2

979 Words
DYNE ♡ CAKE หลังจากที่ฉันตกลงกับดายน์เรียบร้อย ฉันก็ออกมาเดินเล่นตามประสา สายตาไปเห็นผู้เป็นบิดากำลังจูงรถเข็นเด็กอยู่ มีเลขาสาวเดินเคียงข้างไม่ห่างกาย มันจะไม่แปลกอะไร ถ้าการยิ้มรับและพูดคุยไม่สนิทสนมจนเกินกว่าเจ้านายและลูกน้อง ฉันเดินตามไปทุกฝีก้าว มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยจริง ๆ พ่อมักจะบอกว่ามีงานที่ต้องไปติดต่อที่ต่างประเทศบ่อยครั้ง แต่ละครั้งก็ไปหลายวัน สามวัน ห้าวัน อาทิตย์หรือสองอาทิตย์แล้วแต่ที่ ฉันไม่รู้ว่าพ่อกับแม่มีอะไรปิดบังฉันไหม ฉันรู้แค่ว่า ฉันทานข้าวที่บ้านทุกวัน แต่นั่งทานคนเดียวมาหลายปีแล้ว “เป็นอะไรเค้ก” การ์ตูนเดินมานั่งข้างฉัน กอดไหล่กันอย่างสนิทสนม เราทุกคนสนิทกัน แต่ฉันดันคิดเกินเลยกับชมพูคนเดียว ฉันกลับมาจากตลาดนัดที่เราไปซื้อของ ตกค่ำ ตูนก็มาหาฉันที่บ้าน เรานั่งกันสองคนที่สวนหย่อมข้างบ้านฉัน “เปล่าอะ มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” “เรื่องรูปถ่ายที่แม่แกจ้างคนมาตามถูกมะ” แม่ของฉันจ้างคนมาติดตามเราสองคน อย่างที่รู้ แม่ของดายน์ก็อยากดัดสันดานลูกชาย แต่ก็ไม่รู้ว่าถูกใจอะไรในตัวฉันนัก ถึงได้เออ-ออตามแม่ของฉันไปซะทุกเรื่อง “แฟนดายน์ไม่ฟังอะไรเลย มาด่าฉันอีก พอฉันเอาคืนบ้างก็เป็นแบบที่แกเห็น” มีครั้งนั้น ที่เจนมาหาเรื่องฉัน ซึ่งเราต้องนัดเจอกันตามปกติ แต่ดายน์ดันพาเธอมา โดยไม่ฟังจุดประสงค์ของการนัดเจอกันของเรา คนที่ถูกจ้างวานรอแชะภาพความใกล้ชิดของเราสองคน แต่เจนก็ทำมันพัง แล้วดายน์ก็เอาแต่โทษฉันอยู่ฝ่ายเดียว หลังจากวันนั้น ดายน์ก็ไม่เคยจะพูดดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เรายังพูดกันได้ แต่ตอนนี้หน้าเรายังแทบไม่มองกันด้วยซ้ำ “แม่ไอ้ดายน์รักแกมาก ไม่รู้ว่าทำไม” เพราะครอบครัวการ์ตูน สนิทกับครอบครัวดายน์มากกว่า การ์ตูนเลยมักจะมีเรื่องแบบนี้มาเล่าสู่ฟังเสมอ แม่ดายน์แสดงออกชัดเจน ว่ารักและเอ็นดูฉันมาก ๆ ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน... “แล้วนี่จะเดินทางเมื่อไหร่” ฉันยิ้มรับ ก่อนจะถามไถ่เรื่องการเดินทางไปเรียนต่อของเพื่อน หลังจากจบทริปบ้านสวนของตี๋ เราก็ต่างต้องแยกย้ายกันไปคนละที่ตามสถาบันที่สอบติด ซึ่งฉันคงต้องติดแหงกกับดายน์เพราะผู้ใหญ่บังคับ... “กลับมาก็คงไปเลย ไอ้ตี๋ยังไม่คุยกับฉันเลย” ตี๋โกรธตูนมาก ที่บอกว่าจะเรียนต่อด้วยกัน แต่ดันแอบยื่นเรียนต่อที่อื่น จนป่านนี้ ตี๋ก็ยังเมินใส่ตูนไม่หาย กลางดึก... ฉันได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากห้องนั่งเล่น มันดังมากจนฉันต้องเปิดประตูออกมาดูทั้งที่ตายังตื่นไม่เต็มที่ พ่อกับแม่ทะเลาะกัน! “บอกแล้วไง ว่าให้ลูกย้ายออกไปก่อน จะทำอะไรค่อยทำ” แม่ขึ้นเสียงใส่พ่อ แต่พ่อก็จับกระเป๋าเดินทางไว้แน่น “นัดวันหย่ามาเลยดีกว่า แล้วเลิกส่งคนไประรานเมียผมสักที” พ่อบอกแม่ด้วยน้ำเสียงเย็นเรียบ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! “คุณกล้าเรียกมันต่อหน้าฉันว่าเมียเหรอ ฉันใจเย็นมามากแล้ว คุณยังกล้าเรียกมันว่าเมียเหรอ ห๊ะ... ” เสียงฝ่ามือกระทบเข้าที่ใบหน้าของพ่อ แม่ร้องไห้มองพ่ออยู่อย่างนั้น ถึงฉันจะยังเคืองที่แม่บีบบังคับชีวิตฉัน แต่มาเห็นแบบนี้ ฉันก็อดที่จะสงสารแม่ไม่ได้ “จะไปไหน” พี่ชายของฉันเดินมาดักที่ทางลงบันได “พี่ทีน แต่แม่” ฉันพยายามที่จะดื้อลงไป แต่พี่ทีนกอดฉันไว้แล้วพาเข้าห้องอย่างเงียบ ๆ พี่ทีนคือพี่ชายต่างพ่อ แต่มีแม่คนเดียวกัน สังคมรับรู้ว่าแม่มีฉันเพียงคนเดียว เพราะพี่ทีนเก็บเงียบเรื่องสถานะตัวเองไม่ให้ใครทราบ ใครถามแม่ก็บอกว่าพี่ทีนคือหลาน แต่พี่ทีนคือพี่ชายแท้ ๆ ของฉัน “เค้กรับได้เหรอ ถ้าจะลงไปฟังเรื่องของท่าน” เขาเอ่ยถามฉันนิ่ง ๆ พี่ทีนโตกว่าฉันสิบปี เพราะแม่มีพี่ทีนตั้งแต่ยังเป็นวัยที่ยังไม่เหมาะจะตั้งครรภ์ด้วยซ้ำ “ไม่... เค้กรับไม่ได้” ฉันส่ายหน้าเป็นพัลวัน ใครจะรับได้ ใครจะไปคาดคิดว่าอายุขนาดนี้ ต้องมาเจอพ่อแม่ทะเลาะและหย่าร้างกัน โตแค่ไหนก็ไม่ใช่ว่าจะรับได้ทุกเรื่องนะ... “ที่ท่านอยากให้เค้กไปอยู่ข้างนอก เพราะกลัวเค้กรับไม่ได้ แต่พี่ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรใส่หูคุณอา ท่านถึงมาลงที่แม่” พี่ชายฉันอธิบาย ปกติแม่ก็ไม่ได้มีนิสัยขี้โวยวาย แม่ฉันค่อนข้างจะนิ่งสงบ พูดบ้างแต่ก็ไม่มาก ฉันกับแม่ ก็ได้ต่างกันมากนักหรอก พี่ทีนนั่งปลอบฉัน จนฉันหลับไปคาตักของเขา รุ่งเช้า..... ก็เป็นเหมือนเดิม โต๊ะอาหารตอนเช้าครบหน้าครบตา แต่พ่อกับแม่กลับไม่พูดกัน พี่ทีนสะกิดฉันให้ทำตัวตามปกติ แน่ล่ะ..... ไม่มีใครอดคิดไม่ได้หรอก พ่อแม่จะหย่ากันเลยนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD