จำนนรักจอมวายร้าย

บทที่5

“ตัดโอกาสกันแบบนี้ผมก็ไปต่อไม่ได้สิครับ งั้นสั่งอาหารกันเลยดีกว่าเผื่อทานเสร็จคุณอาจจะเปลี่ยนใจ” ชายหนุ่มตัดบทด้วยการยกมือเรียกบริกรมาสั่งอาหาร

“คุณแพ้อาหารชนิดไหนบ้างรึเปล่า” ผู้ถามกวาดสายตามองเมนูระหว่างรอคำตอบ

“ไม่ค่ะ คุณสั่งได้เลย” เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้แสดงความชื่นชมออกนอกหน้ามากนัก ความใส่ใจของชายหนุ่มทำให้หล่อนปลื้มปริ่มรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

แมตต์สั่งอาหารสามสี่อย่างโดยทำเป็นไม่สนใจสายตาเป็นประกายวาบของฝ่ายตรงข้าม เขารับรู้ทุกอย่างและจงใจทำคะแนนเพื่อให้สาวน้อยรู้สึกดีกับตน การผ่านผู้หญิงมามากทำให้มีประสบการณ์มากพอในการอ่านใจ สาวๆ บางคงไม่ชอบให้รุกในทันทีแต่ชอบความประทับใจ ชายหนุ่มเตรียมแผนการทั้งหมดในคืนนี้ไว้ในใจแล้วเพียงแค่รอเวลาเท่านั้น

ไม่นานนักอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ จานเด็ดที่ชายหนุ่มแนะนำเป็นเนื้อวัวแบบมิเดียมแรร์ทานคู่กับไวน์แดงเข้ากันสุดๆ สิรินทร์เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เธอทั้งทานทั้งดื่มไวน์จนเริ่มมึนบวกกับบทสนทนาที่สนุกสนานของชายหนุ่มยิ่งทำให้เพลิน หลวมตัวดื่มไปเยอะทีเดียว

ด้วยความที่ไม่ค่อยดื่มจึงเกิดอาการมึนเมาง่าย หญิงสาวรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆ มาถ่วงศีรษะไว้ หนังตาก็พลอยหนักอึ้งไปด้วยแถมยังมองเห็นอะไรเคลื่อนที่ไปหมด แต่โชคดีที่ยังพอมีสติรับรู้ความเป็นไปอยู่บ้างท่ามกลางความรู้สึกสนุกแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าชายหนุ่มจะพูดอะไรก็กลายเป็นเรื่องตลกซะหมด

“คุณพักที่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง” เจ้าแผนการถามขณะพาหญิงสาวออกจากร้านอาหาร

“ไม่เป็นไรค่ะๆ คิกๆ ฉะ ฉานกลับเองได้” เจ้าของน้ำเสียงยานคางแต่ร่าเริงอยู่ในทีเดินโซเซอยู่ในอ้อมแขนเขาความเมาทำให้หล่อนเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิงทั้งร่างกายและสมองอ่อนเปลี้ยไปหมดอยากจะนอนซะตรงนี้เลยโดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนมองด้วยสายตาแบบไหนอยู่

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนวาบวับเมื่อจับจ้องที่ใบหน้าแดงระเรื่อของหญิงสาว ร่างกายที่อ่อนยวบในอ้อมแขนเขาดิ้นเร้าไปมาเบาๆ มือน้อยๆ ลูบสะเปสะปะไปตามกล้ามเนื้อบนร่างกายส่งผลให้ชายหนุ่มหายใจไม่ทั่วท้อง เป็นกำลังปลุกปั่นอารมณ์เขาอย่างไม่รู้ตัว

“ใจเย็นสาวน้อย บอกมาว่าที่พักคุณอยู่ไหน แล้วผมจะให้มากกว่าที่คุณต้องการ” เสียงกระซิบแหบพร่าตามมาด้วยกับการจับมือเธอไว้ไม่ให้ซุกซน

หญิงสาวส่งเสียงฮึดฮัดเมื่อโดนขัดใจก่อนจะยอมตอบ “โรงแรมเอ็มซิตี้ค่ะ

คนฟังเหยียดยิ้มอย่างพอใจ ปกติแล้วเขาชอบมีอะไรกับผู้หญิงที่มีสติมากกว่า แต่แบบนี้ก็น่าตื่นเต้นดีถือโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศไปในตัว ชายหนุ่มคิดไว้แล้วหากเธอตื่นขึ้นมาหลังผ่านความเร่าร้อนบนเตียงนอนแล้วโวยวายให้รับผิดชอบล่ะก็ เขามีแผนสำหรับการชิ่งหนีเรียบร้อยแล้ว

เมื่อทุกอย่างเป็นใจ เขาก็หยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์เรียกรถส่วนตัวมารับ คนระดับเขาไปไหนมาไหนต้องมีลูกน้องหรือคนสนิทติดตามไปด้วยครั้งนี้ก็เช่นกัน เขามีคนขับรถมาด้วยแต่สั่งให้ตามรออยู่ห่างๆ เพื่อไม่ให้สาวน้อยที่เขาพาเที่ยวในวันนี้ต้องรู้สึกอึดอัดใจ

“อื้มม หนาวจัง” พิลึกพิลั่นมากที่เธอแสดงอาการตัวสั่นในอากาศที่อุณหภูมิค่อนข้างอุ่น แต่หญิงสาวในชุดแซกซีทรูบางเบากำลังนึกไปถึงการนอนบนพื้นน้ำแข็งเย็นเฉียบไขว่คว้าซุกหาไออุ่นจากมีขาวในจินตนาการของเธอ

แต่ทว่าในความเป็นจริงแมตต์แทบทนไม่ไหวเมื่อสาวน้อยนัยน์ตาเยิ้มมองเหมือนอยากจะกลืนกินเขาซะเดียวนี้ มือน้อยๆ ลูบไล้แผ่นอกแกร่งผ่านเสื้อผ้าที่สวมใส่ช่างปลุกปั่นอารมณ์ได้ดีเหลือเกิน เขาเจอการยั่วมาหลากหลายรูปแบบแต่ไม่มีครั้งไหนทำให้รู้สึกตื่นตัวได้มากเท่าครั้งนี้ หญิงสาวดูเย้ายวนดึดดูดจนไม่สามารถรอได้อีกต่อไป

“งั้นมาทำอะไรแก้หนาวกันดีไหม อย่างเช่นจูบที่เร้าร้อน” ปลายประโยคน้ำเสียงแทบจะกลายเป็นคำกระซิบแหบพร่า มือหนาเลื่อนมาประคองใบหน้าจิ้มลิ้มไว้ส่วนมืออีกข้างก็โอบรัดอยู่ที่เอวคอดเพื่อปรับโครงสรีระให้สมดุลอยู่ในท่าพร้อมจุมพิต

คนเมาในอ้อมกอดรับรู้ถึงสัมผัสหนักๆ บนริมฝีปากอย่างถือสิทธิ์ ท่ามกลางความรู้สึกที่ไม่ชัดเจนเหมือนกึ่งฝันกึ่งตื่น สิรินทร์ปรือตาเมื่อรสสัมผัสหนักหน่วงขึ้น ประสาทความรู้สึกสั่นระริกซ่านเสียวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเหมือนเส้นผมหลุดจากหัวพร้อมๆ กัน ความวูบไหวโหมกระพรือปั่นป่วนไปทั่วร่างเมื่อฝ่ามือหนาเลื่อนมาที่บั้นท้ายกลมมนอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

วินาทีนี้ประจักษ์แล้วว่าเธอกำลังโดนมอมเมาด้วยจูบที่ร้อนแรง หญิงสาวแทบลืมหายใจไปชั่วขณะเมื่อสติรู้ตื่นเต็มที่ ริมฝีปากที่บดขยี้จูบผละจากกันกะทันหันเนื่องจากหญิงสาวเบี่ยงหน้าหนีแล้วรีบเอาตัวออกจากอ้อมกอดร้ายของชายหนุ่ม

ร่างระหงยืนนั่งงันใช้ความคิดอย่างหนักไตร่ตรองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จูบของเขาล้ำเลิศกว่ายาแก้แฮงค์ทุกชนิดเพราะทำเอาเธอสร่างเมาได้ในพริบตา สิรินทร์นึกตำหนิตัวเองที่โดนเขามอมอย่างง่ายแถมปล่อยให้เขากอดเขาจูบตามใจชอบ วูบหนึ่งเธอนึกถึงไบรอั้นคู่หมั่นหนุ่มใหญ่และรู้สึกผิดต่อเขาขึ้นมา

“เอ่อ ขอโทษนะคะฉันขอตัวกลับก่อน” เมื่อได้สติเต็มที่แล้วหญิงสาวก็เอ่ยคำลาอย่างไม่รอช้า