9

2067 Words
DYNE ♡ CAKE “มองอะไร” ฉันถามคนที่นั่งมองฉันอยู่ มองเหมือนอยากจะพูดอะไร มองเหมือนกำลังหาเรื่องกัน “หึ... ” ส่งเสียงผ่านลำคอแล้วเสมองไปทางอื่น ตอนนี้ คนข้างในเริ่มมีมาก ส่วนมากจะมาอยู่ที่โต๊ะสนุ๊กกัน บางส่วนอยู่ตรงเคาท์เตอร์ซึ่งมีบาร์เทนเดอร์เป็นสาวหล่อยืนคอยบริการอยู่ โจลี่บอกฉันว่า ทีแรกแค่อยากหาที่รวมตัว คุยกัน ทำงานเฉย ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ แฟนเธอดันมีของเล่นพวกนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่นี่ไม่ได้เปิดทุกวัน เปิดเฉพาะเวลามีคนจองเท่านั้น ฉันค่อนข้างจะตกใจ ในเงื่อนไขของการก้าวขาเข้ามาในนี้ จ่ายเพียงหนึ่งพันบาทต่อคน ต่อการเข้าหนึ่งครั้ง เล่นได้ทุกอย่าง กินได้ทุกอย่างไม่จำกัดเวลา แต่ถ้ามาสร้างความวุ่นวาย จะได้รับเมนูสุดพิเศษ นั่นคือยำตีนนั่นเอง..... “มานั่งใกล้ทำไม” ฉันนึกสงสัยตั้งนาน ทำไมต้องมานั่งที่เดียวกับฉันด้วย แถมยังจะขยับมาใกล้เรื่อย ๆ มาอารมณ์ไหนของเขา “อยู่เฉย ๆ เหอะ” ดายน์ว่า พลางขยับมาเกือบจะซ้อนหลังฉัน มิหนำซ้ำยังใช้ความสูงกว่าของร่างกาย ชะโงกหน้าผ่านไหล่มาดูสิ่งที่ฉันกำลังทำอีก “ไม่ชอบแบบนี้” ฉันถอนหายใจใส่เขา “แป๊ปเดียว” “ดายน์.... นี่” พอเรียกชื่อเขา ก็ต้องตกใจกับการกระทำเขาอีก ดายน์ซบใบหน้าลงที่ไหล่ของฉัน หน้าผากเขาสัมผัสกับผิวฉันแบบแนบสนิท ลมหายใจที่สูดเข้าปล่อยออก มันชวนขนลุกเมื่อปลายจมูกมันเกือบจะแตะผิวพรรณของฉัน “ไหนว่าไม่ชอบฉันไง มาอยู่ใกล้เพื่อ?” “ง่วง” แล้วมาซบไหล่ฉันในลักษณะนี้นี่นะ? “ไปหาที่งีบดี ๆ สิ” “จะอยู่ตรงนี้” แล้วยังเถียงคำไม่ตกฟากอีก “เดี๋ยวฉันไปนั่งที่อื่น” “ลุกสิ... ถ้าอยากโดนจูบ” ขู่ฉัน.... ให้มันได้อย่างนี้สิ “เอาแขนออกด้วย” ก็มันเกาะเอวอยู่เนี่ย เป็นตุ๊กแกหาที่ยึดผนังรึไง “เมื่อย” เอวฉันไม่ใช่ที่วางแขนไหมล่ะ “จิ๊... ” “เงียบ..... ” เป็นอันเงียบตามคำบัญชา ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ 30นาทีผ่านไป... ไม่มีใครสนใจการนั่งของเรา เพราะหลายคนตรงเยื้องนั้น บางคู่ก็กำลังกอดคอหยอกล้อกันอยู่ “อือ.. ” ดายน์ขยับตัวนิดหน่อยแต่ฉันดันเกร็งขึ้นมา เขานำแขนทั้งสองมากอดรอบเอวฉันไว้ ดายน์ถูไถหน้าผากกับไหล่กลมของฉันเพื่อหามุมที่หลับตาได้สะดวก “นี่... ” ฉันหดไหล่เมื่อเขาใช้จมูกกดลงแล้วสูดลมเข้าปอด “อืม.. หอมดี” กระแทกไหล่ใส่คนง่วงจะเป็นไรไหม ทำไมต้องมาทำตัวใกล้ชิดฉันด้วยเนี่ย “วันก่อนไม่ใช่คนนี้หนิไอ้ดายน์” มีหนุ่มหล่อที่มาเติมเครื่องดื่มทักเราสองคนขึ้นมา ดายน์ซบหน้าที่บ่าฉัน แต่คนนี้ก็ยังจดจำเขาได้ เพื่อนเขาเยอะมากจริง ๆ เลย! “แล้วไง เปลี่ยนวันละคนยังได้เลย” ดายน์เอ่ยปากตอบ แต่ใบหน้าก็ยังหมอบนิ่งที่ไหล่ฉันเหมือนเดิม “กูยอมใจ ซบเขาอยู่แท้ ๆ ยังจะปากดี เธออย่าไปถือสาหมาในปากมันเลยนะ” เขาว่าจบ ก็ยิ้มให้ฉันหนึ่ง ทีก่อนจะเดินหนีไปทางที่เขาพึ่งเดินมา “ตื่นแล้วก็ถอย” ฉันบอกเมื่อเขาเริ่มขยับตัวยุกยิก เขาจะเกาะติดไหล่ฉันไปถึงไหนกัน ไม่เมื่อยหรอกเขา แต่ฉันไม่เอาแล้ว ไม่ไหว..... “. . . . .” ไร้การตอบรับจากผู้ชายขี้หงุดหงิดคนนี้ “ดายน์ โจว่า... แนะ ๆ มีซบกันด้วย” โจลี่ที่ทำตากรุ้มกริ่มเมื่อเห็นเราสองคนอยู่ในท่าทางแบบนี้ เออดี... ฉันก็นิ่งให้เขาซบ ทั้งที่ก่อนหน้า แทบอยากจะฆ่าเขาเพราะคำพูดของเขา..... “ก็เป็นเพื่อนกัน” ฉันทำหน้านิ่งเข้าสู้ต่อสายตาซุกซนของโจลี่ที่กำลังล่อหลอกฉัน “เพื่อนแบบโจรึเปล่า... ” สองคนนั้นยังคงถกเถียงกัน ท่ามกลางตัวฉันที่นั่งนิ่งให้ดายน์ซบ ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมต้องปล่อยให้เขาใกล้ชิด อาจเพราะคำพูดของโจลี่ก่อนหน้านี้ จึงทำให้ฉันมีความอยากรู้นิสัยใจคอของดายน์ให้ดีมากยิ่งขึ้นละมั้ง “ปล่อยได้แล้ว... ” เมื่อดายน์ไม่มีท่าทีจะเงยหน้ามาคุยกับโจลี่ ฉันก็เลยขยับตัวจนปลายคางของคนง่วงหลุดออกจากไหล่ได้สำเร็จ แขนที่พันรอบเอวก็หลุดออกอย่างง่ายดาย แต่ไม่วายโจลี่ยังยิ้มหวานใส่หน้าไม่หยุด.... “เค้กไปไหนอ่า... ” เสียงไล่ตามหลังมา พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักจากโจลี่ทำเอาฉันอยู่ตรงนั้นไม่ได้จริง ๆ ฉันเดินผ่านผู้หญิงกับผู้ชายที่กำลังยืนคุยกันตรงทางไปห้องน้ำ ฉันไม่ได้มองเป็นพิเศษ เพียงแค่เดินผ่านไปเฉย ๆ เพื่อไปคุยกับตัวเองคนเดียว “เป็นอะไรของเธอ เค้ก... ” ฉันพูดกับเงาที่สะท้อนตัวตนอีกด้านของตัวเอง เงาที่สะท้อนให้เห็นว่าหน้าฉันแดง เงาที่สะท้อนให้รู้ ว่าตอนนี้ฉันไม่เหมือนเดิม เงาที่เริ่มสะท้อนภาพผู้มาใหม่ให้เห็นว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียวในนี้... “ไม่เคยเห็นหน้า พึ่งเคยมาเหรอครับ” ผู้ชายมาดดูดีคนนี้ถามออกมาเสียงนุ่ม ห้องน้ำไม่น่าจะใช้ร่วมกันมั้ง เขาคงมาแบบไม่หวังดีเท่าไหร่ “หยิ่งสะด้วย ผู้หญิงของไอ้ดายน์ทุกคนไม่เห็นเป็น เธอคนแรกนะ ที่กล้าเมินทั้งยังไม่มองหน้าฉันอีก” คราวนี้ฉันมองคนพูด มองแบบที่เขาอยากให้มอง มองจนรู้ว่าเขาดูดีแค่ไหน เขาใช้สายตาลวนลามมองฉันตั้งแต่หัวจดเท้า สักพักก็ยกยิ้มก่อนจะหยุดสายตาตรึงไว้ที่ใบหน้าของฉัน “ฉันชื่อ ทอย เธอคือ..? ” ฉันที่กำลังจะเดินหนี เพราะตอนนี้การกระทำของคนนี้เริ่มอุกอาจขึ้นเรื่อย ๆ เขาขยับตัวมาใกล้ฉัน สายตาที่มองนั้น มันไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ แล้วฉันก็ไม่ชอบที่จะทำความรู้จักกับใครด้วย “ฉันชอบนะ ผู้หญิงที่ได้ยาก ๆ แบบนี้” ฉันชะงักขา ปรายตาไปมองเขาทันที ถึงฉันจะได้ยากหรือง่าย คนที่จะได้ ต้องไม่ใช่ผู้ชายคนนี้แน่ ๆ “ดูถูกผู้หญิงเกินไปไหม ถามฉันบ้าง ว่าอยากได้นายรึเปล่า” “ก็เห็นเล่นตัว ร้อยทั้งร้อย เข้ามาที่นี่ก็อยากได้ผู้ชายในนี้ทั้งนั้น ไม่งั้นจะยอมจ่ายค่าเข้ามาทำไมตั้งพัน หรือเธอรวยจนใช้เงินยังไงก็ได้ เธอเป็นแบบไหนกันล่ะ?” ถ้าฉันต่อยเขา จะเป็นอะไรไหม คำพูดคำจา ผู้ชายดี ๆ คงไม่พ่นคำเหล่านี้ต่อหน้าผู้หญิงที่ไม่รู้จัก “เป็นผู้ชายแล้วมีตรงไหนเหนือกว่าผู้หญิงเหรอ แค่สมองที่กรองคำพูดออกมา ฟังดูแล้วมันต่ำมาก นายรู้ตัวปะ” “ปากร้ายแบบนี้สิ ถึงใจดี” เขากระตุกยิ้มพลางแค่นหัวเราะ “. . . . .” ฉันกำหมัดแน่น แม้เขาจะไม่ได้รุกหนักถึงขั้นอุกอาจ แต่ถ้าก้าวขามาอีก ฉันสวนหมัดใส่หน้าเขาแน่..... “ไอ้ดายน์ซื้อเธอมาเท่าไหร่” ไม่ไหว..... ฉันนี่แหละ ไม่ไหวจะทนแล้ว... ผัวะ!!! “เห้ย... เธอ” เขาเซถลาไปด้านหลัง เพราะกำปั้นที่เคยอยู่ข้างลำตัวฉันฝังเข้าแก้มเขาเต็ม ๆ “เชี้ยเอ้ย... ไหนว่าไม่สู้คนไงวะ พอแล้ว พอ... เราขอโทษ เราแค่แกล้งเธอ” เขายกมือห้าม ขณะที่ฉันกำลังจะง้างมือใส่ แกล้งงั้นเหรอ? ผัวะ!!! “โอ้ย... ผู้หญิงอะไรหมัดหนักฉิบหาย” “ฝากไปบอกไอ้คนที่ให้มาแกล้งด้วย ต่อไปมันจะโดนแบบที่นายโดน” คิดแล้วไม่มีผิด คนอย่างเขาไว้ใจได้ที่ไหน พาฉันมา หาคนมาแกล้ง ฉันไม่น่าเผลอคิดว่าดายน์จะไม่อะไรกับฉันเลย ฉันมองเขาผิดไปจริง ๆ “เค้กจะไปไหน” ฉันเดินหุนหันหมายจะออกประตู อยากออกจากที่นี่ ไม่อยากอยู่กับคนพวกนี้ ยิ่งคนที่ให้ใครไม่รู้มากลั่นแกล้งกัน เขาคงสนุกมากที่ได้แกล้งฉัน “เค้ก เดี๋ยวสิ... ” เป็นโจลี่ที่ตามมาคว้าข้อมือของฉันไว้ “ฉันจะกลับแล้ว” ฉันบอกพลางบิดข้อมือออกจากการกอบกุม พวกเขาเป็นเพื่อนกัน ฉันเชื่อว่าเขาต้องรู้เห็นเป็นใจกัน แม้ก่อนหน้านั้นฉันจะเขวไปเพราะคำบอกเล่าจากปากโจลี่ก็ตาม ฉันไม่เชื่ออะไรพวกเขาอีกแล้ว..... “เธอเป็นอะไร โกรธอะไรเหรอ เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลย” “. . . . .” ฉันมองหน้าโจลี่ ที่ตอนนี้ขมวดคิ้วงุนงงกับท่าทีของฉัน แฟนของเธอตามออกมาเป็นคนแรก ตามด้วยดายน์ และ ผู้ชายที่พึ่งแกล้งฉัน ฉันจึงจ้องหน้าคนต้นคิด มันต้องเป็นเขา ดายน์นั่นแหละ..... เมื่อโจลี่เห็นว่าสายตาฉันหยุดนิ่ง เธอก็เลยหันมองตามบ้าง “ทอย ทำไมหน้ามึงช้ำ” อ่า... รู้จักกัน แต่ไม่รู้ว่าแกล้งฉันสินะ ทอยไม่ตอบแต่ลูบแก้มตัวเองปรอย ๆ โจลี่มองไปมองมา เหมือนว่าเธอพึ่งคาดคะเนเหตุการณ์ได้ ก็เลยหยุดใบหน้ามาทางที่ฉันยืนอยู่ “มันทำอะไรเค้ก” น้ำเสียงขุ่น ๆ ออกจากปากของโจลี่ “ถามเขาสิ” ฉันเพยิดหน้าไปหาคนที่โดนฉันต่อย ฝากรอยไว้ที่แก้มอย่างจงใจ จะได้เลิกปากหมาใส่คนอื่นสักที “ไอ้ทอย... ” โจลี่เสียงดังลั่น ส่วนเจ้าตัวนั้นสะดุ้งเหมือนโดนผีเข้า “ก็... เค้าแกล้งเค้กตามที่ไอ้นี่มันท้าอะ” น้ำเสียงที่ใช้ตอบโจลี่ มันมีความหวั่นกลัวแฝงอยู่ แตกต่างจากน้ำเสียงเมื่อครู่ ที่พูดกับฉันจนโดนหมัดไปอย่างสิ้นเชิง “ไอ้ทอย” แฟนของโจลี่ผลักหัวทอยเมื่อเธอให้สัญญาณมือ “ก็มันจะเลี้ยงเหล้าอะ เค้าเสี้ยนเค้าก็เลยทำ โจอย่าตีเค้านะ” เขาทำมืออ้อนวอนโจลี่เป็นพัลวัน ทั้งไหว้ทั้งยกมือยอมแพ้ แต่โจลี่ส่ายหน้า ทั้งยังยกนิ้วชี้หน้าพลางก้าวขารีบจ้ำอ้าวไปยังจุดที่ทอยยืนอยู่ “โอ๊ย... อ้าก” คนโดนบิดหูร้องลั่น โจลี่ใช้มืออีกข้างตบกระบาลทอย ส่วนมืออีกด้านก็กำเข้าที่ใบหูหนาของเขา ท่ามกลางสายตาที่เอือมระอาจากแฟนของเธอ ส่วนคนที่ท้าทาย ดันวางสายตามาหยุดนิ่งที่ใบหน้าของฉัน “ฉันเป็นของเล่นของนายเหรอ นึกอยากจะให้ใครมาแกล้งก็ได้ สนุกมากนักเหรอ ให้คนอื่นมาพูดจาดูถูกฉันขนาดนี้น่ะ” “. . . . .” ดายน์ไม่ตอบ ยังคงคีพความนิ่งของใบหน้าเอาไว้ “สิ่งที่นายทำ มันเป็นเรื่องเล่นสำหรับนาย แต่ไม่ใช่ฉัน” “แล้วไง... ” เขาถามออกมาเฉย ๆ ไม่ได้มีน้ำเสียงที่รู้สึกผิดแม้แต่นิด “ฉันก็เป็นคนเหมือนกับนาย คิดบ้างสิว่าถ้านายโดนแบบนี้ นายจะรู้สึกยังไง” “เธอก็ยังอยู่ดีหนิ ไม่ได้โดนแก้ผ้าหรือทำอนาจารอะไร แต่โวยวายอย่างกับโดนปล้ำไปแล้ว รู้ว่ามันแกล้งแล้วหนิ เรื่องมันควรจะจบแค่นี้” ฉันมองหน้าเขา สายตาฉันคือผิดหวังกับคนแบบเขา ฉันกับดายน์คงดีกันไม่ได้จริง ๆ พอเราอยู่ด้วยกัน แทนที่จะรู้จักกันในด้านดี ๆ บ้าง แต่มันไม่ใช่ เขามีแต่จะเผยด้านร้ายใส่อยู่ทุกวัน “นายเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในชีวิตของฉันตอนนี้เลย ...รู้ไว้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD