5 ฉีดยาครั้งนี้…หมอจับแน่นไปไหม

1406 Words
เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับโกหก เผลอแป๊บเดียว วันสิ้นเดือนอันน่าสะพรึงกลัวก็เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ข้าวปั้นนั่งหน้ามุ่ยอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในออฟฟิศ นิ้วจิ้มคีย์บอร์ดอย่างขอไปที แต่ในหัวกลับไม่ได้มีเรื่องงานอยู่เลยแม้แต่น้อย มันมีแต่ภาพของคุณหมอหนุ่มมาดนิ่งกับสัมผัสร้ายกาจของเขาที่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา “ทำไมเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็วจังวะ แต่เวลารอไปขึ้นเขียงนี่มันนานชะมัด” เธอพึมพำกับตัวเอง พลางเหลือบมองนาฬิกาบนหน้าจอที่ค่อยๆ ขยับเข้าใกล้เวลานัดหมาย ‘ไปดีมาดีนะน้องปั้น’ เสียงพี่ๆ ในแผนกตะโกนแซวมาแต่ไกลเมื่อเห็นเธอหยิบกระเป๋าเตรียมตัวออกจากออฟฟิศ ทุกคนต่างรู้กิตติศัพท์ความปอดแหกของเธอดี และดูเหมือนจะสนุกกับการได้ลุ้นระทึกไปกับชะตากรรมของเธอในทุกๆ เดือน “ฝากไว้ก่อนเถอะ!” ข้าวปั้นหันไปทำหน้ายู่ใส่กลุ่มเพื่อนร่วมงาน ก่อนจะเดินคอตกออกจากออฟฟิศไป บรรยากาศที่คุ้นเคยของโรงพยาบาลยังคงต้อนรับเธอด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์เช่นเคย แต่ครั้งนี้ ข้าวปั้นกลับรู้สึกแปลกไป... ความกลัวที่เคยมีอยู่เต็มอกมันไม่ได้หายไปไหน แต่มันถูกแทรกแซงด้วยความรู้สึกประหม่าและ...ตื่นเต้นอย่างน่าประหลาด ราวกับกำลังจะไปเดทแรกมากกว่าจะไปตรวจสุขภาพ เธอเดินตรงไปยังห้องตรวจหมายเลข 12 โดยไม่ต้องรอให้พยาบาลประกาศเรียก เมื่อไปถึงหน้าห้อง เธอกลับพบว่าประตูแง้มอยู่เล็กน้อย ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ข้าวปั้นจึงถือวิสาสะแอบมองเข้าไปผ่านช่องว่างนั้น ภาพที่เห็นคือแผ่นหลังกว้างของหมอรามที่กำลังยืนอยู่ข้างเตียงตรวจ เขากำลังพูดคุยกับคนไข้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่นั่งร้องไห้จ้าอยู่บนเตียง “หนูไม่ฉีด! ฮือออ...มันเจ็บ!” เด็กน้อยสะอื้นจนตัวโยน ข้าวปั้นเห็นหมอรามนั่งยองๆ ลงให้ความสูงของเขาอยู่ในระดับเดียวกับสายตาของเด็กหญิง เขาไม่ได้มีสีหน้าดุดันเหมือนตอนที่อยู่กับเธอ แต่กลับดูอ่อนโยนลงอย่างไม่น่าเชื่อ “คนเก่งไม่ร้องไห้นะครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลกว่าปกติ “ลุงหมอมีเวทมนตร์เสกให้มดกัดเจ็บน้อยลง เอาไหม?” เขาชูนิ้วก้อยขึ้นมาตรงหน้าเด็กหญิง “เกี่ยวก้อยสัญญากันก่อน ว่าจะมองไปที่ตุ๊กตาหมีตัวนั้น แล้วนับ 1 ถึง 5 ช้าๆ พอนับจบปุ๊บ ความเจ็บก็จะหายไปเลย ดีไหมครับ?” เด็กน้อยมองหน้าเขาตาแป๋ว ก่อนจะค่อยๆ ยื่นนิ้วก้อยเล็กๆ ของตัวเองไปเกี่ยวกับนิ้วของเขาอย่างลังเล ภาพนั้นทำให้หัวใจของข้าวปั้นกระตุกวูบ...เธอไม่เคยเห็นหมอรามในมุมนี้มาก่อน มุมที่ดูอบอุ่นและใจดี มันช่างแตกต่างจากภาพคุณหมอปากร้ายมาดนิ่งที่เธอคุ้นเคยราวกับเป็นคนละคน เธอเผลอยืนมองภาพนั้นนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ จนกระทั่งพยาบาลเดินออกมาเปิดประตูให้คนไข้รายต่อไป “อ้าว คุณอัญชัญ มาแล้วเหรอคะ เชิญข้างในเลยค่ะ” ข้าวปั้นสะดุ้ง รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเดินเข้าไปในห้อง หมอรามเงยหน้าขึ้นมาจากแฟ้มประวัติคนไข้ สายตาของเขากลับมาเรียบนิ่งและเย็นชาเหมือนเดิม ราวกับว่าภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตา “มาตรงเวลาดีนี่ครับ” เขาเอ่ยทักทายเรียบๆ “ก็...กลัวจะโดนคุณหมอดุนี่คะ” เธอตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ เขายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “รู้ตัวก็ดีแล้ว” ก่อนจะพยักพเยิดไปทางเตียงตรวจ “วันนี้ไม่ต้องให้บอกซ้ำนะครับ” ให้ตายสิ! โหมดซาตานกลับมาทำงานเร็วจริงๆ! ข้าวปั้นเดินไปที่เตียงอย่างจำยอม แต่ครั้งนี้เธอตัดสินใจทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป...เธอนั่งหันข้างให้เขาเหมือนครั้งก่อน แต่ไม่ได้รอให้เขาสั่ง เธอกลับเป็นฝ่ายรวบรวมความกล้า ช้อนชายกระโปรงของตัวเองขึ้นอย่างช้าๆ เผยให้เห็นผิวเนื้อบริเวณสะโพกด้านขวาที่เธอเตรียมใจไว้แล้ว เป็นการแสดงออกว่า ‘ฉันพร้อมแล้วนะ!’ หมอรามมองการกระทำของเธอด้วยแววตาที่ฉายแววประหลาดใจระคนขบขัน เขาเดินเข้ามาใกล้ ในมือถือไซริงค์ที่เตรียมไว้พร้อมแล้ว “กล้าขึ้นเยอะนี่ครับ” เขาเอ่ยชม แต่ฟังดูเหมือนประชดมากกว่า “ก็แค่ไม่อยากโดนใครบางคนขู่ว่าจะให้พยาบาลมาจับอีก” เธอสวนกลับไปโดยไม่มองหน้า “ดีแล้วครับ” เขาตอบสั้นๆ ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นๆ ข้างหนึ่งของเขาจะวางลงบนเอวของเธอ...ตำแหน่งเหนือสะโพกที่เขาจะทำการฉีดยา สัมผัสที่คุ้นเคยนั้นทำให้ข้าวปั้นสะดุ้งเฮือกอีกครั้งเหมือนเคย แต่ครั้งนี้...มันแตกต่างออกไป มือของเขากำลังออกแรงกดลงมามากกว่าปกติ...มันไม่ใช่การกดแบบรุนแรง แต่เป็นแรงกดที่หนักแน่นและมั่นคงราวกับจะยึดเธอไว้ไม่ให้หนีไปไหน นิ้วหัวแม่มือของเขาวางพาดอยู่บนส่วนโค้งของเอว ส่วนนิ้วที่เหลือก็โอบรอบมาทางด้านหน้าท้องน้อยของเธอ มันเป็นการจับที่...แนบแน่นเกินความจำเป็น! “คุณหมอ...จะ...จับแน่นไปไหมคะ” เธอท้วงเสียงสั่น หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ “กันคุณดิ้นน่ะครับ” เขาตอบกลับมาหน้าตาเฉย เสียงทุ้มๆ ของเขาดังอยู่ข้างหู “รอบที่แล้วคุณเกร็งตัวมาก ผมไม่อยากให้กล้ามเนื้ออักเสบอีก” ฟังดูมีเหตุผล...แต่การกระทำของเขามันไม่มีเหตุผลเลย! ปลายนิ้วเย็นๆ ที่ชุบแอลกอฮอล์เริ่มลากไล้บนผิวเนื้อของเธออีกครั้ง แต่คราวนี้ นิ้วหัวแม่มือที่วางอยู่บนเอวของเขากลับขยับ...มันลูบไล้ผิวเนื้อบริเวณเอวของเธอผ่านเนื้อผ้าเดรสเบาๆ เป็นการเคลื่อนไหวที่แทบจะสังเกตไม่เห็น แต่กลับส่งผลต่อความรู้สึกของเธออย่างมหาศาล “อึก...” ข้าวปั้นเผลอกลั้นหายใจ สมองของเธอขาวโพลนไปหมด เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แล่นปราดจากเอวลงไปจนถึงสะโพก “ผ่อนคลายครับ” เสียงกระซิบพร่าดังขึ้นอีก “ยิ่งเกร็ง...มือผมอาจจะต้องยิ่งจับให้แน่นขึ้นนะ” นั่นมันคำขู่ชัดๆ! เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะทำตัวให้ผ่อนคลาย แต่ยิ่งพยายาม ร่างกายก็ยิ่งต่อต้าน เธอรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่ฝ่ามือของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็นการเตือนกลายๆ นิ้วหัวแม่มือของเขายังคงลูบวนอยู่ที่เดิมอย่างเชื่องช้า แต่มันกลับเหมือนการจุดไฟที่ลามเลียไปทั่วทั้งตัว ในที่สุด เธอก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายเข็มแทงเข้ามา แต่มันเป็นความเจ็บที่ห่างไกลจากจุดสนใจของเธอโดยสิ้นเชิง สติทั้งหมดของเธอกำลังจดจ่ออยู่กับสัมผัสรัญจวนจากฝ่ามือและปลายนิ้วของเขา... ยาถูกฉีดเข้ามาจนหมด แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ... หลังจากถอนเข็มออกไปแล้ว เขาใช้สำลีกดลงบนแผลตามปกติ แต่ฝ่ามือที่โอบอยู่รอบเอวเธอนั้นกลับกระชับแน่นขึ้นอีกนิดหนึ่ง ก่อนที่เขาจะจงใจ...ลากปลายนิ้วหัวแม่มือลงมาตามแนวโค้งของสะโพกอย่างเชื่องช้า...และหยุดลงที่รอยบุ๋มข้างสะโพกพอดี “อ๊ะ!” ข้าวปั้นสะดุ้งสุดตัว ขนลุกซู่ไปทั้งร่าง “เรียบร้อย” เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะยอมปล่อยมือออกจากเอวของเธอในที่สุด ข้าวปั้นแทบจะถลาลงจากเตียง เธอรีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ด้วยมือไม้ที่สั่นเทา ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปสบตาเขาตรงๆ “ขะ...ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเสียงเบาหวิว เตรียมจะเผ่นออกจากห้องอีกตามเคย “เดี๋ยว” เขาเรียกไว้ได้ทัน เธอหันกลับไปมองอย่างหวาดระแวง หมอรามยืนกอดอกพิงโต๊ะทำงานของเขา สายตาคมกริบคู่นั้นมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าแดงก่ำของเธอ “ครั้งหน้า...ไม่ต้องรีบถอดเองก็ได้นะครับ” เขายิ้มมุมปาก “ผมชอบทำให้เองมากกว่า”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD