12 หมอในฝัน กับ หมอตัวจริง

1276 Words
ความรู้สึกแรกที่ข้าวปั้นรับรู้ได้คือความนุ่มสบายของเบาะที่รองรับร่างกาย ตามมาด้วยการสั่นสะเทือนเบาๆ อย่างสม่ำเสมอราวกับกำลังล่องลอยอยู่ในเปล เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างเชื่องช้า ภาพตรงหน้ายังคงพร่ามัวและหมุนคว้างจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังตกค้างอยู่ เธอพยายามกะพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัส แล้วภาพแรกที่ปรากฏชัดขึ้นมา...ก็ทำให้เธอต้องขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ...ใบหน้าด้านข้างของหมอราม... ทำไม...ทำไมหมอคนหล่อถึงมาอยู่ในฝันของเธอได้ล่ะ? เขายังคงสวมแว่นเหมือนเคย แสงไฟจากท้องถนนยามค่ำคืนที่สาดส่องเข้ามาในรถเป็นระยะๆ ทำให้โครงหน้าด้านข้างของเขาดูคมคายและน่ามองเป็นพิเศษ สันจมูกโด่ง...ริมฝีปากหยักได้รูปที่เม้มเป็นเส้นตรง...และสายตาที่จดจ่ออยู่กับการขับรถข้างหน้า... ‘ฝันดีจัง...’ ข้าวปั้นคิดอย่างเคลิบเคลิ้ม ‘ฝันว่าได้นั่งรถไปกับคุณหมอด้วย...’ เธอที่ยังคงคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ เริ่มปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความรู้สึกนึกคิดของตัวเองอย่างเต็มที่ เธอมองเขาไม่วางตา แล้วก็เริ่มบ่นงึมงำกับตัวเองเบาๆ “หมอราม...คนบ้า...” เธอพูดเสียงอู้อี้ “ชอบแกล้ง...ชอบทำหน้าขรึมให้คนอื่นใจสั่นอยู่เรื่อยเลย...รู้มั้ยว่ามันเหนื่อยนะที่ต้องคอยห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดถึงน่ะ...” คำพูดที่หลุดออกมาจากใจจริงทำให้คนที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ถึงกับชะงักไปเล็กน้อย มุมปากของรามินทร์ยิ้มขึ้นอย่างที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัว...อาการของคนไข้คนนี้...น่าสนใจกว่าที่คิดไว้เยอะ ...“หมอบ้า...ฮื่อ...” ข้าวปั้นยังคงบ่นพึมพำต่อไป น้ำเสียงติดจะงอแงเหมือนเด็กๆ “ทำไมต้องมาทำดีด้วยล่ะ...ทำไมต้องมาทำเหมือนใส่ใจด้วย...ถ้าจะไปเดทกับคนอื่นน่ะ...ก็ไม่ต้องมายุ่งกันเลย...คนใจร้าย...” ประโยคสุดท้ายที่แฝงไปด้วยความน้อยใจอย่างปิดไม่มิด ทำให้รามินทร์ต้องหันมามองเธอแวบหนึ่ง เขาเห็นหยดน้ำตาเล็กๆ คลออยู่ที่หางตาของเธอ...คนขี้เมาคนนี้...กำลังจะร้องไห้เพราะเขาเหรอ? ความรู้สึกบางอย่างแล่นเข้ามาในอกของเขา...มันไม่ใช่ความขบขันหรือความอยากแกล้งอีกต่อไป แต่เป็นความรู้สึก...อยากจะปลอบโยน...อยากจะดึงร่างเล็กๆ นั้นเข้ามากอดแล้วบอกว่าเธอเข้าใจผิดไปหมด “หมอตัวจริงก็นั่งอยู่นี่ไงครับ” ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเอ่ยขึ้น ทำลายความเงียบในรถ น้ำเสียงทุ้มต่ำและเรียบนิ่งของเขา ทำให้คนที่กำลังจมอยู่ในโลกแห่งความฝันถึงกับชะงัก ข้าวปั้นหันขวับมามองเขาเต็มๆ ตา เธอกะพริบตาปริบๆ สมองที่ถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำพยายามประมวลผลอย่างหนัก “ฝัน...ฝันพูดได้ด้วยเหรอ” เธอเอียงคอถามอย่างงุนงง ท่าทางนั้นน่าเอ็นดูจนรามินทร์เผลอยิ้มออกมาอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรก “หรืออยากให้หมอฉีดยาสักเข็มไหมครับ จะได้ตื่น” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอเล็กน้อย แววตาหลังกรอบแว่นทอประกายขี้เล่น “หืมม?” ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาที่รินรดอยู่บนใบหน้า ทำให้สติที่กระจัดกระจายของข้าวปั้นเริ่มกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง...นี่มันไม่ใช่ฝัน! กลิ่นโคโลญจน์ของเขา...ความรู้สึกอุ่นๆ ในรถ...ทุกอย่างมันจริงเกินไป! “คุณ...คุณหมอ!” เธออุทานออกมาเสียงดัง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจและอับอายสุดขีด “นี่...นี่มันเรื่องจริงเหรอ! แล้ว...แล้วเมื่อกี๊...หนูพูดอะไรออกไปบ้าง!” ใบหน้าของเธอแดงก่ำราวกับลูกมะเขือเทศสุก เธอแทบอยากจะเปิดประตูรถแล้วกระโดดหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด! รามิลหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปมองถนนตามเดิม “ก็ไม่เยอะเท่าไหร่หรอกครับ...แค่บ่นว่ามีหมอบ้าคนหนึ่งชอบมาทำให้ใจสั่น...แล้วก็ตัดพ้อว่าหมอคนนั้นใจร้าย...ไปเดทกับคนอื่น” ทุกคำที่เขาพูดเหมือนมีดที่กรีดลงมาบนหน้าของเธอ! “หนู...หนูไม่ได้พูด!” เธอเถียงข้างๆ คูๆ เสียงสั่น “ครับ...คุณไม่ได้พูด” เขาตอบรับอย่างว่าง่าย แต่รอยยิ้มที่มุมปากนั้นมันฟ้องทุกอย่าง “เอาล่ะ...เลิกเพ้อเจ้อแล้วบอกมาได้รึยัง ว่าบ้านคุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมจะไปส่ง” “บ้าน?” ข้าวปั้นทวนคำอย่างงงๆ “ทำไมต้องไปส่งด้วยล่ะคะ! หนู...หนูกลับเองได้นี่นา! จอดตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ!” “ในสภาพที่คุณยืนเองยังแทบไม่ไหวน่ะเหรอครับ” เขาสวนกลับเรียบๆ “อย่าดื้อให้มากได้ไหมคุณข้าวปั้น ผมไม่อยากให้คนไข้ของผมไปนอนหมดสภาพอยู่ข้างถนนหรอกนะ” แม้จะเป็นประโยคที่ฟังดูดุ แต่ในน้ำเสียงกลับแฝงไปด้วยความห่วงใยอย่างชัดเจน ข้าวปั้นที่กำลังจะอ้าปากเถียงถึงกับต้องเงียบลง ปากบ่นงึมงำว่าไม่อยากให้เขาไปส่ง แต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างประหลาด...การได้นั่งอยู่ข้างๆ เขาแบบนี้...มันก็ดีเหมือนกัน เธอค่อยๆ บอกทางไปคอนโดของตัวเองให้เขาแต่โดยดี ตลอดทางไม่มีใครพูดอะไรอีก มีเพียงเสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ที่คลออยู่ในรถ แต่ความเงียบนั้นกลับไม่ได้น่าอึดอัดเลยแม้แต่น้อย ข้าวปั้นแอบลอบมองใบหน้าด้านข้างของเขาเป็นระยะๆ หัวใจที่เคยเต้นระรัวเพราะความตกใจ บัดนี้กลับเต้นเป็นจังหวะที่นุ่มนวลและสม่ำเสมอ... ‘ทำไม...พออยู่ใกล้ๆ เขาแล้วมันรู้สึกดีจังนะ’ ไม่นานนัก รถของรามินทร์ก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าล็อบบี้คอนโดของเธอ “ถึงแล้วครับ” เขาบอกพลางปลดล็อกประตู ข้าวปั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกใจหายอย่างประหลาดที่ต้องลงจากรถแล้ว “ขะ...ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” เธอพูดเสียงเบา ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาเขา “ไม่เป็นไร” เธอกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ แต่แล้วก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “คุณหมอคะ” “ครับ?” “เรื่องที่หนูพูดในรถเมื่อกี๊...ลืมๆ มันไปได้ไหมคะ หนู...หนูเมา...พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย” เธอขอร้องเสียงอ่อย รามินทร์หันมามองเธอเต็มๆ ตา เขายื่นมือมาเชยคางของเธอให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาตรงๆ สัมผัสอุ่นๆ ที่ปลายนิ้วของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง “เรื่องไหนล่ะครับ” เขากระซิบถาม “เรื่องที่ว่าผมชอบทำให้คุณใจสั่น...หรือเรื่องที่ว่าผมใจร้าย” “...” ข้าวปั้นพูดอะไรไม่ออก ได้แต่จ้องมองเข้าไปในดวงตาคมกริบคู่นั้น “เรื่องแรก...ผมอาจจะช่วยลืมให้ไม่ได้” เขายิ้มมุมปาก “เพราะผมตั้งใจ...ที่จะทำให้คุณใจสั่นมากกว่านี้อีก” หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้น... “แต่เรื่องที่สอง...ผมยืนยันได้ว่าผมไม่ได้ใจร้าย” เขาพูดต่อ “และผมก็ไม่ได้ไปเดทกับใคร...คนที่ผมอยากใช้เวลาในคืนวันศุกร์ด้วย...ก็นั่งหน้าแดงอยู่ตรงหน้าผมนี่ไงครับ” พูดจบ เขาก็ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา...ประทับริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา... มันเป็นจูบที่นุ่มนวลและอ่อนหวานกว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้หลายร้อยเท่า... ไม่มีแอลกอฮอล์แก้วไหนในโลก...ที่จะทำให้เธอเมามายได้เท่ากับจูบนี้อีกแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD