1

1656 Words
“น้องรันเสร็จหรือยังจ๊ะ” รามาวดีเคาะประตูเรียกน้องสาวคนเล็ก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ลงไปทานอาหารเช้าด้านล่างสักที “เสร็จแล้วค่ะพี่ริน” น้องรันเปิดประตูออกมายิ้มให้พี่สาวอย่างน่ารักในชุดนักศึกษา รตีเรียนอยู่ปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ทุกวันพี่ชายกับพี่สาวจะสลับกันไปรับส่งเธอที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไปพร้อมกันทั้งสามคน “ไปเถอะค่ะพี่ริน” น้องรันโอบไปรอบเอวบางของพี่สาวอย่างรักใคร่ พากันเดินลงมาทานอาหารเช้าด้านล่างกับพี่ชายที่กำลังนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร “ทำไมวันนี้ถึงลงมาสายล่ะ” ราเมธถามน้องสาวคนเล็ก เมื่อเห็นเธอเดินลงมากับน้องสาวคนรอง วันนี้เขาเห็นน้องสาวคนเล็กยังไม่ลงมา จึงให้น้องสาวคนรองไปตาม เพราะกลัวว่าจะไปเรียนสาย “ตื่นสายค่ะ อิอิ” น้องรันตอบแบบกำปั้นทุบดิน “รีบทานเลยเรา เดี๋ยวก็ไปเรียนไม่ทันหรอก” ราเมธเร่งน้องสาวคนเล็ก “ค่ะ” น้องรันรับคำพี่ชายเบาๆ ยิ้มอย่างน่ารักเช่นเคย พี่ชายของเธอชอบทำหน้าเคร่งไปอย่างนั้นเอง จริงๆ แล้ว พี่ชายและพี่สาวของเธอใจดี รักและตามใจเธอเสมอ ครอบครัวดำรงรักษ์มีพี่น้องสามคน คือราเมธ รามาวดี และรตี ซึ่งเป็นน้องสาวคนเล็กของตระกูล หลังจากที่บิดามารดา คือคุณรัฐศาสตร์และคุณวนิดาเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ขณะที่ราเมธเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ เขาจึงต้องเข้ามาดูแลกิจการที่บิดามารดาทิ้งเอาไว้ให้ โดยมีคุณวีรยุทธ์เพื่อนรักของบิดาและยังเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญคอยช่วยเหลือเรื่อยมา ชายหนุ่มยังต้องคอยดูแลน้องสาวทั้งสองแทนบิดามารดา ซึ่งขณะนั้นรามาวดีน้องสาวคนรองอายุเพียงแค่สิบเจ็ดปีและรตี น้องสาวคนเล็กอายุได้เพียง 14 ปีเท่านั้น คุณวีรยุทธ์และคุณวิชุดาซึ่งเป็นเพื่อนรักของบิดาแถมยังมาสร้างบ้านไว้ใกล้กัน เมื่อเป็นหนุ่มๆ และทำธุรกิจร่วมกัน ขณะนั้นคุณรัฐศาสตร์เป็นหนุ่มไฟแรง ขยันและมีความมุ่งมั่น แต่ฐานะนั้นเทียบกับคุณวีรยุทธ์ไม่ได้เพราะคุณวีรยุทธ์มีฐานะที่ร่ำรวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณวีรยุทธ์ตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกับคุณรัฐศาสตร์เพื่อนรัก เหตุว่าคุณวีรยุทธ์พึงพอใจในความขยันและมุ่งมั่นของเพื่อนรักนั่นเอง คิดว่าหากทำธุรกิจร่วมกันต้องเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน เพื่อนรักทั้งสองคนจึงได้ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ว่า ถ้ามีลูกชายและลูกสาวก็อยากจะให้เป็นทองแผ่นเดียวกัน โดยให้ลูกๆ หมั้นหมายกันเอาไว้แล้วค่อยแต่งงานกันภายหลัง หลังจากทั้งสองมาสร้างบ้านอยู่ใกล้กัน ก็ได้ทำความรู้จักกับคุณฤทัยและสามีซึ่งสองสามีภรรยาเป็นเพื่อนบ้านที่ดีเสมอมา ไม่นานคุณวนิดา คุณวิชุดา และคุณฤทัย ก็ตั้งท้องไล่เลี่ยกัน พร้อมทั้งคลอดลูกชายออกมาทั้งสามคน คือ ราเมธ วายุ และณภัทร เด็กทั้งสามเกิดปีเดียวกันก็จริง จะต่างกันตรงที่คนละเดือนเท่านั้น ณภัทรเป็นลูกชายคนเดียวของคุณฤทัยและสามี เมื่อณภัทรอายุได้ประมาณ 3 ขวบ บิดาก็เสียชีวิต คุณฤทัยจึงเลี้ยงดูบุตรชายมาเพียงลำพัง แต่ด้วยฐานะทางบ้านและทรัพย์สมบัติที่มีอยู่มากมายเพราะเป็นตระกูลผู้ดีเก่าแก่ ทำให้คุณฤทัย สามารถเลี้ยงดูณภัทรได้อย่างไม่ขัดสน หลังจากนั้นอีก 5 ปี คุณวนิดา ภรรยาของคุณรัฐศาสตร์ และคุณวิชุดา ภรรยาของคุณวีรยุทธ์ ได้ตั้งท้องลูกคนที่สอง คุณวนิดาคลอดลูกเป็นผู้หญิงและตั้งชื่อว่า รามาวดี และคุณวิชุดาก็คลอดลูกเป็นผู้หญิงเช่นกัน และตั้งชื่อบุตรสาวว่า วาโย รามาวดีเกิดปีเดียวกับวาโยก็จริง แต่มีอายุแก่กว่าวาโย เพราะคลอดก่อนวาโยสองเดือน ทั้งสองตระกูลจึงทำการหมั้นหมาย ลูกชายและลูกสาวของกันและกันดังนี้ คือ ราเมธ หมั้นกับ วาโย และรามาวดี หมั้นกับ วายุ หลังจากนั้นอีก 4 ปี คุณวนิดาก็ได้ให้กำเนิดบุตรสาวอีกหนึ่งคน และให้ชื่อว่า รตี หรือมีชื่อเล่นว่า ‘น้องรัน’ เป็นลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลดำรงรักษ์ ครอบครัวทั้งสาม มีความสนิทสนมกันมาก ตั้งแต่บิดามารดา และลูกๆ จึงได้ทำประตูบานเล็กเชื่อมระหว่างกันของตัวบ้าน เพื่อเด็กๆ ทั้งสามครอบครัวจะได้ไปมาหาสู่กันได้สะดวก เด็กๆ ทั้งหมดจะชอบมาเล่นที่บ้านของณภัทร เพราะบ้านของณภัทรเป็นบ้านเรือนไทย ร่มรื่น มีต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว อากาศสดชื่นเย็นสบาย อีกทั้งคุณฤทัยมารดาของณภัทรเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีนอกจากจะเอ็นดูเด็กๆ เป็นพิเศษแล้ว ก็ยังทำขนมไทยให้เด็กๆ ทานเป็นประจำ วันนี้ราเมธรู้สึกขัดใจ เพราะรถค่อนข้างติด เนื่องจากออกจากบ้านสายกว่าปกติ ราเมธไปทำงานพร้อมกับน้องสาวคนรองทุกวัน และไปส่งน้องสาวคนเล็กที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ แต่ถ้าเกิดว่าวันไหนมีงานด่วนเขาก็จะให้รามาวดีน้องสาวคนรองไปส่งรตีน้องสาวคนเล็กโดยใช้รถกันคนละคัน แต่ถ้ายุ่งกันทั้งสองคน ก็จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรัก ก็คือ ณภัทรนั่นเอง “วา...เมื่อไหร่ลูกจะไปช่วยพ่อดูแลงานที่บริษัทสักทีล่ะ” คุณวีรยุทธ์คุยกับบุตรชายเพียงคนเดียว หลังจากส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอกพร้อมกับลูกสาวคนเล็กคือวาโย วายุเรียนจบ แต่ไม่ยอมกลับบ้านสักที จนต้องเรียกตัวกลับมา ซึ่งวายุก็กลับมาเมืองไทยได้ 2 ปีแล้ว แต่ลูกชายยังเที่ยวเตร่ไม่เลิก ไม่ทำงานทำการอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง จนทำให้เขาหนักใจ “โธ่...พ่อครับ ขอพักผ่อนอีกนิดนะครับ ผมพร้อมเมื่อไหร่จะเข้าไปทำงานเอง” “แล้วเมื่อไหร่ลูกถึงจะพร้อม เห็นราเมธเพื่อนเราไหม ทำงานขยันขันแข็งต่างกับเราลิบลับ ธุรกิจครอบครัวเราก็มากมาย เราต้องขยันเหมือนราเมธรู้ไหม ไม่อย่างนั้น ถ้าพ่อไม่อยู่แล้วใครจะดูแลธุรกิจของเราล่ะ” “โธ่...พ่อครับ พ่อยังแข็งแรง ยังทำงานเก่ง ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกครับ” วายุเข้ามากอดบิดาอย่างประจบเช่นเคย คุณวีรยุทธ์ถอนหายใจหนักหน่วง เขารักลูกชายและลูกสาวมาก ตามใจเสียทุกอย่าง ความจริงถ้าเขาหัดให้ลูกชายกับลูกสาวได้ผจญกับความลำบากบ้างก็คงดี จะได้ขยันขันแข็งเอาการเอางานให้มากกว่านี้ ในใจของคุณวีรยุทธ์คิดไปถึงลูกชายของเพื่อนรักอย่างรัฐศาสตร์ ราเมธถึงจะสูญเสียบิดามารดาไปตั้งแต่เพิ่งเรียนจบแต่ราเมธก็ไม่เคยย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค ทั้งขยันและสู้งาน นิสัยเหมือนบิดาอย่างกับพิมพ์เดียวกัน ความมุ่งมั่นที่เขาเห็นนั้นทำให้เขานับถือ ราเมธจึงเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรง ที่ใครๆ ก็รู้จักและชื่นชมในความสามารถและความเก่งกาจ ถ้าวายุได้สักครึ่งของราเมธก็คงดีไม่น้อย “พรุ่งนี้ไปรับน้องสาวเราด้วยที่สนามบิน” คุณวีรยุทธ์บอกลูกชายคนเดียวเสียงเนือยๆ เพราะพูดเรื่องที่จะให้อีกฝ่ายไปทำงานไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้งเดียว เขารู้สึกว่าตัวเองตามใจลูกจนเสียคน “น้องวายจะกลับมาแล้วเหรอครับ” วายุถามบิดาอย่างสงสัย เพราะวาโยน้องสาวของเขา ตั้งแต่บิดาส่งไปเรียนอยู่เมืองนอกและจบมานานแล้ว ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะกลับมา แต่พอคิดมาถึงตอนนี้ ให้อดนึกถึงตัวเองขึ้นมาเสียไม่ได้ เพราะเขาเองไม่ต่างจากน้องสาวสักเท่าไหร่ ถ้าบิดาไม่เรียกตัวกลับมา เขาคงยังไม่คิดจะกลับมาเมืองไทยเช่นกัน “คุณพ่อเรียกตัวน้องวายกลับมาเหรอครับ” ชายหนุ่มถามบิดาต่อเมื่อเห็นท่านยังเงียบอยู่ “ใช่...แกสองคนสมกันจริงที่เกิดมาเป็นพี่น้องกัน ถ้าพ่อไม่เรียกตัวกลับมาก็ไม่มีใครคิดที่จะกลับมาช่วยพ่อทำงานทำการบ้างเลย” คุณวีรยุทธ์บ่นอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ไม่ใคร่จะจริงจังมากนัก “น้องมาถึงกี่โมงครับ” วายุไม่สนใจเสียงบ่นของบิดาแต่กลับถามว่าน้องสาวจะมาถึงกี่โมง เขาจะได้ไปรับถูก คุณวีรยุทธ์บอกเวลาที่บุตรสาวคนเล็กจะมาถึงประเทศไทยให้ลูกชายฟัง วายุรับคำบิดาก่อนที่เขาจะขอตัวออกไปข้างนอก คุณวีรยุทธ์มองลูกชายอย่างหนักใจ กำลังใช้ความคิดว่าจะทำอย่างไรดีที่จะให้ลูกชายยอมไปทำงานทำการ แต่ข้อสำคัญที่เขาไม่เคยลืมเลือนคือลูกสาวของเพื่อนรักอย่างรัฐศาสตร์ รามาวดีที่เป็นคู่หมั้นของลูกชายตัวดี ถ้าเขาได้รามาวดีมาเป็นลูกสะใภ้ และได้ราเมธมาเป็นเขยเขาคงนอนตายตาหลับ เพราะสองพี่น้องเอางานเอาการ แต่วายุก็ไม่เคยใส่ใจกับคู่หมั้นของตัวเองเลย ตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอก และไม่เคยเห็นจะสนใจไปมาหาสู่กับรามาวดีเลย ทั้งๆ ที่เขาอุตส่าห์พยายามพูด พยายามเชียร์ก็ยิ่งเหมือนทำให้วายุต่อต้านมากกว่าเดิม คุณวีรยุทธ์ถอนหายใจอีกครั้ง แต่ในหัวก็คิดแผนการจะให้บุตรชายและบุตรสาวใกล้ชิดกับคู่หมั้นของตัวเองในเร็ววัน จะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันสักที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD