื่อนๆของฉันพากันกระหน่ำโทรเข้ามาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงช่วงเช้าของวันนี้ แล้วสรุปนี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันเริ่มงงไปหมดแล้วนะ
กริ้ง!... กริ้ง!... เสียงโทรเข้าจากยัยแป้ง ทำให้ฉันสะดุ้งตัวขึ้นจนต้องรีบกดรับสายมันในทันที
(ยัยหนาว เมื่อคืนแกหายไปไหนมาห้ะ!! แกรู้ไหมว่าฉันกับยัยทรายตามหาแกมาทั้งคืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย ดีที่ฉันไม่ได้โทรไปหาพ่อกับแม่แกนะเนี่ย ไม่งั้นนะเป็นเรื่องใหญ่แน่)
"โอ้ย! ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองมาอยู่ที่โรงแรมได้ยังไง แต่ยังไงก็ขอโทษพวกแกด้วยก็แล้วกันที่ทำให้พวกแกต้องเป็นห่วง พอดีเมื่อคืนฉันคงดื่มหนักไปหน่อยอ่ะ จำอะไรไม่ได้เลย"
(โหย!! ไม่หนักสิแปลก ดื่มอย่างกับน้ำเปล่าซะขนาดนั้น แต่ยังไงก็เอาเถอะ ตอนนี้แกสบายดีแล้วใช่ไหม ไม่ได้มีใครทำมิดีมิร้ายแกใช่ไหม)
"บ้า! ไม่มีหรอก ฉันสบายดี แกก็คิดมากไป"
(งั้นก็ดีแล้ว ฉันขอตัวไปนอนก่อนล่ะกัน ฉันก็พึ่งแยกกับยัยทรายเมื่อกี้นี้เอง ส่วนแกก็กลับคอนโดตัวเองไปได้ล่ะ ระวังพ่อกับแม่แกไปหาแล้วหาแกไม่เจอนะจ๊ะ แล้วมันจะยุ่งเอาน๊าา)
"จ้าๆ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับคอนโดตามคำสั่งเดี๋ยวนี้เลยจ้ะ ส่วนแกก็กลับไปพักผ่อนเถอะนะ เอ่อ! แล้วอย่าลืมโทรบอกยัยทรายด้วยนะว่าฉันสบายดี ไม่ได้เป็นอะไร จะได้หายห่วงฉันสักที"
(เครๆ งั้นแค่นี้ ไปล่ะ บ๊าย ตืด!)
"ส่วนฉันคงต้องรีบกลับคอนโดตัวเองแล้วล่ะ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่รู้แล้วพวกท่านจะเป็นห่วง ยิ่งมีลูกสาวคนสวยคนเดียวอยู่ด้วย คิก คิก" ฉันจึงรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าและเดินทางกลับคอนโดในทันที ก่อนที่จะแวะซื้อยาแก้เมาค้างให้ตัวเองกินเพราะอาการปวดหัวที่มันมากขึ้นเรื่อยๆ
Talk ไดม่อน
ผมที่เช้านี้เข้ามาทำงานที่บ่อนคาสิโนตั้งแต่เช้ามืด เนื่องจากผมนอนไม่ค่อยหลับ เพราะหลับตาลงทีไรได้แต่นึกถึงใบหน้าเธอคนนั้นทุกที ที่มันลอยวนเวียนอยู่ในโซนประสาทของผมไม่จางหาย จนผมไม่เป็นอันหลับอันนอน ผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีอิทธิพลต่อใจของผมมาก นี่ขนาดได้เจอกันแค่ครั้งเดียวแต่มันกับทำให้ผมเป็นได้มากขนาดนี้ แล้วถ้าต่อไปได้เจอกันทุกวันจริงๆล่ะผมจะเป็นยังไง
"ไอ้ทีม!" ผมตะโกนเรียกลูกน้องที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องให้เข้ามา เพราะผมมีงานให้มันไปทำ
"ครับนาย" ทีมที่ได้ยินเสียงเรียกของเจ้านายก็รีบเปิดประตูเข้ามาในทันที
"มึงไปสืบประวัติของผู้หญิงคนเมื่อคืนที่กูให้พวกมึงไปส่งที่โรงแรมมาให้กูหน่อย เอาแบบละเอียดเลยนะมึง" ผมอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร ชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน เป็นลูกเต้าเหล่าใคร เพราะมันจะง่ายต่อการเข้าถึงเธอหน่อย
"ได้ครับ" ก่อนที่ทีมจะรีบเดินออกจากห้องไป ในใจได้แต่สงสัยว่าเจ้านายให้เขาไปสืบประวัติของผู้หญิงคนนั้นทำไม เจ้านายสนใจอย่างงั้นหรอ เพราะเจ้านายเขาไม่เห็นเคยจะสนใจใครเลย ยิ่งให้ไปสืบประวัติของผู้หญิงยิ่งไม่มี นอกจากคู่แข่งและคู่ค้าที่ให้ไปสืบอยู่บ่อยๆ
"ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นใครนะ แต่ในเมื่อเธอทำให้ใจฉันไม่สงบสุขแล้ว ยังไงเธอก็ต้องรับผิดชอบ ไหนจะทำให้ฉันนอนไม่หลับเพราะนึกถึงแต่หน้าเธออีก สงสัยเธอต้องมารับผิดชอบชีวิตของฉันแล้วล่ะสาวน้อย" เขาที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน จึงได้แต่พึมพำอยู่กับตัวเอง และนึกถึงหน้าเธอยิ้มๆ
สามวันผ่านไป
หลังจากวันนั้นผมก็ติดงานจนหัวหมุนไปหมด แถมไม่มีเวลาว่างออกไปไหนเลยด้วยซ้ำ อาวุธสงครามก็ยังไม่ได้ส่งให้ลูกค้า คาสิโน่ก็วุ่นวาย จนเขาแทบจะกุมขมับ
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
"เข้ามา" ผมที่พอจะรู้ว่าเป็นใคร เลยไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าคงต้องเป็นไอ้ทีม เพราะไอ้ทอยผมให้มันไปคุมอาวุธสงครามอยู่ เนื่องจากจะมีการนัดส่งของให้ลูกค้าในเร็วๆนี้
"นายครับ นี่ประวัติของผู้หญิงคนนั้นครับ" ทีมยื่นเอกสารที่เค้าปริ้นมาให้เจ้านายดู ก่อนที่จะวางไว้บนโต๊ะทำงานที่อยู่ไม่ไกล
"อืม" เขาเพียงชายตามองแปปหนึ่งเท่านั้นก่อนจะหันกลับไปเคลียร์งานต่อ เนื่องจากงานบนโต๊ะมันเยอะเกินกว่าที่จะมีเวลามาสนใจเรื่องส่วนตัว
"นายครับ ลูกค้าขอเลื่อนนัดรับของเป็นวันนี้นะครับ" ทีมที่รู้มาจากทอยว่าลูกค้าเลื่อนนัดรับของ จึงเอ่ยแจ้งเจ้านายในทันที
"อืม แล้วลูกค้านัดรับกี่โมง" เลื่อนเวลาเข้ามาก็ดีเหมือนกัน จะได้เคลียร์มันให้จบๆ จะได้มีเวลาว่างบ้าง
"เที่ยงคืนของวันนี้ครับ ที่โกดังร้างชานเมือง" ทีมรายงานตามที่ทอยบอกมาเป้ะๆอย่างไม่มีพลาด เพราะลูกค้าแจ้งมาแล้ว
"อืม กำชับไอ้ทอยไปว่าอย่าให้มีปัญหา ไม่งั้นกูเอามันตายแน่" สินค้าล็อตนี้มันมีค่ามหาศาล จะให้มันพลาดกับงานนี้ไม่ได้ ไม่งั้นต้องสูญเงินไปหลายล้าน
"ได้ครับ ผมจะกำชับมันให้ ผมขอตัวก่อนนะครับ" ทีมจึงรีบเดินออกจากห้องไปติดต่อทอยในทันที เพราะไม่อยากให้มันต้องทำงานพลาด
"อืม" ส่วนผมก็ตั้งหน้าตั้งตาเคลียร์งานบนโต๊ะให้เสร็จ ก่อนเวลาจะล่วงเลยไป 3 ชั่วโมงงานถึงเสร็จ ก่อนที่สายตาจะหันไปเห็นประวัติของผู้หญิงคนนั้นจึงหยิบขึ้นมาดู
"ชื่อ ชนัญธิดา อนงค์รักษ์ ชื่อเล่น น้ำหนาว อายุ 21 ปี เป็นลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจชื่อดังอย่างคุณภาคินและคุณหญิงน้ำฟ้า ปัจจุบันเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ ปี 3 มหาลัยกรุงเทพธนบุรี สถานะ โสด (ยังไม่เคยมีแฟน) ฯลฯ"
"หึ! ดูน่าสนใจดีหนิ อีกหน่อยเราคงต้องเจอกันหน่อยนะสาวน้อย แต่ว่าจะเจอกันยังไงดีล่ะ ไม่รู้สาวน้อยคนนั้นจะจำอะไรได้บ้างรึป่าว เล่นเมาจนหัวทิ่มซะขนาดนั้น แต่ก็เอาเถอะ ยังไงเราก็ต้องเจอกันอยู่ดี หึหึ!!"