จำนนรักจอมวายร้าย

บทที่6

เธอก้าวไปอยู่ตรงริมฟุตบาทแล้วเรียกรถโดยสารที่ผ่านมาพอดี รีบขึ้นรถโดยที่ไม่หันกลับมามองมิตรใหม่อีกเลยแต่กระนั้นรสสัมผัสจากริมฝีปากยังคงติดอยู่ เธอยกนิ้วขึ้นมาแตะราวกับว่าสัมผัสหนักๆ ยังอยู่ตรงนั้น สิรินทร์สะบัดหัวไปมาไล่ความฟุ้งซ่านในสมอง ในขณะที่ชายหนุ่มยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยลมหายใจที่ไม่ปกติ เพียงแค่จูบเดียวที่ไม่เป็นประสาของหญิงสาวปลุกปั่นความต้องการเร่าร้อนของเขาจนตัวตนแทบมอดไหม้ แมตต์บอกกับตัวเองว่าถ้าไม่ได้จบกับสาวน้อยคนนี้บนเตียงเขาไม่ยอมจากไปง่ายๆ แน่

แต่ใครก็รู้ว่าโชคชะตาชอบเล่นตลกเสมอ แมตต์ แฮร์ริงตันต้องรอเก้อเพราะสาวน้อยที่เขาหวังจะแอ้มเช็คเอ้าท์ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว....

ผ่านมาอาทิตย์กว่าๆ แล้วแต่สิรินทร์ก็ไม่เคยนึกเบื่อยังเปิดรูปความทรงจำในแมนเชสเตอร์อยู่บ่อยครั้ง อย่างวันนนี้เธอมีเวลาอีกตั้งชั่วโมงกว่าจะได้เวลานัดกับคู่หมั่นหนุ่มใหญ่ จึงเปิดภาพดูเพลินๆ ฆ่าเวลา หลังจากจบทริปนั้นแบบกะทันหัน เธอก็นำภาพที่ถ่ายมาโอนย้ายข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์และมีแผนจะนำภาพไปอัดที่ร้านแต่ยังไม่มีโอกาสสักที ได้แต่จ้องมองดูผ่านคอม

“ดูบ่อยขนาดนี้ ต้องมีความทรงจำดีๆ เกิดขึ้นแน่เลยใช่ไหมเนี่ย อย่าบอกนะว่าเกิดไปปิ๊งปั๊งหนุ่มแมนเชสเตอร์น่ะ” เอ็มม่าเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงรื่นเริงขณะที่กำลังยืนเช็ดผมหลังจากใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำมาเกือบชั่วโมง

ได้ยินเพื่อนสนิทกล่าวแบบนั้นก็ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่าเธอเจอกับชายหนุ่มสุดหล่อแถมยังมีจูบที่ดูดดื่มกันอีกด้วย ภาพเหล่านั้นฉายวาบเข้ามาในสมองช็อตต่อช็อตความรู้สึกหวิวไหวไหลมากองรวมกันอยู่ตรงริมฝีปากจนเจ้าตัวต้องยกนิ้วขึ้นมาแตะเบาๆ เพื่อให้รู้ว่ามันเป็นเพียงจินตนาการที่ฟุ้งซ่านไปเอง

“นั่นแน่ ท่าทางมีพิรุธ แสดงว่าต้องมีอะไรแน่ ๆ” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่เล็กลงอย่างจับผิด

คนโดนซักไซ้ออกอาการประหม่าอย่างปิดไม่มิด เอ็มม่าเป็นคนออกไอเดียให้เธอไปทำในสิ่งที่อยากทำก่อนจะไปใช้ชีวิตคู่ เพราะหากแต่งงานไปแล้วอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำ ก่อนที่สิรินทร์จะออกเดินทางเพื่อนสาวตัวแสบยังยุให้เธอนอนกับผู้ชายสักคนเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์อีกด้วยยังพูดอยู่เลยว่าเพ้อเจ้อใครจะไปทำแบบนั้นได้แต่นึกไม่ถึงจริงๆ หากคืนนั้นเธอปล่อยใจให้อยู่ในอ้อมกอดร้ายกาจของชายคนนั้น บางทีอาจจะไปจบบนเตียงนอนอย่างที่เพื่อนเคยแซวไว้

“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละไม่ต้องมาแซวเลย” สิรินทร์ตอบปัดๆ เพราะไม่อยากเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับจูบนั้น มันเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมยังไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่ากล้าทำแบบนั้นกับคนที่เพิ่งรู้จักได้ยังไง ขนาดกับไบรอันมีสถานะเป็นคู่หมั้นแต่ยังไม่เคยจูบกันสักครั้ง

ความสัมพันธ์ทางกายมีเพียงอย่างเดียวที่เคยทำคือจับมือ ไบรอันเป็นสุภาพบุรุษทุกระเบียดนิ้วเขาให้เกียรติเธอเสมอทั้งต่อหน้าและลับหลัง มีหลายครั้งที่เอ็มม่ามีความสงสัยในตัวคู่หมั้นของเธอแม้เพื่อนเธอจะเป็นลูกครึ่งไทยแต่ก็มีเชื้ออังกฤษและถูกเลี้ยงดูมาในวัฒนธรรมแบบอังกฤษเลยมีความคิดต่างจากสิรินทร์ในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการมองผู้ชาย

“น่าผิดหวัง งั้นฉันจะแนะนำอะไรให้นะสาวน้อย...” คนอยากชี้แนะวางผ้าเช็ดผมลงบนเก้าอี้ขยับชุดคลุมเล็กน้อยก่อนจะเดินมาใกล้ๆ ก้มตัวลงจ้องมองสิรินทร์ด้วยแววตามีเลศนัย “คืนนี้...เผด็จศึกเขาซะ” น้ำเสียงเซ็กซี่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกวาบหวิวในอกแปลกๆ

“บ้าเหรอ ใครจะไปกล้าทำอย่างนั้น” อย่างน้อยๆ ก็เธอคนนึงแหละที่จะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด

เอ็มม่าอาจจะไม่ถือสาเรื่องพวกนี้เพราะเธอเป็นสาวอังกฤษหัวสมัยใหม่รักการปาร์ตี้และจบท้ายด้วยการนอนกับผู้ชายสักคนแบบไม่ผูกมัด เพื่อนสนิทหุ่นซะบึ้มสามารถพูดเรื่องเซ็กส์ได้อย่างเปิดเผยแต่กับสิรินทร์มันไม่ใช่แบบนั้น เธอเขินและมักจะทำตัวไม่ถูกเวลาพูดเรื่องบนเตียง

“ไม่เอาน่า วิธีนี้เวิร์คในการทดสอบไบรอัน”เอ็มม่าพยายามหว่านล้อมให้เธอคล้อยตาม แต่ผู้ฟังกลับขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างงุนงง

“ทดสอบอะไร?”

คนถูกถามกลอกตาขึ้นอย่างเอือมระอาในความใสซื่อของสาวเวอร์จิ้นที่ไม่เคยตามเกมทันสักครั้ง “นี่เธอจ๋า ไม่คิดบ้างเหรอว่าที่ไบรอันปล่อยให้เนื้อหวานๆ ลอยไปลอยมาอยู่ตรงหน้าโดยที่ไม่คิดจะทำอะไรเลย มันต้องมีสาเหตุสิ บางทีเขาอาจจะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศก็ได้นะ คิดดูสิถ้าเธอรู้หลังจากแต่งงานไปแล้วชีวิตจะเป็นยังไง เชื่อฉันคืนนี้ทดสอบให้รู้ดำรู้แดงไปเลย”

สิรินทร์ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินคำวิเคราะห์ของเพื่อนสาว ตั้งแต่เธอตัดสินใจหมั้นกับไบรอันจนกระทั่งจะแต่งงานในเร็วๆ นี้ ไม่มีวันไหนที่เอ็มม่าจะงดสงสัยส่วนใหญ่เป็นเรื่องพฤติกรรมของคู่หมั้นหนุ่มใหญ่ แต่เธอกลับเห็นต่างออกไปเพราะเหตุผลทางด้านงาน สังคมและคุณภาพชีวิตของเธอและเขาต่างกันมากพอสมควร เวลาส่วนใหญ่ของไบรอันหมดไปกับงานแต่เขาก็ไม่ลืมที่จะโทรมาราตรีสวัสดิ์ก่อนนอน