คำขู่ปนหยอกที่กระซิบข้างหูไม่ได้ทำให้ข้าวปั้นหวาดกลัวเหมือนทุกที ตรงกันข้าม มันกลับยิ่งราดน้ำมันลงบนกองไฟแห่งความน้อยใจที่กำลังลุกโชนอยู่ในอกของเธอ
‘ยาใจงั้นเหรอ...ปากหวานไปเรื่อย!’ เธอคิดในใจอย่างขุ่นเคือง
หญิงสาวทำหูทวนลม ไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้าเขา เธอหันไปทางบาร์เทนเดอร์ที่กำลังผสมค็อกเทลแก้วใหม่อย่างคล่องแคล่ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าปกติเล็กน้อย จงใจให้คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินชัดๆ
“ก็เบื่อๆ น่ะค่ะ” เธอแสร้งพูดเหมือนคุยกับบาร์เทนเดอร์ แต่ทุกคำพุ่งตรงไปที่หมอราม “โดนทำร้ายหัวใจมา...มีใครก็ไม่รู้ ชอบมาทำให้ใจเต้นเล่นๆ แล้วก็หายไป พอเจออีกทีก็ควงคนอื่นมาซะงั้น...มันน่าโมโหนัก!”
รามินทร์ที่ยืนฟังอยู่ถึงกับเลิกคิ้ว...นี่เธอกำลังพูดถึงเขาอยู่ชัดๆ แถมยังเข้าใจผิดเรื่องหมอแพรไปไกลอีกต่างหาก
“พี่คะ!” ข้าวปั้นยังคงไม่หยุด “แก้วนี้มันยังอ่อนไป...หนูขออันที่แรงกว่านี้ได้ไหมคะ! แบบที่ดื่มแล้วลืมไปเลยว่าเคยโดนใครหลอกให้ใจสั่นน่ะค่ะ!”
พูดจบเธอก็คว้าแก้วไหมไทยที่เพิ่งผสมเสร็จขึ้นมาดื่มรวดเดียวไปอีกเกือบครึ่งแก้ว ท่าทางประชดประชันและดื้อรั้นนั้นทำให้รามิลต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ
‘เด็กน้อยเอ๊ย...’ เขานึกในใจ ‘เมาแล้วยังจะปากเก่งอีก’
หมอรามเห็นท่าไม่ดี เขาจึงส่งสัญญาณบางอย่างให้บาร์เทนเดอร์ บาร์เทนเดอร์หนุ่มพยักหน้ารับรู้อย่างมืออาชีพ ก่อนจะหันไปพูดกับข้าวปั้นด้วยรอยยิ้ม
“ใจเย็นๆ ก่อนนะครับคุณผู้หญิง ถ้าดื่มแรงกว่านี้เดี๋ยวจะกลับบ้านไม่ไหวนะครับ”
จากนั้นเขาก็หันไปทำเครื่องดื่มแก้วใหม่ เป็นน้ำผลไม้สีสวยที่ดูคล้ายค็อกเทล แต่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลยแม้แต่น้อย แล้วนำมาวางให้เธอแทน
“ลองแก้วนี้ดูไหมครับ ‘Sweet Escape’ เป็นสูตรพิเศษของทางร้าน ดื่มแล้วสดชื่นแน่นอนครับ”
ข้าวปั้นที่เริ่มจะมึนๆ ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติ เธอรับแก้วนั้นมาดื่มอย่างว่าง่าย
รามิลมองคนขี้เมาที่กำลังดูดน้ำส้มปั่นของตัวเองอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็ส่ายหัวเบาๆ เขาตัดสินใจเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองก่อน
“ไปไหนมาตั้งนาน” หมอแพรถามทันทีที่เขานั่งลง
“ไปจัดการคนไข้ดื้อยามา” เขาตอบเสียงเรียบ
“หืม? คนไข้ที่ไหนของแกมาอยู่ที่นี่” หมอแพรทำหน้างง
“ก็คนที่ทำให้ฉันต้องโทรไปหาแกเพื่อถามวิธีรับมือกับผู้หญิงขี้โวยวายนั่นแหละ”
“อ๋อ! ยัยน้องคนไข้จอมแก่นคนนั้นน่ะเหรอ!” หมอแพรตาโต “ไหนๆ คนไหน อยู่ตรงไหน!”
รามินทร์พยักพเยิดไปทางเคาน์เตอร์บาร์ หมอแพรมองตามแล้วก็ร้องอ๋อ “คนที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่คนเดียวนั่นน่ะนะ แหม...ก็น่ารักดีนี่หว่า มิน่าล่ะ...เสือยิ้มยากอย่างแกถึงกับต้องเสียอาการ”
“ฉันไม่ได้เสียอาการ” รามินทร์เถียงเสียงเข้ม แต่สายตากลับยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างเล็กไม่วางตา
หลังจากที่ข้าวปั้นดื่ม ‘Sweet Escape’ ไปจนหมดแก้ว เธอก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เมาไปกว่าเดิม แต่กลับรู้สึกง่วงนอนอย่างประหลาด ฤทธิ์ของไหมไทยสองแก้วแรกเริ่มทำงานอย่างเต็มที่ ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลือน ศีรษะหนักอึ้งจนแทบจะทิ่มลงไปบนเคาน์เตอร์
‘ไม่ไหวแล้ว...ง่วงจัง...’
รามินทร์ที่คอยสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลาเห็นว่าคนไข้ของเขาใกล้จะหมดสภาพเต็มทีแล้ว เขาจึงหันไปบอกเพื่อนสนิท
“ฉันต้องไปแล้วว่ะ แฟนแกก็มาพอดี” เขาพยักหน้าไปทางประตู ซึ่งมีหญิงสาวร่างสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา
“อ้าว! จะรีบไปไหน อยู่คุยกับพลอยก่อนสิ”
“ไม่ล่ะ จัดการเด็กดื้อก่อน” เขาพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วลุกเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์บาร์อีกครั้ง ไม่รอให้เพื่อนได้ทักท้วงอะไรต่อ
เขายืนอยู่ข้างหลังข้าวปั้นที่ตอนนี้ฟุบหน้าลงไปกับเคาน์เตอร์แล้วเรียบร้อย เขาสะกิดที่ไหล่เธอเบาๆ
“คุณ...ไหวไหมครับ”
เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ดวงตากลมโตที่เคยสดใสบัดนี้ดูเยิ้มและปรือปรอยอย่างคนเมาเต็มที่ พอเห็นว่าเป็นเขา เธอก็ยู่หน้าใส่
“มะ...มาทำไมอีก...ไปหาแฟนคุณสิ...มายุ่งกับคนขี้เมาทำไม” เธอพูดเสียงอู้อี้ไม่เป็นภาษา
“ก็คนขี้เมาคนนี้เป็นคนไข้ของผมนี่ครับ” เขาพูดพลางหยิบบัตรเครดิตออกมาจ่ายค่าเครื่องดื่มทั้งหมดของเธอ “เมาขนาดนี้จะกลับยังไง”
“กลับ...กลับเองได้...ไม่ต้องมายุ่ง!” เธอพยายามจะลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองยังไหว แต่ร่างกายกลับไม่รักดี ขาแข้งอ่อนปวกเปียกจนเกือบจะล้มคะมำไปข้างหน้า
แต่ก่อนที่ร่างของเธอจะกระแทกพื้น...วงแขนแข็งแรงของหมอรามก็ช้อนรับร่างของเธอไว้ได้ทันพอดี
กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ กับกลิ่นหอมหวานเหมือนผลไม้ลอยออกมาจากตัวเธอ ร่างเล็กๆ ในอ้อมแขนของเขานั้นนุ่มนิ่มและเบาอย่างไม่น่าเชื่อ
“อือ...ปล่อยนะ...” เธอพยายามดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขา แต่ก็ไม่มีแรงพอจะสู้ได้
รามิลมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่ค่อยมีใครสนใจ เขาจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่เด็ดขาดที่สุด...เขารวบร่างของเธอขึ้นมาอุ้ม!
“ว้าย! คุณหมอ! จะทำอะไร! ปล่อยนะ!” ข้าวปั้นที่พอจะเรียกสติกลับมาได้บ้างร้องโวยวายขึ้นมา พยายามทุบที่อกเขาเบาๆ
“ถ้ายังโวยวายอีก ผมจะเปลี่ยนไปอุ้มพาดบ่าแทน...เอาไหม?” เขากระซิบขู่ข้างหู
คำขู่นั้นได้ผลชะงัด ข้าวปั้นหยุดดิ้นทันที ได้แต่ซบหน้าลงกับอกกว้างของเขาอย่างจำยอม ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอายและตื่นตระหนก หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าตอนโดนเขาจู่โจมในห้องแพทย์เสียอีก
รามินทร์อุ้มเธอเดินออกจากบาร์ไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตางุนงงของคนไม่กี่คน เขาตรงไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกล จัดการเปิดประตูหลังแล้วค่อยๆ วางร่างที่อ่อนปวกเปียกของเธอลงบนเบาะอย่างนุ่มนวลที่สุด
เขาจัดท่าให้เธอนอนสบายๆ คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย ในจังหวะที่โน้มตัวเข้าไปนั้นเอง ใบหน้าของเขาก็อยู่ใกล้กับใบหน้าของเธอที่หลับตาพริ้มไปแล้ว...
ริมฝีปากอิ่มที่เผยอขึ้นเล็กน้อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้นดูเชื้อเชิญอย่างร้ายกาจ...
รามินทร์จ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจ...ประทับริมฝีปากของตัวเองลงบนหน้าผากเนียนของเธอเบาๆ...เป็นจุมพิตที่แสนอ่อนโยน
“คนไข้ดื้อๆ...ต้องโดนหมอลงโทษแบบนี้แหละ” เขากระซิบเบาๆ กับตัวเอง ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ
คืนวันศุกร์ที่แสนจะน่าเบื่อของข้าวปั้น...กำลังจะกลายเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย