คืนวันศุกร์...ควรจะเป็นค่ำคืนแห่งการปลดปล่อยและความหรรษาสำหรับสาวออฟฟิศอย่างข้าวปั้น โดยปกติแล้วป่านนี้เธอคงกำลังนั่งหัวเราะท้องแข็งอยู่กับเจ๊จี๊ดและแก๊งเพื่อนที่ร้านหมูกระทะเจ้าประจำ หรือไม่ก็ดูซีรีส์เกาหลีมาราธอนอยู่ที่คอนโดอย่างมีความสุข
แต่คืนวันศุกร์นี้...มันกลับน่าเบื่อและเงียบเหงาอย่างน่าประหลาด
ข้าวปั้นนั่งเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่างคอนโดอย่างไร้จุดหมาย ในหัวของเธอว่างเปล่าจากเรื่องงาน แต่กลับเต็มไปด้วยใบหน้าคมคายภายใต้กรอบแว่นของใครบางคน...สัมผัสจากปลายนิ้วที่ปาดเหงื่อให้ที่ต้นคอเมื่อวันก่อนยังคงติดตรึงอยู่ที่ผิวของเธอไม่จางหาย
“ทำไมนะ...” เธอพึมพำกับตัวเอง “ทำไมถึงอยากโดนเขาสัมผัสอีกจังเลย...บ้าไปแล้วรึเปล่ายัยปั้น!”
เธอล้มตัวลงนอนแผ่บนโซฟาอย่างหมดอาลัยตายอยาก ยิ่งพยายามจะสลัดเขาออกจากหัว เขาก็ยิ่งฝังรากลึกลงไปในความคิดมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่ทั้งสับสน วาบหวาม และหงุดหงิดตีกันจนมั่วไปหมด
“ไม่ไหวแล้วโว้ย! ออกไปหาอะไรทำดีกว่า!”
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจดีดตัวเองออกจากโซฟา แต่งหน้าเติมปากอีกนิดหน่อย คว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กแล้วมุ่งหน้าออกจากห้อง จุดหมายของเธอคือ ‘Blue Velvet’ บาร์แจ๊สเล็กๆ บรรยากาศดีไม่ไกลจากคอนโดที่เธอชอบไปนั่งเวลาอยากอยู่กับตัวเองเงียบๆ
บรรยากาศสลัวๆ ของบาร์ แสงไฟสีน้ำเงินนวลตา และเสียงดนตรีแจ๊สสดที่บรรเลงอย่างนุ่มนวลช่วยให้จิตใจที่ว้าวุ่นของเธอสงบลงได้บ้าง ข้าวปั้นเลือกที่นั่งติดเคาน์เตอร์บาร์ สั่ง ‘ไหมไทย’ ค็อกเทลแก้วโปรดมาจิบเพื่อเพิ่มความสดชื่น
รสชาติหวานอมเปรี้ยวของค็อกเทลช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น เธอหลับตาพริ้ม โยกตัวเบาๆ ไปตามจังหวะดนตรี พยายามจะปล่อยให้ความคิดล่องลอยไป...แต่สุดท้ายมันก็ลอยกลับไปหาคุณหมอปากจัดคนนั้นอยู่ดี
‘ป่านนี้เขาจะทำอะไรอยู่นะ...คงกำลังอ่านหนังสือวิชาการที่น่าเบื่ออยู่ในห้องทำงาน หรือไม่ก็...ออกไปเดทกับแฟนมั้ง’
ความคิดสุดท้ายทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ...ใช่สิ คนที่ทั้งหล่อ โปรไฟล์ดีขนาดนั้น จะไม่มีแฟนได้ยังไง เขาต้องมีผู้หญิงที่เพียบพร้อมและคู่ควรอยู่ข้างกายแน่ๆ ไม่ใช่คนไข้จอมโก๊ะอย่างเธอ
ความรู้สึกหน่วงๆ แล่นเข้ามาในอกจนค็อกเทลในมือดูจะขมขึ้นมาถนัดตา
ในขณะเดียวกัน ที่อีกมุมหนึ่งของบาร์...
“แกแน่ใจนะว่ายัยพลอยจะมาจริงๆ ไม่ใช่เทฉันเหมือนคราวที่แล้ว” รามินทร์ถามเพื่อนสนิทของเขาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งตามปกติ
“เออน่า! คราวนี้ไม่เทแน่! ยัยพลอยบอกกำลังมาแล้ว” ‘หมอแพร’ แพทย์หญิงเพื่อนสนิทร่วมรุ่นของรามินทร์ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี “แกก็ช่วยทำหน้าให้มันมีชีวิตชีวาหน่อยสิยะ มานั่งเป็นเพื่อนฉันรอแฟนนะ ไม่ได้มานั่งเฝ้าไข้ไอซียู”
รามินทร์ถอนหายใจ “ฉันก็ไม่ได้อยากมาเท่าไหร่หรอกนะ ถ้าแกไม่เอาเรื่องจะฟ้องแม่มาขู่ฉัน”
ที่เขาต้องมานั่งอยู่ในบาร์เสียงดังในคืนวันศุกร์แบบนี้ ก็เพราะโดนหมอแพรลากมาเป็นเพื่อนรอแฟนสาวของหล่อน ซึ่งเป็นนางแบบที่งานยุ่งจนหาเวลาเจอกันแทบไม่ได้ วันนี้กว่าจะนัดกันได้ หมอแพรก็กลัวโดนเทอีก เลยต้องลากเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ที่สุดมานั่งเป็นเพื่อนกันเหงา
สายตาของรามิลกวาดไปรอบๆ ร้านอย่างไม่ใส่ใจนัก จนกระทั่งไปสะดุดเข้ากับร่างเล็กคุ้นตาที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์...
หญิงสาวในชุดเสื้อสายเดี่ยวสีครีมกำลังยกแก้วค็อกเทลขึ้นจิบ ใบหน้าด้านข้างที่กระทบกับแสงไฟสีน้ำเงินดูสวยแปลกตา ผมยาวสลวยที่มักจะรวบไว้ถูกปล่อยให้เคลียอยู่ข้างแก้ม...คุณอัญชัญ?
หัวใจของเขากระตุกเล็กน้อย...โลกมันจะกลมอะไรขนาดนี้
เขาเห็นเธอวางแก้วลงแล้วทำหน้าเหมือนคนอมยาขม ส่ายหัวไปมาแล้วก็พึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเอง ท่าทางแบบนั้น...มันน่าเอ็นดูจนเขาเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ยิ้มอะไรของแกวะ” หมอแพรทักขึ้นอย่างจับผิด
“เปล่า” เขารีบหุบยิ้มแล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “ฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง”
เขาอ้างแล้วลุกออกจากโต๊ะ แต่แทนที่จะเดินไปห้องน้ำ เขากลับเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์บาร์...
ทางด้านข้าวปั้น หลังจากที่จินตนาการภาพหมอรามกับแฟนสาวของเขา เธอก็รู้สึกหดหู่จนหมดอารมณ์จะดื่มต่อ เธอเหลือบตามองไปรอบๆ ร้านอย่างไร้จุดหมาย แล้วสายตาก็ไปปะทะเข้ากับร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มที่กำลังเดินคุยอยู่กับผู้หญิงผมสั้นหน้าตาสวยเฉี่ยวคนหนึ่งอยู่ไม่ไกล
...หมอราม!...
สมองของเธอประมวลผลทันที...เขามากับผู้หญิง! ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นแฟนเขาแน่ๆ! ดูสิ ทั้งสวย ทั้งดูดี เหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก!
ความรู้สึกจี๊ดๆ แล่นขึ้นมาในอกอย่างไม่มีสาเหตุ ข้าวปั้นรีบหันหน้ากลับมาที่เคาน์เตอร์ทันที ยกแก้วไหมไทยขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
“ชิ! มาเดทก็ไม่บอก! ทำเป็นมาให้ความหวังเราอยู่ได้! หมอบ้า! หมอเจ้าชู้!” เธอบ่นงึมงำกับตัวเองเสียงเบา พลางโบกมือเรียกบาร์เทนเดอร์ “พี่คะ! ขออีกแก้ว! เอาแบบเข้มๆ เลย!”
“ดื่มเข้มขนาดนั้น เดี๋ยวก็ได้นอนอยู่บาร์หรอกครับ”
เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหู...ใกล้จนน่าตกใจ!
ข้าวปั้นสะดุ้งสุดตัวจนเกือบจะตกจากเก้าอี้ เธอหันขวับไปมองแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง...หมอราม! เขายืนอยู่ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่!
“คุณ...คุณหมอ!”
“บังเอิญจังนะครับ” เขายิ้มมุมปาก ยิ้มแบบที่ทำให้เธอใจสั่นทุกที “มาคนเดียวเหรอครับ...หรือว่ามารอใคร?”
เขาจงใจถามคำถามที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนต้อนให้จนมุม
“มะ...มาคนเดียวค่ะ!” เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก พยายามทำใจดีสู้เสือ “แล้วคุณหมอล่ะคะ...ทิ้งแฟนมาเข้าห้องน้ำเหรอคะ ระวังเขาจะงอนเอานะคะ” เธอแกล้งพูดแขวะกลับไป
รามิลเลิกคิ้ว “แฟน?”
“ก็ผู้หญิงสวยๆ ผมสั้นคนนั้นไงคะ อย่าบอกนะคะว่าไม่ใช่”
รามิลหัวเราะในลำคอเบาๆ “นั่นเพื่อนผมครับ...แล้วเขาก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย” เขาเฉลยความจริง ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เธอขนลุกซู่ “ที่ผมเดินมานี่...เพราะเห็นว่ามี ‘ยาใจ’ ของผมนั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงนี้ต่างหาก...เลยอยากจะมาดูอาการหน่อย”
คำว่า ‘ยาใจ’ ทำให้สมองของข้าวปั้นขาวโพลนไปชั่วขณะ
“แต่ดูท่า...คนไข้ของผมจะแอบหนีมาดื่มแอลกอฮอล์นะครับ” เขามองแก้วไหมไทยที่ถูกเติมใหม่ของเธอด้วยสายตาดุๆ “แบบนี้...สงสัยต้องโดนฉีดยาเพิ่มอีกเข็มแล้วมั้ง”