จูบนั้น...มันเหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจของข้าวปั้น สมองที่เคยทำงานอย่างเชื่องช้าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ บัดนี้กลับขาวโพลนไปหมด เธอรับรู้ได้เพียงสัมผัสอุ่นร้อนและนุ่มหยุ่นที่ริมฝีปาก ความหวานล้ำที่เขามอบให้กำลังละลายทุกกำแพงแห่งความลังเลที่เธอเคยสร้างไว้จนหมดสิ้น เขาไม่ได้รุกล้ำ แต่เป็นจูบที่ทาบทับลงมาอย่างอ่อนโยน...เป็นการยืนยันคำพูดทุกอย่างที่เขาเพิ่งบอกเธอ
รามิลเป็นฝ่ายถอนริมฝีปากออกไปก่อนอย่างอ้อยอิ่ง เขายังคงประคองใบหน้าของเธอไว้ในอุ้งมือ นิ้วหัวแม่มือลูบไล้พวงแก้มที่แดงก่ำของเธอเบาๆ สายตาของเขาทอประกายลุ่มลึกและจริงจัง...เป็นแววตาที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
ข้าวปั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่ในอาการช็อก ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ริมฝีปากของเธอยังคงรู้สึกซาบซ่านจากรสจูบของเขา
นี่มันเรื่องจริงใช่ไหม...เขาจูบเธอ...และเขาก็บอกว่าคนที่เขาอยากใช้เวลาด้วยคือเธอ...
ความจริงที่ถาโถมเข้ามาทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก ในหัวตีกันมั่วไปหมดระหว่างความอาย ความดีใจ และความปรารถนาที่ถูกจุดขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรต่อไป จะผลักเขาออกไปแล้ววิ่งหนีขึ้นห้อง หรือจะ...
แล้วคำพูดที่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าจะกล้าพูด ก็หลุดออกจากปากไปโดยไม่ผ่านการไตร่ตรองจากสมอง
“เอ่อ...หมอ...” เธอเรียกชื่อเขาเสียงแผ่วเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
“ครับ?”
“ขึ้น...ขึ้นข้างบนมั้ยคะ...”
พูดจบ เธอก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด! นี่เธอพูดบ้าอะไรออกไป! ชวนผู้ชายขึ้นห้อง! แถมยังเป็นคุณหมอที่เธอทั้งกลัวทั้งหวั่นไหวอีกต่างหาก!
“ฉัน...เอ่อ...หนะ...หนู...เอ่อ...” เธอพูดจาติดๆ ขัดๆ ไม่เป็นภาษา พยายามจะหาคำมาแก้ตัว แต่ก็คิดไม่ออก ได้แต่ก้มหน้างุด ซ่อนใบหน้าที่ร้อนจัดจนแทบจะไหม้ไว้ไม่ให้เขาเห็น
รามิลนิ่งไปอึดใจหนึ่ง...เขาประหลาดใจกับคำเชิญที่ไม่คาดฝันนั้น แต่ความประหลาดใจก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจอย่างรวดเร็ว
...แม่ลูกแมวตัวน้อย...พอเมาแล้วก็กลายเป็นแม่เสือสาวไปซะได้...
เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาฉายแววเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิด
“แน่ใจนะครับ?” เขาถามย้ำ กระซิบเสียงพร่าชิดริมหูของเธอ “ชวนหมอขึ้นห้องแบบนี้...รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาที่เป่ารดต้นคอ ทำให้ข้าวปั้นขนลุกซู่ไปทั้งตัว เธอพยักหน้าหงึกๆ แทนคำตอบ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขา
“หมอไม่ปฏิเสธหรอกนะ...สำหรับคำเชิญที่น่าสนใจแบบนี้” เขายิ้ม ก่อนจะแกล้งพูดหยอกเธอต่อ “ไม่กลัวหมอแล้วเหรอครับ? ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล...ยังทำตัวเหมือนเด็กต้องการแม่เลยนะ...แม่หนู......”
คำว่า ‘แม่หนู’ ที่เขาจงใจลากเสียงยาวๆ นั้น ทำให้ข้าวปั้นหน้าร้อนยิ่งกว่าเดิม เธอเงยหน้าขึ้นมาถลึงตาใส่เขาอย่างลืมตัว
“ก็...ก็ตอนนั้นมัน...มันไม่เหมือนกันนี่คะ!” เธอเถียงเสียงอ่อย
“ไม่เหมือนกันยังไงครับ” เขาแกล้งถามต่อ สนุกกับการได้เห็นท่าทีขัดเขินปนดื้อรั้นของเธอ
“ก็ตอนนั้นคุณหมอจะฉีดยาหนูนี่นา! แต่ตอนนี้...ตอนนี้...” เธอพูดต่อไม่ได้ พูดไปก็เหมือนมัดตัวเอง
“ตอนนี้...ผมก็จะ ‘ฉีดยา’ ให้คุณเหมือนกัน” เขากระซิบเสียงแหบพร่า “แต่เป็นยาชนิดพิเศษ...ที่ใช้รักษากับคนไข้ที่น่ารักเป็นพิเศษเท่านั้น”
พูดจบ เขาก็ไม่รอให้เธอได้ตั้งตัวอีกต่อไป เขาปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองออก แล้วโน้มตัวข้ามมา...ประกบริมฝีปากของเธอกับเขาอีกครั้ง
จูบครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง...มันร้อนแรง เรียกร้อง และเต็มไปด้วยความปรารถนาที่เขาพยายามอดกลั้นเอาไว้มาตลอด ลิ้นร้อนของเขาแทรกเข้ามาในโพรงปากของเธออย่างง่ายดาย กวาดต้อนชิมความหวานจากฤทธิ์ค็อกเทลที่ยังหลงเหลืออยู่อย่างหิวกระหาย ข้าวปั้นที่อ่อนประสบการณ์ได้แต่ปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายควบคุมเกมทั้งหมด เธอเผลอครางออกมาในลำคอเมื่อมือใหญ่ข้างหนึ่งของเขาเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเธอ ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาบีบเคล้นสะโพกมนอย่างมันมือ
“อื้มม...”
เสียงครางหวานหูทำให้รามินทร์แทบจะหมดความอดทน เขาถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง มองใบหน้าหวานที่แดงก่ำและดวงตาที่ฉ่ำเยิ้มของเธอด้วยสายตาที่ลุกโชน
“ถ้ายังอยากให้ผมขึ้นไปอยู่...ก็อย่าทำเสียงแบบนี้บ่อยๆ นะครับ” เขากระซิบขู่ “ไม่งั้น...ผมอาจจะเริ่ม ‘ทำการรักษา’ คุณ...ในรถนี่เลย”
คำขู่นั้นทำให้สติของข้าวปั้นกลับมาเล็กน้อย เธอรีบผละออกจากเขาแล้วพยักหน้าหงึกๆ เป็นการตอบรับ
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รามิลดับเครื่องยนต์แล้วลงจากรถ เดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ ประคองร่างที่ยังโซซัดโซเซเล็กน้อยของเธอเข้าไปในล็อบบี้ แล้วพาขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่เธอบอก
ตลอดทาง...มือของเขายังคงโอบอยู่ที่เอวของเธอไม่ยอมปล่อย...
เมื่อมาถึงหน้าห้อง ข้าวปั้นก็ควานหากุญแจในกระเป๋าด้วยมือที่สั่นเทา เธอไขประตูเข้าไปในห้องที่มืดสนิท ก่อนจะหันกลับมามองเขาที่ยืนรออยู่หน้าประตูอย่างลังเล
รามินทร์ไม่ได้เร่งรัด เขายืนรออย่างใจเย็น จนกระทั่งเธอเป็นฝ่ายก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว...เป็นการเปิดทางให้เขาเข้ามา
เขาไม่ลังเลเลยสักนิด...
ทันทีที่ประตูปิดลง แผ่นหลังของข้าวปั้นก็ถูกดันให้ชิดกับบานประตูเย็นเฉียบ ร่างสูงใหญ่ของเขาเบียดเข้ามาจนแทบไม่มีช่องว่าง ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะเข้าครอบครองริมฝีปากของเธออีกครั้งอย่างดุดันและเร่าร้อนยิ่งกว่าเดิม...
เสื้อผ้าที่เคยเป็นเกราะป้องกัน บัดนี้กลับถูกปลดเปลื้องออกไปอย่างง่ายดายด้วยฝีมือของนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ...
“คืนนี้...หมอจะฉีดยาให้ทั้งคืนเลยนะ...คนไข้คนเก่งของหมอ”
เสียงกระซิบพร่าข้างหูของเขา คือประโยคสุดท้ายที่เธอได้ยิน...ก่อนที่สติสัมปชัญญะทั้งหมดจะถูกกลืนกินด้วยคลื่นแห่งความปรารถนาที่โหมกระหน่ำเข้ามา...อย่างไม่มีที่สิ้นสุด