บทที่ 5
พาทิศขับรถออกมาเลยคอนโดได้ไม่ไกล เขาจอดรถเข้าริมฟุตบาท ลดกระจกลงมาชายชุดดำ ส่งกระเป๋าให้เขาหนึ่งใบ ต้ารีบรับไว้และรูดซิปเปิดดู
“ครบ” พาทิศเอ่ยและรีบปิดกระจกขับรถออกไปทันที
“คืออะไรพี่ต้า” พริมาถามด้วยความสงสัย
“ก็เงินที่จะเอาไปไถ่ตัวพ่อไง”
“ไหนพี่บอกว่าจะไปกู้กับเจ้านายพี่ไง น้ำงงไปหมดแล้ว”
“ตอนนี้มีคนให้เงินมาฟรี ๆ แล้วไม่ต้องไปกู้”
“ใครเขาจะให้เงินมาฟรี ๆ พี่ต้าไปทำอะไรมา ถ้าพี่ไม่บอกงั้นจอดรถเดี๋ยวนี่เลยน้ำจะไปหาวิน วินเข้าใจน้ำผิดไปกันใหญ่แล้ว”
“ไม่ต้องกลับไปหามันแล้วน้ำ เดี๋ยวไปรับพ่อแล้วเรากลับไปอยู่กาญจนบุรีกัน”
“คืออะไร ทำไม่พี่ต้าต้องห้ามน้ำไม่ให้กลับไปหาวินด้วย เรากำลังจะแต่งงานกันนะ”
“น้ำ….น้ำฟังพี่นะ น้ำแต่งงานกับมันไม่ได้หรอก แล้วเงินพวกนี้ที่พี่ได้มา พวกมันให้พี่มาเอง มันอยากให้น้ำออกไปจากชีวิตพวกมัน”
พริมาได้ฟังก็ยิ่งสับสน
“น้ำไม่เชื่อ วินไม่มีทางทำแบบนี้ เขาให้เงินพี่มาเท่าไหร่ น้ำจะเอาไปคืน” พริมาพูดทั้งน้ำตา
“อย่างโง่เลยน้ำ เงินนี้ต้องเอาไปช่วยพ่อไง”
“ไหนพี่ต้าบอก จะกู้ที่เจ้านายพี่ก่อนไง”
“ไม่มีเจ้านายที่ไหนหรอก ที่พี่ไม่บอกน้ำแต่แรกว่าครอบครัวนี้ใช้เงินไล่ให้น้ำออกไปจากชีวิตไอ้นั่น เพราะพี่กลัวน้ำจะเสียใจแบบนี้ไง”
“ไม่จริง ๆ ฮือ ๆ น้ำไม่เชื่อ” พริมาร้องไห้โฮ อย่างเสียใจและสับสน เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาจนเธอเองก็ยังไม่ได้ตั้งตัว หญิงสาวรีบหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อจะโทรหาชาวิน แต่ต้ากับแย่งมันไปแล้วปิดเครื่องไว้
“น้ำฟังพี่นะ เงินนี้เราต้องรีบไปไถ่ตัวพ่อ ปานนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” พูดจบเขาก็ขับรถออกไปทันที พริมาได้แต่นั่งร้องไห้เงียบ ๆ คนเดียวด้วยความเสียใจ ห่วงพ่อก็ห่วง อีกใจก็ห่วงชาวิน
ไม่นานก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ต้าลงไปพร้อมกับกระเป๋าเงิน ไปไม่ถึงสิบนาทีก็กลับออกมาพร้อมกับพ่อของพวกเขาที่มีสภาพสะบักสะบอม
“พ่อ!!” พริมาร้องเสียงหลง รีบลงจากรถเข้าไปช่วยประคองพ่อ เมื่อขึ้นรถเรียบร้อยแล้วต้ารีบขับรถออกไปทันที
“พ่อ เป็นไงบ้างคะ พี่ต้าพาพ่อไปหาหมอก่อนเถอะนะ” น้ำเสียงปนสะอื้นเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ
“พ่อ พอทนไหวไหมไว้ค่อยไปหาหมอที่กาญจนบุรี” ต้ามองกระจกหลังเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ
“ไหว ๆ รีบไปเถอะ” ชายสูงวัยเอ่ยตอบ
พริมาละสายตาจากพ่อ เหม่อมองออกไปนอกถนน ที่มุ่งออกสู่ต่างจังหวัด
น้ำจะไม่ได้เจอวินอีกแล้วใช่ไหม ใช่สิน้ำจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอวินล่ะ
วินน้ำขอโทษจริง ๆ เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
คิดได้ดังนั้น น้ำตาก็หยดเผาะลงที่หลังมือ
“น้ำ ลืมไอ้หนุ่มนั้นไปซะเถอะ เงินที่เหลืออยู่เราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กัน”
“น้ำคงไม่มีหน้ากลับไปเจอวินแล้วแหละ วินคงเกลียดน้ำไปแล้ว”
“พี่ขอโทษ แต่ถ้าน้ำฝืนอยู่กับครอบครัวนั้นไป น้ำก็อยู่ไม่ได้หรอกเรากับคนพวกนั้นมันคนละชนชั้นกัน พวกนั้นเกลียดคนจนแบบเราจะตาย”
หลังจากพวกพริมา มาอยู่ที่กาญจนบุรีได้ไม่ถึงเดือน พ่อของเธอก็ป่วยหนักจนเสียชีวิตลง พริมาเสียใจเป็นอย่างมาก บวกกับต้าก็ยังคงกลับมาตัวแบบเดิม ไม่ทำงานทำการติดเที่ยวและติดพนันเหมือนเดิม เธอจึงเลิกสนใจพี่ชาย ใช้ชีวิตต่อโดยเปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่หมด จนพริมาได้งานทำที่รีสอร์ตแสนรักของแก้วตา และยังคงทำงานที่นี่มาจนถึงปัจจุบัน…
ปัจจุบัน
“สัปดาห์หน้าเรื่องโอนชื่อรีสอร์ตก็หน้าจะเสร็จเรียบร้อยนะคะคุณชาวิน” แก้วตาและชาวินกำลังง่วนกับการเซ็นเอกสารต่าง ๆ
“ครับ”
“ก็อีกแค่ไม่กี่วัน คุณชาวินก็เริ่มบริหารได้เลยนะคะ แก้วตาให้คุณน้ำจัดการหมดแล้วถ้ามีอะไรก็ถามคุณน้ำได้เลย แก้วตาจะเดินทางพรุ่งนี้แล้วค่ะ”
“ได้ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”
เมื่อเอกสารทุกอย่างเรียบร้อย ชาวินเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพก่อน ระหว่างที่จะเดินมาขึ้นรถ ก็เจอเข้ากับพัชชาภาอีกครั้ง คราวนี้เธอจูงเด็กชายตัวน้อยมาด้วย ชาวินเจ็บจี๊ดอยู่ในอกได้แต่มองเด็กคนนั้น และก็รีบขึ้นรถไป
เด็กคนนี้หน้าไม่เหมือนเธอเลย คงจะเหมือนพ่อ ชู้ของเธอ..
ชาวินกำมือแน่น เคียดแค้นอยู่ในใจ รถยนต์เคลื่อนตัวออกไปแล้วแต่ชาวินยังคงมองสองแม่ลูกคู่นั้นผ่านกระจกมองหลังอยู่จนลับตา
“คุณวินรู้จักเธอหรือครับ” ศุภกฤตเลขาคนสนิทของชาวิน ที่อายุมากกว่าชายหนุ่มไม่กี่ปีเอ่ยถามอย่างสงสัย ที่เห็นเจ้านายตนมองผู้หญิงคนนั้นไม่ว่างตา
“คิดว่าอาจจะรู้จักนะครับ”
“พอคุณวินมาบริหารที่นี่ ก็เรียกดูประวัติตอนเธอสมัครงานไว้ก็ได้นี้ครับ” ศุภกฤคออกออกความเห็น
“จริงสิ ลืมข้อนี้ไปเลย เดี๋ยวผมต้องมาอยู่สักสองสามเดือนนะครับ ให้คนมาดูบ้านในรีสอร์ตนี้ให้ที่นะครับ”
“ได้ครับคุณวิน”
สองวันผ่านไป ชาวินกลับเข้ามาที่รีสอร์ต พร้อมกับข้าวของมากมายเต็มรถหกล้อคันใหญ่ จอดอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ที่แก้วตาเคยพักอยู่ก่อนหน้า
“ตามคุณน้ำให้ทีครับ แล้วคุณกฤตก็เข้าไปที่ออฟฟิศเอารายงานต้นทุนกำไร ย้อนหลังสักสามปีมาให้ผมที่ครับ” ชายหนุ่มหันไปสั่งเลขาคนสนิท ศุภกฤตรับคำแล้วเดินมาออฟฟิศที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก
“คุณน้ำครับ คุณชาวินเรียกพบ ที่บ้านพักด้านหลังครับ” ศุภกฤตเอ่ยบอกกับหญิงสาว ทันทีที่เห็นเธอเดินเข้ามา พัชชาภาเข้างานแปดโมงครึ่งของทุกวันเหมือนพนักงานคนอื่น แต่มีบางวันที่อาจจะมีเรตนิดหน่อยเพราะเจ้าลูกชายตัวแสบ น้องดนตรีงอแงไม่ยอมไปเรียน แต่ก็จะเป็นส่วนน้อยเพราะน้องดนตรีเป็นเด็กน่ารักเลี้ยงง่าย เชื่อฟังผู้ใหญ่แถมยังช่างพูดช่างจาเป็นที่รักแกผู้พบเห็น
“ค่ะ แต่ทำไมคุณชาวินไม่มาที่ออฟฟิศคะ” พัชชาภาสงสัย คิดว่ามันไม่เหมาะสมเพราะบ้านพักนั้น ถือเป็นที่พักส่วนตัวของเขา
“คุณวินหน้าจะให้คุณน้ำช่วยทำงานให้น่ะครับ”
“อ่อ ได้ค่ะงั้นเดี๋ยวน้ำไปเลยนะคะ”
“เชิญครับ”
พัชชาภาใช้วิธีปั่นจักรยานแทนการเดินมา ไม่นานก็ถึงหน้าบ้าน ที่มีกระเป๋าเดินทางและข้าวของเครื่องใช้ว่างอยู่เต็มทางเดิน เธอเห็นชาวินยืนอยู่ก่อนแล้วจึงได้จอดรถแล้วเดินเข้าไปหา
“คุณวินเรียกน้ำมา ให้ช่วยอะไรคะ” เธอเอ่ยถามขนาดที่ตาก็ยังมองไปที่ข้าวของพวนนั้น เกิดความสงสัยในใจ ที่บ้านพักนี้ก็มีของใช้ให้ครบทุกอย่าง ความจริงเขามาแค่เสื้อผ้าอย่างเดียวก็อยู่ได้แล้ว แต่เธอก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน
“ผมอยากให้คุณน้ำช่วยจัดของพวกนี้เข้าบ้านให้ที่ครับ” เขาเอ่ยสั่งเสียงเรียบ
“น้ำเหรอคะ” เธอแปลกใจชี้เข้าหาตัวเอง
“ใช่ครับ”
“แต่แม่บ้านก็มีนะคะ” เธอเอ่ยบอกเขา และสังเกตสีหน้าดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่พอใจ
“คุณทำไม่ได้หรือไงครับ” ชาวินถามกลับ แววตาดุดันจ้องเข้าไปที่ดวงตาของเธอ จนหญิงสาวต้องรีบหลบสายตาคู่นั้น
“ได้ค่ะ เดี๋ยวน้ำจัดการให้ คุณวินไปรอที่ออฟฟิศก่อนก็ได้ค่ะ” เธอรีบตกปากรับคำ
“ผมจะดูคุณจัดของไม่ได้หรือไงครับ เกิดของผมหายขึ้นมาทำไง”
“ค่ะงั้นคุณก็อยู่ที่นี้ เดี๋ยวน้ำรีบจัดการให้” พัชชาภารีบตัดบท ดูก็รู้ว่าชาวินจงใจหาเรื่องเธอชัด ๆ เขาเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ เมื่อก่อนนั้นเขาเป็นคนที่อ่อนโยนกับเธอที่สุด แต่ตอนนี้คงเกลียดเธอมาก ๆ เธอทำได้แต่รีบทำงานที่เขาให้ทำให้เสร็จ ๆ ไปซะจะได้จบ เธอเองก็ไม่อยากมีปัญหา
พัชชาภาค่อย ๆ จัดข้าวของ ของชายหนุ่มโดยมีเขายืนมองอยู่ไม่ห่าง ชาวินมองเธออย่างลืมตัวเธอยังคงจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ได้ดีและถูกใจเขาเหมือนตอนที่อยู่ด้วยกันเลย เมื่อเผลอคิดไปถึงอดีต ชาวินก็โมโหตัวเองขึ้นมา ในขณะที่หญิงสาวกำลังว่างรูปถ่ายของชายหนุ่มก็ต้องสะดุดรูปของชาวิน กับหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูหน้าตาสะสวยและดูฐานะเหมาะสมกับเขา เธอหยุดดูรูปนั้นเพียงครู่หนึ่ง
“นั้นรูปคู่หมั้นของผมเองเธอชื่ออรอิน” ชาวินเห็นว่าเธอมองรูปนั้นอยู่จึงจงใจเอ่ยขึ้นมา เพราะหวังว่าเธอจะเจ็บปวดบ้าง
“ค่ะ..ดูเหมาะสมกันดีนะคะ” (ไม่เหมือนฉันที่ต่างกับคุณยังฟ้ากับเหว) เธอตอบกลับชายหนุ่มไปน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ภายในใจหญิงสาวกับรู้สึกหน่วงจนต้องกัดเม้นริมฝีปากเข้าหากันจนแน่น
ชาวินหายใจแรงรู้สึกโมโห ที่เธอแทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับเขา
“เดี๋ยวต่อไป เธอจะมาอยู่กับผมที่นี่ด้วย” เขาเอ่ยบอกเธอ แล้วลอบสังเกตอาการของคนตรงหน้า
“ค่ะ”
พัชชาภาตอบกลับมาแค่นั้น และก้มหน้าก้มตาเร่งจัดของให้เขาต่อ แต่ตอนนี้ดวงตาของเธอกลับพร่าไปด้วยหยาดน้ำตา จนเผลอทำกรอบรูปของชาวินและคู่หมั้นหล่นจนแตกกระจาย
หญิงสาวตกใจเป็นอย่างมาก รีบเอื้อมมือไปเก็บเศษกระจกที่แตก ไม่ทันระวังทำให้โดนเศษกระจกบาดเข้าที่นิ้วจนเลือดไหล ชาวินเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เห็นเธอโดนเศษกระจกบาดเลือดไหล ก็รีบเดินเข้ามาดูแผลให้เธอ
“ขอโทษค่ะ น้ำไม่ได้ตั้งใจ น้ำ…”
“น้ำ..เจ็บไหม” น้ำเสียงห่วงใยที่ดูคุ้นเคยเอ่ยถามขณะที่ประคองมือของเธอขึ้นมา พัชชาภาเองแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองจึงได้เงยหน้ามองเขา ทั้งสองสบตากันพอดีหยดน้ำตาใส ๆ ก็ไหลผ่านแก้มเนียนของเธอไป
แต่แล้วภาพวันวานเก่า ๆ ตอนนั้นตอนที่เธอทิ้งเขาไปกับชู้ก็ผุดขึ้นมาในหัว สีหน้าแววตาที่เป็นห่วงเธอเมื่อครู่นี้ก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนแววตามที่วาวโรจน์ไปด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะปล่อยมือเธอลง
“แผลแค่นี้ อย่าทำเป็นสำออยเลย รีบไปใส่ยาแล้วมาทำงานต่อ”
หญิงสาวอึ้งกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา แต่ก็ได้แต่ทำใจเพราะเธอไม่มีสิทธิ์ไปเรียกร้องอะไรจากเขาอยู่แล้ว เธอเป็นคนผิดมันสมควรและที่เขาจะเกลียดเธอ..
พัชชาภารีบไปทำแผล แปะพลาเตอร์ไปส่ง ๆ แล้วรีบมาจัดของให้ชาวินต่อ โดยไม่หยุดพักแม้จะถึงเวลาเที่ยงแล้ว
“ทำไมเธอไม่ไปพักทานข้าวก่อน” เสียงทุ้มเอ่ยถามมาจากทางหลัง
“ไม่เป็นไรค่ะ อีกนิดก็ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำรีบทำให้เสร็จทีเดียวเลยดีกว่า” เธอตอบกลับเขาโดยที่ยังคงทำงานขะมักเขม้นอยู่ ชายหนุ่มซึ่งมองร่างบางของเธออยู่ด้านหลัง สังเกตได้ว่าเธอผอมบางลงแต่ก่อนเยอะมาก ไม่รู้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ของเธอจะลำบากแค่ไหนกัน แต่พอรู้ตัวว่านึกเป็นห่วงเธอชาวินก็โมโหตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้เดินหนีออกที่ออฟฟิศ
“คุณกฤต ช่วยหาประวัติของคุณน้ำให้ผมทีนะครับ”
“ได้ครับ แต่คุณวินไม่ทานข้าวก่อนหรือครับ นี้ก็เที่ยวแล้ว”
“ผมยังไม่หิว เดี๋ยวเอาประวัติมาให้ผมก่อนนะครับ แล้วคุณกฤษช่วยเอาอาหารกลางวันไปให้คุณน้ำที่บ้านพักผมด้วยครับ” ศุภกฤษรับคำก่อนจะเดินออกไป
ไม่นานเลขาคนสนิท ก็กลับมาพร้อมกับเอกสารที่ชายหนุ่มต้องการ
“ประวัติของคุณน้ำครับ”
“ขอบคุณครับ” ชาวินรับมันไว้ พอศุภกฤตออกไปเขาจึงเปิดเอกสารนั้นดู……