บทที่12

1005 Words
“ครับๆ ผมจะจีบจัดการให้โดยด่วนเลยครับ” แววตาสีอำพันสั่นระริกกับขู่ พนักงานปลายแถวอย่างเขารู้ว่าแมตต์มีอิทธิพลมากแค่ไหน และถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูผู้บริหารโรงแรมล่ะก็ มีโอกาสสูงมากที่ตัวเขาอาจจะถูกไล่ออกจากงาน ชายหนุ่มผู้มีอำนาจอยู่ในมือพยักหน้ารับกับคำมั่นที่ได้ยินก่อนจะเดินออกจากห้องโดยมีเลขาคนสนิทตามออกไปติดๆ แอนโทนี่นึกขำกับความโง่เขลาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงแรมแห่งนี้ เจ้านายของเขาแต่งตัวดูดีภูมิฐานออกขนาดนี้ ทำไมถึงปักใจเชื่อว่าเป็นโรคจิตได้ เขาเก็บความสงสัยเอาไว้จนกระทั่งพาเจ้านายหนุ่มขึ้นรถยนต์ส่วนตัวที่จอดรอรับอยู่อีกฟากถนน เลขาหนุ่มสังเกตว่าแอร์เย็นฉ่ำภายในไม่ทำให้อุณหภูมิความร้อนในร่างกายของเจ้านายลดลงแม้แต่น้อย แมตต์ดูหงุดหงิดเหมือนมีอะไรบางอย่างรบกวนจิตใจ “ทำไมคุณถึงโดนกล่าวหาว่าเป็นโรคจิตล่ะครับ” แอนโทนี่ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากไปกว่าถูกสั่งให้รีบมาพร้อมกับเอกสารยืนยันตัว “ก็แม่สาวแสบคนนั้นน่ะสิ แบล็คเมลกันซึ่งๆ หน้า” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด คนชอบควบคุมอย่างเขาเกลียดการโดนหักหน้ามากที่สุด เพียงแค่นึกถึงสีหน้าของคนรอบข้างยามโดนมองว่าเป็นโรคจิตเส้นเลือดในสมองมันเต้นตุบๆ คล้ายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ “ท่าทางจะร้ายพอตัวนะครับ เล่นเจ้านายซะหมดท่าเลย” คนโดนค่อนขอดหันมามองตาเขียว เขาแค่ประมาณไปเท่านั้นแหละ ไม่คิดว่าหญิงสาวตัวเล็กหน้าตาบ๊องแบ๊วจะมีพิษสงร้ายขนาดนี้ แต่คนอย่างแมตต์ไม่ยอมให้ถูกกระทำฝ่ายเดียวหรอก เขาจะเอาคืนอย่างหนักหน่วงแบบที่หญิงสาวไม่เคยคาดคิดมาก่อน จะเป็นอย่างไรเมื่อเจ้าสาวไม่ปรากฏตัวในวันแต่งงาน สิ่งที่ร้ายกว่าความคิดคือรอยยิ้มหยันที่มุมปาก เขาจะทำให้หล่อนจดจำไปชั่วชีวิตกับความอับอายที่หยิบยื่นให้ “แกคอยดูต่อไปเถอะ แล้วจะรู้ว่าจริงๆ แล้วใครกันแน่…ที่หมดท่า” “ผมขอให้ไม่ใช่คุณนะครับ” เลขาหนุ่มพูดในฐานะลูกน้อง แต่ในใจเขาขอชูป้ายไฟเชียร์ฝ่ายหญิงสาวที่กล้ากระตุกหนวดสิงห์ เขาคิดว่าเจ้านายหนุ่มเจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อเข้าให้แล้ว “มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แกคอยดูต่อไปเถอะแอนโทนี่” คนพูดหัวเราะหึในลำคอ มาดมั่นมากว่าตนจะต้องชนะในเกมนี้ เกมที่มีแต่เขาเท่านั้นที่เป็นผู้ควบคุม ทุกอย่างอยู่ในหัวหมดแล้วแผนการร้ายเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด…. สิรินทร์ไม่คิดว่าเธอจะมีสิ่งที่ต้องทำแน่นเอี๊ยดแบบนี้ ส่วนที่เสริมจากงานประจำวันที่ต้องทำคือเข้าคอร์สเจ้าสาว เล่นโยคะและตบท้ายด้วยสปาในตอนค่ำ แพลนต่างๆ ถูกส่งผ่านทางสายโทรศัพท์ในตอนบ่ายโดยเลขาของไบรอั้น ดังนั้นเธอจึงต้องเคลียร์งานที่เหลือให้เสร็จก่อนเลิกงาน หญิงสาวใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการสรุปเคสต่างๆ ที่โทรเข้ามาปรึกษาด้านการเงินซึ่งก็พอดีกับเวลาเลิกงานเป๊ะ เมื่องานเรียบร้อยไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เธอจึงกดส่งไฟล์เข้าอีเมลหัวหน้าจากนั้นก็ล่ำลาเพื่อนร่วมงานขอตัวกลับเพราะมีธุระต้องไปอีกหลายที่ เนื่องจากเธอรีบออกมาก่อนเวลานัด รถที่ไบรอั้นส่งมารับยังมาไม่ถึงจึงเดินไปนั่งตรงป้ายรถโดยสารที่อยู่ข้างๆ กัน ระหว่างรอเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นโซเชียลดูนู้น ดูนี่ไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่รู้ตัวเลยว่าขณะนั้นมีรถยนต์สีดำสนิทแล่นมาจอดอย่างกะทันหัน ชายฉกรรจ์ชุดดำพรางใบหน้าด้วยหมวกแก็ปวิ่งลงมาจับหญิงสาวไว้โดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว ผ้าคลุมสีดำถูกสวมเข้าทางศีรษะอย่างรวดเร็วพอๆ กับที่ตัวเธอถูกยกลอยขึ้นอย่างไร้การควบคุม เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากจนสมองประมวลผลไม่ทัน สิรินทร์ตื่นตระหนกจนจับต้นชนปลายไม่ได้ทุกอย่างมืดดำไปหมดเนื่องจากศูนย์เสียการมองเห็น สัมผัสได้แค่เธอถูกพาตัวเข้ามาในรถยนต์ที่กำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วสิรินทร์คิดจะแก้ผ้าที่มัดไว้ด้านหลังออกเพื่อเปิดให้ดวงตาเป็นอิสระ แต่ยังไม่ทันที่มือจะได้ยกขึ้นก็โดนรวบไว้ซะก่อน มือใหญ่หนารวมข้อมือหล่อนไว้ทั้งสองข้าง สัญชาตญาณสั่งให้เธอดิ้นเพื่อเอาตัวรอดจึงบิดเร้าข้อมือไปมาพร้อมกับเตะขาออกไปอย่างสะเปะสะปะแม้ในใจจะตื่นกลัวแต่เธออะไรบางอย่างบอกให้เธอสู้ สิรินทร์คิดค้นหาคำตอบเหตุใดจึงโดนจับมา เธอไม่ใช่ลูกเศรษฐีไฮโซที่มีค่ามีราคาจากการเรียกค่าไถ่และก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกับใคร…มาถึงตรงนี้ก็ฉุกคิดได้ในทันทีว่าเมื่อวานเธอเพิ่งมีเรื่องกับแมตต์ แฮร์ริงตัน ต้องเป็นเขาแน่ๆ ที่แค้นใจเลยมาจับตัวกันอย่างอุกอาจขนาดนี้ พอคิดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้เธอก็ดิ้นแรงกว่าเดิมเพราะอยากดูโฉมหน้าคนบงการแผนร้ายในครั้งนี้ แม้หล่อนจะตัวเล็กแต่ก็แรงเยอะใช้ได้ ดิ้นรนสุดแรงเกินจนในที่สุดข้อมือก็หลุดจากการเกาะกุม หญิงสาวไม่คิดจะแกะผ้าคลุมออกในตอนนี้เพราะเดี๋ยวเขาก็จะมารวบข้อมือเอาไว้อีก จึงใช้วิธีเหวี่ยงมือไปมั่วๆ ให้โดนตัวคนข้างๆ เพื่อที่ว่าหากเขารู้สึกเจ็บก็จะละความสนใจจากเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD