เจ้าของคนใหม่

1933 Words
รีสอร์ต แสนรัก “คุณน้ำคะ เดี๋ยววันนี้ช่วงบ่ายคนที่จะมาเป็นเจ้าของรีสอร์ตจะมาเข้ามา รบกวนคุณน้ำแนะนำและพาชมรีสอร์ตด้วยนะคะ ” “ได้ค่ะคุณแก้วตา” น้ำ หรือ พัชชาภา วิไลลักษณ์ หญิงสาวอายุยี่สิบเก้าปี เธอทำงานเป็นผู้จัดการของรีสอร์ต แห่งนี้มาสามปีกว่าแล้ว เนื่องด้วยเจ้าของคนเดิมคือแก้วตา ที่พึงจะแต่งงานกับนักธุรกิจชาวต่างชาติ เธอจึงต้องย้ายตามสามีไปอยู่ต่างประเทศ จึงได้ตัดสินใจที่จะขายรีสอร์ตแห่งนี้ ให้กับคนที่รู้จักอีกทีหนึ่ง เมื่อถึงเวลา น้ำและแก้วตาจึงออกมารอว่าที่ต้อนรับว่าที่เจ้าของคนใหม่ ไม่นานนักก็มีรถคันหรูเข้ามาจอดเทียบ พัชชาภายืนเกร็งด้วยความประหม่า เตรียมพร้อมเพื่อจะได้ต้อนรับเต็มที่ ต่างกับแก้วตาที่มีท่าทีสบาย ๆ เพียงครู่เดียว ชายหนุ่มรูปร่างสูงโป่รง แต่งกายเรียบ ๆ แต่ดูหรูหราก้าวลงมาจากรถ พัชชาภาลอบมองชายคนนั้นผู้ที่จะมาเป็นเจ้านายคนใหม่ แต่แล้วก็ต้องเสมือนตกอยู่ในภวังค์ ดวงตาเบิกกว้าง มือไม้สั่น จนต้องบีบมือตนเองจนแน่นรีบก้มหน้าลงทันที ไม่ใช่ ไม่ใช่เขาใช่ไหม แค่คนหน้าเหมือน คงไม่บังเอิญขนาดนี้หรอกนะ เป็นไปตามคาด เป็นเขาจริง คนที่เธอเคยทำผิดต่อเขาไว้ พัชชาภาพยายามข่มใจไม่ให้นึกถึงอดีตที่ผ่าน ในขณะที่กำลังสับสนอยู่นั้น เสียงเรียกของแก้วตาก็ดังขึ้น “คุณน้ำคะนี้ คุณชาวิน ว่าที่เจ้าของคนใหม่ที่มาดูรีสอร์ตวันนี้ค่ะ” “คะ..ค่ะ” พัชชาภาสะดุ้งเล็กน้อย เธอจำต้องเงยหน้าขึ้น “สะ..สวัสดีค่ะคุณชาวิน ฉันพัชชาภา วิไลลักษณ์ หรือน้ำค่ะ เป็นผู้จัดการในส่วนรีสอร์ตที่พักค่ะ” เธอพยายามคุมไม่ให้น้ำเสียงสั่น “น้ำ…” ชายหนุ่มถอดแว่นตาดำแบรนด์หรูออกเผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อคมได้ชัดเจน และเป็นใบหน้าที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ชาวินเอ่ยเรียกชื่อหญิงเธออย่างคุ้นเคย เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง จึงมองพัชชาภา อย่างตั้งใจจนทำให้อีกฝ่ายร้อนรนขึ้นมา เป็นเธอจริง ๆ หลายปีมานี้ฉันพยายามจะลืมเธอแล้วนะ “รู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าคะ” แก้วตาเอ่ยขึ้นเมื่อแล้วทั้งสองจ้องกันไปมา “เอ่อไม่ ไม่ค่ะ” พัชชาภาเอ่ยขึ้นมาทันที “ครับ..ผมคงจำคนผิด” ชาวินก็ปฏิเสธออกไปเช่นกัน เขามั่นใจว่าต้องเป็นเธอแน่ ๆ คนที่เขาเคยรักเมื่อสี่ปีที่แล้ว และเธอก็ทำเขาไว้ได้เจ็บแสบ จนเขาไม่มีวันลืมเธอได้ “คุณน้ำเป็นผู้จัดการของรีสอร์ตนี้นะคะ เธอเก่งมาก ๆ เลย จัดการดูแลแก้ปัญหาต่าง ๆ ในรีสอร์ตนี้ได้ทุกอย่าง เดี๋ยวแก้วจะให้คุณน้ำพาคุณชาวิน ดูรีสอร์ตให้ทั่วเลยนะคะ” “ได้ครับ ท่าจะเก่งจริงถึงแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง” ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงเน้นแน่น มองที่พัชชาภาอย่างจงใจ พัชชาภายังคงยืนนิ่ง เธอประหม่าจนทำตัวไม่ถูก “เอ่อ…คุณน้ำเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” แก้วตาเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีแปลก ๆ ของพัชชาภา “ปะ เปล่า ๆ ค่ะ เดี๋ยวน้ำพาคุณชาวินไปดูรอบ ๆ รีสอร์ตก่อนนะคะ” “ฝากด้วยนะ” แก้วตาเอ่ยบอกเธอก่อนจะขอตัวออกไป “เชิญด้านนี้ค่ะคุณชาวิน” เธอผายมือเชิญแล้วก้าวเดินเพื่อนำทางชายหนุ่ม และค่อยแนะนำถึงส่วนงานต่าง ๆ “พริมา…” จู่ ๆ ชาวินก็เอ่ยขึ้น “คะ…เอ่อ…ฉันชื่อพัชชาภาค่ะ” เธอเกือบจะหลุดขานรับแล้ว แต่ก็ยังแก้ตัวได้ทัน “อ๋อ พัชชาภาสินะ พอดีคุณเหมือนคนที่ผมเคยรู้จักนะครับ เธอชื่อพริมา วงษ์วิไล ชื่อเล่นชื่อน้ำเหมือนคุณเลย รูปร่างหน้าตาก็เหมือนกันจนผมเผลอจำผิด” คงเปลี่ยนชื่อมาใหม่สินะ ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้ ฉันมั่นใจว่าต้องเป็นเธอพริมา ฉันจำเธอได้ไม่มีวันลืม… แววตาเฉยชาของเขา มองเธอด้วยความรู้สึกมากมายโดยเฉพาะความแค้นที่อัดแน่นอยู่ในอก “อ๋อค่ะ ต่อไปจะเป็นส่วนของไร่นะคะ แต่มันไกลมากคุณชาวินนั่งรถไปคันนี้ไปนะคะ เดี๋ยวจะมีผู้จัดการฝ่ายไร่แนะนำอีกทีค่ะ” พัชชาภาชี้ไปที่รถกอล์ฟ ที่ใช้สำหรับวิ่งในรีสอร์ตและไร่ซึ่งมีคนขับนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธออยากจากปลีกตัวออกมาให้เร็วที่สุด ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับเขาอีก เพราะเรื่องที่เธอทำกับเขา เขาคงเกลียดเธอมาก “แล้วคุณล่ะ” ชาวินถามกลับเมื่อเห็นหญิงสาวเหมือนจะให้เขาไปคนเดียว “เดี๋ยวน้ำไปอีกคันค่ะ คุณชาวินจะได้นั่งสบาย ๆ ไม่ต้องเบียดกัน” “ไปด้วยกันสิครับ คุณจะทิ้งผมไว้กลางทางเหมือนที่เคยทำอีกเหรอครับ” คำพูดและแววตาของชาวินจ้องมองเธอเขม็ง “อะไรนะคะ” เธอแทบจะไม่เชื่อที่หูตัวเองได้ยิน จึงได้ถามเขากลับ “ขอโทษที่ครับ ผมชอบคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงคนนั้นตลอดเลย คุณเล่นเหมือนอย่างกับเป็นคนเดียวกันเลย” ชาวินยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก “คุณ…..” พัชชาภาพูดไม่ออก เธอรู้แก่ใจว่าชาวินจำเธอได้อยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะเธอก็ผิดต่อเขาจริง ๆ แต่เธอก็เลือกที่จะเงียบไว้ เพราะไม่อยากมีปัญหา สถานะของเธอตอนนี้ต้องกอดงานนี้ไว้ให้แน่นที่สุดเพราะยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่เธอต้องเลี้ยงดูอีก “ว่าไงครับคุณน้ำ” “เชิญขึ้นรถค่ะ เดี๋ยวน้ำขับให้เอง” เธอเอ๋ยบอกเขาแล้วหันไปบอกคนงานที่อยู่บนรถ และตัวเธอเองก็ขึ้นไปขับแทน โดยมีชาวินก็ขึ้นมานั่งข้าง ๆ เธอ ระยะทางไกลพอสมควร ขนาดขับรถมาก็ใช้เวลาเกือบห้านาทีได้ ตลอดสองข้างทาง บรรกาศที่นี้ถือว่าดีมาก ๆ ลอมล้อมไปด้วยภูเขาสูงต่ำสลับกันไป ชาวินเหม่อมองวิวข้างทาง แล้วหันมามองทางพัชชาภา ห้วนให้นึกถึงเรื่องเมื่อสี่ปีที่แล้ว สี่ปีก่อน ชาวินและน้ำ หรือพริมา วงษ์วิไล เขาทั้งสองคนเป็นคนรักกันที่คบหากันตั้งแต่อยู่มหาลัยปีหนึ่ง ทั้งสองรักกันอย่างลึกซึ้ง แต่ทางบ้านของชาวิน ซึ่งแม่ของชายหนุ่ม หรือคุณหญิงนิภา นั้นได้หมั่นหมายเขากับลูกสาวเพื่อนสนิทที่อยู่ในกลุ่มคุณหญิงคุณนายด้วยกัน โดยบ้านของชาวินนั้นจัดว่ารวยมาก ๆ ครวบครัวของเขาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่ชาวินก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับพริมาเลย เขาจึงมั่นใจว่า หญิงสาวนั้นรักเขาด้วยใจจริง มิใช่ฐานะทางครอบครัว ชาวินจึงผิดใจกับคุณหญิงนิภาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อแม่ของเขานัดหญิงสาวที่หมั่นหมายไว้ให้เจอกัน แต่ชาวินก็มักจะปฏิเสธตลอด และเลือกที่จะทำตามใจตนเอง และพริมาคือผู้หญิงที่เขาเลือกโดยไม่ฟังคำคัดค้านจากแม่ของเขา ทำให้คุณหญิงนิภา พาลโกรธและเกลียดพริมาไปโดยปริยาย คุณหญิงนิภาจึงได้จ้างนักสืบค่อยตามดูลูกชายตน ว่าคบหากับผู้หญิงที่ไหนอยู่ พริมาเธอมีใบหน้าที่น่ารักเป็นที่ต้องตาเมื่อพบเจอ ตอนที่ชาวินเจอเธอครั้งแรกเขาก็ตกหลุมรักเธอทันที และเธอเองก็ตกหลุงรักชาวินเช่นกัน ทั้งสองก็ได้คบกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา….. ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงออฟฟิศส่วนงานไร่ พัชชาภาจอดรถกอล์ฟหน้าออฟฟิศ โดยมี ปกรณ์ ผู้จัดการฝ่ายไร่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว “คุณชาวินค่ะ นี้คุณปกรณ์ เป็นผู้จัดการฝ่ายไร่ค่ะ” “สวัสดีครับ” ปกรณ์เอ่ยสวัสดีทักทายตามมารยาท “พี่กรนี้คุณชาวินนะคะ ว่าที่เจ้าของคนใหม่ของรีสอร์ทต่อจากคุณแก้วตา” “สวัสดีครับคุณปกรณ์” เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จเรียบร้อยเเล้ว ปกรณ์จึงได้พาชาวินดูรอบ ๆ ไร่แห่งนี้ พัชชาภาจึงทำได้แค่เดินตามทั้งสองและคอยลอบมองชาวินอยู่ห่าง ๆ เขายังดูเหมือนเดิมเลย แต่คงเกลียดฉันมากแน่ ๆ เธอถอนลมหายใจออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว ชาวินกับปกรณ์ที่อยู่ด้านหน้าจึงหันมามอง “น้ำเป็นอะไร” ปกรณ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย ทำให้ชาวินถึงกลับมองปกรณ์และพัชชาภา และสงสัยกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง แต่ก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าเขาจะสนใจไปทำไมกัน เขาเกลียดผู้หญิงหิวเงินคนนี้จนเข้าไส้ “เปล่าค่ะพี่กร พอดีน้ำได้กลิ่นอะไรแปลกเลยหายใจแรง ขอโทษด้วยนะคะ” เธอรีบหาข้ออ้าง “นี้ก็บ่ายสามกว่าแล้ว ไม่ไปรับลูกเหรอ” ปกรณ์เอ่ยบอกหญิงสาว ทำให้ชาวินที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ รู้สึกเจ็บจี๊ดข้างในลึก ๆ ลูกเหรอ คำพูดนี้ผุดขึ้นในใจของชาวิน “อ๋อใช่ น้ำลืมไปเลยพี่” เพราะมัวแต่ต้อนรับและพาเจ้านายคนใหม่ชมรีสอร์ตอยู่ ทำให้เธอลืมไปเสียสนิทว่านี้ได้เวลาเลิกเรียนของเจ้าเด็กแสบ น้องดนตรีเด็กชายวัยสามขวบกว่า ๆ “น้ำขอตัวก่อนนะคะ” พัชชาภากล่าวก่อนจะปลีกตัวออกมาเพื่อไปรับลูกชาย ที่ศูนย์้ด็กเล็กใกล้ ๆ รีสอร์ต “เชิญครับ” ชาวินกล่าวเสียงเรียบ “เดี๋ยวผมจะพาคุณชาวิน ไปดูส่วนต่าง ๆ ของไร่ต่อนะครับ” “แล้วคุณปกรณ์ไม่ไปรับลูกด้วยเหรอครับ” ชาวินเอ่ยหยั่งเชิงดู เขาอยากรู้ว่าผู้จัดการฝ่ายไร่คนนี้เป็นอะไรกับเธอกันแน่ “อ๋อ…ไม่หรอกครับ” ปกรณ์ยิ้มรับท่าเขิน “ผมก็อยากจะไปด้วยน่ะ แต่ติดที่ไม่ใช่พ่อของเจ้าดนตรี” “อ๋อ ผมคิดว่าคุณปกรณ์กับคุณน้ำจะเป็นคู่รักกันซะอีก” ชาวินลอบสังเกตท่าทีของปกรณ์ “ไม่ใช่หรอกครับถึงผมจะอยากเป็นมากแค่ไหน น้ำเขาไม่เคยเปิดใจเลย” น้ำเสียงปกรณ์บ่งบอกถึงความผิดหวัง “ครับ เขาว่ากันว่าผู้หญิงที่ไม่เปิดใจ มักจะมีอดีต” “ผมก็ไม่เคยรู้อดีตของเธอเลยครับ น้ำพึงจะมาทำงานที่นี้ได้สามปีกว่า ตอนนั้นเจ้าดนตรียังแบเบาะอยู่เลย ส่วนพ่อของดนตรีผมก็ไม่เคยเห็นเลยครับ” คงจะเป็นชู้ของเธอตอนนั้นสินะ ส่วนเด็กคนนั้นก็คงจะเป็นลูกชู้ ชาวินกัดฟันจนสันกรามขึ้นเป็นแนว เขานึกถึงเหตุการณ์วันนั้นเมื่อสี่กว่าปีก่อน เหตุการณ์ที่ทำให้ชายกหนุ่มเจ็บช้ำ เสียใจจนแทบจะบ้าตาย…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD