จ้าวเฟิ่งเจี๋ยที่รู้สึกว่าถูกมองก็หันไปสบกับแววตาหยอกเย้าของพี่ชาย เขาอ่านความคิดจากสีหน้าจ้าวหลี่จิ้นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง จึงเอ่ยว่า "ท่านอย่าได้คิดหรือพูดจาส่งเดช" แม้น้ำเสียงจะห้วนกระด้างเหมือนเช่นเคย แต่ใบหน้าที่เย็นชาอยู่เป็นนิจกลับเกิดริ้วแดงจางๆ ลามไปถึงใบหู จ้าวหลี่จิ้นถึงกับหลุดหัวเราะออกมา นี่เขาเขินหรือ น้องชายของเขากำลังเขินอยู่จริงๆ หรือ ฮ่าฮ่าฮ่า จวนตระกูลกู่กลับมาสู่ความสุขสงบอีกครั้ง ทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตนเอง กู่จางหย่งยังคงเข้าประชุมขุนนางตามหน้าที่ และเฝ้าติดตามข่าวคราวจากชายแดนอยู่เป็นประจำ กู่จางเหว่ยและจ้าวหลี่จิ้นใกล้จะต้องเข้ารับการทดสอบเพื่อให้จบการศึกษา จึงมุ่งมั่นอ่านตำราและฝึกยุทธ์ รวมไปถึงฝึกขี่ม้าและยิงธนูด้วย กู่หวังเหว่ยที่หลงใหลในเพลงกระบี่จึงขอคารวะรองแม่ทัพเกาเสียงคนสนิทและสหายร่วมรบของบิดาเป็นอาจารย์ ทุกคนล้วนเดินไปตามแนวทางชีวิตของตน มีเพียงเหมยกุ