No & Not
“อืม... ”
ฉันพลิกกายไปอีกด้าน พลางส่งเสียงอย่างรำคาญเมื่อคิดว่าตัวเองถูกรบกวนจากฝ่ามืออุ่นของใครบางคน
“ตื่นสิโน”
เสียงของนาราคล้ายจะกระซิบ ฉันปรือเปลือกตาขึ้นอย่างง่วงงุน หากเมื่อคืนไม่ห่วงคนเมาจนหลับดึก ปกติฉันไม่ใช่คนที่จะตื่นสาย
และเมื่อสายตาโฟกัสปรับกับแสงได้เป็นปกติ ก็รู้ได้ทันทีว่าฉันเผลอหลับข้าง ๆ ใคร
ผู้ชายที่จูบฉันเมื่อคืนยังไงล่ะ!
“เอ่อ... ”
ฉันขยับหัวออกห่างจากแขนหนาที่ใช้หนุน น็อตกางแขนออกหนึ่งข้าง เขานอนหงายแต่มีหมอนใช้รองหนุนหัว
ส่วนฉัน...
ก็คงใช้แขนเขาหนุนหัว ทั้งที่เมื่อกี้ก็รู้สึกตัวว่าพลิกกายมาอีกด้าน งั้นก็แสดงว่า
ฉันนอนหันหน้าเข้าหาร่างกายของน็อตอย่างนั้นสิ!
“ไปซื้อโจ้กข้างล่างกัน”
นาราเอ่ยชวน ฉันจึงพยักหน้าก่อนจะรีบหวิดน้ำใส่ใบหน้าของตัวเองอย่างรีบ ๆ แล้วเดินตามหลังเพื่อนสาวทันที
“หวั่นไหวใช่ไหม”
เธอยิงคำถามอย่างตรงจุด พลางจับจ้องใบหน้าของฉันแบบจริงจัง
“โนรู้ว่าควรทำตัวยังไง”
ฉันตัดบทไปแบบไม่อยากให้เพื่อนต้องคาใจ
“ไม่ผิดหรอกที่จะรักกัน แต่ควรหาจังหวะที่ดีกว่านี้ ตอนนี้มันก็แค่เหงา โนอย่าเหมารวมว่ามันจะจริงใจ นาไม่อยากให้เพื่อนแตกคอกันเพราะเรื่องแบบนี้น่ะ”
ฉันรู้ในความหวังดีของนารา และเดาว่าเธอคงเห็นอะไรหรืออาจไม่เห็นเลย
ก็ดีที่เธอเตือนกันตรง ๆ ความเป็นเพื่อนจะมั่นคงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับใจว่าฉันจะยั้งตัวเองได้มากแค่ไหนล่ะมั้ง
“ขอบใจว่ะ กูแม่งไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป”
เสียงจากข้างในดังขึ้นเมื่อเราสองคนหิ้วโจ้กและกำลังจะผลักประตูเข้าห้อง
ไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปงั้นเหรอ?
อืม... ไม่รู้ก็ดีแล้วล่ะ ไม่น่าจำเท่าไหร่นักหรอก
“ไม่ต้องไปสนใจหรอกโน”
นาราจับไหล่ฉันแล้วบีบเบา ๆ เชิงให้กำลังใจกัน ซึ่งฉันก็เตรียมตัวแล้วล่ะ
เลิกให้ความสนิท เลิกตัวใกล้ชิด เลิกอัธยาศัยดีกับคนแบบน็อตสักที
“ไปถึงไหนกันว้า... หิวไส้จะขาดแล้ว”
ไม้ฟืนลุกมาแย่งของในมือฉันไป เขาจัดการเทใส่ชามทีละชามพลางจัดแจงจับช้อนใส่แล้วค่อยส่งให้เพื่อนทีละคน
“มึงอะ อย่างทุเรศเลยไอ้น็อต”
ทีน่าเริ่มโวยใส่คนเมาค้าง
“กูบอกแล้วไง ว่ากูจะเมา”
เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ท่าทางไม่สนใครนั้นทำให้ฉันสับสน ว่าไอ้คนที่ปล้นจูบฉันเมื่อคืน มันจะไม่รู้ตัวเมื่อตื่นขึ้นมาจริง ๆ งั้นเหรอ
“แล้วนี่ยังไง สรุปคือเลิก”
นาราถามไถ่ และคงจะเอ่ยตรงประเด็นจนเกินไป น็อตเลยมองไปที่เธอแบบเคือง ๆ
“ห่างกันไปก่อนไง”
เขาตอบกลับแบบใส่อารมณ์นิด ๆ
“แล้วระหว่างนี้คุณปีของมึงก็ไปโลดแล่นเป็นดาวแบบไม่มีมึงอะนะ ยอมเหรอวะ”
ไม้ถามแทนใจทุกคน
“สุดท้ายแล้วถ้าไปกันไม่รอด มันก็คงต้องจบ”
เขาตอบแบบขอไปที แต่นัยน์ตานี่เศร้าเชียว
“แล้วมึงจะมักง่ายกับใครก็ได้ว่างั้น”
นาราไม่ควรจี้จุดเร็วเกินไป น็อตชะงัก ก่อนที่เขาจะเหลือบตาขึ้นมองคนตั้งคำถาม
“จริงใจหน่อย ถ้าไม่ ก็ถอยตอนนี้”
คำนี้เหมือนนาราจะเตือนฉันเสียมากกว่า ส่วนคนต้นปัญหา เขาไม่ชายตามาทางนี้แม้สักนิดเดียว
คงจำไม่ได้จริง ๆ ว่าเผลอทำอะไรลงไป
คนทำไม่อยากจดจำ คนโดนกระทำ จำได้ไม่ยอมลืม!
เราแยกย้ายกันในเวลาต่อมา น็อตออกตัวอาสาจะมาส่งฉันอย่างเช่นเคย แต่วันนี้สารถีกลับกลายเป็นผู้หญิงหน้าสวยที่ชื่อว่านาราแทน
“ไม่ต้องปลีกตัว แต่ก็ไม่ต้องให้ความสนิทมาก นาไม่น่าบอกให้มันไปปรึกษาโนเลย นาก็พึ่งรู้ตอนอยู่ร้านเหล้านี่เอง”
นาราเอ่ยเตือนอีกครั้ง ส่วนฉันก็น้อมรับคำนั้นแต่โดยดี จะมีอะไรให้เกิด มันก็คงต้องเกิดล่ะ
“แล้วรู้ได้ไง”
“สายตาโนโกหกใครไม่เก่งนิ เวลาอื่นยังปกติ แต่พอไอ้น็อตเมาเท่านั้นล่ะโน แสดงออกทุกอย่างเลย”
พลาดไปจนได้ ลืมไป ว่านารามองคนขาด เก็บงำมาตั้งหลายปี เสียรู้เอาตอนนี้ เชื่อแกเลยว่ะอโณทัย.....
“รู้ใช่ไหมว่าถ้าอะไรมันเลยเถิด ความสัมพันธ์ของพวกเราห้าคนจะแย่ลง”
ฉันพยักหน้ารับแต่โดยดี
“นารักโนนะ ไม่ว่าจะยังไง นาอยากให้โนเจอคนที่พร้อมจะรักโนคนเดียว”